รถยนต์คันไหนเป็นรุ่นไหนในภาพยนตร์ดัง ที่เห็นแล้วจำได้ทันที

ภาพยนตร์ใน Hollywood หลายเรื่องจะมีการนำรถยนต์เข้ามาเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากอยู่เสมอ แต่ก็มีอยู่หลายเรื่องที่รถยนต์กลายเป็นภาพจำของภาพยนตร์เรื่องนั้นไป บางเรื่องจำได้แต่รถ จำพระเอกไม่ได้ด้วยซ้ำไป วันนี้เราลองมาดูรถยนต์เด่นๆในภาพยนตร์แต่ละเรื่องกันหน่อยดีกว่าครับ

DeLorean DMC-12 ใน Back to the Future

Back To The Future ออกฉายในปี 1985 เป็นเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง Emmett Brown แสดงโดย Christopher Lloyd ได้ประดิษฐ์รถยนต์ Time Machine ที่ย้อนอดีตได้ และนำมาวิ่งทดลองกับ Marty McFly แสดงโดย Michael J. Fox แล้วเกิดเหตุการณ์คาดไม่ถึงจนทำให้ McFly ย้อนอดีตไปสมัยพ่อกับแม่เขายังไม่ได้รักกัน จนเกิดเรื่องป่วนๆขึ้น

แน่นอนว่ารถที่เราจำได้ก็คือคันที่เป็น Time Machine นั่นเอง ซึ่งมันคือ DeLorean DMC-12 ที่เป็นรถสปอร์ตคาร์ 2 ประตูเปิดขึ้นแบบปีกนก เป็น Model ในช่วงปี 1981-1983 ใช้เครื่อง 6 สูบ 2,849 ซีซี ราคาวางจำหน่ายช่วงนั้นอยู่ที่ 12,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (เป็นที่มาของชื่อรุ่น DMC-12) ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และราคา 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด ตัวหนังทำเงินไปได้ 381.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตัวรถก็เป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก  ปัจจุบันรถคันที่ถ่ายทำ ได้จอดโชว์ อยู่ที่ Universal Studios Florida

Volkswagen Beetle ใน The Love Bug

หลายเรื่องนำรถยนต์มาสื่อถึงความแข็งแรง, รวดเร็ว, ดุดัน แต่สำหรับภาพยนตร์ค่าย Walt Disney แล้ว ต้องออกมาดูน่ารักสดใสให้เข้ากับกลุ่มเด็กๆอยู่เสมอ เช่นกันกับเรื่อง The Love Bug ที่มีพระเอกเป็นเจ้า Herbie รถเต่าแสนรู้ที่คิดและวิ่งได้ด้วยตัวเอง ออกฉายในปี 1968 เป็นเรื่องของนักแข่งรถ Jim Douglas ที่ฟอร์มกำลังตก แถมยังเหลือรถที่จะออกไปแข่งอีกแล้ว จึงตัดสินใจออกหารถถูกๆซักคันเพื่อเอามาแต่ง จะได้เอาลงแข่งเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาอีกครั้ง จนได้ไปพบกับ Volkswagen Beetle คันหนึ่ง ที่ตอนแรกก็ดูแสนธรรมดา แต่บังเอิญที่เจ้าของร้านขายรถดันไปพูดจาดูถูกเข้า จน Jim ของขึ้นพูดจาว่ากลับไป เพราะ Jim ถือว่าเป็นสิ่งมีค่าสำหรับเขา คืนนั้นเองที่อยู่ดีๆเจ้ารถคันนี้ก็มาหาเขาถึงที่บ้าน จนทำให้เขาตงลงใจซื้อ แต่เมื่อขับแล้วรถดันแรงมากเกินกว่าสภาพที่เห็น แถมยังเหมือนมีชีวิตจิตใจอีกด้วย เขาจึงปรับปรุงมันใหม่พร้อมตั้งชื่อว่า Herbie จนเอาชนะแบบสนุกๆได้ทั้งเรื่อง

โดยรถคันนี้เป็น Volkswagen Beetle ปี 1963 ที่ปกติจะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1200 ซีซี ขนาด 40 แรงม้า แต่รถที่ทำการถ่ายทำ จะใช้เครื่องยนต์ของ Porsche เข้ามาใส่แทน ด้วยความดังของภาพยนตร์บวกกับความน่ารักของ Herbie ทำให้ภาพยนตร์ทำเงินไปได้ 51,264,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และได้เห็นรถเต่าสีไข่ไก่คาดแถบสี ปะหมายเลข 53 วิ่งกันทั่วเมือง

Dodge Charger R/T และ Toyota Supra MK IV ใน Fast & Furious

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงภาพยนตร์เกี่ยวกับรถยนต์ เรื่องแรกๆที่นึกถึงเลยต้องเป็น Fast & Furious ที่สร้างชื่อสูงสุดให้กับทั้ง วิน ดีเซล และ พอล วอล์คเกอร์ รวมทั้งมีรถแข่งแต่งสวยอีกหลายคันที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งทำการออกฉายเมื่อปี 2009 กับเรื่องราวของตำรวจหนุ่ม Brian O'Conner ที่แอบแฝงเข้าไปสืบคดีปล้นเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ใช้รถยนต์ซิ่งเป็นพาหนะ โดยได้เข้าไปอยู่กับแก๊งค์ของ Dominic Toretto ที่ดันมีน้องสาวสวยอย่าง Mia Toretto จนทำให้ O’Conner ตกหลุมรัก และซึมซับการเป็นเพื่อนกันจนทำให้กระทบกับการสืบคดี ในเรื่องมีฉากแข่งรถ, ซิ่งรถอยู่หลายฉาก แต่กับฉากจดจำของคนที่เคยดู น่าจะเป็นการแข่งขันกันครั้งสุดท้ายระหว่าง O'Conner และ Toretto ที่คนหนึ่งต้องจับตามหน้าที่ แต่อีกคนต้องหนี ทั้ง 2 คันวิ่งข้ามทางรถไฟก่อนที่รถของดอมจะชนรถบรรทุกกลิ้งไม่เป็นท่า

ฉากนี้ O’Conner นั้นอยู่ในรถ Toyota Supra MK IV สีส้มสด เป็นรุ่นที่วางจำหน่ายในปี 1994 ฝังมาด้วยเครื่อง 2JZ-GTE l6 จุ 3 ลิตร 6 สูบ รีดม้าได้ 450 ตัว กับอีกคันของดอม ที่เราเห็นกดแล้วยกหน้าได้ เป็น Dodge Charger R/T สีดำทมึน ตัวโหดที่อยู่กับดอมแทบทุกภาค เป็นรุ่นปี 1970 และคาดว่าจะเป็นเครื่องขนาด 7.2 ลิตร V8 เพิ่ม Supercharger BDS 9-71 Roots-style blower ที่เห็นได้ถึงความแรงแบบสุดๆ ตัวหนังทำเงินไปได้ 3.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แถมด้วยภาคต่ออีกมากมาย และเป็นแรงบันดาลใจให้นักซิ่งทั้งหลายกลับไปขุดรถแรงในอดีตกลับมาวิ่งใหม่

Ford Falcon XB GT Coupe 1973 ใน Mad Max

เมื่อไม่นานมานี้เราอาจจะได้ดู Mad Max : Fury Road กับฉากระเบิดรถกันแบบวินาศสันตะโร แต่จริงๆแล้วภาพยนตร์เรื่อง Mad Max เคยมีเป็นไตรภาคมาก่อนนี้แล้ว โดยฝีมือการแสดงที่สร้างชื่อให้กับ Mel Gibson ออกฉายภาคแรกเมื่อปี 1979 เป็นเรื่องราวของช่วงที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคเสื่อม โดย Max Rockatansky เป็นนายตำรวจที่มีครอบครัวน่ารัก แต่เขากลับสูญเสียทั้งลูกและภรรยาไปจากฝีมือของเหล่าวายร้าย ที่มีกองทัพเป็นรถยนต์หลากหลายแบบ เมื่อความโกรธเข้าครอบงำ เขาจึงออกตามล่าเพื่อล้างแค้นแก๊งค์นี้ด้วยตัวเขาเองแบบไม่สนใจกฎหมายแล้ว

โดยรถที่ Max ใช้ในเรื่องนี้เป็น Ford Falcon XB GT Coupe 1973 หรือที่เรียกว่า "V8 Interceptor" ที่มาพร้อมเครื่องขนาด 5.8 ลิตร แบบ Dual overhead cam พร้อม Supercharger ที่วางอยู่นอกกระโปรงหน้า ยามเมื่อ Max ต้องการเร่งเครื่องเพื่อตามเหล่าร้าย เพียงแค่กดปุ่มแล้วเครื่อง Supercharger ทำงาน มันจะพุ่งปรี๊ดทะยานเพิ่มความแรงได้ระดับ 600 แรงม้าเลยทีเดียว โดย Mad Max ภาคแรกนี้ทำเงินไปได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กับทำให้เด็กสมัยนั้น (รวมทั้งผม) ปั่นจักรยานแล้วกดปุ่มเร่งความเร็ว เปรียบเสมือน Max กดปุ่ม Supercharger เลยทีเดียว

Shelby Mustang GT500 ใน Gone in 60 seconds

ภาพยนตร์รวบรวมรถสวย 50 คัน ที่ต้องขโมยให้หมดภายในคืนเดียวอย่าง Gone in 60 seconds ออกฉายเมื่อปี 2000 กับการโชว์ฝีมือในการแสดงของ Nicolas Cage และ Angelina Jolie เป็นเรื่องราวของ Randall "Memphis" Raines อดีตนักแซงค์รถฝีมือดีที่ออกจากวงการแล้ว แต่ดันซวยที่มีน้องชายไปรับงานจากเจ้าพ่อแล้วทำไม่สำเร็จ จนทำให้ Randall ต้องกลับมาทำงานที่ไม่อยากทำอีก ซึ่งงานคือต้องซิวรถตามลิสท์ที่มีอยู่ 50 คันให้ได้ในเวลา 72 ชั่วโมง แต่ Randall เลือกที่จะทำงานให้จบภายใน 12 ชั่วโมงสุดท้าย แน่นอนว่ามีรถสวยๆในเรื่องให้เห็น 50 คัน แต่รถยนต์ที่โดเด่นที่สุดในเรื่องจะเป็น Shelby Mustang GT500 หรือที่ Randall เรียกว่า Eleanor ที่เก็บเอาไว้ซิวเป็นคันสุดท้าย เพราะประวัติของ Randall เมื่อขับรุ่นนี้ทีไรต้องมีเรื่องซวยทุกที (ไม่เว้นแม้แต่รอบนี้)

โดย Shelby Mustang GT500 คันนี้เป็นรุ่นปี 1967 มากับเครื่องขนาด 7 ลิตร 8 สูบ ให้พลังสูงถึง 355 แรงม้า ซึ่งแน่นอนว่าหลังจาก Randall ขึ้นขับ ก็พา Eleanor ไปลุยซะเละ จนทำเอาคนรัก Mustang เสียดายไปตามๆกัน ตัวหนังทำเงินไปได้ 237.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ผู้ชมได้ดูรถสวยๆกันไปฉ่ำตา

Lotus Esprit S1 ของ James Bond ใน The Spy Who Loved Me

จริงๆแล้วรถยนต์ของสายลับ 007 James Bond  ทั้ง 26 ภาค ก็มีรถสวยๆออกมาโชว์ตัวมากมายหลายยี่ห้อ และแน่นอนว่ามันมีออพชั่นแบบสายลับมากมายที่เสริมเข้าไปจากฝีมือของ Q แต่คันที่แตกต่างกว่าคันอื่นๆ ก็จะเป็น Lotus Esprit S1 ที่ออกมาในตอน The Spy Who Loved Me ที่รับบท 007 โดย Roger Moore อออกฉายเมื่อปี 1977 เป็นรถยนต์สายลับที่สามารถดำน้ำได้

ซึ่งรถต้นแบบคันนี้ถูกดัดแปลงมาจาก Lotus Esprit S1 รุ่นปี 1976 มาพร้อมกับเครื่องขนาด 2 ลิตร 4 สูบ 160 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 222 กม./ชม. เร่ง 0-100 ได้ใน 6.8 วินาที รถคันที่ใช้ในการถ่ายทำนี้เคยหายไปจากกองถ่ายหลังจากการออกฉายของภาพยนตร์เมื่อปี 1977 แต่ถูกค้นพบได้เมื่อปี 1989 ที่ Long Island  เมื่อคนหนึ่งได้ทำการประมูลซื้อตู้คอนเทนเนอร์มาจำนวน 100 เหรียญสหรัฐฯ จึงพบมันอยู่ในสภาพล้อหายไปและเสียหายบางจุด ถูกคลุมด้วยผ้าห่มทิ้งไว้  หลังจากนั้น ได้ถูกนำออกประมูลที่ลอนดอนเมื่อปี 2013 เป็นมูลค่า 616,000 ปอนด์ หรือประมาณ 27.2 ล้านบาท ซึ่งผู้ประมูลไปได้ก็คือ Elon Musk ผู้ก่อตั้งบริษัท Tesla นั่นเอง โดย The Spy Who Loved Me ทำเงินไปได้ 185,400,000 เหรียญสหรัฐฯ ส่วน Lotus Esprit S1 ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ Elon Musk เตรียมผลิตรถดำน้ำออกมาให้ได้

Chevrolet Camaro Z28 และ Chevrolet Camaro Replica ใน Transformers

 อีกภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่หลายคนสนุกไปกับการแปลงร่างของบรรดารถยนต์สุดสวย ไปเป็นหุ่นยนต์ที่ยิงกันสนั่นจออย่าง Transformers ที่เริ่มออกฉายภาคแรกในปี 2007  เป็นเรื่องราวการต่อสู้กันของหุ่นยนต์ 2 ฝ่ายอย่าง Autobot และ Decepticon เริ่มเรื่องจาก Sam Witwicky ได้ไปเลือกซื้อรถกับพ่อของเขา แล้วไปเจอกับ Chevrolet Camaro Z28 รุ่นปี 1977 สีเหลือง ผุๆพังๆ จึงได้ซื้อรถคันนั้นกลับมา ก่อนจะมารู้ภายหลังว่ารถยนต์คันนี้ เป็น 1 ในหุ่นยนต์ Autobot ชื่อ Bumblebee ที่ประจำการอยู่บนโลกเพื่อป้องกันการบุกของ Decepticon ที่ต้องการแย่งชิง All Spark ขุมพลังที่สร้างกองทัพหุ่นยนต์ไป ซึ่งแน่นอนว่าหุ่นยนต์ที่คนดูจำได้แม่นยำมากที่สุด ก็น่าจะเป็น Bumblebee นี่แหละ น่าจะมาจากความน่ารักและเก่งกาจของมัน แถมเมื่อแปลงร่างเป็นรถแล้ว ยังสวยงามอย่าบอกใคร

โดยในภาคแรกนี้ Bumblebee จะกลายร่างเป็น Chevrolet Camaro Z28 รุ่นปี 1977 สภาพเก่าๆ แต่สีเหลืองสดใส ที่มาพร้อมเครื่องขนาด 5.7 ลิตร V8 185 แรงม้า ก่อนที่ Sam จะบ่นว่ารถตัวเองเก่า Bumblebee เลยจัดการไปลอกแบบจากรถคันใหม่ กลายเป็น Chevrolet Camaro Replica ปี 2009 มาพร้อมเครื่องขนาด 6.2 ลิตร V8 กำลังเครื่องขนาด 426 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 ได้ใน 4.6 วินาที แต่ที่น่าจดจำกว่าคือรูปทรงของรถที่สวยงามถูกใจขาซิ่งเป็นอย่างมาก ตัวหนังโกยเงินไปได้ 709.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จนทำให้มีภาคต่อออกมาอีก 3 ภาค (ที่เริ่มสนุกน้อยลงไปทุกภาค) ส่วนรถ Chevy สีเหลืองคาดดำ ก็ออกวิ่งบนท้องถนนมากขึ้นทันที

 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นกับรถยนต์เด่นๆในภาพยนตร์ดังๆ ถ้ามีคำแนะนำสำหรับเรื่องอื่นๆอีกก็บอกกล่าวกันมาได้ เผื่อจะได้รวบรวมกันมาให้อีกครั้งครับ

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com