หยุดวันอาทิตย์ เราควรต้องทำอะไรกับรถของเราบ้าง?
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 26 ก.ค. 61 00:00
- 5,315 อ่าน
วันหยุดพักผ่อนของคนทำงานส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีการเลือกพักผ่อนที่ไม่เหมือนกัน แต่รถของเราสิ มันอาจจะไม่มีวันที่ได้พักผ่อนเลยก็ได้ครับ ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมความพร้อมของรถยนต์เราให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเสมอ เพื่อให้เราใช้งานได้อย่างสบายใจ ดังนั้นเราจึงต้องควรเจียดเวลามาดูแลรถของเราบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จะมีอะไรบ้าง ลองมาดูทีละอย่างกันครับ
เช็คใต้ฝากระโปรงหน้ารถ
ส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์นั้น ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ภายใต้ฝากระโปรงหน้าทั้งนั้น โดยเฉพาะเครื่องยนต์ ดังนั้นเมื่อถึงวันหยุดที่เราพอจะมีเวลาแบบไม่ต้องเร่งรีบอะไรแล้ว ก็ควรเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อตรวจเช็คอุปกรณ์ที่สำคัญทั้ง
- เช็คระดับน้ำมันเครื่อง ให้ชักก้านน้ำมันเครื่องออกมา เช็ดด้วยผ้าหรือทิชชูที่พร้อมเลอะหรือทิ้งได้ แล้วเสียบกลับเข้าไปที่ช่องเดิม แล้วชักออกมาใหม่อีกครั้ง ระดับรอยเลอะน้ำมันเครื่อง ควรอยู่ในระหว่างตัว E และ F ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ใกล้เคียงหรือต่ำกว่าตัว E ก็ให้หาน้ำมันเครื่องมาเติมให้ได้ระดับ แต่ถ้าเกินขีด F ขึ้นไป ควรเข้าไปที่อู่หรือศูนย์บริการเพื่อถ่ายน้ำมันเครื่องออกให้ได้ระดับครับ
- เช็คระดับน้ำหล่อเย็น ให้เปิดดูที่ฝาหม้อน้ำว่า น้ำอยู่ในระดับเต็มหม้อน้ำหรือไม่ ถ้าไม่ ให้เติมให้เต็ม แล้วคอยมองหาจุดที่อาจจะเกิดรอยรั่วได้ ถ้าเจอ ก็ให้นำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการ เพื่อทำการแก้ไขทันทีครับ จากนั้นให้เปิดดูในหม้อพักน้ำ โดยในหม้อนี้จะเติมไม่เต็มครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ 2 ใน 3 ของหม้อพัก โดยให้สังเกตจากสัญลักษณ์ตัว F ว่าอยู่ตรงไหน ก็ให้เติมเท่านั้นครับ ห้ามเติมเต็มหม้อเด็ดขาด เพราะจะทำให้มีการดึงน้ำออกจากหม้อน้ำออกหมดได้ครับ
- เช็คระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ ถ้าเป็นแบบต้องเติมน้ำกลั่น ก็ให้หมุนฝาปิดออกมาแล้วดูว่าน้ำกลั่นในแบตเตอรี่อยู่ถึงของพลาสติกของฝาที่ยื่นลงไปหรือเปล่า ถ้าไม่ถึงก็ให้หาน้ำกลั่นมาเติมครับ แต่ถ้าเป็นแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ก็ให้ดูที่ตาแมวว่าสัญลักษณ์สี ยังแจ้งระดับไฟปกติหรือเปล่า ถ้าเริ่มไฟน้อย ก็เตรียมซื้อแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้เลยครับ
- เป่าไส้กรองอากาศ โดยให้ถอดออกมาแล้วใช้เครื่องเป่าลม เพื่อเป่าฝุ่นที่จับให้ออกไปจากไส้กรองอากาศ หรือถ้าไม่มี ให้ใช้แปรงทาสี ค่อยๆปัดฝุ่นออกมา แล้วดูดฝุ่นออกไป แนะนำว่าอย่าถูตัวไส้กรองครับ เพราะอาจจะทำให้เกิดการขาดได้ แต่ถ้าไส้กรองอากาศเริ่มดำมากจนไม่สามารถปัดฝุ่นออกได้แล้ว ให้เปลี่ยนชิ้นใหม่ครับ
- สังเกตระดับน้ำมัน ทั้งตัวน้ำมันเบรกและน้ำมันพวงมาลัย ว่าอยู่ในระดับปกติหรือเปล่า ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถมองด้วยตาเปล่าเห็นครับ ถ้าอยู่ในระดับต่ำ ก็ให้หามาเติมครับ
เช็คยาง
สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ ก้มมองในส่วนของยางว่า อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือเปล่า ทั้งดอกยางยังมีมากพอมั้ย, มีรอบแตกตรงไหนหรือเปล่า เพราะถ้าพบรอยแตก หรือรู้สึกว่าดอกยางเหลือน้อยแล้ว ก็ควรเปลี่ยนยางได้แล้วครับ ต่อมาคือระดับลมยาง ว่าอยู่ในระดับปกติหรือเปล่า ซึ่งตัวเช็คระดับลมยางเดี๋ยวนี้ราคาไม่เท่าไหร่ครับ ควรจะมีติดรถเอาไว้ทุกคัน ส่วนแรงดันควรจะเป็นเท่าไหร่นั้น ให้ดูที่ขอบประตูหน้า ในส่วนของเสากลางรถได้เลยครับ ตรงนั้นจะมีระดับลมยางแนะนำไว้ทั้งล้อหน้าและล้อหลังครับ หรือถ้าไม่เจอ ในคู่มือประจำรถก็มีระบุไว้เช่นกันครับ
เก็บสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกจากรถ
เป็นเกือบทุกคนครับ ที่มักจะโยนของที่เราได้มาในชีวิตประจำวันปกติ โดยเอาใส่ตัวรถเอาไว้ก่อน กองเอาไว้จนเริ่มเยอะขึ้น พอถึงบ้านก็เหนื่อย รีบกลับเข้าบ้านก่อน จนลืมของเอาไว้ในรถกันอยู่เป็นประจำ ดังนั้นวันหยุดทั้งที เราก็ควรเอาของพวกนี้แหล่ะ ไปเก็บไว้ในบ้านซะ จะได้ลดน้ำหนักของตัวรถได้ ลดการใช้น้ำมันได้ และเพิ่มความเรียบร้อยให้กับรถของเราอีกด้วยครับ
ล้างรถ
ผ่านมา 1 สัปดาห์ รถเราต้องเอกับทุกสภาพดินฟ้าอากาศมากมาย ทั้งฝน ทั้งแดด ทั้งฝุ่นละอองอะไรอีกมากมาย เพื่อเป็นการทะนุถนอมสีรถของเราให้อยู่กับเราไปอีกนาน แนะนำให้ล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งครับ เอาคราบสกปรกที่อาจจะทำร้ายสีรถเราได้ออกไป ดูดฝุ่นในตัวรถให้เรียบร้อย รถก็สะอาด ร่างกายก็แข็งแรงจากการออกกำลังกายด้วยครับ
เปิดประตูตากแดด
กลิ่นอับในตัวรถ มาได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการรับประทานอาหารในรถ, น้ำหกลงในรถ, เหยียบน้ำเข้ามาในรถ หรือแม้กระทั่งกลิ่นจากภายนอกที่สามารถเล็ดรอดเข้ามาในตัวรถได้ ดังนั้นช่วงเวลาที่เราอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน แล้วมีแดดออกดี เราก็ควรจอดรถตากแดดไว้ เพื่อลดกลิ่นอับที่เกิดขึ้นภายในตัวรถได้ครับ
เชื่อว่าทุกอย่างที่กล่าวมานี้ ทุกคนน่าจะทำได้แบบไม่ยากเย็นอะไร และก็ควรทำกันทุกสัปดาห์ เพื่อให้รถของเราสามารถรับใช้เราได้อย่างซื่อสัตย์และยาวนานที่สุดนะครับ
ทีมงาน AUTODEFT
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com