ใครเคยทันเรื่องราวเกี่ยวกับท้องถนนเหล่านี้บ้าง
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 5 ก.ย. 59 00:00
- 45,992 อ่าน
แน่นอนว่าเรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการใช้รถยนต์ในประเทศไทยมีมาอย่างยาวนานแล้ว ถ้านับจริงๆก็จะเริ่มมาตั้งแต่ถนนสายแรกคือถนนเจริญกรุงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเลยทีเดียว แต่ถ้าเก็บมาเล่าให้ฟังทั้งหมดก็คงไม่ไหว เอาเป็นว่าจะจับประเด็นที่น่าสนใจเอามารำลึกให้คนวัยดึกได้นึกถึงกันบ้างดีกว่าครับ
ถนนสายเอเชียเก็บค่าผ่านทาง
สมัยช่วง 30 กว่าปีก่อน ไม่ได้มีเฉพาะทางด่วนพิเศษในกรุงเทพฯเท่านั้นที่มีการเก็บค่าใช้ทาง แต่เส้นทางหลัก ที่คนสมัยก่อนเรียกสายเอเชีย ที่เริ่มจาก แม่สาย-เชียงราย-พิษณุโลก-นครสวรรค์-บางปะอิน-กรุงเทพฯ-นครปฐม-เพชรเกษม-หาดใหญ่-สะเดา ก็มีการเก็บค่าผ่านทางด้วย โดยมีด่านเก็บเงินในช่วง บางปะอิน บางปะหัน พรหมบุรี สรรพยา (ค่าผ่านทางสำหรับรถ 4 ล้อประมาณ 2-3 บาท เท่าที่ผมเคยผ่านและจำได้) และต่อมาในช่วงปี 2536 ได้มีการยกเลิกการจัดเก็บค่าผ่านทางในถนนสายนี้ สมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถนนสายนี้ก็ไม่มีการจัดเก็บค่าผ่านทางอีก ด่านการจัดเก็บเงินก็ถูกดัดแปลงให้เป็นด่านชั่งน้ำหนักแทนครับ
ข้อมูลจาก th.wikipedia.org/wiki/ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข_32
ต่อต้านการทุบสะพานสมัยสร้างทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์
ช่วงปี พ.ศ. 2529-2530 กรมทางหลวงซึ่งรับผิดชอบในการดูแลถนนเส้นหลักอย่างวิภาวดี-รังสิต ได้ทำการสำรวจการใช้งานถนนเส้นนี้แล้วพบว่า ถนนเส้นนี้มีปริมาณการใช้งานสูงถึงวันละ 2 แสนคันต่อวัน จนส่งผลให้ช่องจราจรที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับได้เพียงพอ จนการจราจรในเส้นนี้ติดขัดอย่างมาก จะขยายถนนเพิ่มก็ไม่ได้เพราะติดลำรางสาธารณะทั้ง 2 ฝั่ง สมัยนายกรัฐมนตรี พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ จึงได้มีโครงการที่จะให้เอกชนทำการประมูลเพื่อสร้างทางยกระดับเมื่อปี 2530 จนเริ่มสร้างได้ในช่วงสมัย พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็น นายกรัฐมนตรี ซึ่งในสัญญานั้น มีการพ่วงไว้ด้วยว่า ต้องมีการ “ทุบ” สะพานข้ามแยก ที่ตอนนั้นมีอยู่ทั้งหมด 4 สะพานในเส้นนี้คือ สะพานข้ามแยกสุทธิสาร, ข้าม 5 แยกลาดพร้าว, ข้ามแยกเกษตร และข้ามแยกหลักสี่ ออกทั้งหมด โดยคาดว่าจะเป็นการเร่งให้คนขึ้นไปใช้บนทางด่วนแทนด้านล่าง แต่เมื่อมีข่าวออกมา จึงมีการต่อต้านจากประชาชนที่ใช้เส้นทางนี้อย่างมาก เพราะทุกคนเชื่อว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนมากกว่าการสร้างความสะดวกให้ประชาชน แต่ทางผู้รับสัมปทานสร้างทางด่วนก็ยังดำเนินการต่อไป โดยทำการทุบสะพานข้ามแยกหลักสี่และแยกเกษตรได้สำเร็จ แต่กับ 2 สะพานที่เหลือ มีการต่อต้านกันอย่างหนัก ถึงขนาดมีการขึงป้ายห้ามทุบและนั่งขวางกันบนสะพานเลยทีเดียว สุดท้ายสมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน ได้ทำการเจรจากับทางเอกชนเพื่อให้ยุติการทุบ 2 สะพานที่เหลือ แล้วแลกกับการขยายระยะเวลาสัมปทานและขยายเส้นทางไปแทน จนสามารถยุติโครงการทุบสะพานไปได้ ทั้ง 2 สะพานเลยยังอยู่ให้เราใช้งานได้จนทุกวันนี้ครับ
ข้อมูลจาก http://m.naewna.com/view/columntoday/20603 , http://info.gotomanager.com/news/details.aspx?id=6515
ภาพจาก http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=315227&page=17
เปิดตัว Civic 3 ประตู กับยอดจองถล่มทลาย
Honda Civic 3 ประตู ยังคงเป็นรถยนต์ยอดนิยมกับคนบางกลุ่มอยู่ ถึงอายุการใช้งานรถรุ่นนี้จะมีมากกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 1993 ที่มีการเปิดตัวรถรุ่นนี้ (สมัยก่อนงานเปิดตัวเป็นแบบเปิด และมีการเปิดรับจองรถในงานด้วย) ได้สร้างปรากฏการณ์ของวงการรถยนต์ในสมัยนั้น ด้วยการมียอดจองสูงถึง 9,000 คันในระยะเวลาแค่เพียง 3 วันเท่านั้น มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ (และถ้าเข้าใจไม่ผิดน่าจะสูงสุดตลอดกาลด้วย) ด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่ น่ารัก ทันสมัย ในราคา 361,000 บาท ในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 396,000 บาท ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ จนทำให้ทาง Honda ต้องยุติการจองเป็นการชั่วคราว เพื่อส่งมอบรถทั้งหมดให้ผู้จองในล็อตแรกให้ครบเสียก่อน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบค่าเสื่อมมาจนถึงปัจจุบันที่ยังขายอยู่ในระดับแสนกว่าบาทอยู่ ก็ถือว่า Honda Civic 3 ประตู เป็นรถที่คุ้มค่ากับการใช้งานได้มากจริงๆครับ
ข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/CarMania/2012/09/02/entry-1
จ่ายจองวันนี้ อีก 12 เดือนค่อยรับรถ
เวลาที่เราถอยรถป้ายแดงซัก 1 คัน แน่นอนว่าเราก็อยากได้รถคันนั้นมาครอบครองให้ได้เร็วที่สุด แต่ถ้าคนขายบอกคุณว่า ต้องรออีก 1 ปี ถึงจะเอารถไปเชยชมได้ แบบนี้คุณจะยังรออยู่ไหมครับ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้วจริง และรุ่นแรกที่เกิดปรากฏการณ์นี้คือ Toyota Fortuner โฉมแรกช่วงปี 2004 โดยเผยโฉมให้จับจองได้ที่งาน Motor Expo ราคาเริ่มต้นที่ 9 แสนกว่าบาท เมื่อได้เห็นความสวยของ Fortuner แล้ว จึงทำให้ยอดจองรถรุ่นนี้เกิดขึ้นอย่างถล่มทลาย จนทำให้ยอดจองมากกว่าจำนวนรถที่มีอยู่ จนทำให้ยอดรอรถต้องใช้เวลานานมากขึ้นจาก 3 เดือน, 6 เดือน จนเกิน 1 ปี (เพื่อนผมรอประมาณเกือบปี) จนมีการหาซื้อใบจองกันอย่างแพร่หลาย เพียงต้องการได้รถ Fortuner มาขับให้เร็วที่สุด ทั้งนี้น่าจะมาจากทรวดทรงที่ดูสวยงามกว่ารถ SUV (หรือ PPV) ในรุ่นอื่นๆ จนอดใจที่จะเอามาครอบครองให้ได้ เรียกได้ว่านานแค่ไหนก็จะรอ
*ข้อมูลนี้มาจากความทรงจำของผู้เขียน แต่ถ้าท่านไหนแนะนำและมีข้อมูลประกอบว่าเคยมีรุ่นก่อนหน้านี้ ทางผมยินดีที่จะแก้ไขให้ครับ
ยุคแห่งไฟ POP UP
สมัยนี้รถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะมีระบบปรับระดับไฟหน้าอัตโนมัติ เพื่อให้แสงส่องได้ประโยชน์กับผู้ขับขี่ได้มากที่สุด และไม่ไปรบกวนการขับขี่ของคนอื่น แต่มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่ใครได้ขับรถยนต์ที่มีการเก็บไฟหน้าได้ หรือที่เรียกกันว่าไฟ Pop up จะรู้สึกว่าเท่ห์มาก ซึ่งเมื่อปิดไฟ เราจะไม่เห็นไฟหน้าที่ถูกเก็บไปเรียบกับด้านหน้าฝากระโปรงรถเลย แต่เมื่อเปิดไฟเมื่อไหร่ ฝาของไฟจะมีการยกขึ้นแล้วส่องไฟให้สว่างได้ในเวลาอันรวดเร็ว เหมือนกับไซครอปใน X-Men ที่หลับตาอยู่แล้วลืมตาขึ้นมาก็สว่างไปทั่ว แน่นอนว่าในยุคช่วงปี 90 รุ่นที่เห็นได้บ่อยและได้รับความนิยมคือ Mazda 323 Astina ที่ไปตรงไหนก็จะเห็นวิ่งโชว์ไปทั่ว ซึ่งปัจจุบันก็ยังพอเห็นได้บ้าง แต่รถรุ่นที่ผลิตมาใหม่ในปัจจุบัน แทบจะไม่มีไฟ Pop Up แบบนี้อีกแล้วครับ
หายนะที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
ถ้าจะให้พูดถึงอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่ทำให้เกิดการสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองไทย คงจะหนีไม่พ้นเหตุการณ์รถบรรทุกแก๊ส LPG คว่ำเมื่อปี 2533 โดยเหตุเกิดบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แถวทางลงด่วน โดยวันที่เกิดเหตุคือคืนวันที่ 24 กันยายน เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ได้มีรถบรรทุกแก๊ส LPG ขนาด 20,000 ลิตร รวม 2 ถัง ของบริษัท สยามแก๊ส ได้ลงจากทางด่วนด้วยความเร็วสูงเพื่อให้ทันพ้นไฟแดง รถเกิดเสียการทรงตัวแล้วตะแคงกระแทกกับขอบทางและถนน ตัวถังบรรจุแก็สหลุดกระเด็นออกมาแล้วปริแตก จนทำให้เกิดการรั่วไหลของแก๊ส LPG เป็นจำนวนมาก กินพื้นที่ในบริเวณนั้นทั่ว จากนั้นก็เกิดประกายไฟจนทำให้แก๊สติดไฟขึ้นมา ทำให้ไฟลุกท่วมทั้งรถยนต์และบ้านเรือนแถวนั้นเสียหายแบบไม่มีใครคาดคิด เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้ที่เสียชีวิตทันที 54 ศพ และมาเสียชีวิตภายหลังเพิ่มอีกเป็น 89 ศพ ผู้บาดเจ็บกว่า 100 ราย และความเสียหายแก่ทรัพย์สินทั้งอาคารรวม 51 หลัง และรถรวม 67 คัน รวมเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท (มูลค่าในขณะนั้น) ยังไม่รวมผู้บาดเจ็บที่ต้องทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต ถือได้ว่าเป็นอุบัติเหตุทางท้องถนนที่สร้างความสะเทือนใจให้คนทั้งประเทศ และทุกคนก็ภาวนาว่า ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายครับ
ข้อมูลจาก th.wikipedia.org/wiki/เหตุการณ์แก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่_พ.ศ._2533
เรื่องราวนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์อันยาวนานของท้องถนนเมืองไทย ถ้าใครมีเหตุการณ์ไหนน่าสนใจอีก ก็ลองมาแบ่งปันกันได้ครับ เผื่อจะได้รวบรวมหาข้อมูลมาเป็นภาคต่อไปครับ
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com