ใช้รถยนต์ส่วนตัวอย่างไร ให้ห่างไกลจาก Covid-19

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 17 มี.ค. 63 00:00
  • 20,486 อ่าน

ต้องยอมรับอย่างจริงจังได้แล้วว่า โรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรน่า Covid-19 กำลังระบาดกระจายไปทั่วทั้งโลก รวมทั้งในประเทสไทืยเองถึงแม้ว่าจะอยู่ในระดับ 2 ยังไม่ถึงขั้นระบาดกระจายไปทั่วประเทศ แต่ถ้าเราไม่ดูแลตัวเอง ก็คงเป็นการเร่งให้เราเข้าสู่ระยะ 3 โดยเร็ว ในฐานะที่ AUTODEFT เป็นสื่อสารมวลชนด้านยานยนต์ ก็เลยมีข้อแนะนำในการใช้งานรถยนต์ส่วนตัว ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ห่างไกลจากการแพร่กระจายของโรค Covid-

Covid-19

พกแอลกอฮอล์ 70% ติดรถไว้ตลอดเวลา
ภายในตัวรถ มีสิ่งที่มือเราต้องสัมผัสอยู่ตลอดเวลาหลายอย่าง ทั้งพวงมาลัย, หัวเกียร์, ก้านไฟเลี้ยว, ก้านไฟหน้า, ประตูรถ หรือแม้กระทั่งหน้าจอกลางสำหรับเปิดแอร์หรือเครื่องเสียง พวกนี้ต้องทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ดีที่สุดคือการทำความสะอาดก่อนเดินทางและหลังจากเดินทางเสร็จ เพื่อขจัดไวรัสที่อาจจะมาจากการจับของเราจากภายนอก เข้ามาสู่ภายในตัวรถได้ ดังนั้นเราจึงต้องมีแอลกอฮอล์ 70% ขึ้นไปติดรถเอาไว้อยู่เสมอ แนะนำให้ใส่เป็นขวดสเปรย์แบบฟอกซี่ เพราะจะประหยัดและสะดวกมากกว่าการใช้แบบเทจากขวดโดยตรง ฉีดลงในจุดเสี่ยงที่มือเราสัมผัสได้ แล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาดหรือกระดาษทำความสะอาดแบบแห้ง เมื่อเช็ดเสร็จแล้วให้นำผ้าหรือกระดาษนั้น ใส่ถุงแล้วทำการทิ้งที่นอกรถทันที ไม่แนะนำให้เก็บเอาไว้ในรถ แถมยังเอามาฉีดใส่บัตรจอดรถ ทำความสะอาดก่อนเก็บเข้ากระเป๋าได้อีกด้วย
*ไม่แนะนำให้ใช้เจลล้างมือ เพราะมันเปลือง เก็บเอาไว้ล้างมือดีกว่า

Covid-19

ก่อนขึ้นรถ ล้างมือทุกครั้ง
จุดที่สร้างการติดต่อได้มากที่สุด ก็คือมือของเรานี่เอง ใน 1 วันเราต้องสัมผัสสิ่งของต่าง ๆ โดยที่เรารู้และไม่รู้ตัวหลายพันครั้ง โดยเฉพาะการสัมผัสตัวเอง เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า มือที่เราไปจับสิ่งของนั้น จะมีไวรัสโคโรน่าติดมือเรามาหรือไม่ ดังนั้นเพื่อตัดวงจรไวรัสไม่ให้เข้ามาบนรถเราได้ การล้างมือก่อนขึ้นรถทุกครั้ง จะช่วยลดการนำพาไวรัสมาขึ้นรถยนต์ของเราได้ จะใช้เจลล้างมือ, ล้างด้วยน้ำ ฟอกด้วยสบู่ หรือจะใช้ แอลกอฮอล์ 70% ก็ไม่ว่ากัน

Covid-19

หลีกเลี่ยงการเดินทางกับบุคคลอื่นนอกครอบครัว
เข้าใจดีว่าการเดินทางบนรถยนต์ส่วนตัวนั้น กับคนในครอบครัวคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่กับบุคคลอื่นทั้งเพื่อน, กิ๊ก, คนข้างบ้าน, หัวหน้างาน หรือใครก็ตามที่ไม่ได้เป็นสมาชิกครอบครัวเรา พยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยกันเป็นดีที่สุด เพราะอากาศภายในตัวรถเป็นแบบหมุนเวียน มีโอกาสติดต่อได้ง่ายมากขึ้นกรณีที่มีผู้โดยสารเป็น Covid-19 ดังนั้นช่วงนี้ปฏิเสธได้ ควรปฏิเสธครับ บอกตรง ๆ เลยก็ได้ว่ากลัวจะติด เพราะไม่แน่ใจว่าตัวเองติดอยู่ด้วยหรือเปล่า

Covid-19

ซื้อของมา เอาไว้ท้ายรถ
ดูอาจจะไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไหร่ เพราะถ้าเชื้อติดมาที่ถุงหรือของที่เราซื้อมา มันก็ติดอยู่บนถุงนั้นอยู่ดี แต่ถ้าเราหลีกเลี่ยงโดยเอาสิ่งของทุกอย่างที่เราซื้อมาจากด้านนอกตัวรถ ไปใส่ไว้ที่ท้ายรถแทน ไม่เอามาวางไว้เบาะหลังหรือเบาะนั่งข้างตัว มันจะช่วยลดโอกาสในการสัมผัสจากมือเราเมื่อนั่งอยู่ในรถ จากนั้นก่อนเข้าบ้าน ค่อยยกออกมาทำความสะอาดทุกชิ้น ก็จะลดโอกาสเสี่ยงได้ครับ

 

ลดการซื้อของจากคนขายตามสี่แยก
จริง ๆ แล้วการขายของกันตามสี่แยกไฟแดง มันเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันก็ยังเกิดขึ้นอยู่ ทั้งขายพวงมาลัย, โดนัท, กล้วยแขก เป็นต้น บางทีก็อดไม่ได้ที่จะขอซื้อมาเสียหน่อย แต่ช่วงนี้เราไม่รู้หรอกว่าใครจะเป็นหรือไม่เป็น Covid-19 ยิ่งคนขายแบบนี้ มักเจอประเภทชอบยื่นหน้ามาใกล้ ๆ เราอยู่เป็นประจำ (ไม่รู้ทำเพื่ออะไร) เกิดเผลอไผลคนนั้นดันทำน้ำลายกระเด็นเข้ามาในรถ หรือมีละอองฝอยเข้ามาในตัวรถ แล้วมาฟุ้งวนอยูในห้องโดยสารเรา ทีนี้ล่ะบันเทิงแน่นอนครับ

 

อยู่ในรถ ไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยก็ได้
สิ่งที่กระทรวงสาธารณะสุขแนะนำเสมอก็คือ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังจุดที่มีผู้คนหนาแน่น ห่างจากคนอื่น 2 เมตรเป็นอย่างน้อย ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใส่หน้ากากอนามัย แต่การเดินทางบนรถยนต์ส่วนตัวนั้น ช่วงนี้ก็ควรมีแต่เราและสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น ถ้าจะติดก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว (ยกเว้นใครคนใดคนหนึ่งไปอยู่ในเงื่อนไขเสี่ยงติดมาจากเหตุผลที่มีกำหนดเอาไว้ ก็ควรแยกกันอยู่แล้ว) ดังนั้นไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยครับ เปิดหน้ารับอากาศเต็ม ๆ ได้เลย

Covid-19

ใช้ Easy Pass ขึ้นทางด่วน
เวลาขึ้นทางด่วน แน่นอนว่าเราจะต้องเจอกับพนักงานทางด่วน ที่จะยื่นมือมารับเงินแล้วก็ส่งเงินทอนหรือใบเสร็จรับเงินกลับมาให้เรา แต่เพื่อตัดวงจรการพบปะระยะใกล้กับบุคคลอื่น การเลือกใช้ Easy Pass เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ไม่ต้องพบปะกับใคร (เจอครั้งเดียวตอนทำเรื่องขอ) ไม่ต้องรอคิวนาน วิ่งผ่านได้เลย เติมเงินผ่านระบบ Online ก็ได้ สะดวกสบาย

Covid-19

คำแนะนำทั้งหมดนี้ เป็นเพียงการปฏิบัติตัวเบื้องต้นเท่านั้นครับ เข้าใจได้ดีว่าปัจจัยการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อาจจะมีข้อจำกัดอะไรบางอย่าง เพราะสุดท้ายแล้ว "Life Go On" ชีวิตมันต้องดำเนินต่อไป เพียงแต่ต้องระมัดระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม ก็เท่านั้นเองครับ

ด้วยความห่วงใยจากทีมงาน AUTODEFT

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ