เผยโฉมก่อน... Nissan Note Aura Nismo หล่อขึ้นไปอีก

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 17 ส.ค. 64 00:00
  • 4,663 อ่าน

หลังจากที่เผยทีเซอร์ออกมายั่วน้ำลายก่อนหน้านี้ไปแล้ว ล่าสุดเผยโมคันจริงแล้วกับ Nissan Note Aura Nismo ปี 2022 ก่อนที่จะบุกทำตลาดในญี่ปุ่นภายในปีนี้ แน่นอนว่ามันมาพร้อมความโดดเด่นที่มากกว่ารุ่นปกติ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง Formula E ของนิสสัน

สำหรับ Nissan Note Aura Nismo ใหม่นี้ มาพร้อมการตกแต่งด้วยสเกิร์ตรอบคันสีแดงตัดสีดำ โดดเด่นด้วยล้ออะลูมิเนียม Nismo ขนาด 17 นิ้ว ฝาครอบกระจกมองข้างสีแดง และมีดิฟฟิวเซอร์ท้ายพร้อมโลโก้ Nismo ซึ่งทางนิสสันเผยว่าชุดตกแต่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่และเสถียรภาพดีขึ้นเมื่อขับด้วยความเร็วสูง รวมไปถึงระบบช่วงล่างอัพเกรด

Nissan Note Aura Nismo

Nissan Note Aura Nismo

Nissan Note Aura Nismo

และภายใน Nissan Note Aura Nismo ใหม่ เห็นได้ชัดว่ามากับเบาะ Recaro Nismo ตรงรุ่นสีดำตัดขอบแดง พวงมาลัยสีดำเดินตะเข็บแดงสุดสปอร์ต พร้อมหน้าปัดแบบดิจิตอลในสไตล์ของ Nismo อีกด้วย พร้อมการตกแต่งแดชบอร์ดด้วยคาร์บอนสีแดงและโลโก้ Nismo อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ตอนนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมา รวมไปถึงราคาค่าตัวของรถ

Nissan Note Aura Nismo

Nissan Note Aura Nismo

Nissan Note Aura Nismo

สำหรับ Nissan Note Aura เก๋งท้ายตัดที่ได้นำ Nissan Note เวอร์ชั่นปกติ (เจน 3) มาตกแต่งอัพเกรดตัวเองเพื่อสามารถสู้คู่แข่งกลุ่ม C-Hatchback หน้าตาเปลี่ยนไปจากเดิมด้วยชุดกระจังหน้า V-motion รูปทรง “โล่ หรือ shield” อันเป็นสัญลักษณ์แบบเดียวกับ Nissan Ariya ไฟหน้า ultra-thin LED headlights และไฟเลี้ยว LED sequential turn lamps ไฟท้ายแบบเดียวกับ Note ด้วย LED รมดำ ภายในยกชุดมาจาก Nissan Note มาทั้งหมด 

ขุมพลังยกชุดมากจาก Nissan Note ด้วยขุมพลัง e-Power เบนซิน HR12DE 1.2 ลิตร 82 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 103 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับชุดแบตเตอร์รี่ Lithium-ion ขนาด 1.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง พ่วงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส EM47 จูนแรงม้ารวมมากกว่าเดิมเป็น 136 แรงม้าที่ 3,183-8,500 รอบ/นาที เพิ่มแรงบิดเป็น 300 นิวตันเมตร ที่ 0-3,183 รอบ/นาที ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ

และในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เสริมมอเตอร์ไฟฟ้า MM48 68 แรงม้า ที่ 4,775-10,024 รอบ/นาที และแรงบิด 100 นิวตันเมตรที่ 0-4,775 รอบ/นาที เน้นการใช้มอเตอร์เป็นสำคัญ โดยเครื่องยนต์จะทำงานโดยใช้เพื่อการชาร์จไฟฟ้าไปยังแบตเตอร์รี่ แต่หากในช่วงความเร็วสูงมากนั้น ทางเครื่องยนต์จะปั่นไฟฟ้าจ่ายตรงให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าชุดขับ เพื่อสร้างประสิทธิภาพ สูงสุด และให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้น

ที่มา carscoops

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ