Mclaren 650S GT3 สมรรถนะคันนี้เพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ
- โดย : Autodeft
- 29 มิ.ย. 57 00:00
- 6,786 อ่าน
Mclaren เปิดตัว McLaren 650S GT3 ใหม่ในงาน Good Wood ให้สมรรถนะเท่ารุ่นที่แล้วแต่เน้นความหนึบแน่นการเกาะถนนมากขึ้น
กล่าวถึงการแข่งขันในสนามไม่ว่าใครก็คงถึงการแข่งขันที่เร้าใจด้วยสมรรถนะการขับขี่ของค่าย Mclaren ซึ่งพวกเขาฝากผลงานเอาไว้มากมายในการขับขี่ และเมื่อพูดถึงสนามแข่งที่มีความเร้าใจการแข่งขับในรุ่น GT3 เรียกว่าเป็นการเค้นสมรรถนะออกมาเน้น
ก่อนหน้านี้ถ้ายังจำกันได้ Mclaren เคยทำรถรุ่น MP4 12C GT3 ออกมาตอบโจทย์ในการทำงาน แต่เมื่อ Mclaren ตัดสินใจในการเลิกผลิตแล้วปรับมาเป็นรุ่น 650S ใหม่ ก็หมายความว่า พวกเขามีความตั้งใจมากขึ้นในการพัฒนารถ และกับรถแข่งก็ถึงเวลาที่ต้องเผย Mclaren 650S GT3 ออกมาตอบคำถามทางด้านเรื่องสมรถนะ
Mclaren 650S GT3 เรียกว่าเป็นรถยนต์ที่ทำออกมาตอบโจทย์ในการแข่งขันจริงจัง โดยมันพัฒนาบนพื้นฐานจากรุ่นที่วางจำหน่ายจริง ไม่ว่าจะเซลล์ห้องโดยสารคาร์บอนไฟเบอร์แบบ Mono Cell ให้ความลงตัวทางด้านน้ำหนักเบาของมัน แต่ในส่วนของเรือนร่างก็ปรับให้มีความลู่ลมมากขึ้น รวมถึงการระบายความร้อนมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
ด้านหน้าให้ช่องกันชนที่ใหญ่กว่าตอบเรื่องท่อทางเดินอากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ที่ดีขึ้น เช่นเดียวกันท่อทางเดินอากาศนั้นยังถูกปรับใหม่ ตอบเรื่งสมรรถนะที่ลื่นไหลมากกว่า รวมถึง ตัวตนที่มาพร้อมวิงหลังขนาดใหญ่คาร์บอนที่ให้ความเหมาะสมในความแรงที่มีและเกาะถนนมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
ใต้ฝากระโปรง Mclaren 650S GT3 ใช้เครื่องยนต์ V8 รหัส M838T ต้นกำลังขนาด 3.8 ลิตร ที่มาพร้อมระบบเทอร์โบชาร์จคู่ ให้กำลังสูงสุด 493 แรงม้า เท่ากับเวอร์ชั่นที่แล้วที่มากับเวอร์ชั่น 12C กำลังส่งลงบนเกียร์ Sequential 6 สปีด
รวมถึงยังพัฒนาระบบหล่อเย็นให้ก้าวล้ำมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้การขับขี่เต็มสมรรถนะทำได้นานขึ้น ด้วยการวางชุดท่อดักอากาศไว้ที่กันหน้า
ทางด้านระบบกันสะเทือน Mclaren 650S GT3 ได้ระบบกันสะเทือนสำหรับการแข่งขันใหม่ล่าสุด ซึ่งมีการปรับระยะห่างระหว่างล้อมากขึ้นกว่าเดิม 2 นิ้ว ช่วยเพิ่มการเกาะถนนมากขึ้น โดยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ มันยังมาพร้อมการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ยางหน้าสามารถใช้ยางที่มีขนาดกว้างขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย
แม้ว่า Mclaren 650S GT3 อาจจะเกิดขึ้นมาเพื่อการแข่งขัน แต่ ผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ Mclaren 650S ใหม่ สามารถแปลงรถของพวกเขาเป็นตัวแข่งได้เช่นกัน โดยจะมีราคาสูงถึง 330,000 ปอนด์ ไม่รวมค่าแรงและภาษี
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY582]