เปิดตัว Mitsubishi Delica Mini ในฐานะ Kei Car แนวผจญภัยในญี่ปุ่น
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 11 เม.ย. 66 18:43
- 2,209 อ่าน
ล่าสุดกับรถใหม่ในกลุ่ม Kei Car กับ Mitsubishi Delica Mini ที่ดูเท่ดุดันกว่า Kei Car ไหน ๆ ในสไตล์ลุยลุคพร้อมลุยผจญภัย ซึ่งจะวางจำหน่ายในญี่ปุ่นในเดือนหน้านี้แล้ว
โดยทางค่ายได้โชว์โฉม Mitsubishi Delica Mini นี้ อย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2022 และเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Tokyo Auto Salon 2023 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
รูปลักษณ์ภายนอกของ Mitsubishi Delica Mini มีเรือนกระจกหน้าขนาดใหญ่และรูปทรงดุดันสไตล์ออฟโรด พร้อมงานดีไซน์ด้านหน้าแบบ Dynamic Shield มีกระจังหน้าสไตล์รถจี๊ป และกราฟิกไฟหน้า LED แผ่นกันกระแทกและสติกเกอร์สีดำเงาที่ซุ้มล้อและสเกิร์ตข้าง
รวมไปถึงล้ออัลลอยด์สีเงินเข้มขนาด 15 นิ้วและราวหลังคา มีให้เลือกสีตัวถัง 12 สี รวมถึง Ash Green Metallic อันเป็นเอกลักษณ์ มีอุปกรณ์เสริมมากมายสำหรับการปรับแต่งเพิ่มเติม ชุด Active Tone Style นำเสนอการเน้นเสียง/สติกเกอร์ขาวดำเพื่อให้ดูเป็นคนเมือง จากนั้นยังมีชุดแต่ง Wild Adventure Style สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งที่ตกแต่งด้วยสีเงินและสีดำ/สติกเกอร์ แผ่นกันโคลนสีแดง แร็คหลังคา เป็นต้น
ภายในห้องโดยสารมีหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยสำหรับระบบสาระบันเทิง และช่องปรับอากาศที่มีรูปทรงแตกต่างกัน นำเสนอที่วางแก้วน้ำสำหรับผู้โดยสารทุกคน เบาะนั่งด้านหลังที่ปรับเอนและเลื่อนได้สูงสุด 320 มม. (12.6 นิ้ว) และประตูเลื่อนอัตโนมัติที่เปิดได้กว้าง 650 มม. (25.6 นิ้ว)
และยังเป็นมิตรต่อการตั้งแคมป์ กับ ผ้าที่ทนทาน การระบายอากาศ และกันน้ำสำหรับเบาะ มีที่บังแดดแบบดึงขึ้น รวมถึงระบบฟอกอากาศและกำจัดกลิ่น กับมิติตัวรถที่ยาว 3,395 มม. (133.7 นิ้ว) กว้าง 1,475 มม. (58.1 นิ้ว) และสูง 1,830 มม. (72 นิ้ว) โดยมีระยะฐานล้อ 2,495 มม. (98.2 นิ้ว) เท่านั้น
ขุมกำลังมากับเครื่องยนต์เบนซิน 658 ซีซี สามสูบพร้อมระบบไฮบริด เครื่องยนต์สันดาปผลิตกำลังได้ 51 แรงม้า (38 กิโลวัตต์ / 52 PS) หรือ 63 แรงม้า (47 กิโลวัตต์ / 64 PS) ในรูปแบบเทอร์โบชาร์จ โดยเพิ่มอีก 3 แรงม้า (2 กิโลวัตต์ / 3 PS) จากมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังถูกส่งไปที่ล้อหน้า (FWD) หรือล้อทั้งสี่ (4WD แบบเต็มเวลา) โดยเฉพาะผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT และมีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็กให้พลังงานแก่มอเตอร์ไฟฟ้า
ระบบความปลอดภัยยังได้รับการปรับปรุงด้วยชุด Mi-Pilot ADAS สนนราคารถเริ่มต้น 1,804,000 เยน หรือราว 4.68 แสนบาท พร้อมออกจำหน่ายในญี่ปุ่นวันที่ 25 พฤษภาคม
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com