เปิดตัว Hyundai Ioniq 5 N DK Edition รุ่นพิเศษ สายดริฟท์ซิ่ง
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 13 ม.ค. 68 09:41
- 1,684 อ่าน
ล่าสุดทาง Hyundai ยกระดับประสิทธิภาพรถไฟฟ้าไปอีกขั้นด้วย Hyundai Ioniq 5 N DK Edition รุ่นพิเศษที่ปรับแต่งอย่างประณีตร่วมกับ Keiichi Tsuchiya ตำนานนักดริฟต์ชาวญี่ปุ่นฉายา “Drift King” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกแล้วที่งาน Tokyo Auto Salon 2025 และเตรียมเปิดตัวในตลาดบางแห่งทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 นี้
นี้คือรถที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการขับขี่ของ Tsuchiya เอง Hyundai กล่าวว่าการปรับแต่งดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อมอบประสิทธิภาพที่สูงกว่าบนถนนสาธารณะและสนามแข่ง และ Tsuchiya ได้ผลักดันความสามารถในการดริฟท์ของรุ่นนี้ให้ถึงขีดจำกัดบนสนามแข่งด้วยตัวเอง
ภายนอกโดดเด่นด้วยชุดแต่งคาร์บอนไฟเบอร์ สปลิตเตอร์ สเกิร์ตข้าง ส่วนขยายดิฟฟิวเซอร์ และปีกหลังที่ติดตั้งบนหลังคา Hyundai อ้างว่าชิ้นส่วนรุ่น DK Edition ไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์เท่านั้น แต่ยังเพิ่มแรงกดเพิ่มเติมอีก 93 กก. (205 ปอนด์) ที่ความเร็ว 140 กม./ชม. (87 ไมล์/ชม.) อีกด้วย
ในงานตัวรถมีสีขาวด้าน ตกแต่งด้วยสีมันเงาเข้มและไฮไลท์สีเขียวอ่อน ๆ ตราสัญลักษณ์ “DK Edition” ประดับที่เสา C และประตูท้าย แต่สิ่งที่โดดเด่นจริง ๆ อยู่ที่ล้อขนาด 21 นิ้ว ขึ้นรูปด้วยเทคนิคพิเศษ ทำให้ล้อน้ำหนักเบา ช่วยลดน้ำหนักที่ไม่ได้รับรองรับลงได้ 10.6 กก. (23 ปอนด์) ทำให้รถ EV คันนี้ควบคุมได้ดีกว่า
วิศวกรของ Hyundai N ยังร่วมมือกับ Tsuchiya เพื่อปรับแต่งตัวถัง แม้ว่าทีมงานจะทดสอบระบบกันสะเทือนหลายแบบ แต่สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ยังคงใช้โช้คอัพควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์จากรุ่นพื้นฐาน Ioniq 5 N ซึ่ง Tsuchiya เองก็เห็นว่าเป็นรถที่เหนือชั้น แต่พวกเขาได้ลดความสูงของรถลง 15 มม. (0.6 นิ้ว) โดยใช้สปริง H&R ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงเพื่อการควบคุมที่ดีขึ้น
มีคาลิปเปอร์เบรกโมโนบล็อก 6 ลูกสูบ ทำจากดูราลูมินที่มีความแข็งแรงสูงจับคู่กับแผ่นเบรกที่ทนความร้อนขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งเพิ่มพื้นที่ผิวขึ้น 54% การปรับปรุงเหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเบรกสามารถทนต่อการใช้งานในสนามแข่งที่เข้มข้นได้ในขณะที่ยังให้ประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอและเชื่อถือได้
ยังคงมอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลัง 641 แรงม้า (478 กิโลวัตต์ / 650 PS) ในขณะที่คุณสมบัติเช่น N Torque Distribution และ N Drift Optimizer ช่วยให้ปลดปล่อยพลังในการขับเคลื่อนที่ทำลายยางบนสนามแข่งได้ง่ายขึ้น
ที่มา Carscoops
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com