บริษัท Charge Cars กลับมาผลิต Ford Mustang รุ่นปี 67 พลังงานไฟฟ้าอีกครั้ง หลังมีเจ้าของใหม่
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 19 ม.ค. 68 18:30
- 1,495 อ่าน
บริษัท Charge Cars ผู้ผลิตรถ Ford Mustang ปี 1967 รุ่นดัดแปลงเป็นรถไฟฟ้า กลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้งหลังจากมีนักลงทุนกลุ่มใหม่เข้าซื้อกิจการ โดยบริษัทสัญชาติอังกฤษรายนี้เคยประสบปัญหาล้มละลายเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา
Charge Cars ก่อตั้งขึ้นที่กรุงลอนดอนในปี 2016 และได้เปิดตัวต้นแบบ Mustang ไฟฟ้าคันแรกในงาน Goodwood Festival of Speed ปี 2019 ก่อนจะเผยโฉมดีไซน์สุดท้ายของรุ่น '67 ในปี 2021 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ได้ส่งมอบรถให้ลูกค้าคนใดก่อนที่จะล้มละลายในเดือนกรกฎาคม 2024
ภายหลังการเข้าซื้อกิจการโดยกลุ่มนักลงทุนเอกชน นำโดย Paul Abercrombie ซีอีโอคนใหม่ บริษัทจะเร่งพัฒนารถรุ่น '67 EV ให้เสร็จสมบูรณ์ที่สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในเขต Silverstone และหวังที่จะส่งมอบรถให้ลูกค้าที่รอคอยโดยเร็ว
การผลิต '67 ของ Charge Cars จะไม่ทำลายรถ Mustang คลาสสิกเดิม เนื่องจากบริษัทใช้ตัวถังเหล็กใหม่ที่ได้รับอนุญาตจาก Ford ร่วมกับแผงตัวถังคอมโพสิตเพื่อช่วยลดน้ำหนัก โดยใช้แพลตฟอร์มใหม่ทั้งหมด
แทนที่เครื่องยนต์ V8 รถรุ่น '67 ติดตั้งระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ให้กำลัง 536 แรงม้า และแรงบิด 1,520 นิวตันเมตร ทำให้เร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.9 วินาที นอกจากนี้ยังมีโหมด 'Vortex' ที่ทำให้รถหมุนรอบตัวเองได้ และระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 63 กิโลวัตต์-ชั่วโมง วิ่งได้ไกลถึง 320 กิโลเมตร และรองรับการชาร์จไฟสูงสุด 50 กิโลวัตต์
ดีไซน์ภายนอกยังคงความคลาสสิกของ Mustang แต่เปลี่ยนโครเมียมดั้งเดิมเป็นสีดำ และติดตั้งไฟ LED แบบใหม่ ส่วนภายในได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดให้ทันสมัย มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่แนวตั้ง จอแสดงผลดิจิทัลสำหรับคนขับ พวงมาลัยสามก้านแบบพิเศษ และเบาะหนังคุณภาพสูง
รถรุ่นนี้มาพร้อมระบบทันสมัยมากมาย ทั้งระบบเครื่องเสียงแบบพิเศษ การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ระบบเตือนการชนด้านหน้า และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
Charge Cars '67 มีราคาเริ่มต้นที่ 350,000 ปอนด์ (ประมาณ 14.7 ล้านบาท) บริษัทวางแผนผลิตเพียง 499 คัน โดยประกอบด้วยมือที่ลอนดอน แต่ยังไม่เปิดเผยจำนวนคำสั่งซื้อที่ได้รับ
ข้อมูลจาก Autoexpress
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com