Aston Martin เข้าร่วมการแข่งขัน WEC และ IMSA ด้วย Valkyrie Hypercar

การแข่งขัน 24 ชั่วโมงของ Le Mans ปีนี้ดูจะพิเศษกว่าทุกปีเมื่อ Aston Martin Valkyrie จะได้ลงสนามจริง และนี่คือตัวโมเดลพิเศษที่จะถูกนำไปแข่งขัน โดยจะใช้ชื่อว่า Aston Martin Valkyrie Hypercar และจะเข้าร่วมการแข่งขันในทั้งสองรายการใหญ่ ได้แก่ FIA World Endurance Championship (WEC) และ  IMSA WeatherTech SportsCar Championship ในปีนี้

Aston Martin เริ่มพัฒนาเวอร์ชันการแข่งขันของ Valkyrie ตั้งแต่ก่อนที่รถจะเข้าสู่การผลิต แต่ในปี 2020 ได้ยกเลิกโครงการไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ได้รับการฟื้นฟูและได้ทำการทดสอบมากกว่า 15,000 กม. ที่สนามแข่งทั่วโลก โดย Valkyrie Hypercar เป็นรถแข่งไฮเปอร์คาร์คันเดียวที่มีพื้นฐานจากรถที่สามารถใช้บนท้องถนนได้ และจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ Qatar 1812KM ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้

Valkyrie Hypercar มีการออกแบบที่คล้ายกับ Valkyrie รุ่นผลิตและรุ่นพิเศษ AMR Pro ที่ใช้ในการแข่งบนสนามเท่านั้น แต่มีการปรับปรุงให้ดูแปลกตากว่าเดิม ด้วยการใช้แผงหน้าและหลังที่สามารถถอดและเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว ระบบแจ็คพลังงานนิวมาติคความเร็วสูง และการปรับแต่งทางอากาศพลศาสตร์หลายส่วน เช่น ปีกหลังใหม่และส่วนของ shark fin ที่ได้รับการออกแบบใหม่

สิ่งที่น่าประทับใจกว่าการออกแบบสุดล้ำคือระบบขับเคลื่อนของ Valkyrie Hypercar ซึ่งเป็นรถแข่งเพียงคันเดียวในรุ่น WEC และ IMSA ที่ใช้เครื่องยนต์ V12 โดยใช้เครื่องยนต์ 6.5 ลิตร แบบ naturally-aspirated ที่เหมือนกับรุ่นรถบนถนน แต่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับกฎข้อบังคับของรถไฮเปอร์คาร์ โดยจะมีพละกำลัง 680 แรงม้า (จากรุ่นที่ใช้บนท้องถนนที่มีกำลังมากกว่า 1,000 แรงม้า) ซึ่ง Aston Martin ได้ปรับจูนเครื่องยนต์ให้ทำงานในโหมดประหยัดและปรับเปลี่ยนแรงบิดให้เหมาะสมสำหรับการแข่งขันแบบระยะยาว

Valkyrie Hypercar สองคันจะเข้าร่วมในฤดูกาล WEC ปีนี้ โดยร่วมมือกับ The Heart of Racing ซึ่งทั้งสองคันจะมีสีเขียวสวยงามและขับเคลื่อนโดย Marco Sorensen, Tom Gamble, Alex Riberas, และ Harry Tincknell ส่วนใน IMSA จะมี Valkyrie Hypercar คันเดียวที่มีสีฟ้า THOR blue โดยจะเปิดตัวในการแข่งขัน Sebring 12 Hours ในเดือนมีนาคม โดยขับโดย Ross Gunn และ Roman de Angelis

“ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการเข้าร่วมการแข่งขันระดับสูงสุดของการแข่งรถสปอร์ต” **Adam Carter** หัวหน้าฝ่าย Endurance Motorsport ของ Aston Martin กล่าว “ทั้ง ACO, IMSA และ FIA ได้ร่วมกันสร้างรายการแข่งขันที่มีความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเราสนับสนุนกระบวนการนี้อย่างเต็มที่ พวกเขาทำงานได้ดีในการสร้างรูปแบบการแข่งขันและส่งเสริมให้กลายเป็นยุคทองของการแข่งรถสปอร์ต และมันเป็นโอกาสที่จะได้แข่งขันในเวทีระดับโลกในสภาพแวดล้อมที่ยุติธรรมและเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด”

ที่มา Carscoops