ต่อไปต้องระวัง แต่งรถให้แจ่ม อาจเจอละเมิดลิขสิทธิ์ ...

พาคุณล้วงลึกอนาคตอันใกล้ใครจะคิดการแต่งรถที่เราเห็นเป็นเรื่องปกติอาจจะพาคุณเสียเงินจำนวนมากเพียงเพราะดันไปละเมิดลิขสิทธิ์ค่ายรถยนต์

 

 

ทุกวันนี้ทุกสิ่งทุอย่างต่างมีเรื่องของการคิดมันสมองเข้ามาเกี่ยวข้อ งและทุกสิ่งที่คนเราคิดมักจะถูกจดทะเบียนเอาไว้ ภายใต้สิ่งที่เราเรียกว่าลิขสิทธิ์ แต่ในขณะที่เราคิดว่าเรื่องนี้ไกลตัวมากๆ ต่อไป ใครจะคิด มันอาจจะใกล้กว่าที่คิด โดยเฉพาะใครที่ชอบแต่งรถ

ในอเมริกาเรื่องการแต่งรถแล้วผิดลิขสิทธิ์กำลังเป็นประเด้นร้อนแรงในสัปดาห์นี้ เมื่อในกลางปีหน้าจะมีกฎหมายใหม่เกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ออกมา ซึ่งจะมีข้อบังคับสำคัญที่ไม่ให้เข้าไปปรับปรุงแก้ไขชิ้นงานที่ถูกทำการป้องกันเอาไว้ ซึ่งคงเป็นเรืองใหญ่แน่ โดยเฉพาะกับคนที่ต้องการอัพสมรรถนะรถยนต์

[IMAGE1]

ทุกวันนี้อย่างที่คุณรู้ว่ารถยนต์สมัยใหม่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการควบคุมด้วยระบบดิจิตอล ซึ่งทำให้มันมีสมรรถนะในการขับขี่มากขึ้น และระบบควบคุมนี้สามารถคุมได้ตั้งแต่เครื่องยนต์ ชุดเกียร์ การตอบสนองคันเร่ง และ ไปจนถึงการทำงานของพวงมาลัย และค่ายรถยนต์ก้มักจะป้องกันเอาไว้ไม่ให้เราไปปรับแต่ง แต่กับคนที่มีความรู้มากพอ พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลได้และปรับให้มันเจ๋งขึ้น

ลองจินตนาการว่าถ้ารถคุณวิ่งดีขึ้นด้วยการปรับแต่งของตัวเอง อาจจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คุณติดคุกหัวโต หรือจ่ายเงินหลายล้านบาทให้กับค่ายรถยนต์ได เพียงเพราะเพิ่มสมรรถนะของโดยการเข้าไปปลดล็อกการทำงานของ  ECU  หรือระบบต่างๆ ที่ตั้งไว้โดยผู้ผลิต

การกระทำเช่นนี้มันอาจจะฟังดูคล้ายกับที่คุณเอา  I phone  ไป Jailbreak  ที่มาบุญครอง ซึ่งเท่ากับรถคุณจะหมดประกันกับทางค่ายรถยนต์ไป ตามเงื่อนไขการรับประกัน โดยปริยาย

[IMAGE2]

[IMAGE3]

แต่ใครจะรู้เรื่องนี้อาจจะใหญ่กว่าคิด โดยเฉพาะเมื่อปัจจุบัน ค่ายรถยนต์หลายเจ้าลงมาสู่ตลาดสมรรถนะมากขึ้น บางค่ายมีการนำเสนอสมรรถนะในการขับขี่ที่มากกว่า เพียงแค่คุณจ่ายเงินเพิ่มเติมอีก 2-3  หมื่นบาท  รถก็สามารถเร้าใจขึ้นได้ทันทีอย่างการนำเสนอสมรรถนะการขับขี่ของ   Volvo Polestar  

หากสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น อาจจะล้ำลึกกว่านั้น เช่นคุณสามารถเลือกซื้อสมรรถนะที่ใส่มาใน Thumb Drive  หรือ การ์ดความจำโหลดลงระบบควบคุมภายในรถ ซึ่งสามารถเป็นช่องทางทำเงินให้กับค่ายรถ และไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขาสามารถทำได้ และคุณอาจจะจำยอมซื้อเพราะไม่อยากมีปัญหาในเรื่องลิขสิทธิ์ ซึ่งเมื่อเป็นเรื่องขึ้นมาก็มีสิทธิที่จะต้องเสียเงินหลายล้านบาท และมันนำไปสู่โอกาสที่ค่ายรถยนต์จะเข้ามาผูกขาดในการพัฒนาสมรรถนะการขับขี่ ผิดกับปัจจุบันที่ใครจะลงมือทำก็ได้

แม้ว่าเรื่องลิขสิทธิ์กับการแต่งรถดูจะเป็นเรื่องห่างไกลกันมากพอสมควร แต่ความจริงแล้วมันไม่ไกลอย่างที่คิด ถึงประเด้นนี้จะเป็นที่เกิดขึ้นในอเมริกา แต่มีความเป็นไปได้ที่ข้อบังคับลิขสิทธิ์จากประเทศมหาอำนาจจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com