เจาะลึก E85 พลังงานทางเลือกที่คุณควรรู้!!!
- โดย : Autodeft
- 4 ก.พ. 57 00:00
- 40,737 อ่าน
มารู้จักพลังงานทางเลือก E85 น้ำมันราคาประหยัดสมรรถนะเยี่ยม ที่คุณต้องรู้เพื่อความประหยัดมากกว่า
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ทุกวันนี้ไม่เห็นมีใครไม่บ่นเรื่องราคาน้ำมัน แพง จะขึ้นทีลงที เรียกว่าเฮกันยกใหญ่ จนจับตาทุกฝีก้าวของบริษัทยักษ์ใหญ่พลังงานในไทย แต่ว่า ทุกวันนี้พลังงานทางเลือกมีการรุดหน้าไปมาก หนึ่งในนั้นเป็นพลังงานทางเลือก E85 ที่เริ่มมีมากขึ้นทุกวัน
น้ำมัน E85 เชื่อว่าหลายคนคงเริ่มคุ้นเคยมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากราคาน้ำมัน และ ความสามารถของรถยนต์หลายรุ่นทุกวันนี้ที่สามารถใช้พลังงานทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น
ราคาที่เพียงแค่ลิตรละประมาณ 25 บาท ใช้ได้ยาวนานพอกับน้ำมันจริง หลายคนขับบอกว่ารู้สึกว่าแรงขึ้น เคยตั้งตำถามไว้ไหม ว่าทำไม เพราะ และ แล้ว ทำไมถึงเรียก E85 แล้วต่างจากนั้นมันทั่วไปอย่างไร ได้เวลาที่คุณจะต้องรู้จักมันจริงๆเสียที
E85 ...ทีเด็ดพลังงานทางเลือก
ถ้าพูดถึง คำว่า E85 แล้ว เราหลายคนน่าจะรู้จักมันพอสมควร บ้าง แต่ E85 เป็นชื่อที่ทดแทนจากการเรียกตามสวนผสมขงน้ำมันพลังงานทางเลือก ซึ่งใช้เอทานอลซึ่งเป็นแอลลกฮอล์ที่ได้จากการสกัดจากพืช ผสมเข้ากับเนื้อน้ำมันเบนซินออกเทน 95 ตั้งแต่อดีตมาจวบจนปัจจุบัน
น้ำมัน E85 ได้รับความนิยมอย่างมากในยุโรป และเช่นเดียวกับในบางประเทศในแอฟริกาใต้ โดยเฉพาะในบราซิล ซึ่งค่อนข้างให้ความสำคัญในเรื่องพลังงานทางเลือกตัวนี้ ส่วนในประเทศไทยพลังงานทางเลือก E85 ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่เพิ่งจะมานิยมในพักหลัง เนื่องจากการรองรับของรถยนต์ที่มีมากขึ้นในตลาดปัจจุบัน
ข้อดีของ E85 ไม่บอกก็คงรู้ว่ามันมีราคาค่อนข้างถูกพอสมควร เมื่อเทียบกับน้ำมันทั่วไป โดยมีราคาถูกกว่าน้ำมันแก็สไซฮอล 95 ที่อัตราผสมเททานอลร้อยละ 10 ถึง 16 บาท และ ยังถูกกว่า E20 ซึ่งเป็นมาตรฐานในรถยนต์ปัจจุบันถึง 11.2 บาท (ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์) จนพูดได้อย่างเต็มปากว่ามีความแตกต่างทางด้านราคาจนน่าพอใจ
แต่แม้จะเป็นน้ำมันที่มีราคาถูกจนน่าใจหาย ซึ่งแม้แต่คอแก๊สยังชายตามามอง แต่กลับมีสมรรถนะในการจุดวาบไฟหรือขุดระเบิดที่ดีกว่าด้วยค่าออกเทนถึง 105 ดีกว่าน้ำมันธรรมดาเสียอีก และยังปล่อยไอเสียต่ำกว่า จึงไม่น่าแปลกใจที่มันจะได้รับความนิยม
ประหยัดกว่า ดีกว่า แต่ซดกว่า …จริงหรือเท็จ
ถึงทุกอย่างฟังดูน้ำมัน E85 จะมีภาษีดีว่าในทุกมุมมอง แต่ก็เฉกเช่นพลังงานทางเลือกหลายๆ ตัวที่เราคุ้นเคย น้ำมัน E85 นั้นมีความแตกต่างในเรื่องเนื้อน้ำมันที่สูบเข้าสู่เครื่องยนต์คุณ
เมื่อสักพักใหญ่มาแล้ว ทางผู้เขียนเคยได้ไปเยี่ยมชมโรงงาน ผลิตเอทานอลรายใหญ่ของประเทศที่ชื่อ เพโทรกรีน โดยในครั้งนั้น ได้มีโอกาสสอบถามตามความจริงที่เกิดขึ้นจากการใช้รถยนต์ ที่รองรับพลังงานทางเลือก E85 ซึ่งตามคำกล่าวของผู้ผลิตเองก็ยังยอมรับว่า การใช้พลังงานทางเลือก น้ำมัน E85 จะซดน้ำมันกว่าราว ร้อยละ 20
เนื่องจากจะต้องมีการจ่ายน้ำมันเข้าไปสู่ห้องเผาไหม้มากกว่า โดยทางผู้ผลิตเองได้นำรถยนต์รุ่นหนึ่งในกลุ่มซิตี้คาร์ (ตอนนั้นยังไม่มีคันไหนสามารถใช้ E85 ได้ แต่ใช้วิธีการดัดแปลงให้สามารถรองรับได้ มาเปรียบเทียบหาอัตราประหยัดน้ำมัน
โดยจากการทดลอง ด้วยการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 91 รถจะมีอัตราประหยัดน้ำมันเมืองที่ 11 ก.ม./ลิตร และมีค่าใช้จ่าย กิโลเมตรละ 3.15 บาท/กิโลเมตร ส่วนนอกเมืองทำได้ 16 ก.ม./ลิตร และมีค่าใช้จ่ายกิโลเมตรและ 2.17 บาท/ก.ม.
เช่นเดียวกันเมื่อเติมแก๊สโซฮอล์ E20 กลับมีอัตราประหยัดลดลงเหลือ 10.56 ก.ม./ลิตรและมีค่าใช้จ่ายราวๆ 3.05 บาทต่อกิโลเมตร ส่วนนอกเมืองมีอัตราประหยัด 15.36 กิโลเมตร/ลิตร และมีค่าใช้จ่ายต่อการเดินทาง 2.10 บาท/กิโลเมตร
ส่วนท้ายสุด เติมพลังงานทางเลือก E85 ในเมืองมีอัตราประหยัดลดลงมาอยู่ที่ 8.25 กิโลเมตร/ลิตร แต่กลับกันด้วยราคาน้ำมันที่ถูกลง ทำให้มีค่าใช้จ่ายเดินทางเพียง 2.59 บาท/กิโลเมตร และเช่นเดียวกันสำหรับนอกเมือง ลดลงเช่นกันจนมาอยู่ที่ 12 กิโลเมตร/ลิตร แต่มีราคาค่าใช้จ่ายในการเดินทางถูกลงเพียง 1.78 บาท/กิโลเมตร
รถใช้ E85 เรื่องนี้ต้องเข้าใจ
ฟังดูแล้วเรื่องน้ำมัน E85 ก็คงเป็นที่สนใจของใครหลายคนใช่น้อย มาถึงตรงนี้เชื่อเลยว่าหลายคนอาจจะมองรถของตัวเองแล้วว่าจะทำอย่างไรให้ใช้ E85 ได้ ซึ่งที่จริงมันก็ไม่ยาก แต่ไม่ใช่เพียงเขาบอกว่ากล่องเสียบแล้วใช้ได้ จะรีบหุนหันพันแล่นเสียงเงินโดยทันที
ที่จริงรถที่ใช้พลังงานทางเลือก E85 ได้นั้น ถูกเรียกว่า Flex Fuel Vehicle หรือว่า FFV ซึ่งหมายถึงเป็นรถยนต์ที่สามารถเติมน้ำมันได้หลากรูปแบบ ทั้งเบนซิน และแก๊สโซฮอล ซึ่งแม้รถที่เราเห็นนี้จะมีหน้าตาคล้ายกับรุ่นที่เราขับ แต่ก็ต้องมีการดัดแปลงในหลายๆ เรื่อง เพื่อให้รองรับต่อการใช้งานพลังงานทางเลือกเช่นกัน
ในแง่หนึ่งด้วยส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอลล์มากกว่า ทำให้น้ำมัน E85 มีคุณสมบัติกัดกร่อนมากกว่า น้ำมันเบนซินทุกชนิดที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งทำให้ต้องมีการปรับแต่ชิ้นส่วนโดยเฉพาะส่วนประกอบที่เป็นยางต่างๆ ซึ่งสัมผัสตรงต่อน้ำมัน เช่น โอริงหัวฉีด ท่อยางทางเดินน้ำมัน ทั้งหมดนี้ ต้องใช้ท่อที่มีคุณสมบัติทนฤทธิ์กัดกร่อนเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ชุดถังน้ำมันก็ต้องเป็นวัสดุที่ทนการกัดกร่อน เช่นถังพลาสติกแบบพิเศษ รวมถึงปั้มเชื้อเพลิงที่คอยส่งตรงไปยังเครื่องยนต์ก็เช่นกัน ควรจะรองรับการทนการกัดกร่อนของ E85 และท้ายสุดต้องมีตัวจูนการสั่งจ่ายน้ำมันซึ่งจะสามารถวัดอัตราส่วนผสมของน้ำมันในระบบได้ ไปประมวลผลต่อการสั่งจ่ายจากคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมเครื่องยนต์หรือ ECU
ฟังดูแล้วคงไม่หมูอย่างที่คิดเลยใช่ไหมครับ ..สำหรับการจะทำให้รถคันหนึ่งสามารถใช้พลังงานทางเลือกสุดเจ๋ง E85 ได้ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงพวกกล่องที่ปรับให้รถคุณรองรับ E85 ได้ ราคา 3,000 ยันหลายหมื่น ว่าจะใชได้ได้หรือเปล่า ถามว่าติดแล้วใช้ได้หรือไม่ .ได้แน่นอน แต่ไม่ใช่ในระยะยาวยันชั่วลูกชั่วหลาน เพราะไม่ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์โดยเฉพาะท่อยาง ก็ท่อยางจะต้องซาโยนาระก่อนแน่นอน
อย่างไรก็ดี แม้รถเก่าจะปรับแต่งยากหรือมีค่าใช้จ่ายสูง แต่รถใหม่ทุกวันนี้หลายรุ่นเริ่มยอมรับพลังงานทางเลือกมากขึ้น ซึ่งรถเหล่านี้หลายรุ่นก็ไม่ได้มีราคาที่แพงอย่างคิด และรถที่ใช้ E85 ได้ในบ้านเราทุกวันนี้ มีวางจำหน่ยมากขึ้นหลายยี่ห้อกว่าเดิม ได้แก่
Chevrolet Sonic 1.6
Chevrolet Captiva Gasoline
Chevrolet Cruze
Honda City 2014
Honda Jazz 2014
Honda Accord
Honda CR-V
Toyota Corolla 2014 รุ่น 1.8
Volvo S60 DRIVe
Volvo S80 DRIVe
และในอนาคตอันใกล้นี้ อาจจะมีตามออกมาเพื่อวางตลาดเพิ่มเติมอีกในอนาคต
แม้น้ำมัน E85 จะประหยัด จะดี แต่ทุกวันนี้ปัญหาหลักสำคัญ ยังคงเป็นเรื่องจำนวนสถานีบริการที่ยังคงน้อยอยู่ในการหาเติม แต่ที่ผ่านมาก็มีการพัฒนามากขึ้น และถ้าคุณสนใจที่จะหันมาคบหาพลังงานที่มีความประหยัด และเปี่ยมด้วยสมรรถนะ น้ำมัน E85 ก็เป็นทางออกที่ดีไม่น้อย
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ข้อมูลบางส่วนจากการสัมมนา ของ บริษัท เพโทรกรีน จำกัด
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com