นอนในรถตายได้ เรื่องที่คุณ..อาจไม่รู้
- โดย : Autodeft
- 23 ก.ค. 57 00:00
- 10,654 อ่าน
ไขความลับ นอนในรถอาจตายได้ วิจัยชี้มีประโยชน์แต่กูรูบอกต้องนอนอย่างถูกวิธี
ทุกวันนี้ รถยนต์ เป็นดั่งบ้านเคลื่อนที่ของหลายๆคน ด้วยกิจกรรมที่เยอะขึ้น การงานที่มากขึ้น ความเหนื่อยล้าที่บดบังจึงไม่น่าแปลกที่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบนอนในรถ แถมมันยังมีแอร์ฉ่ำเย็นสบายให้ผ่อนคลายในระหว่างพักผ่อนอีกด้วย
ความสบายนี้..อาจจะนำมาสู่หายนะ อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน เพราะการนอนในรถยนต์ขณะติดเครื่องยนต์นั้น มีความสุ่มเสียงสูงมากในการที่คุณจะไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ด้วยรถยนต์ไม่ใช่บ้านหรือโรงแรม แถมเครื่องยนต์ก็มีควันพิษที่ปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันจะมีความสามารถในการปล่อยไอเสียน้องลง แต่ท้ายที่สุด การที่คุณจอดรถติดเครื่องยนต์แล้วพล้อยหลับไปนั้น กลับเป็นการสาปส่งตัวเองสู่ความตายอย่างที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
[IMAGE1]
ถ้ายังจำเหตุการณ์เมื่อหลายปีที่ผ่านมาได้ว่า มีคนจำนวนไม่น้อยจอดรถติดเครื่องยนต์แล้วหลับไป จนท้ายที่สุดมาพบว่าเสียชีวิตนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความเข้าใจและรักความสบายในการพักผ่อน ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็มักเข้าใจว่าห้องโดยสารรถยนต์นั้น เป็นห้องปิดตายการติดเครื่องเปิดแอร์แล้วนอนพักงีบหลับไปคงจะไม่มีผลร้าอะไรตามมา
หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว ห้องโดยสารรถยนต์ไม่ว่าจะหรูหราแพงแค่ไหน ย่อมจะต้องมีส่วนระบายอากาศระหว่างห้องโดยสารและอากาศภายนอก มันไม่ใช่ห้องปิดตาย 100% อย่างที่หลายคนเข้าใจ และสามารถพิสูจน์ได้จากยามเดินทาง ที่เรายังจะได้กลิ่นต่างๆ จากภายนอกโชยเข้ามาในห้องโดยสารบ้าง ทั้งที่ก็ว่าเปิดแอร์ปิดหน้าต่างครบถ้วนแล้วเป็นอย่างดี
ในด้านหนึ่งระหว่างขับขี่อากาศในห้องโดยสาร ก็จะมีการไหลเวียนในระดับหนึ่ง ไม่เพียงแค่ระบบปรับอากาศที่เราคุ้นเคย แต่อากาศ ยังถูกถ่ายเทผ่าน ช่องอากาศเล็กๆ ตามซอกหลืบต่างๆ แต่ จะสังเกตได้ว่าเราจะไม่ได้รับควันพิษขณะรถวิ่ง ด้วยอากาศที่อยู่รอบรถ จะไหลเวียนเอาควันพิษออกไป แต่บางครั้งที่เรารถติดหนักๆท่ามกลางเมืองกรุง เราจะรู้สึกเมื่อล้อ เพราะเราได้สูดดมควันพิษจากรถคันอื่นๆที่ติดอยู่ข้างๆเรานั่นเอง
การติดเครื่องยนต์เปิดแอร์นอนนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการรมควันตัวเอง เพราะแม้ว่าเราจะปิดกระจกกันอย่างดีทั้ง 4 บาน และท่อไอเสียก็อยู่ท้ายรถ แต่อากาศที่ไม่ได้ไหลเวียนนั้น ก็สามารถทำให้ไอเสียนั้นเวียนวนอยุ่รอบๆรถ โดยเฉพาะใต้รถเป็นที่สะสมไอเสียชั้นดี แถมใครที่ใช้รถเก่า ก็จะยิ่งมีความเสียงมากขึ้น เพราท่อไอเสียที่ใช้ไปนาน ซึ่งส่วนใหญ่ทำมาจากเหล็กมีโอกาส รั่วหรือเสียหายจากการขับขี่ได้
และในระหว่างที่คุณนอนติดเครื่องเปิดแอร์สบายใจเฉิบในรถยนต์ หากได้รับควันพิษจากท่อไอเสีย ซึ่งมีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ จนอยู่ในระดับที่เป็นพิษ ผ่านการสูดดมทีละเล็กละน้อย และเมื่อประกอบกับความเหนื่อยล้าเดิม ท้ายที่สุดร่างกายก็จะขาดออกซิเจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ในท้ายที่สุด แม้จะมีโอกาสน้อยมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างไรก็ดี ความเหนื่อยล้าจากการขับรถนั้นไม่ใช่เรื่องที่ปฏิเสธได้ว่า การเดินทางไกลนั้นเป็นสาเหตุของความเหนื่อย ซึ่งทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง แต่หากคุณอยู่ในภาวะที่ล้ามากจากการขับขี่รถยนต์ควร เริ่มต้นด้วยการจอดพักทั้งคนทั้งรถ เพื่อยืดเส้นยืดสายก่อน หากอ่อนล้าจริง แนะนำให้ดื่มน้ำผักและผลไหม้ จะทำให้กระปรี้กระเปร่ามากกว่า การดื่มกาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลังตามความเชื่อของหลายๆคน และการล้างหน้าก่อนออกเดินทางจะช่วยให้คุณสดชื่นขึ้น
[IMAGE2]
แต่หากคิดว่าตาจะปิดไม่งั้นหลับในแน่ ให้คุณจอดรถในจุดพักรถหรือปั้มน้ำมัน ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านในระดับหนึ่ง โดยดับเครื่องยนต์ แล้วใช้การแง้มกระจก 4 บานเอาไว้จะดีที่สุด เผื่อให้มีอากาศถ่ายเท แม้ว่าจะต้องยอมรับว่ามันไม่สบายตัวบ้างจากอุณหภูมิอากาศ แต่ก็คงดีกว่ามีโอกาสทักทายยมบาล ที่สำคัญอย่างลืมป้องกันทรัพย์สินของคุณด้วยการล็อครถ และ ถ้ามีหมอน หรือที่รองคอ ก็จะช่วยได้มากในการสร้างความสบายสูงสุดในการพักผ่อน
สำหรับการงีบหลับ หรือการพักระหว่างทางนั้น ตามการวิจัยจากต่างประเทศจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด พบว่าการงีบหลับที่ดีนั้นควรจะใช้เวลาราวๆ 20-30 นาที เท่านั้น ที่สำคัญสถานที่ซึ่งเหมาะแก่การนอน ต้องเป็นที่มืด เงียบ และท้ายที่สุด หากได้อากาศที่เย็นสบายจะช่วยให้มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟุความเหนื่อยล้าดีขึ้น
ทั้งนี้การนอนในรถนั้นมีผลดีในเรื่องของการลดความเหนื่อยล้าขณะเดินทาง แต่อย่าลืมว่าการติดเครื่องนอนในรถนั้นแม้จะมีความสบายในการพักผ่อน แต่ก็อาจจะทำให้คุณเดินทางไม่ถึงที่หมายก็ได้
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ กับผม ทาง https://www.facebook.com/nattayodc
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com