Hands On: Honda CBR 300R 50 ซีซี ที่เปลี่ยนตัวตน

  • โดย : Autodeft
  • 5 มิ.ย. 57 00:00
  • 43,632 อ่าน

มาแล้วอย่างรวดเร็วบททดสอบ Honda CBR300R ใหม่ ตัวตนความสปอร์ตที่มากขึ้น ปรับสมรรถนะได้ลงตัวกว่าที่คิด

 

 

เรื่องและทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

 

อยากได้บิ๊กไบค์ไว้สักคัน แต่ใจยังไม่ถึง หรือสำหรับบางคน ไม่ใช่เพียงใจแต่ปัจจัยก็อาจจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดตลาดกลุ่มใหม่ที่ฉีกออกมาตลาดกลุ่มเดิม ซึ่ง ส่วนตัวผู้เขียนเรียกกลุ่มนี้ว่า “เอนทรี่ไบค์” หรือรุ่นเริ่มต้นที่จะก้าวไปสู่รถที่มีเครื่องขนาดใหญ่กว่า ที่จะตอบโจทย์เรื่องความเร้าใจมากขึ้น

หลายปีที่ผ่านมา  Honda พยายามสร้างโจทย์ใหม่ที่จะตอบกลุ่มลูกค้ามากขึ้น หลังจากที่ค่ายคู่แข่งเริ่มเปิดรถในกลุ่มนี้ออกมาทำตลาดและไม่นานพวกเขาก็เปิดตัว  Honda CBR250R  ออกมาจำหน่าย เพื่อตอบโจทย์ สำหรับนักขี่ต้องการความสนุกสนานในการขี่มากขึ้น แต่ไม่ได้ต้องการบิ๊กไบค์ เพียงแต่มองหารถที่สามารถคล่องตัวในเมืองให้ความสนุกในการขี่ ประหยัดน้ำมันและที่สำคัญยังต้องมีความสปอร์ตในความรู้สึก ทั้งภายนอกและจิตวิญญาณในการขับขี่ของมัน

Honda CBR300R

การทดสอบรถมอเตอร์ไซค์  Honda CBR 300R 

เมื่อ Honda ในต่างประเทศโชว์ว่าการเปลี่ยนแปลงของว่าที่รถรุ่นนี้จะมาพร้อมการขยับซีซีขึ้นอีกเพียงเล็กน้อย ทำให้สาวกฮอนด้าหลายคนถึงกับโห่ร้องออกมา ด้วยความเซ็งจิต อาจจะเพราะเราติดกับภาพของซีซีที่สูงมากยิ่งมีกำลังมาก แต่ความจริงแล้ว มันอาจจะมีอะไรมากกว่าในตัวตนของมัน

ตั้งแต่มอเตอร์โชว์  2014  ที่ผ่านมา  Honda CBR300R  ถูกเปิดตัวสู่ประเทศไทย เพื่อแนะนำเข้าสู่ตลาดกลุ่มนี้ โดยวางในการชิงตลาดสปอร์ตเพื่อต่อยอดไปสู่บิ๊กไบค์ ถ้ามองผิดเผินเทียบกับรุ่นที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ อาจจะเรียกว่า  Honda CBR 300R  แทบไม่มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมเลย หรือแตกต่างจากเดิมก็ไม่ได้มากมายนักอย่างที่คิด สำหรับใครที่คาดหวังไว้มาก

แต่อย่างน้อยในรุ่นนี้ก็สลัดคราบสปอร์ตตัวตนเดิมทิ้งไปแล้วหันมาใช้อัตลักษณ์ตัวตนของความเป็นรถสปอร์ตเต็มสูบมากขึ้น  Honda  ยกเอาตัวตนที่มาจากรุ่น  1000 R  มาปรับเส้นสายความสปอร์ตให้ลงตัวมากขึ้น จะเห็นได้จากไฟหน้าคู่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของความสปอร์ตของ Honda  

Honda CBR300R

ต่อด้วยการปรับขนาดเรือนร่างเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย มีการปรับยกชุดถังน้ำมันสูงขึ้นกว่ารุ่น  250 R  แต่แม้หลายคนอาจจะมองว่าไม่แตกต่างมากมาย แต่  Honda CBR 300R มีการปรับชิ้นส่วนแฟรริ่งใหม่ยกเซท ท่อไอเสียเดิมที่เป็นทรงเหลี่ยมถูกปรับเป็นทรงกลม ซึ่งเป็นอีกความแตกต่างที่บอกได้ระหว่างรุ่น รวมถึงครอบแฟริ่งท้ายที่เชิดขึ้นกว่าเดิมอีกพอตัว ส่วนล้อและยางเท่าของเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยล้อหน้า 110/70-17MC /54S  และด้านหลังใช้ยางขนาด 140 /70-17MC /66S  

การเปลี่ยนแปลงชุดแฟริ่งยกเซท ส่วนหนึ่ง  Honda  บอกว่าก็มาจากการที่พวกเขาพยายามปรับที่นั่งให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ถ้าเทียบกับรุ่นเดมิ ซึ่งเมื่อเราได้ลองขึ้นคร่อม สำหรับคนที่มีความสูง  180 ซ.ม.  นั้นสามารถคร่อมได้อย่างเหมาะสม เบาะที่นั่งที่ปาดลงต่ำลงสไตลืสปอร์ต ให้ความลงตัว และมุมการวางเป็กเท้าที่ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถ รวมถึง ให้ช่วงแฮนด์ที่ทำให้ตัวไม่ต้องโค้งลงไปมากนัก ทำให้ได้ท่านั่งที่สบายพอตัวเมื่อไม่ต้องการหมอบทำความเร็ว

แต่เมื่อมีจังหวะหากจะต้องหมอบหนีลมบ้างเมื่อต้องการอัตราเร่งที่เร้าใจมากขึ้น ก็ยังมีช่วงตัวที่สามารถพับเก็บเข้ามาได้ เพื่ออารมณ์สปอร์ตมากขึ้น แต่ด้วยความที่ขนาดของมันไม่ได้ใหญ่มากมายนัก สำหรับคนที่ตัวใหญ่อาจจะรู้สึกว่ารถ Honda CBR 300R ค่อนข้างเล็กนิดหน่อย แต่กลับกันก็ง่ายต่อการควบคุม

Honda CBR300R

บิดกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ ..น่าเสียดายที่มันยังเป็นเครื่องสูบเดี่ยว หากแม้นี่อาจจะมองเป็นข้อทีมันปราชัย ทว่าอีกด้านนั้นก้ทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา เพราะเครื่องสูบเดี่ยวนั้น เป็นที่คุ้นมือกันดีอยู่แล้ว และง่ายต่อการตอบโจทย์ต่อลูกค้าที่ไม่ได้ต้องการสมรรถนะมากมายนัก

ในงวดนี้จากเดิม  250 ซีซี  Honda  ปรับเพิ่มขยายซีซีมากขึ้นเป็น 300 ซีซี โดย โจทย์ หนึ่ง คือการที่ Honda ปรับระยะช่วงชักในกระบอกสูบ ให้มีความยาวมากขึ้นกว่าเดิม จาก 55 ม.ม. เป็น 63  ม.ม. แต่ยังคงใช้ขนาดลูกสูบเดิมยืนพื้นที่ 73 ม.ม. ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ดี มีเพียงการปรับช่วง off set  ลูกสูบใหม่นิดหน่อย จาก 0.5 เป็น 0.75  ม.ม. ทำให้เสียเครื่องยนต์เบาลงอย่างชัดเจน

และพร้อมกันด้วยการปรับระยะช่วงชักมาขึ้น ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนก้านสูบชุดใหม่ รวมถึงปรับตัวถ่วงสมดุลใหม่เพื่อให้มีความนิ่งมากขึ้นในการรับแรง ท้ายสุดถึง  50 ซีซี จะเป็นการเพิ่มปริมาตรความจุไม่มาก แต่ทีเด็ดอยู่ที่การปรับอัตราทดเกียร์ใหม่ยกเซท โดยไม่มีชุดเกียร์ในตำแหน่ง Overdrive  เลย เพื่อการเร่งที่เร้าใจมากขึ้น รวมถึงปรับสเตอร์หลังใหม่ จากเดิมใน 250 ซีซี ที่ให้อัตราทด 2.714  มาเป็น 2.571 เพื่อรับการทดเกียร์ใหม่ และท้ายสุดใส่ชุสปริงใหม่ในชุดคลัทช์เพื่อความนิ่มนวลมากขึ้น

จะว่าไปทั้งหมดที่เปลี่ยนแปลงใน Honda CBR 300R  นั้น เป็นสิ่งใหม่ๆที่ปลุกความแตกต่างจากรุ่นเดิม และสามารถสัมผัสได้ทันทีที่เริ่มกำคลัทช์ออกตัวไปสัมผัสสมรรถนะของมัน ด้วยชุดคลัทช์ ที่ใช้งานง่ายขึ้น ความรู้สึกนิ่มมือทำให้เหมาะมากขึ้นต่อการใช้งานในเมืองที่อาจจะต้องขยันเปลี่ยนคลัทช์บ่อย ซึ่งหลายคนที่ซื้อรถคันนี้คงหวังที่จะเอามันเดิม ไว้แทนรถยนต์เพื่อฝ่าการจราจรที่ติดหนึบมากขึ้นในทุกวันนี้

Honda CBR300R

เมื่อเติมคันเร่งลงไปเครื่องยนต์ 1 สูบ 300 ซีซี แม้ซุ่มเสียงจะไม่เร้าใจเมื่อเทียบกับรุ่นใหญ่บิ๊กไบค์ของค่ายหรือคู่แข่งเสื้อสีเขียว แต่มันก็มีดีพอในเรื่องอัตราเร่งที่ให้ความรู้สึกในเรื่องความสปอร์ตของรถ ที่ถือเป็นจิตวิญญาณที่สำคัญในรุ่นนี้

การให้ปรับตัวตนเพิ่มอีก 50 ซีซี อาจจะมองว่าไม่เยอะในเรื่องของกำลัง แต่ด้วยความฉลาดในการปรับช่วงชักเพื่อทำแรงบิดมากขึ้น จนสามารถยืนแรงบิดที่ 26.2 นิวตันเมตร สูงสุดที่ 7000 รอบต่อนาที ทำให้  Honda CBR 300R  สามารถพุ่งทะยานได้รวดเร็ว  แต่หากใครเป็นพวกมนุษย์ลากรอบจนติดเป็นนิสัยอาจจะผิดหวังเล็กน้อย เพราะ พ้น  8500 รอบต่อนาที กำลังเครื่องจะเหี่ยวลงอย่างชัดเจน ทว่าหากคุณเรียนรู้การเดินรอบกำลังที่ถูกต้องมันก็จะเป็นรถที่ขับขี่อย่างสนุกสนานเลยทีเดียว

Honda CBR300R

Honda CBR300R

ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณพิกัดที่ทำให้รถมีความเบาพี่ใหญ่ และทำให้มันก็ไม่ใช่เพียงมอเตอร์ไซค์เริ่มต้นเท่านั้น แต่ยังสามารถสอนทักษะที่จำเป็นในการขี่รุ่นใหญ่ได้ ไม่ว่าจะการเข้าโค้งที่ทำได้ใกล้เคียงกับรถสปอร์ตไบค์รุ่นใหญ่ของค่าย เพียงแต่การแบนมากไป จะต้องระวังชุดพักเท้าที่จะครูดกับพื้นจนอาจส่งคุณแบนไปกับโค้ง  ส่วนถ้าแบนขวามากไปนั้น ต้องระวังคอท่อไอเสียเล็กน้อย

ถึงจะว่ากันไปตามความจริง แต่ความรู้สึกเมื่อเทโค้งกับ Honda CBR 300R นับเป็นการให้อารมณ์สปอร์ตในการขี่ที่แท้จริงและไม่ได้แพ้บิ๊กไบค์ชั้นนำ ด้วยการให้ความมาดมั่นเมื่อเอียงตัวลงไปจากต้นโค้งยันไปโค้ง และเมื่อเทโค้งแล้วเดินคันเร่งก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเร้าอารมณ์จากแรงบิดที่ตอบสนองในทันที ไม่ว่าคุณจะขับในสไตล์ไหน ทั้งชอบเร่งลากยาวหรือ จะชอบตบเกียร์แล้ว เร่ง  Honda CBR300R  ก็ตอบโจทย์ได้ในเรื่องสัมผัสสปอร์ต ที่มาจากการปรับแต่งเครื่องยนต์นิดหน่อย และชุดเกียร์ที่สนองได้ดีขึ้น ยิ่งเทียบกับรุ่นเดิมมันดีขึ้นอย่างชัดเจนในเรื่องสมรรถนะ

เคยเป็นไหม..ที่เรามักจะตัดสินอะไรไปก่อนว่ามันเปลี่ยนแปลงแค่นิดหน่อย แต่หลังจากลง Honda CBR  300  R  กล้าพูดเต็มปากเลยว่ามันมีความแตกต่างมากกว่าที่คิด แม้การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ จะอยู่ที่ระบบเครื่องยนต์ แต่ในมอเตอร์ไซค์ ..มันคือเรื่องสำคัญที่ตอบสนองต่อการขับขี่

 

เรื่องและทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ขอบคุณ บริษัท เอพี ฮอนด้า จำกัด ที่เอื้อเฟื้อทีมงานเข้าร่วมทดสอบรถมอเตอร์ไซค์  Honda CBR 300R

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY533]

5 เรื่องน่าสนใจ