Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium อัพเดทใหม่ เอาใจสาว ๆ โดยเฉพาะ
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 4 มิ.ย. 64 00:00
- 35,018 อ่าน
1 ในเต้ยของตลาดรถ Eco Car ในรูปแบบ Sedan ที่ทำยอดขายได้ดีเป็นอันดับต้น ๆ คงต้องบอกว่า Toyota Yaris Ativ คือ 1 ในนั้นอย่างแน่นอน จากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน เคียงข้างรุ่น Hatchback อย่าง Toyota Yaris มาตลอด ถือเป็นรถ Eco Car ในแบบ Sedan ที่เราเห็นได้บ่อยตามถนนทั่วไปจริง ๆ
แต่ด้วยความที่ผ่านมาหลายปีแล้ว ยังไม่มีการอัพเดทในรูปแบบของ Model Change เลย แต่ก็เชื่อได้ว่ารถตระกูลนี้น่าจะมีการขยับโฉมใหม่ในระยะเวลาอันไม่ไกลนี้แล้ว แต่ก่อนที่จะถึงวันนั้น วันนี้ทางโตโยต้าก็จัดการเพิ่มรุ่นพิเศษมาเอาใจสาว ๆ กันเสียหน่อยกับ Toyota Yaris Ativ Play นั่นเอง
รอบนี้ผมเองในฐานะของ 1 ในทีมงาน AUTODEFT เลยจัดการขอความอนุเคราะห์จากทาง โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ในการยืมรถยนต์ใหม่รุ่น Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium มาทดสอบกันเสียหน่อย ว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้นั้นมีดีอะไรขึ้นบ้าง .
ก่อนเริ่มการทดสอบ เรามาทำความรู้จักข้อมูลของ Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium กันก่อนเลยดีกว่าครับ สำหรับรถอีโค่คาร์คันนี้ ถ้าในเชิง Performance แล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย ทั้งเครื่องยนต์ที่ยังคงเป็นเบนซินรหัส 3NR-FKE / 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-iE ขนาดความจุกระบอกสูบที่ 1.2 ลิตร หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ EFI ให้กำลังสูงสุดที่ 92 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 109 นิวตันเมตร มีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop and Start System) รองรับน้ำมันได้ระดับสูงสุดถึง E20 ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock
Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium สัดส่วนเท่าเดิมเป๊ะ กับมิติขนาด 4,440 x 1,730 x 1,475 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) ฐานล้อกว้าง 2,550 มม. ระยะจากใต้พื้นสูง 133 มม. ช่วงล่างด้านหน้าใช้งานแบบ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบ ทอร์ชั่นบีม และคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง เบรกก็ยังคงเดิมกับด้านหน้าแบบดิสก์เบรก และด้านหลังแบบดรัมเบรก (เมื่อไหร่จะเปลี่ยน) ใส่ล้อแม็กซ์ขนาด 15 นิ้ว รัดมาด้วยยาง 185/60 R15 มาทั้ง 4 ล้อเท่าก้นเป๊ะ
การตกแต่งภายนอกของ Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium ต้องบอกว่าเริ่มเห็นกันชัดเจนจากสีสันของตัวรถ ที่เป็นสีชมพูจาง ๆ ที่ทางโตโยต้าเรียกว่า Ice Pink Metallic ซึ่งผมดูแล้วมันออกประมาณสีน้ำยาอุทัยทิพย์ละลายในน้ำเลย สีนี้น่าจะเอาใจสาว ๆ โดยเฉพาะ แต่เวลามันออกแดดจัด ผมว่ามันละลายกลายเป็นสีขาวไปแทน ฮ่า ล้อแม็กซ์ก็ลายใหม่สำหรับรุ่นพิเศษคันนี้โดยเฉพาะ กับลาย 2 โทนแบบปัดเงา ถ้าดูให้ดีจะมีสี Dark Mulberry อยู่ในสีเงินด้วย ไฟหน้ายังคงใช้เป็นไฟ LED มัลติรีเฟลกเตอร์ พร้อมด้วย LED Light Guiding มีหลอดไฟตัดหมอกแบบ LED มาให้ด้วย ล้อมกรอบด้วยสีดำเพิ่มความเป็นสปอร์ต โดยตัวไฟหน้านั้นเป็นระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-me-home กระจังหน้าสีดำพาดเป็นแนวนอนสไตล์ Horizontal Line และเสริมเข้าไปด้วยกล้องที่แทรกเข้ามาในกระจังหน้า โดยกล้องตัวนี้เป็น 1 ใน 4 ตัว ที่จะเอามาเป็นภาพในระบบ Panoramic View Monitor หรือ กล้องมองรอบคัน 360 องศา โดยจะมีติดที่กระจกมองข้างทั้ง 2 ข้าง และที่ฝากระโปรงหลังอีก 1 ตัว
Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium แต่งกระจกมองข้างเป็นสีดำ เสริมด้วยกล้องอย่างที่บอกไปแล้ว ตัวมือจับเป็นสีเดียวกับตัวรถ บนหลังคามีเสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถเช่นกัน ด้านท้ายใช้เป็นไฟ LED แบบ Light Guiding เช่นกัน ส่วนที่เพิ่มมาพิเศษกว่ารุ่นปกติ ก็คงเป็นสัญลักษณ์ PLAY ที่เขาเรียกกันว่า New Emblem ให้ชาวบ้านเขารู้กันได้ว่า รถคันนี้เป็นรุ่นพิเศษนะ ส่วนอีกอย่างที่เป็นอุปกรณ์พิเศษในรุ่นนี้ จะอยู่ภายในฝาท้ายกระโปรง ที่จะมี Sky Box หรือกล่องเก็บสัมภาระที่ติดมาให้ด้านบน เอาไว้ใส่พวกรองเท้าหรือผ้าอะไรพวกนี้ได้ ซึ่งสาว ๆ ก็น่าจะชอบเช่นกัน
ขบัยเข้าไปที่ภายในของ Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium กันหน่อย สิ่งแรกที่สะดุดตามากทีสุดก็คงเป็นเบาะนั่ง ที่หุ้มด้วยหนังและหนังสังเคราะห์ สวยงามด้วยสี 2 โทนดำ-ขาว เดินด้ายด้วยสี Dark Mulberry รวมทั้งตัวแผงคอนโซลก็ตกแต่งด้วยสี Dark Mulberry ด้วยเช่นกัน รวมทั้งยังมีสัญลักษณ์ PLAY ติดอยู่บนพวงมาลัยด้วย คนขับจะได้รู้สึกตัวว่าขับรุ่นพิเศษอยู่นะ ส่วนอื่น ๆ ก็เหมือนเดิมกับรุ่นปกติทุกประการ ทั้งพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับสูง-ต่ำได้ มีปุ่ม Multi-Function ให้ควบคุมหน้าจอกับแผงข้อมูลการขับขี่ได้, มาตรวัดแบบเรืองแสง, จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) แบบจอสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว, หน้าจอกลางขนาด 6.7 นิ้ว รองรับระบบ Smart Device Link เชื่อมต่อด้วย Bluetooth และสาย USB รองรับโทรศัพท์ และการเล่นเพลง ใช้งาน Apple CarPlay ได้ ส่งเสียงได้ด้วยลำโพง 6 ตำแหน่ง
สิ่งพิเศษที่มากกว่ารุ่นปกติของ Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium คือแอร์ที่เป็นระบบอัตโนมัติอยู่แล้ว รุ่นนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ ที่ดีงามมากขึ้นคือสามารถกรองฝุ่นระดับ PM2.5 ได้ด้วย (เลิศ) แถมกระจกหน้าก็เป็นแบบ HSEA Glass ที่ทางโตโยต้าบอกว่าจะช่วยดูดซับความร้อนได้ดีกว่ากระจกทั่วไป เสริมกำลังกันความร้อนคู่กับฟิล์มกันแสงด้วยก็น่าจะดีมากกว่าเดิม
เทคโนโลยีที่เสริมเติมเข้ามาบน Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium อีกอย่างก็คือ ระบบ PLAY CONNECT CAR TELEMATICS เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อคุณและรถ ให้สนุกกับทุกไลฟ์สไตล์ มั่นใจในทุกเส้นทาง (เป็นไง ก็อปมาทั้งดุ้นเลย 555) ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้ก็จะเป็นเหมือนกล่องที่เอามาเสียบกับช่อง OBD2 Port ที่ปกติแล้วช่างที่บำรุงรักษารถยนต์เอาไว้เสียบเพื่อเรียกดูข้อมูลในตัวรถ และ ณ วันนี้เราก็จะรับรู้ข้อมูลเหล่านั้นได้ด้วยตัวเองแล้ว ฮ่า (ไม่ได้ทั้งหมดหรอก) ดูได้ผ่านทางสมาร์ทโฟนที่เราใช้งาน จะดูข้อมูลได้ทั้ง
- บอกตำแหน่งรถยนต์แบบ Real-time
- บอกประวัติการเดินทาง
- บอกพฤติกรรมการขับขี่
- กำหนดขอบเขตและแจ้งเตือนพื้นที่ที่กำหนด
- แจ้งเตือนเมื่อรถมีการสตาร์ทและเคลื่อนที่รวมทั้งการสั่นไหวที่ผิดปกติของตัวรถขณะจอด
- วิเคราะห์ปัญหาและบอกความผิดปกติของเครื่องยนต์
- บันทึกและแจ้งเตือนการซ่อมบำรุงรถยนต์เมื่อถึงเวลาหรือระยะทางที่กำหนด
- ซึ่งก็ถือว่าเป็นรถระดับ Eco Car ที่มีความสามารถพิเศษล้ำกว่าคนอื่นเลย
Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium ยังคงใส่ระบบความปลอดภัยมาเพียบเช่นเคย ตามนี้เลยครับ
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
- ระบบเบรก ABS/EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน LDA
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และ ระบบเตือนการโจรกรรม TDS
น่าจะครบถ้วนแล้วกับข้อมูลเบื้องต้นของ Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium งั้นเรามาเริ่มการเดินทางเพื่อรีวิวกันเลยดีกว่าครับ โดยทั่วไปแล้ว ทุกอย่างในการขับขี่ยังเท่ากันทุกประการกับรุุ่นปกติเลย ตัวรถอยู่ในระดับกะทัดรัด แต่ก็ไม่ถึงกับเล็กมากเวลานั่งขับ ที่นั่งผมว่าขนาดกำลังดี ไม่ได้ใหญ่แต่ก็ไม่เล็กถึงขนาดนั่งแล้วอึดอัด ส่วนการตกแต่งภายในนี่ ผมว่าแล้วแต่คนชอบนะ ส่วนตัวผมน่ะบอกเลยว่าไม่ได้ชอบสี Dark Mulberry สักเท่าไหร่อยู่แล้ว เพราะผมคงไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของรถยนต์ใหม่คันนี้สักเท่าไหร่ ดังนั้นอย่าเอาความเห็นจากผมเลย ลองดูกันเองดีกว่า ตัวเบาะผมชอบมาก มันไม่นั่งแล้วนุ่มจนยุบ ออกไปทางแข็งเล็กน้อย ซึ่งนั่งแล้วถูกใจคนวัยกลางคนอย่างผมมาก นั่งนาน ๆ แล้วก็ไม่เมื่อยเลย
การตอบสนองของเครื่องยนต์บน Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium ต้องยอมรับกันก่อนว่า นี่คือเครื่องยนต์ที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว และอยู่ในกลุ่ม Eco Car ที่เน้นการปล่อยมลพิษน้อย ประหยัดน้ำมัน ก็เลยไม่ได้ถึงจี๊ดจ๊าด ปรู๊ดปร๊าดอย่างใครเขา อย่าเอาไปเทียบกับคู่แข่งที่ได้เครื่องยนต์ใหม่ระดับ 100 แรงม้าขึ้นไป ดังนั้นการตอบสนองจึงอยู่ในระดับกลาง พอใช้งานในเมืองได้สบาย ช่วงเร่งแซงต้องลุ้นเล็กน้อย แต่ไม่ต้องลุ้นจนตัวโก่ง ส่วนพวงมาลัยนั้นเป็นแบบไฟฟ้า ให้น้ำหนักกำลังดี และคุมง่าย ขับสนุก รวมทั้งตัวรถเองก็ไม่ได้คันใหญ่อะไรมากมาย เวลาขับในเมืองแล้วอยู่ในสถานะการที่ต้องมุดตามช่อง ก็สนุกเอาเรื่องไม่ใช่น้อย
เรื่องออพชั่นใหม่ที่ใส่มาในรุ่นพิเศษ Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium สิ่งที่ดีงามสุดนั้น ผมยกให้กล้องมองรอบคัน 360 องศา Panoramic View Monitor เลยครับ เพราะมันดีมากถึงดีที่สุดในตอนที่เราจะต้องถอยหลังเข้าซองหรือจอดแบบเทียบข้าง แถมเรายังเลือกได้อีกว่าอยากเห็นมุมมองไหน อยากเห็นแบบรอบคัน, เห็นแบบด้านหลังเต็ม ๆ หรือจะเห็นแบบเฉพาะด้านข้างรถ 2 ข้างก็ทำได้ เสียดายอย่างเดียวว่าหน้าจอมันเล็กไปหน่อย ถ้าได้สัก 10 นิ้วคงแจ่ม
ช่วงล่างของ Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium ก็ยังคงให้ความนุ่มนวลดีตามเดิมครับ และมันยังขับได้นิ่งดีในย่านความเร็วระดับไม่เกิน 110 กม./ชม. แต่ถ้าเริ่มเข้าสู่ช่วงความเร็วเกินกว่านี้ อาจจะต้องเริ่มใช้งานประคองกันแล้ว แต่ไม่ได้หนักมากจนเหนื่อย คือไม่ได้นิ่ง แต่ก็ไม่ได้สะบัดหนัก ผมว่าใช้ในเมืองนี่รอดแน่นอน แต่ถ้าขับต่างจังหวัดระยะทางไกลใช้ความเร็วสูงเกิน 120 กม./ชม. ขึ้นไป คงต้องระมัดระวังกันหน่อย เช่นเดียวกับช่วงการเข้าโค้ง ส่วนตัวว่าดีกว่ารุ่นพี่อย่าง Toyota Yaris เล็กน้อย เพราะรถสไตล์ซีดานมันไม่มีความสูงในช่วงท้าย เลยทำให้การเข้าโค้งมีการโยนตัวน้อยกว่าอยู่แล้ว ดังนั้นทำให้เข้าโค้งได้มั่นใจกว่า นิ่งกว่า ถ้ามองในกลุ่ม Eco car ด้วยกัน ผมว่าไม่ได้เป็นรองคู่แข่งสักเท่าไหร่เลย
การเก็บเสียงบน Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium ถือว่าทำได้ดีพอตัว ไม่ถึงกับเยี่ยมแต่ดีในระดับที่ไม่แพ้ใครในกลุ่มนี้ แน่นอนว่าในช่วงความเร็วต่ำระดับ 100 กม./ชม. เสียงลมแทบไม่มีเข้ามาเลย จะเริ่มเข้ามาบ้างเมื่อเกินกว่านี้ แต่ไม่ถึงกับชัดเจน จะเริ่มดังจนสังเกตุได้จริงก็ช่วงเกิน 130 กม./ชม. ขึ้นไป เสียงลมถึงจะชัด แต่เราใช้รถระดับ Eco Car แล้วจะซัดเร็วขนาดนี้แบบยาว ๆ ก็ใช่เรื่อง ดังนั้นทำได้ระดับนี้ถือว่าดีแล้วครับ
รอบนี้ผมมีเวลาอยู่กับ Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium ได้ไม่มากจริง ๆ เลยไม่ได้ทดสอบอัตราเร่ง 0-100 ตามที่เคยทดสอบทุกคัน แต่ยังดีที่ได้ทำการจับอัตราความประหยัดในบางช่วงได้ในระยะทางสั้น ๆ โดยเริ่มจากการใช้ในเมืองก่อน ที่ใช้งานไปประมาณ 96 กิโลเมตร แต่มันก็ไม่ค่อยมีรถติดเท่าไหร่ ต้องเข้าใจว่าช่วงนี้ขับรถแถวลาดพร้าวยังแทบจะไม่ติดเลย ได้ตัวเลขออกมาที่ 16.2 กิโลเมตร/ลิตร ภายใต้ความเร็วเฉลี่ย 34 กม./ชม. ถือเป็นอัตราที่โคตรดี ประหยัดสุด คาดว่าถ้าเจอรถติดแบบปกติ อาจจะลดลงมาอีกเล็กน้อย แต่ก็ไม่น่าต่ำว่า 14.5 กิโลเมตร/ลิตร ตัวเลขระดับนี้คือดีเลย
ส่วนการใช้นอกเมืองนั้น จับระยะทางไปที่ 98.5 กิโลเมตร ด้วยความเร็วเฉลี่ย 82 กม./ชม. ที่ผมขับไปชลบุรีด้วยความเร็วในย่าน 80 - 120 กม./ชม ได้ตัวเลขผ่านทางหน้าจอที่ 18.7 กิโลเมตร/ลิตร ก็ถือเป็นตัวเลขที่ดีเช่นกัน ดีงามตามสไตล์รถ Eco Car จริง ๆ
เวลาผ่านไปรวดเร็วกับการทดสอบในรอบนี้ สรุปได้ว่า Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium มีสิ่งที่ผมถูกใจและไม่ค่อยชอบดังนี้ครับ
ชอบ
- ช่วงล่างถือว่าดีเลย ขับในเมืองได้สนุก เข้าโค้งได้ดี
- เก็บเสียงดีไม่แพ้ใครในกลุ่มเดียวกัน
- กล้องมองรอบคันคือความดีงามที่เสริมเติมเข้ามา
ไม่ชอบ
- พอมีคู่แข่งเป็นเครื่อง Turbo ระดับ 100 แรงม้าขึ้นไป แอบเปรียบเทียบไม่ได้ว่ามันอืดกว่าจริง
- อันนี้ส่วนตัวไม่ชอบเรื่องสี มันชมพูจางไปนิด พอออกแดดกลายเป็นขาวเลย ถ้าปรับเป็นชมพูชัด ๆ อาจจะได้ความชอบจากกลุ่มสาว ๆ ชัดเจนกว่า
Toyota Yaris Ativ Play Sport Premium เป็นรุ่นปรับปรุงพิเศษในจำนวนจำกีดเพียง 1,500 คันเท่านั้น ถ้าสาว ๆ คนไหนต้องการหารถ Eco Car แบบประหยัด, ขับดี, มีอุปกรณ์ค่อนข้างครบ, สีแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ในราคา 699,000 บาท ผมว่า รถคันนี้มีดีพอให้คุณเป็นเจ้าของได้อย่างแน่นอนครับ
ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com