Test Drive: รีวิว ทดลองขับ All New Toyota Corolla Altis รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 Hybrid High ขับง่ายสุด พร้อมความประหยัดกว่า
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 1 ต.ค. 62 00:00
- 33,158 อ่าน
หากให้นึกถึงรถเก๋งคอมแพ็คยอดนิยมในบ้านเรา ชื่อนี้น่าจะเป็นชื่อแรกๆ ที่ใครต่างนึกขึ้นมาได้กับ Toyota Corolla Altis ที่ในประเทศไทยนั้นมียอดขายสะสมแล้วกว่า 800,000 คัน นับเป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นสำคัญของโตโยต้า ซึ่งในตอนนี้ได้เดินทางมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 12 ที่เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในไทย เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา และในครั้งนี้ทางทีมงานก็ได้ร่วมสัมผัสและทดลองขับในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 Hybr
อีกหนึ่งโอกาสที่ทาง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เรียนเชิญทีมงาน AUTODEFT เข้าร่วมสัมผัสสมรรถนะการขับขี่ All New Toyota Corolla Altis รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 Hybrid High ที่ครั้งนี้การทดสอบได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน ทั้งในสนามทดสอบ TDEX (TOYOTA Driving Experience Park) และการขับขี่ใช้งานจริงในการเดินทางออกต่างจังหวัด โดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์จากย่านบางนามุ่งหน้าสู่พัทยา
แรกเห็นรถใหม่ All New Toyota Corolla Altis ภาพรวมยังคงให้ความรู้สึกในแบบ Corolla Altis โฉมที่ผ่านมา แต่มีมิติที่ดูใหญ่ขึ้น พร้อมใส่อุปกรณ์ทันสมัยมาให้แบบครบครันตามสมัยนิยม ซึ่งจากตัวเลขมิติตัวรถมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น มีความยาว 4,630 มม. ความกว้าง 1,780 มม. ความสูง 1,455 มม. ระยะฐานล้อ 2,700 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 155 มม. และความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร
โดดเด่นพร้อมนำเสนอมาด้วยสถาปัตยกรรมยานยนต์ TNGA (Toyota New Global Architecture) ใหม่ ที่ถูกใช้สำหรับรถยนต์โตโยต้าใหม่ในยุคนี้ ประกอบไปด้วย
BODY RIGIDITY...เพิ่มความมั่นคงของรถจากโครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง พร้อมเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวรถ (Spot welding) ช่วงรองรับแรงบิดที่มีต่อตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน
LOWER CENTER OF GRAVITY...ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงรถต่ำ ลดอาการโคลงของตัวรถ ช่วยเรื่องการทรงตัวและการเข้าโค้งดีขึ้น
DOUBLE WISHBONE SUSPENSION...ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม
GOOD HANDLING...พวงมาลัยมีการปรับจูนใหม่ ตอบสนองแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้การควบคุมรถง่าย เป็นไปอย่างมั่นใจ
EXCELLENT VISIBILITY...ออกแบบตัวรถให้เหมาะกับสรีระผู้ขับขี่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย ลดจุดอับสายตา
ภายนอกรถใหม่ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Shooting Robust” มีการออกแบบกระจังหน้าแนวนอนใหม่สีดำตัดโครเมียมพร้อมโลโก้สามห่วงตรงกลางและมีพื้นขอบสีฟ้าในรุ่นไฮบริด แนวเส้นสายขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED Projector รูปตัว J พร้อมไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED Daytime Running Lights ดีไซน์ช่องระบายอากาศด้านหน้าขนาดใหญ่สีดำ พร้อมไฟตัดหมอกฝั่งอยู่ในชุดกันชนหน้าขนาดไม่ใหญ่ ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 195/65 R15 ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/55 R16 และขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/45 R17 ในรุ่นท็อปที่ทีมงานได้ทดสอบ ด้านท้ายแน่นอนว่ามาพร้อมกับไฟท้าย LED ที่มีดีไซน์ของเส้นสีเงินเชื่อมต่อกันระหว่างไฟท้ายทั้งสองฝั่ง และด้านล่างฝั่งขวาจะพบได้กับโลโก้ไฮบริด และด้านซ้ายกับชื่อรุ่น Corolla Altis ซึ่งบริเวณไฟส่องป้ายทะเบียนเป็นตำแหน่งของกล้องถอยหลัง และกันชนหลังติดตั้งมาพร้อมเซ็นเซอร์กะระยะถอยเพื่อความปลอดภัย
ภายในของรถใหม่ All New Toyota Corolla Altis รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 Hybrid High นั้น เน้นการตกแต่งในโทนสีดำตัดสีเงิน ได้รับการออกแบบให้ดูเรียบหรูและดูคลีน มีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถใช้งานได้เข้าใจง่าย ไม่มีปุ่มหลากหลายให้ดูวุ่นวาย กลางแดชบอร์ดเด่นด้วยจอกลางสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigator และรองรับ T-CONNECT ถัดลงมาจะพบกับชุดแผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติที่ไม่ได้แยกฝั่ง แต่มีระบบ Nanoe ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารที่จะสร้างโมเลกุลน้ำล้อมรอบประจุลบเพื่อขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรค ส่วนเรื่องความเย็นภายในห้องโดยสารแม้วันที่แดดจัดนั้นหายห่วงได้เลย
ถัดลงมาด้านล่างจะเป็นส่วนของ Wireless Charger แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย ที่มีสวิทซ์เปิดปิดการทำงานมาให้ด้วย ต่อเนื่องถัดมาจะเป็นตำแหน่งของคันเกียร์ที่มีสวิทซ์การปรับโหมดการขับขี่ โหมดขับขี่ไฟฟ้าล้วน รวมไปถึงสวิทซ์ปิดระบบควบคุมการทรงตัว และด้านล่างคันเกียร์จะมีสวิทซ์ควบคุม Auto Brake Hold ระบบหน่วงแรงเบรกอัตโนมัติ และ Electric Parking Brake ระบบเบรกมือไฟฟ้า อยู่คู่กัน ก่อนที่จะพบกับที่วางแก้ว 2 ช่องเรียงกันเป็นแนวยาว
Toyota Corolla Altis ใหม่ มากับพวงมาลัยดีไซน์แบบ 3 ก้าน หุ้มหนังพร้อมตกแต่งด้วยสีเงิน มีสวิทซ์ควบคุมบนพวงมาลัยทั้งฝั่งซ้ายและขวา โดยทางขวาเน้นในส่วนของการควบคุมระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ และสวิทซ์ปรับระยะจากรถคันหน้ารวมไปถึงการเปิดปิดระบบเรดาร์ตรวจจับเส้นถนน ส่วนด้านซ้ายเป็นสวิทซ์ควบคุมสี่ทิศทางที่คุมการเลือกเมนูต่างๆ บนหน้าปัดสีขนาดใหญ่ 7 นิ้ว ที่มาคู่กับมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ยังไม่หมด All New Toyota Corolla Altis ใหม่ ยังได้ติดตั้ง Head Up Display หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถมาให้อีกด้วย แน่นอนว่าจากการใช้งานจริงแม้เจอกับแดดจัดๆ เวลากลางวัน ก็ยังสามารถดูได้อย่างชัดเจน และช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยการที่เราไม่ต้องละสายตาจากถนน เพื่อดูข้อมูลที่หน้าปัดรถ
ช่วงเช้าเริ่มต้นกับการทดสอบในสนาม TDEX ที่มีการจำลองสถานการณ์ต่างๆ ให้ได้ทดสอบ All New Toyota Corolla Altis ใหม่ ถูกแบ่งเป็น 2 รอบใหญ่ในการทดสอบ
รอบแรกในสนาม เริ่มต้นด้วยการวิ่งสลาลม (Slalom) ที่ความเร็วต่ำราว 10 - 20 กม./ชม. เพื่อทำความคุ้นเคยกับการควบคุมพวงมาลัย ซึ่งต้องบอกเลยว่าแรกสัมผัสพวงมาลัยของ Toyota Corolla Altis ใหม่ ในช่วงความเร็วต่ำนั้นเบามากเลยทีเดียว การหมุนพวงมาลัยซ้ายขวาสลับไปมาต่อเนื่องทำได้อย่างคล่องแคล่ว น่าจะเป็นที่ถูกใจของสาวๆ ไม่น้อย จากนั้นไปสู่สถานีต่อไปกับการทดสอบระบบเบรก ABS และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ซึ่งเป็นการวิ่งออกตัวไปบนพื้นกระเบื้องเปียกน้ำ เร่งความเร็วตรงไปยังพื้นที่เปียก ก่อนเบรกแบบกะทันหันพร้อมกับการหักไปทางซ้าย การเป็นผู้ขับในช่วงนี้ให้ความมั่นใจอย่างมากในการควบคุมรถบนพื้นเปียกและเมื่อต้องเบรกแบบกะทันหัน ก่อนที่จะต้องขับตรงออกจากช่วงสถานีนี้บนพื้นกระเบื้องที่เปียก ก็สามารถควบคุมรถผ่านออกไปได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย
ก่อนที่จะกลับรถและต่อกันที่การขับแบบสลาลมที่ความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. นับเป็นความเร็วที่จะทำให้เราได้เห็นว่าสมรรถนะของช่วงล่าง การควบคุมรถแม่นยำเพียงใด โดยความรู้สึกในช่วงการขับขี่แบบสลาลมนี้ ยอมรับเลยว่าตัวรถให้ความรู้สึกในการขับขี่ผ่านสถานีนี้ได้อย่างนุ่มนวล แม้จะไม่ได้หนึบแบบแข็งๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวรถโยนไปทางซ้ายหรือขวาจนน่ากลัว กลับสามารถขับผ่านไปได้ด้วยความมั่นใจ
ก่อนที่จะวนกลับรถอีกครั้ง พร้อมที่จะเร่งความเร็วทางตรงจากจุดหยุดนิ่ง สังเกตได้ว่าตั้งแต่กดคันเร่งจมมิดมอเตอร์ทำงานในทันทีพารถกระโจนออกไป ก่อนที่เครื่องยนต์จะเข้ามาผสานกำลังพร้อมเสียงคำรามที่พอได้ยิน ก่อนที่ความเร็วจะไหลขึ้นต่อเนื่องและแตะที่ราว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (โดยทางทีมงานโตโยต้าได้เผยตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เฉลี่ยแล้วที่ 12.6 วินาที) ก่อนจะเบาเบรกเล็กน้อยและหักหลบไปทางขวาเพื่อสังเกตอาการโยนของรถเมื่อต้องเปลี่ยนเลนกะทันหัน ที่ต้องบอกเลยว่าให้ความมั่นใจดี
จากนั้นเป็นการขับเข้าโค้งขวายาว สถานีนี้เป็นสถานีที่ทำให้เราได้รู้ว่าทัศนวิสัยเมื่อมองออกไปด้านข้าง 45 องศาด้านหน้าของรถ เป็นบริเวณที่มีเสาเอรู้สึกได้ถึงการไม่ถูกบังสายตา เนื่องมาจากช่องกระจกบริเวณเสาเอที่ทำให้เราสามารถมองทะลุออกไปด้านนอกได้นั้นเอง
ก่อนจบรอบแรกของการวิ่งทดสอบในสนาม ขับผ่านสะพานจำลองเพื่อดูอาการของช่วงล่างในการยุบและยืดตัวที่ไม่ได้รู้สึกกระด้าง แต่จะมีอาการโยนมากน้อยหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้ความเร็วประกอบด้วย ก่อนที่จะจบรอบแรกด้วยการวิ่งผ่านพื้นผิวถนนรูปแบบต่างๆ ที่ช่วงล่างก็ได้มอบความนุ่มในการขับและการโดยสาร
ในรอบสองของการขับทดสอบรถใหม่ Toyota Corolla Altis ใหม่ เริ่มด้วยการทดสอบการทำงาน ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถเมื่อเบี่ยงออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ Lane departure alert with steering assist ที่จะเริ่มทำงานที่ความเร็ว 50 กม./ชม. ขึ้นไป สามารถเปิดระบบได้จากสวิทซ์บนพวงมาลัยด้านขวา เมื่อเปิดระบบจะมีเส้นปะซ้ายขวาแสดงขึ้น และเมื่อมีการจับเส้นบนถนนได้หน้าจอจะแสดงกลายเป็นเส้นทึบ และเมื่อขับออกนอกเลนหรือเส้นที่ระบบตรวจจับได้ จะมีการแจ้งเตือนทั้งเสียงและแถบสีที่เส้นข้างถนนบนหน้าจอ และพวงมาลัยก็มีการหน่วงกลับอัตโนมัติพร้อมกันอีกด้วย
ก่อนที่จะวนเข้าสถานีสลาลอมและทดสอบอัตราเร่งกันอีกครั้ง และท้ายสุดกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control ที่สามารถรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าได้ถึง 3 ระดับ และเมื่อรถคันหน้าจอดหยุดสนิทตัวรถก็จะรักษาระยะและจอดสนิทด้วย ซึ่งเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ต่อตัวรถก็จะเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า หากแต่มีการหยุดนานเกินกว่า 4 วินาที ผู้ขับขี่จะต้องมีการเตะคันเร่งเล็กน้อยเพื่อให้ระบบทำงานต่อ และระบบนี้ยังมีการควบคุมทิศทางของรถไปทางซ้ายหรือขวาตามรถคันหน้าด้วย โดยสังเกตได้จากกราฟฟิครูปรถที่จะแสดงที่หน้าปัดบริเวณเดียวกันกับระบบ Lane departure alert with steering assist และเมื่อรถคันหน้าได้เลี้ยวขวาหลุดออกไปจากการตรวจจับของระบบ ระบบก็จะยังคงความเร็วในตอนนั้นๆ เอาไว้ ไม่เร่งความเร็วขึ้นไปตามที่เราได้ตั้งไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยด้วยนั้นเอง
การขับขี่ในสนามทำให้เราได้สัมผัสกับสมรรถนะของ Toyota Corolla Altis ใหม่ ได้หลากหลายสถานการณ์ ซึ่งการทดสอบทำให้เราได้ทราบถึงประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มใหม่ TNGA ที่ได้มอบการทรงตัว และการเกาะถนนที่ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ได้พิสูจน์มาแล้วในรถยนต์ใหม่อย่าง C-HR และ Camry ใหม่นั้นเอง แต่ส่วนของ Altis ใหม่เองก็ได้รับการปรับเซ็ตช่วงล่างให้แตกต่าง มีความนุ่มนวลที่มากกว่าหากเทียบกับ C-HR ที่จะมีบุคลิกที่หนึบและแข็งกว่า และอีกจุดเด่นกับจุดศูนย์ถ่วงต่ำ แน่นอนว่าลดอาการโคลงของตัวรถได้ดีมากขึ้น และช่วงล่างด้านหลังเองยังได้ปรับเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ ก็ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ซึ่งเราจะได้ทดสอบกันในช่วงถัดไปบนถนนจริงกันอีกครั้ง กับการเดินทางออกนอกเมือง
ต่อกันในช่วงของการวิ่งทดสอบบนถนนจริง การขับขี่เส้นทางหลักเป็นการวิ่งบนเส้นทางมอเตอร์เวย์ ที่มีการใช้ความเร็วราว 120 กม./ชม. All New Toyota Corolla Altis ใหม่ ก็ได้มอบความสบายทั้งการเป็นผู้ขับขี่และในโหมดที่ต้องนั่งโดยสารได้อย่างดี ช่วงล่างที่เซ็ตมาทางนุ่ม บวกกับตัวรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ก็ให้ความมั่นใจในการที่เราต้องมีการเปลี่ยนเลนไปมา และพวงมาลัยที่เบาในแบบที่สามารถควบคุมรถได้แบบไม่วอกแวก ในช่วงความเร็วเดินทาง 120 กม./ชม. ก็ทำให้สามารถขับได้แบบไม่รู้สึกเหนื่อยล้า ทั้งยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control ที่นอกจากตั้งความเร็วได้แล้ว ยังสามารถรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างปลอดภัย รวมไปถึงความสามารถในการขับตามและโค้งไปตามถนนและรถคันหน้าได้อีกด้วย นับเป็นระบบที่ผสานการทำงานช่วยให้การขับขี่สบายยิ่งขึ้นอย่างมากทีเดียว
และในจังหวะที่ต้องการเร่งแซง ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE ที่ให้กำลังสูงถึง 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ให้แรงม้ารวม 122 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT การเร่งแซงเองมอเตอร์ก็ได้เข้ามาช่วยซึ่งสามารถตอบสนองทันทีพร้อมกับเครื่องยนต์ที่คำรามก็พร้อมผสานกำลังพารถไต่ความเร็วขึ้นไปแบบไหลๆ ต่อเนื่อง และจากสเปคนั้นมีการจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 170 กม./ชม.
ครั้นในช่วงวิ่งในเมืองก่อนจะมาถึงยังที่พักกับการจราจรที่หนาแน่น การขับขี่ Toyota Corolla Altis ใหม่ ก็สามารถซอกแซกเปลี่ยนเลนไปมาอย่างคล่องตัวอย่างมาก ทั้งพวงมาลัยที่เบาควบคุมง่าย บวกกับการออกตัวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่สามารถกระโจนพารถเปลี่ยนเลนออกไปได้แบบฉับไว ก็ทำให้เราสามารถขับได้แบบมั่นใจมากทีเดียว และในส่วนของระบบเบรกเองที่เป็นดิสก์เบรกขนาด 15 นิ้วทั้งหน้าและหลัง ก็ได้มีการปรับเซ็ตมาให้ใกล้เคียงกับรถเครื่องยนต์เบนซินที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด ซึ่งจากการขับขี่จริงระบบเบรก็ทำงานได้อย่างมั่นใจ ผู้ขับสามารถชะลอเบาเบรกได้แบบเนียนๆ ครั้งที่ต้องมีผู้ใหญ่โดยสารก็สามารถหยุดรถได้อย่างนิ่มนวล
อีกเรื่องที่หลายๆ คนอยากทราบกันก็คืออัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงกับเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid นี้ สำหรับการเดินทางที่มีเจอกับทั้งการจราจรที่หนาแน่น และการใช้ความเร็วในการเดินทางประมาณ 120 กม./ชม. บวกกับบางจังหวะที่มีการเติมคันเร่งมากกว่าปกติเพื่อการแซง ตัวเลขที่ได้ออกมาอยู่ที่เฉลี่ย 19.7 กม./ลิตร (เป็นตัวเลขที่คำนวณโดยอัตโนมัติจากตัวรถ) ถือได้ว่าการขับขี่ใช้งานจริงหากขับขี่ด้วยความเร็วที่คงที่ และไม่ได้ใช้ความเร็วสูงและกดเร่งแซงบ่อยครั้ง คาดว่าตัวเลขน่าจะทะลุ 20 กม./ลิตร ได้ไม่ยาก
ด้านความปลอดภัยจัดเต็มมาให้ทั้ง Back Guide Monitor กล้องมองภาพขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ Hill-start Assist Control ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Blind Spot Monitor ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Back Sonar สัญญาณเตือนกะระยะท้ายรถ Tire Pressure Monitoring System ระบบแจ้งเตือนเมื่อลมยางผิดปกติ Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Vehicle Stability Control ระบบควบคุมการทรงตัว Anti-lock Brake System ระบบป้องกันล้อล็อก Electronic Brake-force Distribution ระบบกระจายแรงเบรก Brake Assist ระบบเสริมแรงเบรก ถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่งทุกรุ่น โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA พร้อมคานนิรภัย
และยังมี Toyota Safety Sense ที่ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-collision system, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control, ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam, ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถเมื่อเบี่ยงออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ Lane departure alert with steering assist
ภาพรวม Toyota Corolla Altis ใหม่ ถือเป็นรถยนต์ไฮบริด ที่ได้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ง่ายและสบาย เป็นรถที่ใครๆ ก็สามารถขับขี่ได้อย่างคล่องตัว มีอัตราเร่งที่เหลือเฟือในการใช้งานทั่วไป สามารถทำความเร็วเดินทางออกต่างจังหวะได้แบบสบาย จังหวะในการเร่งแซงทำได้อย่างมั่นใจ มาพร้อมกับระบบเบรกที่ไว้ใจได้และนุ่มนวล และโดดเด่นกับช่วงล่างที่เน้นไปทางนุ่ม ที่ไม่ได้ย้วยจนรู้สึกไม่มั่นใจเมื่อขับขี่ในทางโค้ง เป็นรถที่ใช้งานง่าย ขับง่าย มากที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ กับ All New Toyota Corolla Altis รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 Hybrid High เกียร์อัตโนมัติ ที่มีราคา 1,099,000 บาท
สิ่งที่ชอบ
-ความประหยัดของเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ที่แม้มีการใช้ความเร็วเร่งแซงบ่อยครั้ง ก็ยังให้ความประหยัดได้ดี
-การออกตัวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รถมีความคล่องตัวสูงมาก
-ระบบต่างๆ ที่ติดตั้งมาให้ สามารถควบคุมได้ง่าย และแสดงผลด้วยข้อมูลภาษาไทย
-ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control และระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถเมื่อเบี่ยงออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ Lane departure alert with steering assist ทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น
สิ่งที่ไม่ชอบ
-ช่วงล่างที่ค่อนข้างไปทางนุ่มนวล สำหรับใครที่ชอบการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะและใช้ความเร็วบ่อยครั้งน่าจะชอบช่วงล่างที่เน้นความหนึบที่มากกว่านี้
-คอนโซลหน้าที่ดูลึกและยื่นออกมาด้านใน ทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ในห้องโดยสารลดลง
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com