Full Drive : Suzuki Ertiga 1.4 GX พ่อบ้านก็เฟี้ยวได้
- โดย : Autodeft
- 13 มี.ค. 57 00:00
- 17,663 อ่าน
พบกับบทดสอบฉบับเต็มของเจ้า Suzuki Ertiga 1.4 GX สมรรถนะที่เรา้ใจในการขับขี่
เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
หากถามถึงรถยนต์ที่ฟังชั่นครบครัน เรือนร่างที่ดูดี และตอบสนองต่อคนมีครอบครัว รถยนต์อเนกประสงค์ในกลุ่ม Mini Van หรือ ที่เราหลายคนจะรู้จักมันในนาม MPV ซึ่งย่อมาจาก Multi Purpose Vehicle นั้น ยังเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่สร้างความปวดหัวให้การตลาดค่ายรถยนต์ในเมืองไทย ไม่น้อย ด้วยมันเป็นหนึ่งในสินค้าที่ต้องนำมาจำหน่ายและก็ไม่ใช่ส่าไม่มีกลุ่มเป้าหมาย แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ความนิยมในรถยนต์กลุ่มนี้ของบ้านเรายังไม่เติบโตเท่าที่ควร
ตั้งแต่เมื่อปีกลายที่ผ่านมา Suzuki เรียกว่าเป็นอีกค่ายที่มาแบบม้ามืดในรถยนต์กลุ่มนี้ หลังจากที่พวกเขาแนะนำ Suzuki Ertiga รถยนต์นั่นอเนกประสงค์ขนาดย่อมสำหรับคนเมืองออกมา ทั้งยังราคาไม่แพงจนเกินไป มาพร้อมฟังชั่นที่ครบครัน ทำให้ไม่นานนักเราก็เห็นเจ้า Suzuki Ertiga นี้อยู่บนถนนมากมาย
รถทดสอบ Suzuki Ertiga 1.4 GX
แต่ครั้นย้อนนึกไปเมื่อวันเปิดตัว Suzuki Ertiga ก็ตอบโจทย์ในความแตกต่างจากคู่แข่งที่มีในตลาดรถยนต์ปัจจุบัน ด้วยราคาจำหน่ายเอาใจลูกค้า เบื้องหลังงานนี้เรียกว่าเคาะกันสดๆ หลังเวทีเปิดตัว และเมื่อราคาถูกเปิดออกมา มันก็เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ประเภทนี้ที่มีราคาถูกที่สุดในตลาด จนห้องประชุม อึ้งพร้อมเรียกเสียงเกรียวกราวจากการปรบมือ จากการซูฮกในเรื่องการทำราคาจำหน่ายที่เหนือชั้น และน่าเรียกว่าเป็นศักราชใหม่ของรถยนต์อเนกประสงค์
จะว่าไปที่หลายคนมักกังวลกับรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ MPV นั้นมีหลากหลายปัจจัยที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกแบบ ที่แก่ไปบ้างล่ะ ดูไร้รสนิยมบ้างล่ะ ทำให้ Suzuki คิดหนักมากในเรื่องการออกแบบ Suzuki Ertiga ออกมาจำหน่าย ยิ่งงานนี้ต้องโหมลงตลาดสำคัญๆ อินเดียและ อินโดนีเซีย ส่วนบ้านเราเหมือนผลพลอยได้จากการจำหน่ายรถรุ่นนี้ ในฐานกลุ่มตลาดรถยนต์ใหม่ที่สภาวะการเติบโตสูง
แต่ Suzuki เองก็ฉลาดเล่นเกมรถยนต์อเนกประสงค์เล็กด้วยการจับเอารถยนต์ซิตี้คาร์ที่ขึ้นชื่อของค่ายอยู่แล้ว Suzuki Swift เข้ามาผสมผสานเขย่าเป่าเสกขยายเรือนร่างและปรับให้มันดูใหญ่มากขึ้นเพียงพอต่อการยัดเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่งเข้าไป
จนตัวรถมีขนาดยาว 4,265 ม.ม. กว้าง 1,695 ม.ม. และ สูง 1,685 ม.ม. ตอบเรื่องการโดยสารและสมรรถนะการขับขี่ด้วยฐานล้อที่ปรับยาวขึ้นจนมายืนอยู่ที่ 2,740 ม.ม. ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่กว่าซิตี้คาร์เลย ช่วยในเรื่องความคล้องตัวเหมาะต่อชีวิตคนเมือง
เช่นเดียวกัน Suzuki ยังเน้นในรายละเอียดพิถีพิถันในการออกแบบอย่างมาก ด้วยรถยนต์กลุ่มนี้มักจะมีข้อกังขาทางด้านการออกแบบมายาวนาน แต่ Suzuki Ertiga กลับเป็นรถอเนกประสงค์ที่สามารถจี้จุดคนมีอายุน้อยได้อย่างน่าแปลกใจ เริ่มจากการเอาเส้นสายความสปอร์ตของ Suzuki Swift มาตอบโจทย์
สังเกตจากโคมไฟหน้าค่อนข้างที่จะมีความโค้งมลและเรียวคล้ายกันกับ Suzuki Swift ทว่าความเป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์มันเลยต้องมีดีกรีความหรูมากขึ้น Suzuki Ertiga จึงต้องมาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมี่ยม เช่นเดียวกับ เรือนร่างที่ขลับความสปอร์ตเข้าความทันสมัย ใช้เส้นสายการออกแบบที่เน้นในความสะอาดตาลากจากด้านหน้าไปด้านข้าง
โดยเน้นการออกแบบให้มีความสบายในการโดยสารจะเห็นได้จากความสูงโปร่งของรถ แม้จะยังคงความเป็นรถรูปกล่องในสไตล์รถยนต์อเนกปะสงค์อยู่เป็นทุนเดิม แต่ Suzuki Ertiga ก็ไม่ได้ดูเคอะเขินในเรื่องการออกแบบ โดยเฉพาะยั่นท้ายที่ลงตัวความทันสมัย ดูแล้วมีความสปอร์ตผสมผสานกลมกลืน
ในห้องโดยสาร Suzuki Ertiga เปิดตัวตนด้วยความแตกต่างจากภายนอก ลุคดูดีมีคราบความสปอร์ตปรับรายละเอียดมีความเหมาะสม ต่อการเป็นรถยนต์นั่งสำหรับครอบครัว
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ภายในห้องโดยสารนี้ จะมาพร้อมการตบแต่งด้วยสีโทนเบจ ซึ่งการให้สีอ่อนในห้องโดยสามารถรถยนต์นั่งขนาดเล็ก จะทำให้มีความรู้สึกและดูแล้วมีมิติที่กว้างกว่าการใช้สีโทนอื่นในการตบแต่ง
อย่าแปลกใจถ้าคอนโซลหน้าจะคุ้นหน้าตาราวกับว่ามันมาจาก Suzuki Swift ทว่าเล่นสีคอนโซลหน้าเป็นทูโทนเทา-เบจ เพื่อรับกับรายละเอียดในห้องโยสาร ส่วนอื่นๆ ที่จริง มันเหมือน Suzuki Swift ในร่างที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งเปลี่ยนตัวตนมาเป็นรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว พวงมาลัยไม่แตกต่างกันนัก เช่นเดียวกับมาตรวัดที่ยังคงเป็นลุคสปอร์ต สานตัวตนเดิม
เบาะนั่งให้รายละเอียดด้วยลายผ้าที่ดูคล้ายไม้ตัวเบาะเองเน้นการให้ความสปอร์ตเล็ก สำหรับเบาะคู่ หน้า มีการปรับตำแหน่งเบาะให้สูงขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ห้องโดยสาร มาพร้อมเบา 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะแถวสองสามารถเลื่อนปรับระยะหน้าหลังได้อีก กว่า 240 ม.ม. และถ้าต้องการใช้เบาะแถวที่ 3 ก็สามารถผู้โดยสารเข้าไปยังด้านหลังได้ง่ายด้วยระบบ One Touch Walk in สับคันโยกครั้งเดียวเพื่อนสร้างทางเข้า ออก
แต่หลังจากที่ลองม้วนตัวผู้เขียนเข้าไปนั่งยังเบาะแถวที่ 3 ต้องยอมรับว่า มันอาจจะไม่เหมาะมากนัก สำหรับคนตัวใหญ่ที่สูงกว่า 170 ซ.ม. ด้วยท่านั่งอาจจะต้องพับมากเกินไป ซึ่งคุณอาจจะให้เป็นสาวๆไซส์มินิ หรือเด็กๆเข้าไปแทนจะดีกว่า
เบาะนั่งตอนสองจัดท่านั่งมาดี คนใหญ่ก็สามารถนั่งสบาย ทั้งยังสามารถปรับเอนได้ถึง 150 องศา รวมถึงยังสามารถแยกเอนได้อีกด้วยในอัตรา 60/40 ยิ่งเมื่อรวมเข้ากับการออกแบบให้สามารถเลื่อนหน้า-หลังได้ตามต้องการ รวมถึงเมื่อขึ้นไปคุณจะสัมผัสได้ถึงความสบายในการโดยสาร ด้วยเบาะที่รองนั่งสุดนิ่มพนักพิงที่ไม่แข็งมากจนเกิน ก็เรียกว่าลงตัวในการโดยสารอย่างไม่น่าเชื่อ และที่โดดเด่นของ Suzuki ertiga เลย คือ ทุกที่นั่งมีช่องลมแอร์ส่วนตัว ลดปัญหาบ่นเรื่องอากาศกระจายไม่ทั่วถึงอย่างหมดจด
และถ้าเมื่อไรต้องเจ้าสู่โหมดขนของก็สามารถพับเบาะสองแถวหลัง เพื่อจะสามารถยัดของเข้าไป โดยเฉพาะเมื่อวันนี้การมารับรถทดสอบมาพร้อมความบ้ามาก หลังจากมีผู้ชุมนุ่มปิดถนนหลายสาย จึงตัดสินใจปั่นจักรยานจากบ้านที่นนทบุรีไปยังสำนักงานใหญ่ Suzuki ที่ลาดกระบัง ระยะทางกว่า 43 ก.ม. ทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ยังดีที่ขากลับสามารถพับเบาะแล้ว โยนจักรยานใส่ไว้ใน Ertiga ได้อย่างสบายๆ
สัมผัสแรกที่ขึ้น Suzuki Ertiga คือมันไม่เคอะเขินกับความเป็นรถยนต์มาดผู้ใหญ่ในร่างเด็ก แน่นอนว่า แม้จะมีการปรับการออกแบบรวมถึงยกหลายส่วนของ Suzuki Swift มาใช้ แต่ในความจริงแล้ว เจ้ารถพ่อบ้านคันนี้กลับแปลกที่มันให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปเมื่อสัมผัส
เบาะนั่งหน้ามีขนาดใหญ่กว่าเพื่อความสบายในการเดินทางสูงสุด ถ้าคุณเคยสัมผัส Suzuki Swift มาจะรู้ทันทีว่ามันมีความสูงกว่าเดิมอีก พวงมาลัยมีรอบวงที่กว้างกว่า Swift ก็จริงอยู่ แต่ลองหมุนดูก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากกว่าเดิมนัก แค่เพียงเพิ่มความหนืดตามฉบับรถที่ไม่เน้นในความสปอร์ตมากมาย
ตรงหน้าคนขับมาตรวัดดูคุ้นหน้าตากันดีเพิ่มสีเงินเล็กน้อยเพื่อตอบโจทย์ตัวตนในความรู้สึกที่ดูภูมิฐานมากขึ้น ส่วนวิทยุก็ยังเหมือนเดิม แต่คอนโซลสีทูโทน รวมถึงส่วนอื่นๆของรถทำให้มันดูมีความกว้างขวางกว่า ยิ่งเหลียวมองข้างหลัง เห็นจักรยานวางได้ทั้งคัน ซึ่งก่อนหน้านั้น เป็นเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่สามารถกรับพับได้ง่าย ก็ยิ่งเป็นจุดขายที่ดี
เมื่ออกตัวสาสังคมเมือง Suzuki Ertiga โชว์ให้เห็นว่ามันเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานรูปแบบคนเมืองจริงๆ ฐานล้อยาวและระยะยื่นที่สั้น ทำให้มันมีความกระฉับกระเฉงพอสมควร ยามที่เรากวาดพวกมาลัยเปลี่ยนเลน
ในขณพที่ใต้ฝากระโปรง ซึ่งแนะนำเครื่องยนต์ 4 สูบ แถวเรียงขนาด 1.4 ลิตร รหัส K14B มาพร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT มาพร้อมรายละเอียด ห้องเผ้าไหม้ กระบอกสูบ X ช่วงชัก 73.0X82.0 ม.ม. ทำกำลังอัดถึง 10.0 :1 ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และสร้างแรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที
แม้จะดูเอาท์ไปบ้างเมื่อเครื่องยนต์ส่งลงระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ที่เราคุ้นเคยกันดีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ด้วยความที่มันเกิดมาเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ตามความต้องการตอสนองการใช้งานของชีวิตคนเมือง เอาเข้าจริงมันก็ค่อนข้างลงตัวเหมือนกัน
ชุดเกียร์ออโต้ 4 สปีดนี้ ตอบความต้องการด้วยการขึ้นเกียร์ที่เร็ว และจำนวนอัตราทดที่ไม่เยอะจนใช้ไม่หมดกับชีวิตคนเมืองทำให้ มันมีความลงตัวมากพอสมควร
ถึงแม้จำนวนเกียร์จะน้อยกว่าแต่ความจัดจ้านยิ่งเมื่อต้องมาแบกน้ำหนักกับผู้โดยสารจำนวนสูงสุด 7 คน Suzuki จึงออกแบบตัวชุดส่งกำลังให้จี๊ดจ๊าด เริ่มจากเฟืองท้ายที่เน้นอัตราทดสูงออกตัวดี 4.545 ส่วนตัวชุดทดแต่ละเกียร์ เริ่มจากอัตราทด
เกียร์ 1 |
2.875 |
เกียร์ 2 |
1.568 |
เกียร์ 3 |
1.000 |
เกียร์ 4 |
0.697 |
ทำให้เมื่อเรากดคันเร่งออกเดินทางไม่น่าแปลกใจเลยที่ Suzuki Ertiga จะต้อนรับด้วยอัตราเร่งที่ให้ความรู้สึกว่า เอ้ย นี่มันรถยนต์อเนกประสงค์ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์บล็อกเล็ก 1.4 ลิตรจริงหรือ ??
เมื่อพละกำลังเครื่องมาบรรจบกับการควบคุมที่เหนือชั้น ทำให้ Suzuki Ertiga เป็นที่เปี่ยมด้วยความสปอร์ตที่ลงตัว ส่วนหนึ่ง อาจจะเพราะ การได้ แพลทฟอร์มจาก Suzuki Swift แม้ในเมืองระบบช่วงล่างจะทำงานไม่โดดเด่นมากมายนัก แต่ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังใช้ระบบทอร์ชั่นบีม ก็ยังให้ความรู้สึกที่นิ่งสนิมจนเกินคาด ด้วยความรู้สึกที่สามารถสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลในการขับขี่ แอบสปอร์ตหนึบหนับนิดๆ และฟีลลิ่งแบบนิ่งเนียนแน่นๆ อารมณ์ Go kart like คล้าย Swift ยังอยู่ครบถ้วนไม่ห่างหายไปในการขับขี่เจ้า Suzuki Ertiga
การขับขี่เวียนไปเทียวมาในเมืองกับ Suzuki Ertiga เป็นเรื่องที่สนุกยิ่ง แม้รถจะดูพ่อบ๊าน... พ่อบ้านตามฉบับรถอเนกประสงค์แบบ MPV แต่หน้าตามแก่เกินไปเมื่อเจอดับสมรรถนะที่เร่งโดนใจมันก็ยังสามารถคนโสดอย่างผู้เขียนรู้สึกว่า มันเป็นรถอเนกประสงค์ที่ไม่ได้เคอะเขินเลย แม้จะต้องมาใช้กับชีวิคคนโสดอย่างเราๆ ท่านๆ
อัตราเร่งที่ดีในเมือง ทำให้เราเริ่มมองในเรื่องของอัตราประหยัดจากเจ้าเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร และเราได้อัตราประหยัดจากการทดสอบด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ที่สามารถหาเติมได้ไม่ยากตามปั้มทั่วไปที่ 12.6 ก.ม./ลิตร ถือว่าดีเกินคาดเหมือนกัน
มีรถที่บรรทุกคนได้เยอะ หลายคนคงจะหวังว่าจะใช้มันเที่ยวตามต่างจังหวัด และก็ไม่น่าแปลกใจที่ Suzuki ertiga จะตอบโจทย์นั้น ด้วยความสามารถในการบรรทุกคน 7 คน พร้อม สัมภาระอีกนิดหน่อยได้ แต่ถ้าบรรทุก 5 คน คุณก็จะสามารถพกของได้เยอะมากขึ้น อย่างน้อยที่สุด เราลองยัดจักรยานพับได้ก็สามารถทำได พร้อมกระเป๋าเดินทางอีก 2-3 ใบ แต่การขับทดสอบของเรานั้นเน้นการเดินทางนอกเมืองคนเดียว
เมื่อออกนอกเมือง Suzuki Ertiga สามารถตอบโจทย์ในการขับดีกว่าที่คาด เกียร์ 4 สปีด แทบไม่ใช่ปัญหาในหารเดนิทาง แม้จะต้องยอมรับว่าเมื่อเดินทางไกล มันจะใช้รอบเครื่องยนต์ค่อนข้างสูงพอสมควร อันเนื่องมาจากการทดอัตราทดเฟืองท้ายที่สูง
ที่ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. ในตำแหน่งเกียร์ 4 Suzuki Ertiga ก็ซัดรอบเครื่องยนต์ไปแล้วถึง 2,400 รอบต่อนาที ซึ่งคงจะพอเดาได้เลยว่า จะต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูง โดยที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. จะใช้รอบเครื่องยนต์ถึง 3,100 รอบต่อนาที แต่ด้วยการใช้รอยเครื่องที่เข้าใกล้แรงบิด ทำให้มีข้อดีเหมือนกัน ถ้าคุณต้องเดินทางหลายๆคน จะรู้สึกได้ถึงการเร่งแซงที่ดีจากการใช้รอบแรงบิดสูงสุด
แต่ถ้าอยากรู้ว่าเราความเร็วสูงสุดใน Suzuki Ertiga นี้เท่าไร บอกได้เลยว่าเจ้ารถยนต์อเนกประสงค์คันนี้น่าพอใจด้วยตัวเลขสูงสุด ถึง 173 ก.ม./ช.ม. แต่กระนั่นก็ต้องเหยียบกันยาวๆ ทว่าหากคุณอยากจะเร็วประเดี๋ยวเดียวแบบว่า ลูกเลิกเรียนคุณยังติดอยู่ที่ทำงาน ความเร็ว 160 ก.ม./ช.ม. ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การซิ่ง MPV บนทางหลสงนั้น ให้ใช้ความระมัดระวังโดยเฉพาะแรงลมพัดสอบทางด้านข้าง แต่ก็เป็นเรื่องปกติของรถกลุ่มนี้
การควบคุมรถเมื่อใช้ความเร็วค่อนข้างลงตัว ไม่หนักมือไปแต่ก็แอบเซทไปทางค่อนข้างเบา ตัวรถที่สูง เจอแรงลมปะทะมากทำให้ใช้ความเร็วอาจจะไม่เอื้อนักต่อการ ขับมุดซ้ายขวา แม้ระบบกันสะเทือนจะอิงไปทางความสปอร์ตหนึบก็ตามที หากแต่การเข้าโค้งยังคงต้องใช้ความระมัดระวังอยู่ดี เพราะ ความสูงของรถ ทำให้มีแรงเหวี่ยงค่อนข้างพอตัว ถ้าคุณเทเข้าเร็วเกินไป อาจมีแอบท้ายสไลด์ แต่ต้องยอมรับว่าถ้าคุณขับจนคุ้นเคย อะไรๆก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในการขับขี่
แต่สำหรับใครที่ชอบเรื่องพวกสมรรถนะ Suzuki Ertiga จบด้วยตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ดีที่สุดที่ 15.0 วินาที และยังเร่งเร้าใจ 80-120 ก.ม./ช.ม. เร็วสุดเพียง 11.0 วินาที ซึ่งแม้จะคนละคลาสและรถคนละกลุ่มกันเลย แต่จากตัวเลขบอกได้เลยว่ามันเร็วพอๆกับซิตี้คาร์ซีดาน เครื่อง 1.5 ลิตร อย่าง Toyota Vios
เรียกว่าถ้ามีใครมาฮึ่มใส่คุณดูแล้วรถซิตี้คาร์สภาพแตนๆ ไม่ได้ทำซิ่งแต่งเครื่อง สามารถกล้ารับประกันว่า Suzuki Ertiga มีดีพอที่จะสวน จนรถคันนั้นจะเหวอว่า นี่มัน mini Van พ่อบ้านหรือเนี่ย ... แต่เช่นเดียวกันมันยังประหยัดถึง 12.3 ก.ม./ลิตร จากการเดินทางตามความเร็วปกติ 100-120 ก.ม./ช.ม.
สมรรถนะบรรจบราคา น่าคบหา...และเป็น MPV ที่สุดตอนนี้
ลงมาจาก Suzuki Ertiga ท่ามกลาง บรรยากาศบ่ายคล้อยเย็น การเดินทางไกลคนเดียวไม่ได้ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าในรถยนต์คันนี้
เรายืนมองรถสักระยะ และต้องยอมรับในสมรรถนะที่ไม่ธรรมดาของ Suzuki Ertiga ที่วิศวกรรมมาได้อย่างลงตัว ที่สำคัญ ยังตรงตามเป้าหมายของการออกแบบรถคันนี้ด้วย การเป็นรถคนเมืองสำหรับคนมีครอบครัว หรือเพิ่งจะเริ่มต้นครอบครัว ที่เน้นความคล่องตัวในเมือง รวมถึงการออกแบบก็ไม่ได้ดูแก่วัยมากไป คนวัยรุ่นสามารถขับได้และอาจจะชอบมากกว่า ในการโดยสารเมื่อเทียบกับซิตี้คาร์ที่มีราคาใกล้เคียงกัน
ราคาที่ตั้งมาต้องยอมรับว่า ค่อนข้างสมเหตุสมผล กับฟังชั่นในการใช้งาน แม้จะไม่ได้เป็นรถครอบครัวที่หวือหวาอะไรในเรื่องฟังชั่นการใช้งาน แต่สมรรถนะที่ได้ใจ ..ถ้าคุณโอกาสได้ขับ Suzuki Ertiga จะต้องถูกใจ จนอาจจะอยากได้เป็นเจ้าของสักคัน แม้ว่าคุณจะยังไม่ใช่คนมีครอบครัว...อย่างผมก็ตามที
เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ขอขอบคุณ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ Suzuki Ertiga มา ณ ที่นี้ด้วย
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
ผลการทดสอบ Suzuki Ertiga 1.4 GX
Suzuki Ertiga 1.4 GX ราคาจำหน่าย 689,000 บาท
สรุปผลอัตราสิ้นเปลือง
อัตราประหยัดในเมือง |
12.6 ก.ม./ลิตร |
อัตราประหยัดนอกเมือง |
12.3 ก.ม./ลิตร |
*หมายเหตุ เดินทางคนเดียวพร้อมสัมภาระ นอกเมืองใช้ความเร็วที่ 110-130 ก.ม./ช.ม.
สถิติอัตราเร่ง
|
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
0-100 ก.ม./ช.ม. |
16.00 |
19.00 |
15.00 |
16.67 |
80-120 ก.ม./ช.ม. |
12.00 |
11.00 |
11.60 |
11.53 |
ความเร็วสูงสุดในระหว่างการทดสอบ 173 ก.ม./ช.ม.
การทำงานของเครื่องยนต์ที่ตำแหน่งเกียร์ สูงสุด (เกียร์ 4 )
ความเร็วที่เดินทาง (ก.ม./ช.ม.) |
รอบเครื่องยนต์ |
90 |
2400 |
100 |
2600 |
110 |
2900 |
120 |
3100 |
บทความทดสอบ Suzuki Ertiga 1.4 GX นำเสนอ โดย นายณัฐยศ ชูบรรจง ที่ Autodeft.com
ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนและเว็บไซต์ ห้ามนำไปดัดแปลง หรือใช้ข้อมูลจากบทความ โดยมิได้รับอนุญาต
[GALLERY360]