Hands On : New Toyota Camry Esport ผู้บริหารนักซิ่งคันนี้เหมาะ
- โดย : Autodeft
- 24 ก.ค. 58 00:00
- 15,813 อ่าน
พบบททดสอบ รถยนต์สปอร์ตซีดานสำหรับผู้บริหาร Toyota Camry Esport เมื่อเรามีโอกาสขับมันจริงจังบนเส้นทาง กรุงเพมหานคร-หัวหิน จะเร้าใจแค่ไหนนะคันนี้
เรื่องและขับทดสอบโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (นายเต้ย)
ปัจจุบันรถยนต์นั่งขนาดกลางหรือ D-Segment เป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จในด้านภาพลักษณ์ที่โดดเด่นในความหรูหรา ภูมิฐาน จากรูปลักษณ์ภายนอก ไปจนถึงความสะดวกสบายจากห้องโดยสารที่กว้าง ออพชั่นครบครันและหนึ่งในรุ่นยอดนิยมสุด ก็คงไม่มีใครเทียบเคียง Toyota Camry ที่วางจำหน่ายมายาวนาน
โดยล่าสุดช่วงเดือนมีนาคม 2558 Toyota เปิดตัว New Toyota Camry รุ่นปรับโฉมที่คราวนี้มีการปรับตั้งแต่หน้าตาภายในใหม่รวมถึงขุมพลังใหม่ที่สมรรถนะที่ดีกว่าเครื่องเดิมโดยมีให้เลือกตั้งแต่เครื่องเบนซิน 2.0 / 2.5 และเครื่อง Hybrid จนมียอดขายกว่า 3,000 คัน ทำให้ Toyota มองหาการตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้นไปอีก เพิ่มทางเลือกใหม่ด้วย New Toyota Camry Esport เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ หรือใครที่มีใจรักความสปอร์ต
รูปโฉมนนวลพรรณ New Toyota Camry Esport เริ่มต้นด้วยการฉีกภาพเดิมๆที่ของ New Camry เวอร์ชั่นไทย แบบไม่เหลือความหรูหรา ตั้งแต่กระจังหน้าโครเมี่ยมรมดำแบบ Sport Type พร้อมกันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ตะแกรงสีดำให้ความรู้สึกคมเข้มดุดัน พร้อมไฟเลี้ยวและไฟส่องสว่างเวลากลางวันหรือ DRL Day Time Running Lights มุมกันชนหน้าซ้าย-ขวา ไฟหน้าโปรเจคเตอร์รมดำดีไซน์เท่ห์ พร้อมชุดแต่ง Color Key Package สีเดียวกับตัวรถทั้งกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวและที่เปิดประตู
ไฟท้ายออกแบบให้มีความดุดันขึ้นพร้อมสปอยเลอร์หลังใหม่ ท่อไอเสียคู่ หรือ Dual Muffler และที่ขาดไม่ได้เลยคือ หลังคามูนรูฟที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบหรือ Jam Protection
น่าเสียดายการออกแบบที่แตกต่าง หลายรายการ กลับดันใช้ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ลายเดียวกันกับ New Toyota Camry 2.5 G เวอร์ชั่นไทยเป๊ะ! จัดมาพร้อมยางขนาด 215/55 R17 จาก Bridgestone ทั้งหมดนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สื่อถึงภาพลักษณ์สปอร์ตซีดานตัวจริง
กลายเป็นวัฒนธรรมของรถยนต์ยุคใหม่ไปเสียแล้วสำหรับการล็อคกับปลดล็อครถด้วยระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Entry สะดวกสบายไม่ต้องควักออกมาจากกระเป๋าเพื่อกดปุ่มรีโมทอีกต่อไป เมื่อเข้ามานั่งในตำแหน่งคนขับ ภาพเก่าๆของ Toyota Camry ที่เคยเป็นรถหรูหรา ภูมิฐานด้วยโทนสีเบจแปรเปลี่ยนมาเป็น โทนสีดำตัดกับน้ำตาล ตั้งแต่ แผงประตู 4 บาน จนถึงเบาะนั่งผ้ากึ่งหนังแท้เดินด้ายสีขาว ด้านคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบ Memory Seat บันทึกความจำตำแหน่งเบาะ มีปุ่มดันหลังหรือ Lumbar Support ส่วนฟากคนนั่งปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง ให้ความรู้สึกโอบกระชับสบายขึ้นกว่าเก่า ในขณะที่เบาะหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนของ โดยสวิตช์พับเบาะนั้นจะอยู่ที่ ฝากระโปรงหลัง
แผงหน้าปัดสีดำตกแต่งด้วยขอบสีเงิน พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสไตล์เดียวกันกับ Camry 2.5 G เวอร์ชั่นไทย มีจอแสดงผลขนาด 4.2 นิ้ว ขนาดใหญ่มองเห็นชัดเจน พวงมาลัยสปอร์ตสามก้านดีไซน์สปอร์ต แลคล้ายยกชุดมาจาก Camry 2.0 Extremo เวอร์ชั่นบ้านเรา ใช้งานสะดวกขึ้นด้วยสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นควบคุมทั้งเครื่องเสียง โหมดการใช้งานในจอแสดงผลบนแผงมาตรวัด ระบบควบุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ Cruise Control และที่สำคัญเพิ่มอรรถรถในการขับขี่ด้วย Paddle Shift หลังพวงมาลัย
ตรงกลางคอนโซลหน้ายัดเครื่องเล่น DVD พร้อมระบบหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว มีระบบนำทางในตัว และพิเศษแสดงผลการทำงานของเครื่องปรับอากาศแบบ Dual-Zone ผ่านจอเครื่องเล่น DVD อีกด้วย
แต่จะว่าไปตัวตนสปอร์ตของ Toyota Camry Esport จะแปลกกว่ารุ่น Camry เวอร์ชั่นไทย ตรงกระจกมองข้างปรับไฟฟ้าแต่ดันพับเก็บกระจกด้วยอัตโนมือ ถือว่าทำเอาเราแปลกใจไม่น้อง แต่กระนั้น คุณจะได้ ชุดแป้นเหยียบคันเร่งกับแป้นเบรกแบบสปอร์ตและพรมปูพื้นพร้อมสัญลักษณ์ Esport เข้ามาเติมความหล่อมากขึ้น
ใต้ฝากระโปรงของ Toyota Camry Esport มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I 4 สูบ 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FE บล็อกเดียวกันใน Toyota Camry 2.5 G เวอร์ชั่นไทย แต่พัฒนาใหม่โดยปรับในเรื่องของชุดระบายไอเสียใหม่ส่งผลให้มีแรงม้าแรงบิดมากขึ้นเป็น 184 แรงม้าที่ 6,000 แรงบิด 235 นิวตันเมตรที่ 4,100 รอบต่อนาที จากเดิม 181 แรงม้าที่ 6,000 แรงบิด 231 นิวตันเมตรที่ 4,100 รอบ/นาที ส่วนระบบส่งกำลังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม ยังคงเป็นระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift
ตลอดการขับด้วยระยะทางไปกลับกว่า 340 กิโลเมตร ทาง Toyota ได้จัดให้ผู้ร่วมทดสอบ 3 ท่าน ต่อ รถ 1 คัน เพื่อที่จะให้ผู้ทดสอบในครั้งนี้มีโอกาสเข้าถึงความร้อนแรงเผ็ดมันส์ของรถรุ่นนี้ ซึ่งมีผม นาย เต้ย กับน้องอั้มจากเว็ปไซต์ Headlightmag.com แถมยังพกเจ้าหน้าที่ PR สาวสวยของ Toyota อีก 1 ท่าน โดยขาไปให้น้องอั้มได้ขับก่อนตั้งแต่ออกจากโรงแรม โอกุระ ถ.วิทยุ ขึ้นทางด่วนมาลงเส้น ถ.พระราม 2 เข้าจังหวัดสมุทรสาคร กับ สมุทรสงคราม จนถึงปั้มน้ำมัน แถวเขาย้อย เพชรบุรี
ก่อนผมรับไม้ต่อขับไปจนถึง ชะอำ โดยเกือบตลอดเส้นทาง เราใช้ความเร็วประมาณ 130-140 กม./ชม. ต้องยอมรับว่า Toyota Camry Esport ให้การตอบสนองของเครื่องยนต์ค่อนข้างทันใจ ในช่วงเกียร์ D แต่พอผลักเกียร์เข้าสู่โหมด S เท่านั้นแหละครับ จะได้ความกระฉับกระเฉงอารมณ์สปอร์ตเข้าสิงห์ขึ้นมาทันที รถเร่งได้เร้าใจพอสมควร ยิ่งเมื่อคุณมีโอกาสเลือกตำแหน่งเกียร์เองผ่าน Paddle Shift ถือว่า กลายเป็นรถที่ผู้บริหารจะขับสนุกในยามวันว่าง หรือว่าอาจจะต้องเร่งทำเวลาไปประชุม ก็พอได้อยู่
ด้านระบบกันสะเทือนของ New Toyota Camry Esport ด้านหน้าใช้แบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังอิสระดูอัลลิงค์สตรัท ถึงแม้จะเป็นช่วงล่างเดียวกันกับ Toyota Camry เวอร์ชั่นไทย แต่จากที่ขับการปรับเซ็ตช่วงล่างให้เป็นแบบ Sport Suspension โดยมีการปรับในส่วนของเหล็กกันโคลงและสปริง ทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง ให้มีบุคลิกออกแนวรถสปอร์ต ก็ต้องยอมรับตามตรงว่ามันสูญเสียความสบายในการโดยสาร หรือให้ความรู้สึกสบายในการขับขี่ไปโดยปริยาย แม้ในบางจังหวะที่คุณฮ้อความเร็ว จะมีอาการช่วงล่างนุ่มพอสัมผัสได้อยู่บ้าง
แต่ขอให้มั่นใจว่า ถ้าจะตัดสินใจซื้อ Toyota Camry Esport คุณควรจะลองขับรถคันนี้ก่อน ซึ่งระบบกันสะเทือนของมันออกแบบมาให้แข็งตอบเรื่องการควบคุม ระหว่างเส้นทางเรารู้สึกถึงการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม แม้ในการใช้ความเร็ว แต่ภาพรวมกล่าวตามตรงว่า ออกไปทางค่อนแข็งหนึบ มั่นใจกว่าเดิมเวลาทำความเร็ว หรือจะโยนรถสาดโค้งเข้าไปแรงๆ ทว่าแน่นอน ถ้าคุณตั้งใจจะโชว์หรูดูดี คันนี้ไปรับพ่อตาแม่ยาย ขอให้ตระหนักว่าคนแก่อาจจะนั่งสบาย ด้วยระบบช่วงล่างของมัน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าระบบกันสะเทือนจะมาแนวแข็งถูกใจวัยรุ่นอย่างมาก แต่เรื่องการควบคุมอื่นๆที่มีการปรับใน Toyota Camry Esport กลายเป็นจุดเด่นขึ้นมาจนต้องชมเชย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลบเรื่องที่หลายคนมักจะกังวลยามใช้ความเร็วในเรื่องของระบบเบรก ในสปอร์ตซีดานคันนี้ถือว่าหนึบขึ้นกว่าเดิมจนน่าพอใจ และมั่นใจ เมื่อต้องทำความเร็วแข่งกับเวลา รวมถึงีกสิ่งที่เราประทับใจพอสมควร คือระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ให้ความรู้สึกเบาคล่องตัวในความเร็วต่ำ แต่เมื่อความเร็วสูง พวงมาลัยจะเพิ่มน้ำหนักให้ความมั่นใจในการขับขี่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ค่าตัวในราคา 1,639,000 บาท กับรถขนาดกลาง 1 คันที่เปลี่ยนบุคลิกจากรถหรูขวัญใจผู้บริหารกลายเป็นรถสปอร์ตในร่างรถซีดาน รวมถึงความโดดเด่นในออพชั่น และเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะในการขับขี่มากขึ้นเล็กน้อย มันเหลือเฟือและคุ้มค่าที่จะจ่าย แต่ขอให้แน่ใจว่าคุณต้องการรถสปอร์ตซีดานจริงๆ เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะต้องทนกับความแตกต่างในตัวตนจากรุ่นปกติในรถคันนี้ ...
เรื่องและขับทดสอบโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (นายเต้ย)
เรียบเรียงโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญทีมงาน autodeft.com เข้าร่วมทดสอบ New Toyota Camry Esport
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY1530]