Hands On : TATA Xenon 150NX-Plore 4WD เถ้าแก่หัวใจลุยในราคามิตรภาพ

  • โดย : สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม
  • 9 ต.ค. 58 00:00
  • 9,091 อ่าน

ถ้าจะกล่าวถึงรถกระบะในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างจากสมัยก่อนเป็นอย่างมาก โดยจะเน้นในเรื่องความสะดวกสบายกับเหล่าอออฟชั่นที่ครบครันความปลอดภัยครบถ้วนมาพร้อมกับความดุดันจากภายนอกที่มีเส่นห์และจะใช้งานแทนรถเก๋งเสียมากกว่า แต่ยังมีรถกระบะยี่ห้อหนึ่งที่เน้นใช้งานเป็นหลักโดยไม่แคร์สื่อว่า ตัวตนจะหล่อเหล่าแค่ไหน เพราะเกิดมาทนอย่างเดียว

ยี่ห้อรถที่เรากำลังจะพูดถึงนั่นคือ TATA จากอินเดียที่อยู่กับคนไทยมาตลอด 8 ปี ตั้งแต่รถกระบะ TATA Xenon ที่ยกสูงตั้งแต่เกิด จนถึงรุ่น CNG 100% ประกอบจากโรงงานโดยตรง จนถึงขวัญใจเถ้าแก่เจ้าของกิจการด้วยรุ่นกระบะพื้นเรียบเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน และรุ่นเพลาลอย Heavy Duty เพื่องานบรรทุกหนักโดยเฉพาะ ล่าสุด TATA เสริมทัพ ตอกย้ำผู้นำในรถเพื่อการพาณิชย์ด้วย TATA Xenon 150NX-Plore 4WD ในร่างรถกระบะ 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ

ตัวตนภายนอก TATA Xenon 150NX-Plore 4WD ยังคงใช้บอดี้เดิม แต่มีการปรับลุคส์ให้ทันสมัยทัดเทียมคู่แข่ง (เท่าที่จะเติมเต็มได้) ด้วยกระจังหน้าแนวนอน 3 ชั้น ตกแต่งเข้มด้วยสีดำ ส่องสว่าง ชัดเจนด้วยไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟตัดหมอก และพิเศษไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL เสริมความสปอร์ตด้วยชุดแต่งกันชนหน้าที่สามารถปกปิดความขี้เหร่ จากรุ่นก่อนจนหล่อเหลาขึ้นอย่างชัดเจน และสเกิร์ตข้างเพิ่มความสปอร์ตอีกขั้นอย่างลงตัว

ด้านข้างสมสง่าด้วยกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยวในตัว แต่ สติ๊เกอร์ข้างประตูออกลวดลายมาชวนให้นึกถึงรถกระบะในยุค 90 ขึ้นมาทันที พร้อมราวหลังคา สปอร์ตบาร์สุดเท่ห์ ตกแต่งทัดเทียมกับคู่แข่งเจ้าใหญ่ๆ นอกจากนี้ โป่งซุ้มล้อขึ้นรูปเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของ TATA Xenon พร้อมล้ออัลลอยด์ 5 ก้านปรับดีไซน์ใหม่ให้สมาร์ทเท่ห์ในยามออนโรดกับออฟโรด พร้อมยางขนาดใหม่ 235/70R16

ทันสมัยกับเขาแล้วด้วยกุญแจรีโมทแบบ Integrated Key ที่รวมรีโมทสั่งล็อคประตูกับกุญแจไขไว้ในดอกเดียวกัน สำหรับการขึ้นลงอาจจะลำบากนิดหน่อย เพราะขาดสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งมือจับ ตรงบริเวณสา A และบันไดข้างซึ่งบอกเลยว่าจำเป็นมาสำหรับรถกระบะยกสูงทั้งขับ 2 และ 4 เมื่อก้าวเข้ามาตำแหน่งคนขับแล้ว ก็จะพบการเปลี่ยนแปลงของสีโทนห้องโดยสารจากเดิมจะเป็นสีเบจมาเป็นสีดำเทา เพิ่มความดุดันอีกระดับ

แผงหน้าปัดยังคงดีไซน์เดิมจากรุ่นก่อนที่เน้นความเรียบง่าย แต่ปรับมาดใหม่ให้สอดรับโทนห้องโยสารสีดำด้วยแผงตกแต่งสีเงินตองช่องแอร์ คอนโซลกลาง และแผงประตู พวงมาลัยสามก้านดีไซน์ใหม่หุ้มหนังแท้ติดตั้งถุงลมนิรภัย SRS แถมยังมีตำแหน่งคนนั่งให้อีกเช่นกัน แต่ไม่มีระบบควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย

บนแผงคอนโซลกลางมีนาฬิกาบอกเวลาเป็นดิจิตอล แถมมีเครื่องเล่น DVD พร้อมระบบนำทาง แบบ 2 DIN จาก Blaupunkt ซึ่งคาดว่าเป็นรุ่น OEM ให้กับ TATA โดยเฉพาะ พร้อมลำโพง 4 ตัว ตลอดเส้นทางของการทดสอบนั้น กลับให้ข้อมูลแผนที่ค่อนชัดเจน ไม่ผิดพลาด พร้อมแผงสวิตช์เครื่องปรับอากาศใหม่ แต่สิ่งหนึ่งจะเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์หรือใช้คำว่าโบราณก็เป็นได้ตรงที่ สวิตช์กระจกไฟฟ้า ทั้ง 4 บาน อยู่หลังคอนโซลเกียร์ซึ่งคู่แข่งระดับเดียวกันจะอยู่ที่แผงประตูคนขับเกือบทุกยี่ห้อ โดยเฉพาะบานคนขับจะปรับลงแค่ Auto เท่านั้น แต่สวิตช์กระจกมองข้างอยู่ที่แผงประตูคนขับจะทำได้แค่ปรับไฟฟ้าเท่านั้น

เบาะนั่งคู่หน้าหุ้มด้วยวัสดุผ้าสีดำ ออกแบบใหม่ให้ตัวเบาะหนาขึ้น พร้อมที่ท้าวแขนสองข้าง เมื่อนั่งแล้วให้ความรู้สึกค่อนข้างโอบกระชับแต่ตำแหน่งเบาะอาจเตี้ยไปหน่อยซ้ำร้ายไม่มีตัวปรับระดับสูงต่ำสำหรับเบาะคนนั่ง แต่ยังได้ความดีตรงที่สวิตช์เปิดฝากระโปรงหน้าพร้อมสวิตช์เปิดฝาถังน้ำมันออกแบบใหม่ กลมกลืนใต้แผงหนาปัดจากเดิมเป็นก้านดึงพลาสติกที่เขาว่ากันว่าดึงทีเสียวจะหัก

เครื่องยนต์ของ TATA Xenon 150NX-Plore 4WD ยังคงใช้เครื่องดีเซลคอมมอนเรลเทอร์โบแปรผัน VTT Dicor ขนาดเดิม 2.2 ลิตร 4 สูบ แต่ให้พลกำลังมากขึ้นเป็น 150 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดเท่าเดิม 320 นิวตันเมตรแต่ปรับ Flat Torque ใหม่เป็น 1,500-3,000 รอบ/นาที จากเดิมเป็น 140 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 320 นิวตันเมตรที่ 1,700-2,700 รอบ/นาที พร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่ TATA เคลมว่าใช้เกียร์ลูกใหม่

และที่จะเป็นไฮไลต์เด็ดของ TATA Xenon 150NX-Plore 4WD  นั่นคือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part-Time โดยตำแหน่งสวิตช์การทำงานระบบขับ 4 จะอยู่ตรงใต้แผงช่องแอร์ด้าคนขับ เป็นปุ่มเลื่อนเล็กๆ ซึ่งอาจจะลำบากหน่อยในการปรับเปลี่ยน พร้อมระบบ Shift On The Fly เพียงแค่ถ้าต้องการเปลี่ยนจาก 2H เป็น 4H สามารถเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องหยุดรถ แต่ถ้าจะเปลี่ยนมาใช้ 4L ต้องหยุดรถก่อนและเลื่อนปุ่มมาสุด ไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็น 4H หรือ 4L สัญญาณไฟเตือนที่แผงมาตรวัดจะทำงานตลอดเวลา เพื่อให้คนขับได้ทราบว่าเข้าะระบบขับสี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตลอดเส้นทาง กรุงเทพถึง จ. กาญจนบุรี(บ่อพลอย) กว่า 240 กิโลเมตร ทาง TATA จัดรถ Xenon 150NX-Plore 4WD ให้สื่อมวลชนกันถึง 11 คัน เพื่อเข้าถึงในความร้อนแรงในยอดสมรรถนะใหม่ทั้งในทางออนโรดกับออฟโรดซึ่งมีผมกับพี่หมูนักข่าวสายรถยนต์มากประสบการณ์ โดยช่วงแรกพี่หมูได้ขับก่อนโดยเริ่มจาก โรงแรม Ma Du Zi แถวๆใกล้ศูนย์สิริกิต์ ขึ้นทางด่วน มาลงเส้น ถ.งามวงค์วาน ผ่านบางใหญ่ เพื่อเข้า จ.สุพรรณบุรี (สองพี่น้องทางหลวงหมายเลข 3422) ขับกันมาผ่านพนมทวน จนถึง ร้านอาหารคีรีธารา เพื่อเติมพลัง

ก่อนผมรับไม้ต่อขับไปจนถึงสนามกอล์ฟ Grand Prix Golf Club อ.บ่อพลอย เพื่อเข้าช่วงออฟโรด ยอมรับเลยว่าการตอบสนองของเครื่องดีเซลที่ปรับแรงม้าใหม่นั้น ไม่ค่อยทันใจในตอนเร่งแซงถึงจะกดคันเร่งจมมิดก็ตาม แต่ในช่วงเส้นอ.สองพี่น้อง ถ้าขับยาวๆความว่องไวกลับอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจถึง โดยเราใช้ความเร็วเกือบ 140 ที่ 3,000 รอบ/นาที

แต่อาจจะรำคาญตรงที่มีเสียงลมเข้ามามากผนวกกับเสียงเครื่องยนต์ เป็นเพราะการบุเสียงที่ไม่ค่อยหนาแน่นเท่าไหร่ แต่ยังดีคนขับและผู้โดยสารยังพอพูดคุยได้เต็มที่ ส่วนระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ลูกใหม่ จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ให้ความนุ่มนวลไม่กระตุก พร้อมคลัตช์ที่เซ็ตมาครั้งนี้น้ำหนักในการเหยียบอยู่ในเกณฑ์ระดับกลางๆไม่ถึงหนักมาก ด้านพวงมาลัยเป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ที่ยังล้าหลังกว่าคู่แข่งเพราะยังใช้ระบบลูกปืนหมุนวน แต่น้ำหนักในการใช้งานอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง แต่มีระยะฟรีอยู่พอสมควร

ระบบกันสะเทือน TATA Xenon 150NX-Plore 4WD ใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมทอร์ชั่นบาร์และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อนแบบทรงโค้งคว่ำ สำหรับระบบช่วงล่างรถกระบะคันนี้ ต้องออกตัวเลยว่าอาจจะโบราณกว่าใครเขาตรงที่ยังใช้ทอร์ชั่นบาร์ (ขณะที่คู่แข่งใช้ระบบคอยล์สปริง) แต่ทาง TATA กลับให้คำตอบว่า เพื่อเน้นความทนทานแต่ต่อยอดในการอัพเกรดช่วงล่างออฟโรดได้อย่างสบาย  แถมยังให้ความนุ่มนวลไดดีในระดับหนึ่งถึงแม้จะไม่ราบรื่นสมูทก็ตาม

ในเมื่อ TATA เปิดตัวกระบะ 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อมาทำตลาดเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ถ้าจะให้ลองเส้นทางออนโรดก็คงไม่สะใจ ทาง TATA จึงเนรมิตพื้นที่ส่วนหนึ่ง ของสนามกอล์ฟ Grand Prix Golf Club จัดเป็นสนามทดสอบออฟโรด ซึ่งจัดเป็นสองส่วน

ส่วนแรกจะเป็นทั้งสนามทางปกติที่เต็มไปด้วยหินดินทรายที่ต้องใช้ระบบ 4H กับสนามเนินชัน และเนินเอียงซ้าย ก่อนที่จะไปพบความสนุกสนานในการขึ้น-ลงเนินนั้นต้องหยุดรถเสียก่อนแล้วปรับระบบขับสี่มาที่ 4L จากนั้น ก็ใช้ Walking Speed คือไม่ต้องวุ่นวายกับคันเร่งมากปล่อยให้เครื่องยนต์จัดการเอง ปรากฎว่าผลงานในด้าน Walking ทำได้ดีไม่แพ้คู่แข่ง หรือบางทีอาจเติมคันเร่งไปบ้างก็ให้การตอบสนองได้ต่อเนื่อง ในช่วงลงเนินก็ใช้ระบบ Engine Brake เข้ามา คือไม่ต้องเหยียบเบรคลงปล่อยให้เครื่องยนต์จัดการเองโดยค่อยๆคลานลงมาแบบช้าๆ

หลังจากจับจากส่วนแรกก็มาที่ส่วนที่สอง ซึ่งจะเป็นสนาม ที่มีทั้งลำธาร สะพานแคบ เนินสลับ ฯลฯ ซึ่งส่วนนี้ใช้ระบบ 4L เป็นส่วนใหญ่ ในแต่ละด้านกลับทำงานได้ดีจริงๆ ซึ่งแต่ละสนามที่ผ่านมานั้นต้องยกความดีความชอบให้กับระบบ Limited Dift Lock ที่สามารถผ่านอุปสรรคได้อย่างชิวๆ

ต้องนับถือความใจกล้าของ TATA ประเทศไทย ที่ตัดสินใจนำ TATA Xenon รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ออกจำหน่ายในสถานการณ์ตลาดรถเมืองไทยที่ยังทรงๆอยู่ ถ้ามองแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก รถรุ่นนี้ให้ความสวยงามไม่แพ้ใครด้วยชุดตกแต่งรอบคัน ภายในหรูหราตามอัตภาพ ทั้งเครื่องเล่น DVD-Navi โทนห้องโดยสารสีดำเทา เป็นต้น รวมถึงเครื่องยนต์ที่ปรับแรงม้าใหม่ให้ความโดดเด่นในยามลุยออฟโรดพร้อมช่วงล่างปีกนกกับทอชั่นบาร์ที่ขึ้นชื่อในความทนทาน ทรหด ถึงแม้ออนโรดอาจด้อยกว่าคู่แข่งในด้านเร่งแซงก็ตาม

แถมค่าตัว 734,900 บาท ที่ให้ความปลอดภัยครบถ้วนทั้ง DRL Daytime ระบบบเบรก ABS,EBD และถุงลมนิรภัยคู่ ถึงรุ่นเริ่มต้นขับสี่ 4 ประตูเกียร์ธรรมดาของคู่แข่งรายสำคัญจะเริ่มต้นที่ 8 แสนต้นๆก็ตาม นับว่าถูกที่สุดในกลุ่มและหาไม่ได้แล้ว สำหรับ TATA Xenon 150NX-Plore 4WD  

 

เรื่องและขับทดสอบโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม  (นายเต้ย)


ขอขอบคุณ บริษัท ทาทา มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญทีมงาน Autodeft.com เข้าร่วมทดสอบ TATA Xenon 150NX-Plore 4WD

 

รถทดสอบ   TATA Xenon 150NX-Plore 4WD 4 ประตู

ราคาจำหน่าย   734,900 บาท

 

สิ่งที่ชอบ >>> ชุดตกแต่งกันชนหน้าที่อำพรางความขี่เหร่ทำให้ดูหล่อเหล่าขึ้นมาเป็นกอง รวมถึงค่าตัวที่ไม่แพงมากกับออฟชั่นที่ให้มาอย่างครบครันและสมรรถนะในด้านออฟโรดที่เด่นจนสามารถเทียบชั้นกับคู่แข่งรายสำคัญได้

 

สิ่งที่ไม่ชอบ >>> ถึงเครื่องยนต์จะปรับแรงม้าเพิ่มเป็น 150 แรงม้า แต่การเร่งแซงกลับไม่ทันใจเสียเหลือเกิน รวมถึงตำแหน่งเบาะนั่งอยู่ในระดับต่ำ และสวิตช์การทำงานระบบ 4WD กลับอยู่ในตำแหน่งใต้ช่องแอร์ฝั่งคนขับทำให้ลำบากในการปรับเปลี่ยน และการที่ไม่มีบันไดข้างกับราวมือจับบริเวณเสา A กลับเป็นอุปสรรคในการขึ้นลง

 

สิ่งที่อยากให้มี >>> สำหรับ TATA Xenon รุ่นตอนเดียวขับเคลื่อนสี่ล้อที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่ช้านั้นอยากให้มีรุ่น เพลาลอย Heavy Duty ออกมาจำหน่าย รวมถึงในรุ่น 4 ประตูขับสี่ เพิ่มรุ่นพื้นฐานไร้ชุดแต่งทั้งคัน มาเป็นทางเลือก

 

คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ >>> ถ้าไม่คิดมากในเรื่องจำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีอยู่กว่า 50 แห่ง แต่ถ้าต้องการใช้งานทรหดจริงๆโดยไม่สนว่า ตัวตนอาจไม่หล่อเท่าคู่แข่งเจ้าใหญ่ๆรถกระบะจากแดนภารตะนี้ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน  

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

5 เรื่องน่าสนใจ