Full Drive : Subaru BRZ สปอร์ตคูเป้ดาวลูกไก่ One and Only ในสมรรถนะ
- โดย : Autodeft
- 18 ก.ย. 57 00:00
- 14,807 อ่าน
ชัดเจนที่สุดในสามโลก ลองจริงสมรรถนะสุดเร้าใจรถสปอร์ตคูเป้ Subaru BRZ หนึ่งเดียวสปอร์ตขับหลังค่ายรถยนต์ดาวลูกไก่ ที่แตกต่างในตัวตน
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
หากกล่าวถึงรถที่ชายหลายคนใฝ่ฝันว่าจะมีโอกาสขับสักครั้งหนึ่ง หรือจะดียิ่งกว่าคงเป็นการที่พวกเขามีโอกาสได้เป็นเจ้าของมันคงไม่น่าแปลกใจที่ รถสปอร์ตทั้งหลายจะเป็นคำตอบที่เหมือนแม่สาวพราวเสน่ห์ ที่รอให้พวกเราเข้าไปรูปคลำ และท้ายที่สุด ก็ออกมาเป็นวลีที่ทุกคนต้องเอ่ยว่า “น่าเป็นเจ้าของจริงๆ”
ย้อนกลับไปในช่วง 2-3 ปี ก่อนหน้านี้ ค่ายรถยนต์ Toyota ได้พยายามอย่างมากในการที่พวกเข้าจะปั้นผีลุกปลุกผีนั่งกับตำนานที่ยังคงอยู่มาจวบจนปัจจุบัน Toyota GT 86 แต่ในขณะที่มันอาจจะดูเหมือนไม่เกี่ยวกับ Subaru หากว่า นี่คือความเหมือนบนความแตกต่าง ที่ท้ายสุดกลายเป็นตัวตนที่แตกต่างในรถยนต์สปอร์ตคูเป้ Subaru BRZ
รถสปอร์ตคูเป้ Subaru BRZ เป็นผลพลอยได้จากโครงการพัฒนารถยนต์สปอร์ตของ Toyota ที่ชักจูงให้ Subaru เห็นว่ารถยนต์ที่ดีนั้นไม่ได้จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีชั้นเลิศเพียงอย่างเดียวในการทำให้รถหนึ่งคันมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดี แต่มันสามารถเป็นไปได้อีกครั้ง เพียงมีการวิศวกรรมที่ดีมากพอ และ Subaru ก็มีดีอยู่แล้ว และนั่นคือจุดเริ่มต้นของโครงการพัฒนาจับมือร่วมกัน ที่กลายเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ก็ว่าได้
จากจุดเริ่มต้นของโครงการ ที่เกิดจากความต้องการของ Toyota ให้ Subaru เข้ามามีส่วนร่วมในการเอาองค์ความรู้ในการพัฒนารถสปอร์ตชั้นนำมาสร้างสรรค์รถสปอร์ตรุ่นใหม่ที่ต้องถ่ายทอดตัวตนความเป็นตำนานในแบบ ทาคูมิดริฟท์ส่งเต้าหู้ใน อินนิเทียลดีได้ มาเป็นจุดขายในรุ่นเหมือนที่เคยสร้างชื่อมา
แม้ว่าการพัฒนาโครงการ Toyota GT 86 จะออกมาสมบูรณ์แบบตามที่ค่ายรถยนต์ Toyota ต้องการ แต่ท้ายที่สุด ก็ถึงคราว Subaru ที่จะทำสปอร์ตคูเป้ของตัวเองบ้างในแบบแฝดคนละฝากับ Toyota GT 86
จากจุดเริ่มจวบจนวันที่พบ Subaru BRZ ตัวเป็นๆ ผมถือกุญแจ หลังจากการส่งมอบโดยน้องมาร์เก็ตติ้งสุดน่ารัก คนเดิม ที่ทำเอาเขินอายไปบ้าง ..ไม่ใช่อะไรหรอก นั่นเพราะชีวิตที่เร่งรีบของตัวเอง ทำให้ก่อนมาถึงสำนักงานใหญ่ Subaru กางเกงเจ้ากรรมดันเป้าขาดกระจุย ชนิดที่สามารถทำได้อย่างเดียวคือโยนมันทิ้งแล้วซื้อตัวใหม่มาประจำการ
แต่ความโกลาหลทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อพบว่า เรากำลังจะขับ Subaru BRZ รถสปอร์ตคูเป้ รุ่นแรกและรุ่นเดียวของค่ายลูกไก่ และมันคือแฝดคนละฝาจากค่ายสามห่วง
เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไม Subaru ไม่สร้างชื่อเก๋ๆ ไว้เจ้าสปอร์ตคูเป้คันนี้ ทั้งที่ค่ายรถยนต์เจ้านี้ ก็ชอบสรรหาชื่อติดปากมาให้เราได้คุ้นหูกัน หากแต่ในสปอร์ตคันนี้กลับใช้คำว่า “BRZ” และ ยิ่งกว่านั้น มันแปลว่าอะไร และมีความหมายอะไร
แต่ท้ายที่สุด หลังจากที่ต่อคำถามใส่ไปในอา Google , “BRZ” ก็มาจากการให้คำนิยามแก่เจ้าคูเป้คันนี้ ว่า มันคือ Boxer Rear Wheel Drive Zenith หรือ จะแปลเป็นไทย ก็คงจะพอได้ว่า ที่สุดของขับหลังเครื่องยนต์สูบนอน ...อะไรประมาณนั้น
หน้าตาของ Subaru BRZ คงไม่ต้องบอกว่ามันค่อนข้างออกมาคล้ายฝาแฝดมันมาก ด้วยหน้าตาที่ถอดร่างกันออกมาราวกับแกะ แต่ในตัวตนที่ดูเหมือนจนพอจะบอกว่าสำเนาถูกต้อง มันก็มี DNA ที่ต่างอยู่บ้าง เริ่มจ้าไฟหน้าใหม่ที่ไม่เหมืนกัน ช่องกันชนของ Subaru BRZ ก็ค่อนข้างกว้างกว่า โดยยังคงเอกลักษณ์กระจังหน้า 6 เหลี่ยม ตามสไตล์ค่ายดาวลูกไก่เอาไว้
แต่ในรุ่นไทยกลับขาดพวกไฟ Daytime ซึ่งที่จริงถูกฝังไว้ในกันชนเอาไว้เพิ่มความสง่า และท้ายสุดล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว พร้อมลวดลายที่ให้ความสปอร์ตเต็มพิกัด แต่ต้องยอมรับว่า ล้ออัลลอย Subaru BRZ ดูไม่เด่นเท่ารถบางรุ่นในค่าย Subaru แต่ใครจะสนเพราะคนซื้อรถสปอร์ตมักเป็นพวกชอบแต่งรถอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ตัวตนที่ดูดี Subaru BRZ ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตนัก ที่จริงมันเหมาะเดินทางต่อการใช้งานในเมืองมากกว่า ด้วยความยาว 4,240 มม. กว้าง 1,775 มม. และสูง 1,320 มม. โดยในรุ่นเกียร์ธรรมดา มันตอบความต่างด้วยระยะสูงสุดจากพื้นที่น้อยกว่ารุ่นเกียร์อัตโนมัติ ที่ 120 มม. และให้สมรรถนะในการขับขี่ ด้วยความยาวฐานล้อ 2,570 มม.
นอกจากนี้ความสปอร์ต ยังทำให้มันมีความยาวระหว่างล้อซ้ายและขวา หรือ Track ทางด้านหน้า 1,520 มม. ส่วนด้านหลังมากกว่านิดหน่อยที่ 1,540 มม. และ Subaru BRZ ยังเบาหวิว ด้วยพิกัดน้ำหนักตัวเปล่าในรุ่นเกียร์ธรรมดา เพียง 1,240 กก.
ในห้องโดยสารตัวตนรถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู ทำให้ Subaru BRZ ใหม่นี้ ค่อนข้างได้ตัวตนทรวดทรงของความเป็นสปอร์ตมาเต็มเปี่ยม แม้ว่าจะเคลมการโดยสารสูงสุดที่ 4 ที่นั่ง ในสไตล์รถยนต์ที่ออกแบบมาสำหรับที่นั่งแบบ 2+2 แต่ความเป็นจริงแล้ว เมื่อเข้ามาสัมผัสภายใน การโดยสารตอนหลังแทบจะเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าจะฝึกโยคะ มาหนักแค่ไน การนั่งตอนหลัง ก็ยังคงเป็นเรื่องยาก
ยิ่งเจอคนตัวใหญ่ไซส์ยักษ์อย่างผู้เขียน นั่งลงไปบนเบาะที่ต้องเดินถอยหลังเล็กน้อย กล่าวตามตรงเลยว่าไม่สามารถเป็นไปได้ที่จะโดยสาร แต่อย่าคิดมาก ใครจะซื้อรถสปอร์ตไว้รับส่งแม่ยายล่ะจริงไหม!!
เบาะนั่งทางด้านหน้าควบมาในสไตล์เบาะสปอร์ตเข้ามานั่งได้สบายโอบกระชับดีไม่แน่นเกินไป ดูเข้ากันได้ดีกับคอนโซลหน้าที่มาพร้อมการออกแบบที่จัดเต็มในเรื่องของความสปอร์ต เริ่มจากพวงมาลัย วงเล็กกว่ารถยนต์นั่งทั่วไป จับได้กำลังดีถนัดมือ บนพวงมาลัยโล้นเหี้ยนไม่มีปุ่มใดๆ ใช้ในการกดติดต่อสื่อสาร ช่วยให้คนขับมีสมาธิในการขับขี่ ลงตัวด้วยการตัดเบ็บเดินด้ายแดงที่พวงมาลัย เบาะและถุงเกียร์
ตรงหน้าคนขับมาพร้อมมาตรวัดสไตล์สปอร์ต ที่ดูอาจจะเฉยๆ แต่ ถ้าคุณสังเกตให้ดี รอบเครื่องของ Subaru BRZ มาพร้อมความไม่ธรรมดาในตัว ด้วยรอบเร่งที่ให้คุณยัดได้สูงสุด 7,250 รอบต่อนาที น่าจะเรียกว่า มากสุดในกลุ่มเครื่องยนต์ Boxer ที่เคยขับมา
แต่ตรงกลางด้านบนเป็นวิทยุดูแล้วไม่ค่อยเข้ากับรถราคาระดับ 2.56 ล้านบาทนัก ที่จริงมันดูคล้ายวิทยุที่มาจาก Toyota Vigo ทว่าเมื่อกวาดตามองด้านล่างโอเคมากกับการออกแบบระบบปรับอากาศ ภายในห้องโดยสารแบบอัตโนมัติ ทว่าแล้วท้ายที่สุด ปุ่มสตารืทก็แลดูว่าจะอยู่ในจุดที่ต่ำไปสักหน่อย
ทุกอย่างพร้อมได้เวลาเดินทาง เราเหยียบคลัทช์ สตาร์ทเครื่องยนต์ Subaru BRZ ก่อนที่น้องแป๋มคนสวย จะพูดวลีเด็ด ประโยคประจำ “ขอให้ขับสนุกนะคะ” ส่งเราเริ่มต้นการทดสอบในเจ้า Subaru BRZ
ใต้ฝากระโปรง Subaru BRZ มาพร้อมเครื่องยนต์ Boxer 4 สูบนอนยัน ตามสไตล์ ขนาด 2.0 ลิตร แม้จะฟังดูธรรมดา แต่เดี๋ยวก่อน เจ้าเครื่องยนต์บล็อกนี้มีรอบเร่งสุงสุดถึง 7,250 รอบต่อนาที และยังกำลังอัดสูงถึง 12.5 :1 ถ้านั่นฟังดูมันจัดเต็มควบสมรรถนะเร้าใจแล้ว การออกแบบห้องสูบของ Subaru BRZ ก็ไม่ธรรมดา มันให้อัตราช่วงชักและขนาดกระบอกสูบ 86X86 มม.เท่ากัน ซึ่งทางเทคนิค เราเรียกมันว่า ห้องสุบแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส ให้ความสามารถในการเร่งที่ดีในทุกรอบเครื่อง
ถึงแม้ เราจะชื่นชมการวิศวกรรม ต้นกำลังของ Subaru BRZ ทว่ากำลังสูงสุดของเจ้าเครื่องยนต์บล็อกนี้ก็ไม่ได้แรงอะไรมากมายนัก มันให้กำลังดีสุดเพียง 200 แรงม้า ที่ 7,000 รอบต่อนาที และทำแรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร มีให้ใช้ เป็น flat Torque ช่วง 6,400 -6,600 รอบต่อนาที เอาให้สะใจเวลาคุณต้องเร่ง ถ้าสังเกตรอบแรงม้าและแรงบิดค่อนข้างอยู่ใกล้กัน ซึ่งทำมันทะยานความเร้าใจ
เกียร์ธรรมดา 6 สปีด เป็นสิ่งทีเราตั้งใจไว้ตั้งแต่เลือกที่จะลองขับ Subaru BRZ ด้วยส่วนหนึ่งทุกคนที่ชอบรถสปอร์ ก็คงอยากจะได้อารมณ์ เร้าใจที่เต็มเปี่ยมและ คุณสามารถหามันได้ ในระบบเกียร์ธรรมดา และเมื่อเราเข้าเกียร์เดินหน้าออกจากโชว์รูม ชุดเกียร์ ที่มาพร้อมด้ามเกียร์แบบ Short Shifter หรือมันมีระยะโยนระหว่างเข้าเกียร์สั้นทำให้มันลงตัวในความสปอร์ตมากขึ้นไปอีกในตัวตน
ช่วงแรกของการทดสอบคือการหาทางกลับบ้าน โดยในยามเย็นที่ต้องฝ่ารถติดเช่นนี้ คงไม่ใช่เรื่องพิสมัยมากนัก สำหรับคนขับรถยนต์เกียร์ธรรมดา อาจจะด้วยความที่คุณต้องใช้เท้าทั้งสองช่วยถีบแป้นต่างๆ โดยเฉพาะเจ้าคลัทช์ได้เย่อกันอย่างสนุกสนาน
แต่เจ้า Subaru BRZ นี้ยังมีดีที่แป้นคลัทช์ของมันไม่ได้แข็งมากมายนัก ที่จริงมันดีพอที่จะเรียกว่านุ่มเท่ารถยนต์อีโค่คาร์บางรุ่น ถ้าคุณไม่ได้ไปโมชุดคลัทช์อะไรของมันให้วุ่นวาย และยามอยู่ในเมืองเครื่องยนต์ที่เดินรอบได้ลึกกว่ารถบ้านๆทั่วไปก็มักจะทำให้คุณนิสัยเสียบ้าง โดยเร่งรอบแรงๆเมื่อออกจากไฟแดง อย่างน้อยก็ให้เขารู้ไปเลยว่า เราเป็นรถสปอร์ตตัวจริง
โชคร้ายที่วันในทดสอบการจราจรในเมืองหลวงติดสาหัส และ Subaru BRZ ก็ดีมากกับการใช้งานในเมือง ถ้าคุณเป็นคนรักเกียร์แม่นวลจะรู้ว่าความสนุกในการขับรถในเมืองหาได้ ยิ่งพวงมาลัยที่น้ำหนักตึงๆมือ กำลังดีไม่เบาหวิวไป แต่เมื่อคุณตวัด แล้วกวาดมันเข้าโค้ง รถคันนี้พร้อมตอบสนองตลอดเวลา
ถามว่าคนซื้อรถสปอร์ตสักคันเขาจะซีเรียสเรื่องค่าน้ำมันไหม ส่วนตัวผู้เขียนเองก็ว่าคงต้องมีบ้าง เพราะแม้คนรวยจะกระเป๋าหนักพอสมควร แต่คนกลุ่มนี้เป็นคนที่เรียกว่าใช้เงินเป็น และในสภาพการจราจรในเมืองปัจจุบันที่หนาแน่นตลอดเวลานั้น Subaru BRZ ตอบโจทย์การขับขี่ในเมืองด้วยตัวเลขอัตราประหยัดน้ำมัน 9.3 ก.ม./ลิตร
ถามว่ามากไปไหมกับเครื่อง 2.0 ลิตร ต้องตอบตามตรงว่าออกไปทางค่อนข้างซด แต่จุดดีของรถยนต์ Subaru BRZ คือ คุณได้สนุกในการขับขี่อย่างสนุกสนานถึงใจ คุณจะลืมคว่าประหยัดไปเมื่ออยู่หลังพวงมาลัยรถคันนี้
เมื่อตกยามค่ำคืน อารมณ์ Fast & Furious จิตวิญญาณ Paul Walker เข้าสิงห์ ....แล้ว เราก็ได้เวลาของ Bonn Test Mode กัน ในงวดนี้ Subaru เริ่มต้นด้วยการยัดแก๊สโซฮอลล์ 95 เตรียมพิสูจน์ความประหยัดในรูปแบบการใช้งานจริง
All Set >>>> แล้วการเริ่มต้นการทดสอบของเราก็เริ่มขึ้น การขับ Subaru BRZ ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดีขึ้นเมื่อคุณเริ่มขับรถในเส้นทางที่ยาว ถนนที่ทอดสุดสายตา จะพาคุณเดินทางที่ความเร็ว 120-130 ก.ม./ช.ม. โดยที่คุณเองก็อาจจะไม่คิดมาก่อนว่า ตัวเองจะเป็นพวกบ้าขับรถเร็ว
ส่วนหนึ่ง ก็ด้วยสมรรถนะในการขับขี่ของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่เร่งดีชวนคุณหลงใหล ในเวลาอยู่หลังพวงมาลัย และก็สร้างอารมณ์สปอร์ตให้กับคุณในการขับขี่ได้ ปลุกระดมความรู้สึกในเรื่องสมรรถนะในตัวตนของ Subaru BRZ แต่เอื้อมจะไปเปิดวิทยุฟังเพลงเคล้าคลอในยามขับรถไป ....เฮ้ย!!! วิทยุ เป็นสีเขียว มันเป็นสีเขียว หันมองถนนหนึ่งที ทำใจแปป... เฮ้ย !!! มันเป็นสีเขียว ...
เรื่องนี้ทรายจะไม่ยอมนะคะ ... และมันเป็นเรื่องบอกตามตรงว่าดูแย่!!! ไปเลยกับการออกแบบห้องโดยสาร ซึ่งเราไม่ทราบว่า Subaru ไม่ได้นัดหมายกับผู้ผลิตเครื่องเสียงรถยนต์ติดรถยนต์หรืออะไรไม่ทราบ ว่าขอสีส้มหน้าปัดสีส้มนะไม่ใช่สีเขียว จนบางคนตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าวิทยุชุดนี้ดูจะเหมือนของกระบะจาก Toyota ส่วนจะจริงหรือไม่ อันนี้ไม่สามารถตอบได้
การออกแบบที่ไม่ลงตัวในยามค่ำคืนด้วย วิทยุสีเขียว ขอพูดตรงๆว่า เชื่อว่าผู้ซื้อก็คงจะรับไม่ได้กับสีของมันเช่นกัน ที่เล่นมาตกม้าตายตอนยามค่ำคืน แถมรถสปอร์ต ส่วนใหญ่คนซื้อก็ใช้มันออกซิ่งยามค่ำ หรือขับโฉบมันไปรับสาว ยังไงจุดนี้รีบปรับปรุงโดยด่วน จะยัดจอสัมผัสอะไรมาให้ก็ขอเลย แต่เอาเจ้าวิทยุเขียวนี่ไปไกลๆ ....ไหว้ล่ะ !!!
หลังเซ็งกับวิทยุเจ้ากรรม ตลอดเส้นทางเราก็เริ่มใช้ความเร็วพอสมควร เนื่องจากนี่เป็นรถสปอร์ต ไม่ใช่ รถบ้านทั่วไป การทดสอบ Bon Test Mode จึงปรับเพื่อให้เหมาะสมต่อตัวรถมากขึ้นเราเดินทางที่ความเร็ว 120-130 ก.ม./ช.ม. และ เมื่อทางโล่ง เราขับที่ความเร็วสูงสุดระหว่างการทดสอบที่ 160 ก.ม./ช.ม. ก่อนที่จะเดินทางต่อด้วยความเหมาะสมของถนนในเมืองที่ 90-110 ก.ม./ช.ม. และเมื่อจอดปั้มเดิมหัวจ่ายเดิม เราเติมคืนถังได้ตัวเลขความประหยัด 9.6 ก.ม./ลิตร เท่านั้นเอง ถือว่ากลางๆกับการทดสอบในเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แต่อย่าลืมว่านี่เครื่องสูบนอน...
อัตราประหยัดที่ไม่สู้ดีนักยังคำถามมาว่า การมี 6 เกียร์ใน Subaru BRZ มีประโยชน์อันใด ในเมื่อค่าเฉลี่ยออกมาแนวโน้มจะไม่ประหยัดสูงมาก และทุกอย่างจบในข้อสงสัยเมื่อเราขับมันไป บนเส้นทาง กรุงเทพ-พัทยา ใช้ทางมอเตอร์เวย์ แล้ววิ่งเส้นบายพาส เข้าสู่พัทยากลางทันที
การเดินทางในครั้งนี้ เราใช้ความเร็ว 120 – 130 ก.ม./ช.ม. ไม่ต่างจาก Bonn Test Mode ระหว่างทางมีโอกาส สังเกตว่าเครื่องยนต์ทำงานใช้รอบเครื่องค่อนข้างสูงพอสมควร โดยที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่อง 3150 รอบต่อนาที และไม่แปลกใจเลยเมื่อเปิดรายละเอียดทางเทคนิค แล้วพบว่าอัตราทดเกียร์ของ Subaru BRZ ที่เน้นในความจัดจ้านในความสปอร์ตให้เร้าอารมณ์ทุกความต้องการด้านสมรรถนะในการขับขี่
ตารางแสดงอัตรทดเกียร์ Subaru BRZ
|
อัตราทดเกียร์ |
เกียร์ที่ 1 |
3.626 |
เกียร์ที่ 2 |
2.168 |
เกียร์ที่ 3 |
1.541 |
เกียร์ที่ 4 |
1.213 |
เกียร์ที่ 5 |
1.000 |
เกียร์ที่ 6 |
0.767 |
อัตราทดเฟืองท้าย |
4.100 |
เมื่อดูอัตราทดเกียร์ของ Subaru BRZ แล้ว เราจะพบว่า เจ้ารถยนต์ Subaru BRZ คันนี้ เน้นความหนักแน่นในอัตราเร่งที่เซทมาให้เร้าใจ เน้นการทดชิดที่เกียร์ 3 -4 และ 5 ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้งานบ่อยที่สุดในระหว่างการขับขี่ และ เฟืองท้ายเองก็เน้นความจัดจ้าน ซึ่งยังพอจะลดอัตราทดลงมาได้ และจะทำให้รถกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น
แต่ถึงแบบนั้น Subaru ฏ็เคลมว่า มันดีพอที่จะทำความเร็วสูงสุด 226 ก.ม./ช.ม. แต่ในชีวิตจริงทางตรงยาวคงไม่มีบ่อยครั้งมากนัก หนึ่งในทางตรงยาวที่เรารู้จัก คือหลังออกจากด่านพานทอง ก่อนเข้าเส้นบายพาส ระยะทางช่วงนั้นมากพอที่จะเรียกว่าเป็นเส้นหนึ่งที่ใช้ความเร็วได้
ทางโล่งทุกอย่างเป็นใจ เราเริ่มโหมกระแทกคันเร่งลงใน Subaru BRZ รอบเครื่องเร่งเร็วจี่ ก่อนที่เราจะเริ่มต่อเกียร์จาก เกียร์ 4 ไปยังตำแหน่งเกียร์ 5 แล้วขึ้นเกียร์ 6 ที่ความเร็ว 175 ก.ม./ช.ม. การใช้ความเร็วสูงใน Subaru BRZ สร้างความระทึก โดยเฉพาะจุดขายเครื่อง N/A อยุ่ที่การลาดรอบเครื่องลึกๆตลอดเวลา ที่ต้องการสมรรถนะ
ถนนยังว่างเราบี้คันเร่งติดพื้นรอบเครื่องค่อยๆเพิ่มตามสไตล์เครื่อง N/A และความเร็วก็วิ่งไปเนิบๆ ตามสไตล์เดียวกัน สำหรับคนที่ชอบ การเร่งหลังติดเบาะแบบเครื่องเทอร์โบอาจจะคิด เหอะ !! มันจะสักแค่ไหน กัน แต่ข้อดีของระบบ N/A คือคุณสามารถขับมันได้เต็มที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องพัง รอบสูงก็เหยียบได้ เต็มๆ และท้ายสุดทางหมด แต่ความเร็วยังไปได้อีกความเร็วสูงจบที่ 203 ก.ม./ช.ม. ถือว่าน่าพอใจ สำหรับรถยนต์ที่มาพร้อมสมรรถนะในการเดินทาง และเราพิสูจน์แล้ว
หลังจากเดินทางมานานเราก็มาถึงยังที่หมายปลายทาง จากน้ำมันที่เหลือบวกกับระยะทางที่เหลือนอกเมือง Subaru BRZ ไม่ได้ ขี้เหร่ออย่างที่คิดตัวเลข 12.5 ก.ม./ลิตร และมันหมายถึงน้ำมันหนึ่งถัง คุณสามารถขับไปกลับพัทยาได้สบาย ถ้าคุณคิดอยากจะพกตุ๊กตาหน้ารถไปเที่ยวพักผ่อน
....อย่าคิดมากเรื่องสมรรถนะ ต้องเข้าใจตัวตน Subaru BRZ
หลังจากขับ Subaru BRZ มาหลายต่อหลายวัน สิ่งที่ Subaru พยายามนำเสนอใน Subaru BRZ นั้น คือความเป็นสปอร์ตคูเป้ที่มีความแตกต่างในการขับขี่ มันเป็นที่ขับง่ายดูเชื่องดีในยามที่ขับธรรมดาๆ และมันจะดุร้ายถ้าคุณขยี้คันเร่งติดพื้น ลากรอบเครื่องจัดๆ อารมณ์เดียวกับ Brian O conner ออกมาจาก Fast & Furious
สิ่งที่หลายคนกังขาใน Subaru BRZ มักจะเป็นตัวเลขทางด้านสมรรถนะในการขับขี่ ซึ่งกำลังสูงสุด 200 แรงม้า ไม่ได้มากมายนัก แถมเครื่องยนต์เป็นแบบไร้ระบบอัดอากาศ ทำให้มันไม่ต่างจากรถบ้าน ...นั่นคือที่หลายคนคาดคิดไว้ เมื่อพูดถึง Subaru BRZ
แต่เดี๋ยวก่อน มันใช่หรือที่...Subaru BRZ จะดูบ้านๆ แบบนั้น คำตอบคือ “ไม่ใช่” เพราะรถคันนี้มีที่รอบเร่ง ซึ่งไม่มีรถบ้านคันไหนทำได้ อย่างในค่ายเดียวกันเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ก็คงต้องเป็นเจ้า Subaru Forester 2.0 iL รอบเครื่องมันดีสุดก็แค่เพียง 6,400 รอบต่อนาที แต่นี่ 7,250 รอบต่อนาที แถม แรงม้าและแรงบิดอยู่ใกล้กัน และมันคือฟีลลิ่งที่เร้าใจในการขับขี่ จะว่าก็เป็นสไตล์รถแข่งดีๆนี่เอง
ถ้ามองตามอัตราเร่ง ตามตัวเลขสมรรถนะ Subaru เคลมอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ใน Subaru BRZ ที่ 7.6 วินาที แต่ในการทดสอบของเราทำได้
|
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
0-100 ก.ม./ช.ม |
7.95 |
7.97 |
8.01 |
7.99 |
80-120ก.ม./ช.ม. |
6.00 |
6.00 |
6.00 |
6.00 |
ซึ่งจากการทดสอบ จะเห็นได้ว่า แม้ว่าจะเกิดมาเป็นรถเครื่องยนต์ไร้ระบบอัดอากาศ แต่ Subaru BRZ ก็จี๊ดจ๊าดยิ่งกว่า มันไม่ใช่เครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเน้นแรงบิด แต่มันออกแบบมาเพื่อแรงม้าที่สามารถทำแรงบิดได้ดีด้วยเช่นกัน ซึ่งมันพิสูจน์สมรรถนะแล้วว่า อย่า!! ดูถูกฉันนะ...ต้องเข้าใจฉันสิ
ด้านระบบกันสะเทือน Subaru BRZ ให้ความลงตัวมากพอสมควร แม้ Subaru อาจจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนารถยนต์ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง แต่ช่วงล่างที่เซทแตกต่างจาก GT 86 ทำให้เจ้ารถคันนี้มีความแตกต่าง ที่จริงช่วงล่าง Subaru BRZ แข็งกว่า และหนึบกว่า การเข้าโค้งหรอ ??
ระบบช่วงล่างแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้าและระบบปีกนกอิสระสองชั้นทำได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ เส้นทางที่เราขับขี่ไปในช่วงออกนอกเมืองพัทยา เราผ่านไปแถม ซิลเวอร์เลคและลองยัดโค้งแถวนั้นดูสมรรถนะช่วงล่าง มันตอบโจทย์ได้ดีมาก แม้จะมีอาการแอบหน้าดื้อบ้างในบางจังหวะบางโค้ง แทนที่ท้ายจะบานแล้วเราจะได้ตวัดพวงมาลัยดริฟท์กัน มันเป็นอาการที่ไม่น่าเกิดกับสปอร์ตขับหลัง
ทว่าจากการวิเคราะห์ของเรา เชื่อว่าน่าจะมาจากเครื่องยนต์ที่เบาเกินไป ทำให้น้ำหนักทางด้านหน้าน้อยไป เมื่อเจอกับช่วงล่างที่เซทมาให้แข็งหนึบ มันก็เลยออกอาการหน้าไถล แต่นั่นหมายถึง ถ้าคุณมาเร็วมากๆ เบรกแรงๆแล้วเข้าโค้งหนักๆ มันจะตอบโจทย์ได้
แต่ที่น่าเบื่อที่สุดสำหรับคนที่ต้องการการขับขี่เต็มด้วยสมรรถนะ Subaru BRZ อาจจะมีปุ่มปรับโหมดการขับขี่ ด้วยการเข้าสู่โหมด VSC Sport ซึ่งจะตัดระบบการทำงานของ Traction Control ควบคุมการลื่นไถลออกไป แต่แม้เราจะพูดแบบนั้นจริง ทว่าในความเป็นจริงเมื่อคุณลื่นไถลระบบควบคุมการทรงตัวก็ยังทำงานอยู่ คุณอาจจะแอบสะบัดท้ายเล็กๆ ได้บ้าง แต่อย่าหวัง ถ้าคิดว่าวิญญาณ ของฟูจิวาระ ทาคูมิ จากลีลาการดริฟท์ส่งเต้าหู้ เข้าสิงห์ ในการสาดโค้งแล้วจะดึงเบรกมือสะบัดท้าย ให้ควันท่วม คุณอาจจะจบไม่สวยที่ข้างทาง เพราะระบบควบคุมการทรงตัวล็อกการทำงานเอาไว้ ....อย่างน่าเสียดาย ....บ่องตรง เซ็ง เลยสำหรับคอสปอร์ต!! ตัวจริง ที่มั่นใจในฝีมือตัวเอง
สรุป มันคือสปอร์ตที่ลงตัว แต่ยังต้องปรับปรุง
ไม่รู้ว่าค่ายดาวลูกไก่จะโกรธไหม แต่ขอจงโปรดเข้าใจว่า Subaru BRZ อาจจะเป็นรถธงของค่ายทางด้านสปอร์ตน้องเล็กก็จริง แต่มันยังขาดบางสิ่ง และต้องปรับปรุงบางอย่างเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้า
เท่าที่เราเห็น Subaru BRZ ต้องเริ่มด้วยการปรับระบบเครื่องเสียงใหม่อย่างแน่นอน ขอจงโปรดเอาเจ้าวิทยุ The hulk สีเขียว นั้น ออกไป แล้วแทนที่ด้วยเครื่องเสียงที่ทันสมัย ทำให้เหมาะกับรถราคา 2.56 ล้านบาท มากกว่านี้ แม้จะคิดว่ารถสปอร์ตคนต้องการสมรรถนะในการขับขี่มากกว่า แต่เรื่องความสุนทรีย์ในการขับขี่ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ
ในขณะที่สมรถนะ Subaru BRZ ถือว่าสอบผ่านในทุกด้านไม่ว่าจะเครื่องยนต์ สมรรถนะช่วงล่าง และการควบคุม มันทำให้เรารู้ว่า Subaru จริงจังกับ Subaru BRZ มันไม่ใช่แค่ร่างเหมือนของ Toyota GT 86
อย่างไรก็ดีแม้ว่ามันจะขับขี่ดีกว่า แต่ Subaru BRZ อาจจะต้องการบางอย่างเพื่อสร้างความลงตัวในการปลุกปั้นจิตวิญญาณความสปอร์ตตัวจริง บางครั้ง Subaru อาจจะต้องมองในเรื่องของการตัดระบบช่วยเหลือต่างๆบ้างเพื่อให้เจ้าของรถได้สนุกกับการถลุงรถตัวเอง แม้มันอาจจะหมายถึงเรื่องของความปลอดภัย ก็จริง แต่คนขับรถสปอร์ตยังไงก็ชอบอยู่แล้วเรื่องความเสี่ยง หรือบางทีพวกเขาอาจจะมีทักษะมากพอในการควบคุมรถก็เป็นไปได้ ..ตรงนี้อยากฝากทีมวิศวกรไปคิดหน่อยเป็นการบ้าน
ในภาพรวมถามว่า Subaru BRZ คุ้มไหมที่จะจ่าย ...คำตอบอยู่ที่คุณหวังมากแค่ไหนกับสมรรถนะ ถ้าต้องการสมรรถนะประเภท เหยียบแล้วหลังติดเบาะ ให้ตุ๊กตาหน้ารถได้เสียว มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณคิดและนั่นหมายถึงคุณอาจจะต้องมองตัวอื่น โดยเฉพาะรถที่มีเครื่องเทอร์โบ
แต่ Subaru BRZ ผมให้นิยามง่ายๆว่า นี่คือ สปอร์ตขับสนุก เสียวกระสันทุกโค้ง มันส์ทุกรอบเร่ง คุณคงพอจะเห็นภาพว่า Subaru BRZ น่าจะเป็นอย่างไรเมื่อมันโลดแล่นบนถนน และกับราคา 2.56 ล้าน คุณได้สปอร์ตขับหลังขับมันส์ๆ และยังดูหล่อ ผมว่า โอเค แต่ถ้าคุณไม่ใช่นักซิ่งที่ยึดติด หรือหลงใหลในเสน่ห์ รถขับเคลื่อนล้อหลัง ..ในตลาดยังมีตัวเลือกอื่นอีกแยะ อย่างเช่น Subaru WRX ....
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ติดตามผู้สื่อข่าว นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)
บทความเป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียน ห้ามมิให้คัดลอก .ดัดแปลง..นำไปแก้ไข ..เปลี่ยนแปลงเนื้อหา หรื Re Write โดยเด็ดขาด โดยมิได้ขอรับอนุญาติอย่างถูกต้อง...เราเตือนคุณแล้ว !!
ผลการทดสอบรถ Subaru BRZ
รถทดสอบ Subaru BRZ เกียร์ธรรมดา
ราคา จำหน่าย 2,560,000 บาท
สิ่งที่ชอบ >>> ร่างที่ดูดุและสวยกว่าของ Subaru BRZ เป็นสเน่ห์ที่ตราตรึงใจในรถคันนี้ เช่นเดียวกับมันเป็นสาวดุที่พร้อมพาคุณหวดสมรรถนะในการขับขี่
สิ่งที่ไม่ชอบ >>> วิทยุในห้องโดยสารที่ดูจะธรรมดาไปนิด และแสงสีเขียวของมันในยามค่ำคืน
สิ่งที่อยากให้มี >> อยากจะขอกำลังเครื่องยนต์มากกว่านี้อีกนิด จะดียิ่ง ถ้าในอนาคต Subaru มีรุ่นเทอร์โบสำหรับ Subaru BRZ
คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ >>> ถ้าคุณชอบสปอร์ตขับหลังราคาไม่แพงมากมายนัก Subaru BRZ คือ คำตอบ ที่คุณน่าจะมองเอาไว้เป็นตัวเลือก หนึ่ง แต่ถ้าต้องการสมรรถนะที่เร้าใจกว่า เพิ่มเงินอีกนิดขึ้นไปจับ Subaru WRX ดีกว่า ...
รายงานการทำงานของเครื่องยนต์
ความเร็วที่เดินทาง (ก.ม./ช.ม.) |
รอบเครื่องยนต์ที่ตำแหน่งเกียร์ 6 |
90 |
2450 |
100 |
2650 |
110 |
2850 |
120 |
3150 |
อัตราประหยัดในการขับขี่
ในเมือง |
9.3 ก.ม./ลิตร |
นอกเมือง |
12.5 ก.ม./ลิตร |
Bonn test mode |
9.6 ก.ม./ลิตร |
อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม.
|
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
0-100 ก.ม./ช.ม |
7.95 |
7.97 |
8.01 |
7.99 |
80-120ก.ม./ช.ม. |
6.00 |
6.00 |
6.00 |
6.00 |
ความเร็วสูงสุดในระหว่างการทดสอบ 203 ก.ม./ช.ม.
[GALLERY753]
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com