Hands On : Porsche Cayenne S E hybrid ระทึกเร้าใจเจ้าชายกบพลังเขียว
- โดย : Autodeft
- 7 ก.พ. 58 00:00
- 11,775 อ่าน
ได้เวลาลองเจ้าชายกบพลังเขียว อีกที่สุดของการขับขี่จากเรา Porsche Cayenne S E Hybrid ใครจะคิดว่ารถไฮบริดก็แรงได้
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
หากกล่าวถึงแบรนด์รถยนต์สมรรถนะชั้นนำจากค่ายรถยนต์เยอรมัน เชื่อว่ารถยนต์ในฝันของใครหลายคนนั้นอาจจะเป็นแบรนด์ Porsche อยู่บ้าง ความขึ้นชื่อในเรื่องสมรรถนะการขับขี่ ตำนานความแรงถูกหอบหิ้วมาจากยุคสู่ยุค แต่ใครเลยจะรู้บ้างว่าชื่อเสียงของค่าย ส่วนหนึ่งก็มาจากรถยนต์ไฮบริดเช่นกัน
น้อยคนนักจะรู้ลึกถึงตำนานของผู้ก่อตั้ง Porsche ซึ่งเขากลายเป็นบุคคลที่รู้จักกันดีในฐานคนแรกที่มีแนวคิดเรื่องยนต์ของเครื่องยนต์ไฮบริด และนำพาจากความฝันสู่ความสำเร็จ แม้จะเป็นช่วงเริ่มยุคศตวรรษ 1900 แต่ Porsche ได้ร่วมมือกับ Jacob Lohern สร้างความสำเร็จด้วยการให้กำเนิดครั้งแรกของรถยนต์ไฮบริด ซึ่งทำให้ Porsche มีชื่อเสียงทางด้านนี้ อย่างแท้จริง
ในยุคนั้นรถที่มีกำลัง 10 แรงม้า ขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมระบบเครื่องยนต์อาจจะยังไม่ได้ใช้นิยามของคำว่ารถยนต์ไฮบริด อย่างที่เราเข้าใจกันในทุกวันนี้ ดูเป็นอะไรที่ประหลาดเกินไป แต่มันก็ทำให้ Porsche มีชื่อเสียงทางด้านการสร้างรถที่แตกต่างไม่เหมือนใคร แม้กาลเวลาจะลบเรือนไปบ้าง แต่ต้นแบบที่เกิดขึ้น ภายใต้เรือนร่างในรถยนต์ลักษณะรถอเนกประสงค์ ก็เป็นที่ตระหนักของทีมวิศวกรค่ายรถยนต์รายนี้ ถึงความสำคัญของระบบไฮบริดที่สามารถทำได้มากกว่าแค่ให้มันอยู่ในรถสปอร์ต หรือเก๋งสุดหรู ทว่ากับในส่วนของรถยนต์อเนกประสงค์ก็เป็นไปได้
เครื่องหมายเตือนใจของรถยนต์ที่ได้ชื่อว่าเป็นรถต้นแบบไฮบริดคันแรกของโลก Lohern- Porsche ทำให้ค่ายเยอรมันผุดไอเดียใหม่ในการตอบโจทย์ลูกค้า เมื่อรถยนต์อเนกประสงค์ชั้นนำสามารถพัฒนาให้มันกลายเป็นไฮบริดเสียบปลั้กยกเอาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมาคลุกเคล้าป่นเข้ากับความหรูหรา อรรถประโยชน์ในการใช้งานตามความต้องการของตลาดรถยนต์ทั่วโลก
รถยนต์ไฮบริด Lohern-Porsche เมื่อปี 1900
ไม่แปลกใจเลยเมื่อมีข่าวสารจาดต่างประเทศออกมาไม่นานหลังจากมีการคลอด Porsche Panamera S E Hybrid เราจะได้ยินข่าวการเตรีรีมผลิตรถยนต์ Porsche Cayenne S E Hybrid ซึ่งรถยนต์อเนกประสงค์ชั้นนำจากเยอรมันคันนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการด้วยความลงตัวทางด้านการออกแบบ การใช้งานและขาดไม่ได้ในสมรรถนะการขับขี่ ที่ยังเร้าใจในแบบม้าตัวเก่งจากเยอรมัน
การมาถึงของ Porsche Cayenne S E Hybrid ในไทย ถือเป็นการคลอดอีกนวัตกรรมในการขับขี่ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่บรรจบต่อการใช้งาน และถ้าคุณคิดว่าเจ้ารถยนต์ไฮบริดเสียบปลั้กคันนี้จะแพงจนกระเป๋าฉีกแล้ว เชื่อเลยว่าราคา 7.99 ล้านบาท กับรถยนต์ที่ให้ความลงตัวต่อชื่อเสียงและเกียรติยศ ไปจนถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยความประหยัด และการปล่อยไอเสียที่น้อยกว่า อาจจะไม่ใช่ราคาที่แพงเกินไปนัก
มาพบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกระหว่างผมและเจ้า Porsche Cayenne S E Hybrid ใหม่ แต่การมาขับรถยนต์ไฮบริดเสียบปลักของค่าย Porsche นั้นไม่ใช่ครั้งแรก ด้วยก่อนหน้านี้ผมมีโอกาสขับรถยนต์ Porsche Panamera S E Hybrid รถยนต์นั่งที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ของระบบขับเคลื่อนล้ำสมัย แต่ครั้งนี้ต่างกันเป็นเพียงรถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยม
กายภายนอกรถยนต์ Porsche Cayenne S E Hybrid ใหม่ ตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในต่างประเทศ ค่ายเยอรมันแนะนำตัวพร้อมการปรับหน้าทาปากเรือนร่างไปพร้อมกัน มีการอัพเดทตามวันเวลาที่ผันผ่านไป เทียบกับรุ่นเดิมแล้ว หน้าตาใหม่ของรถยนต์ Porsche Cayenne สื่อสารในความสปอร์ตการขับขี่มากขึ้น
ใบหน้าที่ดุดันและเส้นสายในรุ่นใหม่ ถูกทำให้กางออกไปจากรุ่นเดิมก่อนหน้านี้ รับเข้ากับตัวฝากระโปรงหน้าให้ความรู้สึกถึงพลัง ลงตัวเข้ากับกันชนหน้าปรับให้ดูปราดเปรียวมากขึ้นด้วยการลดขนาดช่องดักอากาศทางด้านหน้าให้ความรู้สึกถึงความสปอร์ต ทั้งยังเพิ่ม “Airblades” ที่ทำให้มันมีความลงตัวยิ่งขึ้นในการกระจายแรงลมช่วยในการระบายความร้อน ทั้งเครื่องยนต์และระบบเบรกในการขับขี่
เช่นเดียวกันไฟหน้าเปล่งตัวตนใหม่ด้วยไฟหน้าที่มาพร้อมไฟ Day Time ที่กลายเป็นเอกลักษณ์การขับขี่ แบบสี่จุด ลงตัวมากขึ้นกับท้ายรถที่ได้ชุดท่อไอเสียคู่เสริมลุความสปอร์ต และสปอร์ยเลอร์หลังที่ไม่มีรอยต่ำทำให้รถดูเนี้ยบยิ่งขึ้น
ถึงตาเราแล้ว ได้เวลาก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร และอย่างที่คุณคงพอจะคาดเดาได้ในความเทพของ Porsche เจ้า Porsche Cayenne S E Hybrid ใหม่ลงตัวกับ ห้องโดยสารสุดหรูที่ยังคงมาพร้อมความทันสมัยเช่นกัน
ความเป็นปัจเจกการออกแบบ ลงตัวด้วยความหรูหรา แม้จะยุ่งเหยิงบ้าง หากมองไปตรงกลางอุดมไปด้วยปุมต่างมากมาย ทั้งควบคุม ระบบปรับอากาศ ระบบความบันเทิง และกับรถที่มีสมรรถนะที่ต้องการการควบคุม มันมีปุ่มสำหรับปรับการขับขี่ เริ่มจากชุดโช๊คที่สามารถปรับแข็งอ่อนตามความต้องการของผู้ขับขี่ และ รวมถึงโหมดการขับขี่ที่เลือกให้ขับไฟฟ้าล้วนได้ผ่าน E-Power หรือถ้าอยากให้การชาร์จไฟเต็มแบตเตอร์รี่เร็วโหมด E-Charge ก็สามารถเลือกได้
ส่วนตรงหน้าคนขับได้พวงมาลัยที่ได้รับการออกแบบใช้ดีไซน์พวงมาลัยมัลติฟังชั่นเดียวกับ Porsche 918 Spyder ส่วนมาตรวัดมีการเปลี่ยนหน้าตาไปนิดหน่อย เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องของการขับขี่ตามตัวตนไฮบริดทันสมัย จัดการปรับด้วยมาตรวัดเปลี่ยนตรงกลางเป็นรอบเครื่องยนต์ ส่วนทางซ้ายปรับให้เป็นการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถแสดงระหว่าง การทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าที่เข้ามามีบทบาทในการขับขี่ และเช่นกันยังแสดงผลในยามที่มอเตอร์ไฟฟ้าชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์รี่ ส่วนทางด้านขวาบ่งบอกถึงการทำงานของระบบไฮบริดว่า มันกำลังทำงานอย่างไรบ้าง
เอาล่ะพร้อม!!! เราเดินเกียร์มาที่ตำแหน่ง D เพื่อเดินรถไปยังจุดสตาร์ทในการทดสอบ สิ่งแรกเลยที่เราสามารถสัมผัสได้ในรถยนต์อเนกประสงค์คันนี้ เป็นความน่าประหลาดใจในเทคโนโลยีไฮบริด ซึ่งมอเตอร์ฟ้าเข้ามารับบทบาทในการสร้างกำลังแรงบิดในรอบต่ำ ซึ่งถ้าเทียบกับ Porsche Panamera ย่อมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าขนาดใหญ่ของมันย่อมมาพร้อมน้ำหนักที่มากกว่า
แต่แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 70 กิโลวัตต์ เทียบเท่า 95 แรงม้า ก็ทำให้รถคันนี้วิ่งได้ประดุจพรมวิเศษอาละดิน มันสามารถขับพาคุณออกตัวด้วยความเงียบงัน เหมาะมากถ้าคุณจะใช้หนีภรรยาเที่ยวในยามค่ำคืนรับรองว่าไม่มีใครได้ยินเสียงคุณเลื่อนรถออกไปแน่ แต่ถ้าพลังไฟฟ้าคุณอยู่ในระดับต่ำไป ไม่นานนักเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตรจะเข้ามารับบทบาทในใช้ของคุณ
ถ้าต้องการใช้ไฟฟ้าล้วนในการขับเคลื่อน โหมด E Power เป็นปุ่มที่ควรใช้งาน โดยระบบจะใช้พลังงานจากแบตเตอร์รี่ลิเธียมไออนอันทรงพลังขนาด 28Ah มาขับเคลื่อน Porsche Cayenne S E Hybrid และแม้จะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าจะเป็นเมนหลักในการทำงานตามโหมดนี้ ทว่าสมรรถนะของมันไม่ได้เป็นสองรองใครด้วยความเร็วสูงสุดในการขับขี่ ด้วยความเร็วสูงสุดสามารถทำได้ถึง 125 ก.ม./ช.ม. และไฟฟ้าจากแบตเตอร์รี่ดีพอที่จะขับเคลื่อนได้ไกล 18-36 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ถึงเส้นสตาร์ทได้เวลาแล้วที่เราจะลองสมรรถนะของมันทุกอย่างพร้อมเราไม่รอช้าที่ตะหาคำตอบในเรื่องสมรรถนะในการขับขี่ของเจ้ากบไฟฟ้าคันนี้ ซึ่งตามรายละเอียดทางเทคนิค Porsche เคลมว่าด้วยการทำงานของเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตรพร้อมระบบซุปเปอร์ชาร์จ ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถทำกำลังสูงสุดได้ถึง 416 แรงม้า และทำแรงบิดสูงสุด 590 นิวตันเมตร มันดีพอที่จะพาร่างอันรโหฐานร่อนออกตัวในอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลาเพียง 5.9 วินาที และ ความเร็วสูงสุด 243 ก.ม./ช.ม.
ความแรงที่ดูลงตัวมันจะไปได้หรือกับความประหยัดแบบไฮบริด ผมเหยียบคันเร่งมิดลงไปใน Porsche Cayenne S E hybrid เข็มวัดกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าตวัดขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าชายกบเราจะออกตัวอย่างดุดันจนคุณสามารถรู้สึกแรงบิดมหาศาลดีพอจะทำให้เราที่อยู่ในโหมดการขับขี่ด้วยการเซทช่วงล่างสปอร์ต แต่นาทีเราออกตัวรถอเนกประสงค์ราคาเฉียดราคาแปดล้านบาทได้หน้ายกงัดในระหว่างที่เร่ง พร้อมผู้โดยสารสามคนประดุจรถแข่งแต่งซิ่งวิ่งทางตรงในสนามแข่ง
พละกำลังที่เหลือเฟือง ทำให้คุณรู้สึกถึงการตอบโจทย์ในการขับขี่อย่างเร้าใจ แรงดึงมาต่อเนื่องพาราหลังติดเบาะด้วยพละกำลังที่มารับช่วงต่อด้วยเครื่องยนต์แบบ V6 ขนาด 3.0 ลิตร พร้อมระบบซุปเปอร์ชาร์จ ให้ความสามารถในการขับขี่ที่บอกเลยว่า คุณจะไม่คิดว่านี่เป็นรถยนต์ไฮบริดทำไดด้ขนาดนี้เชียวหรือ แต่มันเป็นไปแล้วในวินาที ซึ่ง รถยนต์ Porsche พาเราเร้าใจในการขับขี่
ยิ่งเมื่อคิดไปในระหว่างเร่งเครื่องยนต์ส่งกำลังแรงบิดอย่างต่อเนื่องว่า มันเร้าใจมากในตัวตนที่พร้อมกันก็ยังสามารถทำให้คุณสามารถแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมปล่อยไอเสียน้อยและยังประหยัดกระเป๋าตังค์ เรื่องค่าน้ำมันไปได้พร้อมกัน รถคันนี้ก็ดูลงตัวขึ้นในสไตล์ของตัวเอง
แถมการควบคุมเจ้ากบยักษ์คันนี้ก็ง่ายดายด้วงพวงมาลัยไฟฟ้า ยังคงความลงตัวเอาไว้ในความมั่นใจประดุจคุณขับรถสปอร์ต อย่างเช่นในด่านที่มีการจำลองลักษณะโค้งแคบ ก็ไม่จำเป็นที่ผมจะต้องใช้วิชามือลิงในการสาวพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว เพราะ อัตราทดพวงมาลัยของมันรวดเร็วกระชับมั่นใจและคมอย่างน่าเหลือเชื่อ จนประทับใจ
ยิ่งเมื่อนับว่าคุณสามารถทำอะไรหลายอย่างได้ในรถคันนี้ไม่ว่าจะการโดยสารไปจนถึง การใช้มันในการขนของเมื่อพับเบาะหลังลง ซึ่งสามารถพับได้เรียบเสมอ ไปจนถึงประตูหลังไฟฟ้า และ ท้ายรถสามารถปรับระดับให้ต่ำลงได้เพื่อที่มาช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน จะว่าไปนี่แหละรถที่พ่อบ้านทั้งหลายอยากได้ และไม่แปลกใจที่มันวิ่งกันเกลื่อนถนและเป็นรถยนต์ที่ข่ยดีที่สุดของ Porsche ในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา
สรุป อเนกประสงค์รักษ์โลกที่น่าสน ราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด
สวัสดีกราบลาพี่แมน และ Porsche Cayenne S E Hybrid ต้องพูดตามตรงเลยว่า สำหรับคนที่มีงบมากพอจะหารถยนต์อเนกประสงค์ในการขับขี่ เจ้าชายกบคันนี้ดูน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่าเราหลายคนอาจจะคิดว่าไม่มีโอกาสที่จะเอื้อมถึงมันก็ตามที
แง่หนึ่งตัวรถมีเรือนร่างที่สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม มันดูสปอร์ตเต็มด้วยอารมณ์ความเป็นรถยนต์ที่ดุดัน ปราดเปรียวขึ้น และยังมาพร้อมออพชั่นและฟังชั่นต่างๆที่ลงตัวต่อการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะอยากหรูหราสุดขั้วหรือ จะต้องการใช้งานแบบสุดติ่งในทุกรูปแบบที่ชีวิต ไม่ว่าจะนั่งโดยสาร ขนของ ไปจนทำกิจกรรมยามว่าง รถคันนี้ก็ดูลงตัว
ไฮไลท์เด็ดสำคัญ ก็ไม่พ้นตรงที่รถสามารถตอบโจทย์ในการขับขี่ไม่ว่าจะระบบไฮบริดเสียบปลั้ก ที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องความประหยัดในการใช้งานแต่ก็ไม่ลืมจิตวิญญาณของสมรรถนะในการขับขี่ ตามสไตล์ Porsche มันดีพอจะทำให้คุณอ้าปากข้างเมื่อตอนเหยียบคันเร่งลงไปแล้วหลังติดเบาะ
หรือจะยามที่ต้องการความประหยัดขับหล่อเพื่อประหยัดเงินในกระเป๋ากลับบ้าน Porsche Cayenne S E Hybrid ก็สามารถตอบโจทย์ได้ครบครัน และถ้าคุณไม่อยากที่ให้เครื่องยนต์ทำงานพกตู้ชาร์จไปด้วยแล้วแอบไปจิ้มตามห้าง มันก็ยิ่งประหยัดขึ้นไปอีก
โอเคการซื้อรถยนต์ราคาหลายล้านอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราหลายคนคิดมาก่อน พวกเราอาจจะมองแนวคิดแบบนี้เป็นเรื่องของความฟุ่มเฟือย แต่เชื่อเถอะว่า Porsche Cayenne S E Hybrid เปลี่ยนแนวคิดนี้ไปทันที มันทั้งหรู แรง และ ประหยัด ความครบครันแบบนี้คุณจะหาได้ในตัวหรูคันไหนอีก... นอกากเจ้าชายกบพลังเขียวคันนี้
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY1091]