Hands on : Mitsubishi Triton Singlecab 4X4 ...แปลกแตกต่าง ตัวลุยพันธุ์ที่น่าจับมาซิ่ง

พบอีกหนึ่งของความลงตัวในความแตกต่าง เมื่อเรามีโอกาสจับรถกระบะ Mitsubishi Triton Single Cab ที่มาพร้อมออพชั่นขับเคลื่อนสี่ล้อมันลงตัวมากกว่าที่คิด ..นะ

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

ทุกวันนี้ประเทศไทยเรากลายเป็นตลาดรถปิกอัพระดับโลกไปแล้ว ด้วยการเป็นที่สองรองจากอเมริกา ที่มีประชากรรถกระบะเยอะที่สุดในโลก แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถกระบะอาจจะถูกผันตัวเองไปสู่รูปแบบการใช้งานต่างๆมากมาย ตอบสนองความต้องการของลูกค้า แต่เนื้อแท้ของรถกระบะที่เราคุ้นหน้าตาก็ยังคงไม่พ้นการนำมาขนของ ขนสินค้าที่ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

Mitsubishi  เองเป็นค่ายรถยนต์รายหนึ่งที่ลงมาเล่นในฐานะผู้ผลิตรถกระบะชั้นนำในตลาดที่หลายคนให้ความสนใจในสมรรถนะ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา พวกเขาอาจจะพยายามที่จะปั้นรถกระบะของพวกเขาไปเป็นรถกระบะสำหรับคนที่ต้องการใช้งานในแบบเพื่อการท่องเที่ยว หรือเน้นขับสนุกกำลังเยอะ แต่ในทางภาคใต้ น้อยคนจะรู้ว่า  Mitsubishi Triton   ถูกกล่าวขานว่าเป็นม้าใช้ที่ลงตัวที่สุดในการทำงาน โดยเฉพาะเมื่อต้องตะลุยฝ่าทางโหดทั้งหลาย มันก็พร้อมในการขับขี่

กระบะหัวเดี่ยวหรือรถกระบะแบบตอนเดียวอาจจะไม่ใช่รถที่หลายคนสนใจอีกแล้ว แต่ถ้าคุณมีกิจการที่ต้องการรถยนต์เพื่อขนสินค้า นาทีนั้นรถกระบะประเภทนี้ จะถูกมองโดยเหล่าเจ้าของกิจการ ซึ่งทุกค่ายก็มีออกมาตอบโจทย์ในทุกรถกระบะที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ถ้าเกิดกิจการคุณอยู่กลางป่ากลางเขา เส้นทางก็ทุรกันดาร อย่างนี้มันต้องเพิ่งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ...จะมีสักกี่ค่ายกันที่ทำรถกระบะตอนเดี่ยวขับเคลื่อนสี่ล้อออกมาวางจำหน่าย

ไม่แปลก...ที่คำตอบที่คุณจะกล่าวโต้กับผม ...คือน้อยมาก หรือบ้างอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน หรือไม่นึกฝันว่ากระบะหัวเดี่ยวก็มีเวอร์ชั่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ทว่า ตั้งแต่รุ่นที่แล้ว Mitsubishi มองเห็นช่องว่างทางการตลาดนี้ และพวกเขาจับรถของพวกเขามาเติมเต็ม จนได้ฐานลูกค้าจากทางภาคใต้ ด้วยยอดขายที่ผลิตเท่าไร ก็ขายได้ตลอด

มาวันนี้เมื่อ  Mitsubishi Triton  เกิดเปลี่ยนโฉม ทาง Mitsubishi ก็ได้เวลาที่จะเปลี่ยนโฉมตัวหัวเดี่ยวเสียที แม้ว่ามันจะเป็นม้าใช้งานตอบโจทย์ในเรื่องของการขับขี่ก็ตามที แต่ว่า Mitsubishi ก็จัดการให้รถดูมีความลงตัวด้วยทรวดทรงเดียวกัน ต่อเติมด้วยกระจังหน้าสีดำ ให้ความคมเข้มลงตัว มาพร้อมไฟหน้า ที่ได้ไฟเลี้ยวสีส้ม ดูกลมกลืนมีเสน่ห์ลงตัว ดูน่าคบหายิ่งขึ้น

ช่วงหัวเก๋งตอนหน้า ถูกออกแบบให้ขับขี่ได้ย่างสะดวก แต่พร้อมกันนั้นกระบะท้ายสำหรับบรรทุกของก็ถูกให้ความสำคัญมากขึ้น เมื่อพูดถึงประโยชน์ในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตั้ง ขอเกี่ยวขอบที่กระบะหลัง เข้ามา แม้ว่ามันจะทำให้  Mitsubishi  triton  แอบดูบุราณเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ในอีกแง่มันก็ดูโหดดิบดีไม่แพ้กัน เมื่อมองภาพรวมที่มาพร้อมล้อกระทะขนาด 16  นิ้วกว้าง 6 นิ้ว พร้อมยาง  206R16C 

และเฉพาะในส่วนของพื้นที่บรรทุกกระบะหลังเอง มันมีความยาว 2,265  มม. กว้าง 1,470 มม. และช่วงกระบะเองก็ถูกพัฒนาให้สูงถึง 475 มม. ตอบโจทย์ ภายใต้เรือนร่างหัวเดียวกระเทียมลีบ ที่มีความยาว 5,075  มม.กว้าง  1,785  มม. และสูง  1,780  มม.

คงไม่บ่อยนักที่เราจะมีโอกาสจับกระบะหัวเดี่ยวมาขับกัน ด้วยมันเป็นรถใช้งาน ฟังชั่นก็ไม่ค่อยมีอะไร โดยมาก ก็เหมือนศัพท์รถมือสองว่า อวทม. เป็นฟังชั่นพื้นฐานในการขับขี่ ไม่ได้สะดวกสบายหรูหราอะไรมากมายนัก เนื่องจากรถสไตล์นี้ ส่วนใหญ่ซื้อเพื่อช้านจริงๆ หรือคนซื้อไม่ได้ขับ คนขับไม่ได้ซื้อ

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อเปิดประตู Mitsubishi  Triton Single Cab 4X4  แล้ว การต้อนรับด้วยเบาะนั่งไวนิล กึ่ง Bench Seat   จะกลายเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในเรื่องการเดินทางของเรา ดูๆ ก็น่าจะรองรับการโดยสารมากถึงสามคน หากจะยัดกันจริงๆ ยังดีที่ค่ายทรีไดมอนด์ให้ระบบปรับอากาศติดตัวออกมา ตัวรถยังมีระบบเซ็นทรัลล็อค ติดเพียงว่ายังใช้ระบบไขกุญแจในการทำงาน ไม่มีความสบายจากการกดรีโมทปิ๊ป !! ปิ๊ป!! อาจทำให้มันดูขาด เป็นเหมือนลูกเมียน้อยไปสักหน่อย ยังดีที่ไม่เหมือนบางยี่ห้อที่ทอนออพชั่นเรื่องเครื่องเสียงออกไป แต่อย่าหวังมากในวิทยุเจ้าคันนี้ ...ที่มีให้เพียงพอฟังข่าวสารไม่ได้เน้นคุณภาพเสียงอะไรมากมายนัก

ตรงหน้าคนขับพวงมาลัยสามก้านปรับระดับสูงต่ำได้ถูกวางเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบาย ในขณะที่ช่วงแรกของการเดินทาง พี่ก้องสื่อมวลชนที่รู้จักมักจี่กับเราเป็นอย่างดี ของลองขับดูก่อนบ้าง ซึ่งเขาจัดแจงปรับท่าทางในการขับขี่ให้ลงตัวมากขึ้น ก่อนออกเดินทาง เจ้า Triton หัวเดี่ยวก็เริ่มโชว์ว่ามันยังคงหลงเหลือในความเป็นรถนั่งมากขึ้น แต่แล้วไม่วาย ความสะดวกสบายบางอย่างที่คิดว่ามีกลับขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย

“เอ้ย!! กระจกมองข้างมันปรับไงวะ”

“อ่าวพี่มันปรับไฟฟ้าไม่ใช่หรอ”

“เออไม่เห็นมีปุ่มเลย ลองเอามือขยับดูสิ”

ว่าแล้วนั้นก็ทำให้เรานึกถึงวันวานสมัยเด็ก ซึ่งย้อนไปเมื่อ ห้าขวบเห็นจะได้ สมัยนั้นกระบะแคบอะไรมีที่ไหนเล่า แต่ตอนนั้นพ่อผมก็มีรถ Toyota Hilux Hero   ที่ถือว่าเจ๋งแล้วในยุคนั้นมาให้คุณแม่ผมขับขี่ เวลาที่จะต้องออกไปพบท่านตามต่างจังหวัด ..เคยเป็นไหมครับ  หากใครอายุสามสิบต้นๆ เรื่อยไปถึงดึกดำบรรพ์กว่านั้น ที่ถูกคนขับใช้ให้คุณปรับกระจก แล้วก็เหมือนนั่งเถียงกันในรถ เอา.. ซ้ายหน่อย ดันออกไปนิด โอเคๆ เงย หน่อย ... จะว่าไป ของแบบนี้ก็มีเสน่ห์ในตัวมันเอง แต่ในยุคนี้บอกเลยว่ามันโบราณมาก ..

ก็ไม่เข้าใจว่า กระจกหูช้างมองข้างไฟฟ้ามันจะแพงอะไรหนักหนา  Mitsubishi   กลับไม่ใส่มาให้ เข้าใจว่าอาจจะด้วยความเป็นรถยนต์ใช้งานโดยทีมงานกุลีคลับของคนใช้แรงงานอาจจะดูเหมือนไม่จำเป็น แต่ลองฟังนี่ ถ้าคุณลูกน้องของคุณขับรถขนของไปคนเดียวตามลำพัง ซึ่งเป็นไปได้มากในยุคสมัยนี้ ..เขาจะปรับกระจกอย่างไร

การปรับกระจกมองข้างขอผมและพี่ก้อง ทำให้เราดูเหมือน คู่... เอาหน่ะ คุณคงรู้ว่าผมจะพูดอะไร ซึ่งเราก็หัวเราะต่อกระซิกในการขาดออฟชั่นบางอย่างของ Mitsubishi Triton Single Cab 4X4 ไปอย่างน่าเสียดาย แต่เมื่ออกเดินทางความคิดเรื่องออฟชั่นที่ขาดหายไป กลับถูกแทนที่ด้วยความน่าเหลือเชื่อในการขับขี่ของเจ้าหัวเดี่ยวคันนี้

พี่ก้องใช้เวลาไม่นานนักในการที่จะพาเจ้า Mitsubishi Triton Single Cab 4X4 ขับทดสอบ และที่เหลือก็เป็นห้วงเวลาของเราในการพารถคันนี้ไปยังปลายทาง ในจังหวัดอุทัยธานี

ที่ไหนสักแห่ง..ในประเทศไทย ที่เรียกว่าหุบผาตาด วันนี้การทดสอบของเราเริ่มที่นั่น ...เมื่อพร้อมออกสตาร์ทการเดินทางรับช่วงต่อจากพี่ก้องสุดหล่อ ...แต่ยังไม่เท่าสหรัฐ สังคปรีชา ... เรายัดเกียร์เดินหน้าเคลื่อนตัว  Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4  ก็ตอบโจทย์อะไรที่มากกว่าแค่เป็นม้าใช้งาน

ลองจินตนาการถึงการที่คุณกระบะหัวเดี่ยวที่มีกำลังสูงพอตัวจนสามารถสนุกการขับขี่ได้ตลอดเวลา Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4 กลายเป็นรถที่คุณจะถูกใจหากมีโอกาสได้จับมันสักครั้ง ด้วยการตอบโจทย์ ผ่านเครื่องยนต์   4D56 บล็อกเดิม  ที่ให้กำลังมากถึง   178  แรงม้า  สูงสุดที่ 4,000  รอบต่อนาที และยังสามารถรัดแรงบิดว่า   400 นิวตันเมตร ตั้งแต่  2,000  รอบต่อนาที การออกตัวที่เรียกเสียงเอียดได้ทุกครั้ง เมื่อนับว่า น้ำหนักรถเปล่า  1,600 กก. พร้อมผู้โดยสารสองคน ที่บวกไปอีก ราวๆ  100 กว่ากิโลกรัม กลายเป็นความสนุกสนานในการขับขี่ที่ทำให้คุณไล่บี้ เจ้า รุ่นเครื่องยนต์คลีนดีเซลในขบวนทดสอบได้อย่างสนุกสนานเกินตัว อย่าบอกใคร

การตอบโจทย์ด้วยเกียร์ธรรมดา 5  สีด อาจจะดูไม่เพียงพอ เมื่อนับว่าสมัยนี้เกียร์   6  สปีด มีให้สับกันเยอะๆ มันส์ๆ แบบที่คู่แข่งออกมาตอบโจทย์ ดูจะน่าสนใจ แต่จะว่าไป เมื่อคุณขับเกียร์ธรรมดา   5  สปีด ความคุ้นเคยของมันจะทำให้ขับ Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4 ได้อย่างสนุกสนานมาก จนมันกลายเป็นรถที่เรากลับมองว่า เหมาะมากกว่า สำหรับคนที่ต้องการรถสักคันไปขับขี่ไว้ลุยในวันว่าง โดยไม่สนเรื่องความงามอะไรมากมายภายนอก แถมความลงตัวเรื่องการออกแบบของมันทำให้ดูมีภาษีในเรื่องการแต่งเติมให้ลงตัวมากกว่าด้วยซ้ำไป

ออกมาได้สักพักเราจับความจำเป็นที่อาจจะทำให้ Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4 ต้องการชุดเกียร์   6  สปีด เมื่อรอบเครื่องยนต์ดูจะไม่ต่อเนื่องอย่างที่ควรจะเป็น ทุกครั้งที่เราสับเกียร์ขึ้น ดูเหมือนรอบเครื่องยนต์จะวูบหายไปมาก ซึ่งในการขับขี่ครั้งนี้เรามีเพียงข้าวสารถุงยักษ์สองกระสอบ ที่ถูกวางเข้ามาเพื่อเติมน้ำหนักบรรทุก ทำให้เราอดไม่ได้ ที่จะนึกว่า หากเรามีของน้ำหนักราวๆ  ตันเศษๆ ไม่สิ สองตันแล้วกันที่ด้านท้าย รอบเครื่องยนต์ที่วูบเร็วไป อาจจะมีผลในยามขึ้นลงทางชัน

พลิกดูรายละเอียดทางเทคนิคคร่าวๆ เจ้าชุดเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะก็ดูไม่แตกต่างอะไร อัตราทดของมันมีค่อนข้างดูจะลงตัว จัดวางอัตราทดไว้อย่างเหมาะสม แต่จะว่าไปดูเหมือนมันจะเลือกใช้เฟืองท้ายเบอร์ต่ำไปหน่อยสักเล็กน้อย  

 

ตารางแสดงอัตราทดเกียร์ใน Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4

 

	อัตราทด
เกียร์  1	4.313
เกียร์  2	2.330
เกียร์  3	1.438
เกียร์  4	1.000
เกียร์  5	0.788
อัตราทดเฟืองท้าย	3.917

แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่ใช่ประเด็นปัญหาที่ทำให้รอบเครื่องยนต์ตกลงไปอย่างรวดเร็วทุกครั้งที่เราเข้าคลัทช์ เปลี่ยนเกียร์ แต่แล้วหลังจากขับมากสักระยะหนึ่ง ส่วนตัวก็เริ่มจับทางได้ว่า ถ้าคุณมือไวพอระดับมานะ พรศิริเชิด อดีตนักขับทางฝุ่นของ  Mitsubishi  เข้าเกียร์ไวๆ รอบเครื่องยนต์จะตกลงน้อยกว่าที่ขับเป็นคุณยายเข้าเกียร์เนิบๆ ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวทำให้เรามองว่าปัญหาอยู่ที่ด้ามเกียร์ที่มีระยะโยนมากไปจนทำให้เสียจังหวะการทำกำลังของเครื่องยนต์ไปอย่างน่าเสียดาย

เฟืองท้ายเบอร์ต่ำ ทำให้ Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4 กลายเป็นรถที่คุณเค้นรอบขับมากพอสมควร จน 178  แรงม้า ได้ออกลั้นลาบนถนนบ่อยครั้ง ทว่าเมื่อขับเดินทางไกลๆ เรากลับพบว่า รอบเครื่องยนต์ของมันนั้นดูต่ำใช้ได้จนน่าจะก่อความประหยัดด้วยรอบเครื่องยนต์  2,200 รอบต่อนาที่ ความเร็ว  100  ก.ม./ช.ม. และถ้าของต้องถึงที่หมายปลายทางอย่างว่องไว ที่ความเร็ว 120  ก.ม./ช.ม. มันใช้รอบเครื่องยนต์เพียง  2,600 รอบต่อนาที จนเรารู้สึกว่าเฟืองท้ายที่ให้มา ดูจะใช้รอบต่ำไป อาจจะขยับเป็น 4.1  เพื่อให้เหมาะสมมากขึ้นเมื่อนับว่ารถหัวเดี่ยว ต้องบรรทุกหนักอยู่บ่อยครั้ง

แม้ว่าเรื่องเกียร์อาจจะดูเป็นปัญหาในการขับขี่อยู่บ้าง แต่ความน่าประทับใจของ Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4 อยู่ที่ระบบกันสะเทือนที่เซทอำมาใหม่ ด้านหน้าและหลังยังคงตามสูตรรถกระบะที่เราคุ้นเคย ด้วยช่วงล่างปีนกอิสระสองชั้นพร้อมคอยย์สปริง ทางด้านหน้า และ  ด้านหลังใช้แหนบหลายแผ่นซ้อนพร้อมโช๊คอัพไขว้ ซึ่งความพิเศษของตัวขับเคลื่อนสี่ล้อ อยุ่ที่การวางแหนบไว้บนเพลา เพื่อเพิ่มความสูงจากระยพื้นถึงใต้ท้องรถ

ทว่ามันไม่ได้มีดีเพียงเท่านั้น เพราหลังจากที่ขับขี่ Mitsubishi Triton Single Cab 4X4 ให้ความรู้สึกเดียวกับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อของตัว   Double Cab  เป๊ะ!! เพียงแต่อาจจะมีความนุ่มนวลน้อยกว่าเล็กน้อยเนื่องจากต้องเผื่อเอาไว้ตอนบรรทุก แต่กระนั้นช่วงล่างที่ให้ความรู้สึกเดียวกัน กับทำให้รู้สึกแตกต่างในเรื่องของพวงมาลัย ที่มีระยะฟรีมากกว่า มีความคมน้อยกว่า พอสมควร

และท้ายสุดแม้ตลอดเส้นทาง ความเป็นตัวขับเคลื่อนสี่ล้อ จะทำให้เราไม่มีโอกาสที่จะทดสอบเรื่องของการลุยเลย แต่ระหว่างทางเราลองที่จะปรับไปสู่โหมดขับเคลื่อนสี่ล้อดูบ้าง  Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4  ก็ดูจะทำงานได้ดีเข้าใจง่าย มันมีระบบ  Shift On The Fly  เปลี่ยนเกียร์ไปยังตำแหน่ง   4H   ได้ทันที แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะลองมันจริงจัง

 

สรุป .. Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4  มากกว่าแค่ขนส่ง

 

หลังจากถึงที่พัก ผมลงมาพร้อมความประทับใจในเจ้า Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4 กระบะหัวเดี่ยวที่ราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิด แต่ครบทุกฟังชั่นในการขับขี่ อย่างแท้จริง

สิ่งที่มีความลงตัวมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ คงไม่พ้นกระจังหน้าสีดำที่กลายเป็นที่ชอบของหลายๆคนมากกว่า เจ้าโครเมี่ยมที่ดูไม่เอาอ่าวเสียดท่าไร ในสายตาของสาวก รวมถึงเราเองด้วย

ในขณะที่ภายในห้องโดยสาร มันมาพร้อมความลงตัวในเรื่องของการขับขี่ที่ยังขาดอีกนิดหน่อย โดยเฉพาะที่อยากให้พิจารณาคงไม่พ้น เจ้ากระจกมองข้างไฟฟ้าที่น่าจะเติมเข้ามาเพิ่มความลงตัวมากขึ้น รวมถึงอาจจะลองพิจารณาออพชั่นความปลอดภัย อื่นๆ เข้ามาเติมอีกนิดหน่อย

ส่วนในเรื่องของการขับขี่เครื่องยนต์   4D56  พิสูจน์แล้วว่าแม้มันจะเก่า แต่ก็ยังเก๋าอยู่  178  แรงม้าใน Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4 สามารถสร้างความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถ้าได้ด้ามเกียร์ที่มีระยะโยนน้อยกว่านี้จะดีมากๆ

แม้ว่า Mitsubishi Triton  Single Cab 4X4 ดูจะถูกติติงอยู่หลายข้อพอสมควร ในความไม่ลงตัวทางด้านออฟชั่น รวมถึงการขับขี่ที่ดูจะขาดหายไปบางอย่าง  ทว่ามองในอีกมุมมันเป็นกระบะหัวเดี่ยวคันเดียวที่มีฟังชั่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ความแปลกของมันก็ทำให้คุณสนใจไม่น้อย เมื่อต้องขนของจากแหล่งทุรกันดารมาขายในเมืองกรุง ...หรือใครจะรู้ บางทีอาจจะมีคนซื้อมันมาแต่งเพื่อลุยในวันว่างก็ได้ ..

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

รถทดสอบ   new Mitsubishi  triton  Single Cab  4X4

ราคาจำหน่าย  612,000 บาท

 

สิ่งที่ชอบ >>  สมรรถนะจากเครื่องยนต์ที่เร้าใจในการขับขี่ แถมมันเป็นหนึ่งเดียวที่มีออพชั่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ... คุณจะสนุกกับมันอย่างแน่นอน

 

สิ่งที่ไม่ชอบ >> กระจกมองข้างไม่ปรับไฟฟ้า รอบเครื่องตกมากไปในยามที่คุณเปลี่ยนเกียร์

 

สิ่งที่อยากให้มี >>  กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า อัตราทดเฟืองท้ายใหม่ที่น่าจะสูงกว่านี้ได้สักอีกเบอร์ รวมถึงอยากให้ปรับระยะโยนของด้ามเกียร์ใหม่เพื่อความต่อเนื่องในการขับขี่มากขึ้น

 

คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ >> มันยังเป็นหนึ่งเดียวที่น่าสนใจเมื่อคุณอยากหาม้าใช้ไว้ลุย แต่เราอยากบอกว่า ราคาเพียง  6  แสนของมันก็น่าสน สำหรับขาลุยป่าที่ต้องการถที่ตอบโจทย์แบบดิบๆ มาขับขี่เพื่อความเร้าใจในวันว่าง ..

 

[GALLERY1256]