Hands On : Honda Mobilio ดีกว่าที่คาด ร่างสปอร์ตฉบับครอบครัว

เผยสมรรถนะอย่างเป็นทางการของ Honda mobilio เจ้ารถครอบครัวไซส์เล็ก ใหม่ล่าสุดจากค่าย Honda มันจะลงตัวแค่ไหน มากเพียงใดในการขับขี่ติดตามได้ที่นี่กับบททดสอบ Honda Mobilio

 

 

เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

 

หากถามถึงรถยนต์เซกเม้นท์ที่การตลาดค่ายรถยนต์บ้านเราพยายามอย่างนักหนามายาวนานในการให้คนไทยตระหนัก ถึงรถยนต์ที่มีดในหลายๆด้านเหมาะต่อการใช้งาน ที่ครอบคลุมมากทุกแบบ โจทย์สุดหินที่การตลาดมักเจอ จนปราบเซียนมานักต่อนักนั้น คงไม่พ้นรถยนต์อเนกประสงค์แบบ  MPV   ที่ไม่ว่าจะยาวนานแค่ไหนบ้านเรา ยอดขายก็ไม่กระเตื้องเสียที

ทำไม..เพราอะไร...หรือคนไทยไม่สนใจ คำถามแบบนี้มักวนมาหาเรา กูรูรู้เฟื่องเรื่องรถเสมอ แต่หลายครั้ง เราอาจจะต้องยอมรับว่า แม้รถยนต์กลุ่มนี้มันจะดูดี มีความหลากหลายในตัวมันเอง แต่ท้ายที่สุดแล้ว ราคาอาจจะทำให้หลายคนคิด ..เฮ้อ เอาเงินไปซื้อรถรุ่นอื่นดีกว่า???

รถยนต์  Honda Mobilio

โจทย์ที่ว่ายากนี้ ทว่ากลับกลายเป็นความท้าทายของค่ายรถยนต์  Honda  ที่มองว่า รถยนต์อเนกประสงค์ควรมีราคาถูกลง มีการขับขี่ที่ดี ออพชั่นครบ การใช้งานที่ลงตัว และอีกมามายที่มีคำพูดสวยๆมาตอบโจทย์ลูกค้า แต่ว่าครั้งนี้มันไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อเกินจริงเล่าเรื่องเหนือคำบรรยาย เมื่อรถยนต์อเนกประสงค์  Honda Mobilio  ได้ทำการพิสูจน์ตัวเอง ในการขับขี่ว่า มันก็มีดีมากกว่าที่คาด

ตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในบ้านเราต้องยอมรับว่า ชื่อเสียงของ  Honda Mobilio  ไม่ใช่ที่คุ้นเคยในไทยเลย อาจจะด้วยรถรุ่นนี้ไม่เคยถูกนำโยนเข้าสู่ตลาดเมืองไทยก่อนหน้านี้ แต่ความจริงแล้วรถยนต์   Honda Mobilio นั้น เคยทำตลาดมาแล้วก่อนหน้านี้

ในญี่ปุ่น Honda  เปิดตัววางขาย Honda Mobilio  รุ่นแรกในวันที่ 19  กันยายน  ปี 2002 โดย  Honda Mobilio รุ่นแรกนั้น ถูกผลิตขึ้นหลังจาก  Honda  เห็นความสำเร็จของรถยนต์  Honda Capa Mini MPV   ญาติห่างของเจ้า   Honda City ZX   ทำให้ท้ายที่สุด พวกเขาตกลงใจว่ายังไงเสีย ก็ต้องมีรุ่นสืบทอดความสำเร็จนี้ออกมา

รถยนต์ Honda Mobilio   รุ่นก่อนหน้านี้

นั่นเป็นจุดที่ Honda Mobilio  ถูกวิศวกรเสกมันมาจุติ ในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งด้วยความที่มันเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ใครๆ ก็เอื้อมถึงทำให้ ได้รับความนิยม ยิ่งเครื่องยนต์ 1.5  ลิตร พ่วงเกียร์  CVT  ในความลงตัว มันประหยัดมากถึง  17.2 ก.ม./ลิตร และยิ่งกว่านั้นแม้รถจะเก่าและต้องไปรีไซเคิล มันก็ยังมีด้วยความสามารถในการ Recycle  ได้ถึงร้อยละ 90  ของตัวรถ

ในรุ่นเดิม  Honda Mobilio  มาในทรวดทรง เพ่อให้เกิดพื้นที่สู่สุด และแน่นอนปราบพวกคู่แข่งที่ทำรถยนต์ออกมาในแบบคล้ายๆ กัน แต่ว่า Honda Mobilio  ถูกถอดออกไปในปี 2008  หลังจาก  Honda ผลิต Honda Freed  และชื่อที่กลับมาครั้งนี้ อาจจะมีนัยยะสำคัญ

รถยนต์  Honda Mobilio ใหม่เรียกว่าเป็นรถอเนกประสงค์ที่เร้าใจมากขึ้นจากเดิมที่รถครอบครัวต้องดูทึนทึก เหมือนพ่อบ้านแม่บ้าน ลุคครอบครัวจ๋า ดูเป็นผู้หญิงหรือท่านชายที่ดูอบอุ่น

แต่ในรุ่นใหม่ Honda  พยายามคิดใหม่ทำใหม่ในหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับว่าที่รถยนต์อเนกประสงค์ใหม่ ซึ่งพวกเขาคิดเอาไว้แล้วยังไง ก็จะต้องทำแน่ๆ จนในช่วงปี 2011  ก็เริ่มมีข่าวหลุดว่า Honda  กำลังพัฒนารถยนต์อเนกประสงค์แบบ  MPV  บนพื้นฐานแพลทฟอร์มของ   Honda Brio

ก่อนที่จะตามมาด้วยการเปิดตัวต้นแบบ Honda Mobilio Concept  ในงาน Indonesia motor show 2013  และ ท้ายที่สุด เริ่มลงขายในตลาดอินโดนีเซีย ก่อน ซึ่งรถยนต์นั่งแระเภทนี้ขายดีมากในอินโดนีเซีย และ ท้ายที่สด มันก็มาเปิดตัวในไทย อย่างที่เราๆท่านๆทราบนั่นเอง

ภาพสเก็ตการออกแบบ  Honda Mobilio รุ่นปัจจุบัน

รถอเนกประสงค์อีกแล้วเรอะ แถม MPV  เสียด้วย ..หลายคนคงคิดว่า  Honda Mobilio  นั้น น่าจะมีความแก่ในตัวมันตามสไตล์รถยนต์ประเภทนี้ ที่ไม่ได้เน้นหนักในความดูดีอะไรมากมายนัก พอไปวัดไปวาได้ แต่เน้นมันใช้งานได้ครอบคลุมมากกว่า

ทว่าทั้งหมดที่คุณคิด ขอให้หยุดแค่ตรงนั้น แล้ว กองมันไว้ ก่อนจะตัดสินอะไรมากกว่านี้ เพราะ บอกเลย ด้วยอายุอานามที่ไม่มากของผู้เขียน ก็เคยมาแล้วในการคิดเช่นนี้ แต่ทุกอย่างพลิกเมื่อรู้จักตัวตนจริงๆของ  Honda Mobilio

ตั้งแต่งานเปิดตัว การเดินดูรอบๆ รถ แล้วพิจารณาความงามเป็นสิ่งแรกที่เราทำ และมันน่าแปลกใจมากที่ Honda   ปลุกเอาความสปอร์ตเข้ามาผสานไว้ใน Honda Mobilio  โดยเฉพาะในรุ่นแต่งพิเศษ ที่ได้ชุดแต่รอบคัน กันชนหน้า-หลังดูมีความสปอร์ตมากขึ้น รวมถึงล้ออัลลอยใหม่ที่ดูสวยบาดตา ลายใบพัดที่ดูโดนใจ เป็นสิ่งที่จะพบได้จริงในรถราคาไม่เกิน  7  แสน ที่มาพร้อมสองอักษรสปอร์ต  RS

แน่นอนว่าการแนะนำคราบความสปอร์ตเข้ามาใน Honda Mobilio  เป็นการนิยามตัวตนว่ามันมีความโดดเด่นในเรื่องนี้ แต่ความจริงด้วยการออกแบบที่ใช้พื้นฐานจาก   Honda Brio   เป็นตัวตั้งต้น ทำให้   Honda Mobilio  ใหม่ ได้ความสดใสเยาว์วัยเข้ามาเป็นกลิ่นอายที่น่าจะดึงดูดใจใครหลายคน

ในแง่หนึ่งตั้งแต่เริ่มต้นวงตระกูล  Honda Brio มันถูกกังขามาเรื่อยในเรื่องการออกแบบ และดูเหมือน ยิ่งนับวันเราเห็นเชื้อสายวงกตระกูลที่มีเชื้อ Brio  มันก็ดูดีมากยิ่งขึ้นตามลำดับ

และใน Honda Mobilio ใบหน้าของรถก็ดูมีความโดดเด่นชัดเจนและลงตัวในการออกแบบในรุ่น  RS  คงไม่ต้องเหาให้ฟังแล้วในเรื่องความหล่อที่ดูโฉบเฉี่ยวรอบคัน มาพร้อมชุดแต่งที่ให้มาเสร็จสรรพภายในรุ่น ดูมีความลงตัวมากขึ้นในเส้นสาย ด้วยการออกแบบตัวรถที่ยืดทรวดทรงออกไปมากว่าตัวแฮทช์แบ็ค

ทีมวิศวกรเผยว่า Honda Mobilio ใหม่ นี้มีการออกแบบเพิ่มเติมตั้งแต่ช่วงเสา C  ไปจนถึงบั้นท้าย ซึ่ง ดูแล้วมีความกลมกลืม บั้นท้ายให้ไฟท้ายที่ดูโฉบเฉี่ยว ดูเหมือนแอบหยิบมทรวดทรงจาก  Honda City  มาปั้นแต่ง มันมาพร้อมการออกแบบฝ้าทายที่ดูทันสมัย และดูกลมกลืนกับสปอร์ยเลอร์หลัง ช่วยลดลมหมุนที่บั้นท้าย สวมทับด้วยล้ออัลลอยลายใบพัดลม มีคนเข้าว่ามาอย่างงั้นขอบ  15  นิ้ว พร้อมยาง 185 จากโรงงาน

ท้ายสุดลงตัวด้วยมิติตัวถังที่มีขนาดเท่าๆกับรถคอมแพ็คคาร์ 1  คัน ด้วยความยาว   4,398  มม. กว้าง  1,683  มม. สูง 1,603  มม. มาพร้อมฐานล้อยาว 2,652 ม.ม. และทีเด็ดอยู่ที่ระยะต่ำสุดจากพื้นที่ให้ในการฝ่าอุปสรรคจากถนน  189  มม.  ตัวเองในรุ่น  RS   มีน้ำหนักตัวเปล่าอยู่ที่ 1,223  กก.

ได้เวลาแล้ว ...เราเปิดประตูก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร โดยพลัดแรกขอนั่งเป็นผู้โดยสารกันก่อน ซึ่งเมื่อเข้าสู่ห้องโดยสาร Honda Mobilio ตอบโจทย์การออกแบบด้วย ตัวตนที่สดใสดูสดใหม่ทันสมัยแบบรถยนต์  Honda Brio  ที่จับช่วงหน้าของตัวรถ ยกมาทั้งเซทเพื่อง่ายต่อการทำงานของทีมงาน

แม้ว่าคอนโซลหน้าจะดูมีความละท้ายคล้ายกันมาก แต่เมื่อจับมือลูบยังคอนโซล เราต้องบอกว่าคุณภาพวัสดุดีกว่าที่อยู่ใน  Brio  มาพอตัว มันดูไม่ใช่ของราคาถูก อย่างที่เราคิดว่ามันจะเป็นเมื่อมันพัฒนามาจาก   Honda   brio

หย่อยตัวลงบนเบาะนั่ง เจ้าตัวเบาะเองก็ออกแบบมาได้อย่างลงตัวทรวดทรงก็ยังหยิบยืมมาจาก Brio  แต่เมื่อเหลียวมองไปยังแถวที่สิง ที่ว่างยังกว้างโข และ แถวที่สามที่อยู่ปลายหลังสุด ก็ดูท่าว่ามันน่าจะลงตัวในการใช้งาน

เมื่อออกเดินทาง การนั่งของ   Honda Mobilio  ตอบโจทย์มากขึ้น เราพบว่า การออกแบบ ช่วงพื้นรถของ  Honda Mobilio ตอบเรื่องท่านั่งดีกว่า มันไม่ใช่รถที่คุณ นั่งแล้วต้องเก็บข้องอเข่า จนนั่งไม่สบาย แต่ยังยืดได้ แม้จะเป็นคนขายาวในช่วง เบาะหน้า

แต่นั่งไปนั่งมาสักพัก เราก็ขอปีนป่ายไปนั่งเบาะหลัง แถวที่สาม เพื่อทดสอบขณะเดินทาง ว่าความจริง มันใช้งานได้หรือไม และ บทพิสูจน์ของ  Honda Mobilio  กับผู้เขียน มนุษย์ยักษ์/พิกัดฝรั่ง ก็ลงตัวกว่าที่คาด มันนั่งได้ แม้จะต้องยอมรับว่า พื้นที่วางขาไม่เหลือ ถ้าเบาะแถวสอง ถูกเลื่อนจนสุด แต่ยังดีที่เบาะแถวสามเอนได้อีกนิด  ก็ช่วยให้การเดินทางสบายขึ้น

สิ่งที่ต้องติดติงใน Honda Mobilio สิ่งแรกเลย ตั้งแต่เดินทางมาเกือบจะหมดรอบการเดินทาง มันไม่ใช่เรื่องของท่านั่งพื้นที่แคบของเบาะ แต่กลายเป็นการเก็บเสียงของโดยสารทางตอนหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ต่ออกมาใหม่ ตั้งแต่ เสาซี ไปจนถึง  เสา ดี หรือ พูดกันง่ายๆ ส่วนที่ทำให้มันเป็น Honda Mobilio

กลับพบว่ามีการเก็บเสียงไม่ดีเท่าที่ควร อย่าแปลกใจ ถ้าคุณเดินทางใน Honda Mobilio หลายคน แล้ว คุยกัน ก่อนจะพบว่าเพื่อนแถวหลังคุณ ที่อยากมีส่วนร่วมในการสนทนา เกิดตะโกนโหวกเหวก โวยวายขึ้นมาเอาดื้อๆ นั่นไม่ใช่การยัดเพื่อนไว้ท้ายรถทำให้เขาบ้าคลั่ง

แต่เสียงช่วยห้องโดยสารตอนลังดังมาก ยิ่งเมื่อ น้ำตั๋ม On the Road  คู่หูเราในทริปนี้ ขับเกิน  100 ก.ม./ช.ม. เสียงลมจากประตูท้าย ก็ยิ่งเล็ดลอดเข้ามา แถมเสียงลมหมุนที่ด้านท้ายตลอดการขับขี่ ก็ช่วยเข้ามาขับกล่อม และเมื่อความเร็วต่ำ เสียงท่อไอเสีย ในระหว่างช่วงเร่ง ดัง ผุกๆ ก็เข้ามาช่วยในการประสานเสียงอีก น่าจะต้องกล่าวว่า ค่อนข้างจะต้องทำใจ ถ้าเพื่อนเกิดให้คุณไปนั่งแถวหลัง

สิ่งหนึ่งที่ดีเกี่ยวกับการนั่งแถวสามเลย อย่างเดียวที่เราเห็นเลย คือ Honda Mobilio ขึ้นลงค่อนข้างง่าย เบาะนั่งแถวสองฝั่งซ้ายมาพร้อมก้านยก ที่ปลดครั้งเดียว เบาะจะตีลังกาม้วนกลับหลัง เปิดทางให้เข้า-ออก แต่ถึงแบบนั้น มันก็ยังมีเงื่อนไขบางประการ ที่ต้องรู้ไว้ใช่ว่าคือ เบาะจะไม่สามารถตีลังกาได้ ถ้าคุณไม่ถอยหลังเบาะจนสุด และดันหัวหมอนเตี้ยต่ำสุด เนื่องจากเมื่อเบาะกระดกจะติด และมันจะไม่ตีลังกาเป็นทางเข้า-ออก

หมดรอบน้ำตั๋ม ในที่สุด Honda Mobilio ก็ถึงคิวเราขับขี่กันบ้าง แต่เพื่อความสมจริงสมจังในการใช้งาน เราเลยต้องเกณฑ์คนมานั่งเพิ่ม แต่ครั้ง จะไปกราบไหว้พี่ๆสื่อท่านอื่น ซึ่งเฉลี่ยและทดสอบคันละสองคน มานั่งรวมจุมปุ๊กในคันเดียว   5  คน ก็คงจะดูแปลกและประหลาดอยู่ แถมอาจจะโดนด่าได้

ดังนั้น ด้วยไหวะพริบทางด้านพิกัด ผมจึงขอพี่คนหนึ่งที่มีพิกัดคนสองคน นั่นคือ พี่เบิ้มจากนิตยสาร Toque Magazine .....เป้ง!! พิกัดช่างแล้ววันนี้  150  กิโลกรัม สัดส่วน เสื้อเบอร์   54  ใส่ไม่ได้ สูง 186  ซ.ม.โดยประมาณ  จัดให้นั่งแถวสอง ส่วนน้าตั๋วก็ยังคงเดินทางกับเราเหมือนเดิม ใครที่เคยเจอน้าตั๋ม On the Road  ตัวจริง คงจะเคยเห็นพิกัดน้ำเขา ก็ราวๆ  110  กก.  โดยประมาณ ส่วนตัวผู้เขียนเองหนัก 90  กก. สรุปว่า สามคน ยัดไปใน Honda Mobilio เท่ากับ   5  คนโดยสาร แล้ว

ต้องอืดแน่ๆ ในใจคิดเมื่อพูดว่านี่เป็นรถครอบครัวที่มีการใช้เครื่องยนต์เดียวกับ  Honda Jazz- City  ที่แนะนำมาพร้อมเครื่องยนต์ 4  สูบแถวเรียงขนาด 1.5  ลิตร ให้กำลังสูงสุด   120 แรงม้า ที่  6,600 รอบต่อนาที และทำแรงบิดสูงสุดได  145  นิวตันเมตรที่ 4,600 รอบต่อนาที มันมาพร้อมระบบเกียร์  CVT   ที่สร้างความลงตัวในการขับขี่ ด้วยการออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน สำหรับทุกคน

เราเข้าเกียร์ D  พา สามคน ที่มีพิกัดประดุจ   5  คน ออกเดินทาง สิ่งแรกที่สร้างความประหลาดใจมาก คือ Honda Mobilio ไม่อืดอย่างที่คิด แม้คุณจะบรรทุกเกือบ  70%  แล้วก็ตามที แม้จะไม่ใช่ความรู้สึกเร่งปรู๊ด!! ออกตัวแรงๆ แต่ก็พอจะมั่นใจว่า ขนมาเสียขนาดนี้ยังออกตัวได้ขนาดนี้เชียว

เราเลี้ยวเข้าสู่ถนนใหญ่เส้นมุ่งหน้าเข้าหัวหิน ก่อนที่จะเดินทางต่อ โดย เส้นทางของการทดสอบครั้งนี้ง่ามาก เราวิ่งไปถึงช่วงค่ายธนะรัตน์ ก่อนที่จะวกกลับเดินทางเข้าเลี่ยงเมือง ชะอำหัวหิน แล้ววกเข้าส่วนของชะอำอีกครั้ง เพื่อกลับไปยังจุดเริ่มต้น

ผู้ร่วมทดสอบ  honda mobilio  ครั้งนี้

หลังจากออกมาขับบนถนนใหญ่ในช่วงแรกเราใช้ความเร็วธรรมดาทั่วไป  ที่คนเดินทางเพื่อดูการตอบสนองของรถ ซึ่งตรงหน้าเรานี้ เป็นโค้งใหญ่ของสนามบินหัวหิน  และเมื่อเรากวาดโค้งเขาไป ก็พบว่าพวงมาลัยให้นำหนักกำลังดี มันใช้พวงมาลัยแบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะมีการคำนวณน้ำหนักที่กดบนตัวรถด้วย ทำให้ พวงมาลัยค่อนข้างตึงมือพอสมควร และมันเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจเกินตัวเลขทีเดียว

ไม่นานนักเราเริ่มเข้าสู่ในเขตเมืองหัวหิน หลายคนที่เคยมาคงทราบดีว่า การจราจรตัวเมืองหัวหินค่อนข้างพลุกพล่าน และ  Honda Mobilio ก็เริ่มโชว์สมรรถนะของมันเห็นเรื่องความคล่องตัว โดยเฉพาะยามต้องเปลี่ยนเลนกะทันหัน ขนาดของรถที่มีพิกัดไม่โตจนเกินไปนัก ทำให้เราแทรกไปตรงไหน ก็ได้ ซึ่งในเรื่องความคล่องตัวนั้น มันดีเพียงพอกับรถยนต์  Honda  Jazz  เลยทีเดียวแต่หางที่ยาวกว่าเล็กน้อย ก็ดูจะกลายเป็นอุปสรรคบ้าง

การนั่งเทียบเท่าคน 5  คน กับเครื่อง  1.5  ลิตร คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับ การวิ่งบนถนนเลนสวน ไม่ว่าใครก็ต้องคิดแบบนั้น แต่บนทางที่ขับไปเรื่อยๆ มีรถช้าอยู่ข้างหน้า จนต้องชะลอความเร็วเหลือ  70  ก.ม./ช.ม.  ก็เริ่มทำเราหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อจังหวะว่างๆ การสวนคันเร่งลงไป เครื่องยนต์ถูกดันใช้กำลังสูงสุดเพื่อเร่งแซง เกียร์   CVT  ก็ตอบสนองอย่างไว

เราออกเลนขวาเพ่อโยนาระรถชาวบ้านที่เขาไม่รับร้อนอะไร ก่อนที่จะกลับเข้าเลนซ้าย แต่ก็ต้องตกใจ เมื่อเข็มความเร็วบนหน้าปัด ชี้ไป   140  ก.ม./ช.ม.  และเมื่อดูบนเครื่องมือทดสอบเรา   80-120  ก.ม./ช.ม .เราได้   11.0 วินาที แม้จะนั่งเทียบเท่ากับ 5  คนเดินทาง ตรงนี้มันเริ่มทำให้ Honda Mobilio น่าสนใจ

ปัจจัยหนึ่งที่ต้องพูดถึงเลยคือชุดเกียร์ Honda Mobilio ที่แม้นเราจะคุ้นเคยว่า  Honda Jazz  และ  Honda City  ต่างก็เป็นเกียร์แบบ CVT   เช่นกันนั้น

ทว่าความจริงใน Honda Mobilio ทางค่ายรถยนต์สำนัก  H   มีการปรับ อัตราทดใหม่เพื่อให้มันเหมาะสมมากขึ้นต่อการใช้งาน เอาไว้รองรับผู้โดยสารหลายๆคนโดยเฉพาะ เริ่มจากอัตราทดเกียร์  CVT   ที่ปรับใหม่ โดยจากเดิมใน Honda City – Jazz   ใช้อัตราทดระหว่าง 2.526-0.408   ขับเคลื่อนด้วยอัตราทดเฟืองท้าย  4.992  

แต่ใน Honda Mobilio มันปรับความลงตัวมากกว่าด้วย อัตราทดเกียร์ 3.848 – 0.562 โดยมันมาพร้อมเฟืองท้ายที่ใช้อัตราทดต่ำลงกว่าเพียง   3.941  ซึ่งหมายความว่า  Honda Mobilio  ใหม่ เน้นการออกตัวที่ดี แต่เช่นเดียวกัน มันไม่เน้นเรื่องการทำความเร็วปลายมากนัก แต่ในขณะที่พิกัดนั่ง   5  คนเรายังสามารถทำความเร็วปลายบนหน้าปัดได้ 170  ก.ม./ช.ม.  และที่ 120  ก.ม./ช.ม. Honda Mobilio ใช้รอบเครื่องเพียง 2400 รอบต่อนาที

ถนนทางยาวบนบายพาส พิสูจน์เรื่องนี้เป็นอย่างดี เมื่อเราขับไปเรื่อยๆ  Honda Mobilio  เจ้าครอบครัวอเนกประสงค์ ก็ทำให้เราเห็นว่ามันดีกว่าเมื่อขับทางยาว น่าเสียดายที่มันพัฒนาจาก  Honda Brio  ทำให้   Honda  ไม่ใส่ออพชั่นบางอย่างที่ดูจะลงตัวมากยิ่งขึ้น ถ้าเติมเต็มเข้ามา ไม่ว่าจะระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือจะเป็นการที่ชุดเกียร์จะสามารถเลือกอัตราทด ไม่ว่าจะใน Manual mode  ก็ดี หรือจะมีปุ่มให้กระดิกบริหารนิ้วบนพวงมาลัยในสไตล์  Paddle Shift   ก็ดี ถึงแม้จะถูมองว่ามันเป็นของเล่นก็ตามที แต่ในความจริงของการใช้งานในรถอเนกประสงค์ มีโอกาสได้ใช้อย่างแน่นอน

เมื่อทางยาวขับนานๆ Honda Mobilio เริ่มโชว์ศักยภาพของระบบกันสะเทือนออกมา ด้วยช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้า   ในขณะที่ด้านหลังยังเป็นทอร์ชั่นบีมแบบ H Shape  จากที่ขับขี่ตลอดเส้นทาง เราสังเกตว่า  เมื่อเทียบกับ  Honda Brio เดิม

รถ  Honda Mobilio  ก็มีความลงตัวในระบบกันสะเทือนมากกว่า ทีมวิศวกร เผยว่า พวกเขาปรับชุดช่วงล่างทางด้านหน้าใหม่หลายรายการไม่ว่าจะโช๊ค สปริง หรือไม่กระทั่งตัวกันโคลง ที่หนาขึ้นกว่าเดิม แง่หนึ่งเราพบว่าระยะยืดของโช๊คด้านหน้ารถคันนี้มีมากขึ้น ดีพอจะซับแรงสะเทือนต่างๆในระดับหนึ่ง

ส่วนทางตอนกลังที่ยืมออกมาใหม่นั้น ดูเหมือนมันจะใช้โช๊คที่มีความยาวกว่า ทำให้รถ อาจจะดูตูดโด่งโหย่งๆไปบ้างเมื่อจอดรถ แต่เมื่อคุณบรรทุกลงไป อย่าง  5  คน มันจะลงตัว รถจะดูสวยงาม ยิ่งกว่านั้นการใช้โช๊คที่ยาว มันจะดูนิ่มนวลมากขึ้น แต่มันก็มีข้อเสียบเปรียบบ้าง คือท้ายรถจะมีอาการดิ้นง่าย ยิ่งตอนฟ้าฝนไม่เป็นใจด้วยแล้ว  ชัดเจนว่ารถมีอาการเหวี่ยงท้ายค่อนข้างมาก

อาการแบบนี้ไม่ดีนักต่อผู้โดยสารแถวสาม ที่นอกจากเสียงดังแล้วยังเจอแรงเหวี่ยงของรถในระหว่างการเดินทาง  แต่ถ้าคุณมีเพื่อนที่ชอบเป็นเด็กหลังห้อง นั่งท้ายเมล์เป็นประจำ มันก็ดูจะรู้สึกสนุกไม่น้อยเลยทีเดียว

สรุป  Honda Mobilio = Mini Me  อดีต Honda Odyssey  แค่อยากขอบางอย่างเพิ่มในการปรับโฉม

ลงมาจาก Honda Mobilio ถามว่ารถคันนี้ เป็นหนึ่งในรถที่ค่อนข้างมีความลงตัวมากในเรื่องของการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป มันไม่ใช่รถอเนกประสงค์ที่ทำให้คุณดูแก่เกินไป แต่กลับให้ความรู้สึกวัยรุ่นที่มีภาระผูกพัน

ในแง่หนึ่ง Honda Mobilio ทำให้เรานึกถึงตัวตนเดิมของ   Honda Odyssey  ในรุ่นก่อนหน้ารุ่นปัจจุบัน ซึ่งให้ความเป็นเก๋งอย่างลงตัวในการออกแบบ และครบครันในเรื่องการใช้งาน มันเป็นรถที่ไม่ดูเคอะเขินเป็นพ่อบ้านแม่บ้านจ๋าเกินไป สามารถใช้งานได้หลายๆ อย่าง

รวมถึงภายให้มาพร้อมฟังชั่นที่ครบครัน ซึ่ง ถ้าเทียบว่ามันเกิดมาจากตระกูล  Honda Brio  เจ้า  Honda Mobilio น่าจะเรียกว่าเป็นรุ่นที่ลงตัวยิ่งกว่า

เราแอบแซวเล่นๆกับเพื่อนๆ พี่สื่อมวลชนว่า ตระกูล Brio  คงเหมือนตระกูลซุปเปอร์เซย่าจาก การ์ตูน ดรากอนบอล แซด ยิ่งทำยิ่งดี ยิ่งรุ่นเกือบท้ายๆ ยิ่งลงตัวและมีดีในความคุ้มค่าน่าจับจองเป็นเจ้าของยิ่งขึ้น

 เพียงแต่อย่างทีเรากล่าวบางออพชั่น น่าจะมีให้ใช้งาน เอาเป็นว่าเก็บไว้เติมตอนปรับโฉมก็ได อย่างเช่นระบบ  Cruise Control  และ Paddle Shift  รวมถึงสิ่งหนึ่งที่เราไม่ได้บอกคืออยากให้พิจารณาทำรุ่น  RS  ให้มีในส่วนของเกียร์ธรรมดา

ส่วนเครื่องยนต์ 1.5  ลิตร พร้อมชุดเกียร์ที่ปรับมาใหม่เสริมสมรรถนะคลุกเคล้าอย่างลงตัว ในแง่ของการขับขี่ ที่มาพร้อมความประหยัด ที่จริง  Honda  เคลมอัตราประหยัดใน Honda Mobilio  ถึง   16.6  ก.ม/ลิตร จากการทดสอบในน้ำมันเบนซิน 100%  แต่วันนี้ แม้จะขับในสภาพหลายๆแบบ มีทั้งความเร็วในบางช่วง และ การใช้งานจริง ตลอดจน ทางฝนตก และอย่าลืมเรานั่งกัน  3  คนที่เทียบเท่ากับ 5  คน แต่เรายังได้ตัวเลข  12.8  ก.ม./ลิตรบนหน้าปัด มาตอบโจทย์ในการขับขี่

จะว่าไปในหลายๆด้านของ  Honda Mobilio ดีกว่าที่เราคาดเอาไว้มากกว่าที่คิด มันเป็นหึ่งในรถที่ลงตัว ยิ่งถ้าคุณมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวเอาไว้ใช้งานในเมือง  Honda Mobilio เป็นหนึ่งในรถที่ดีพอสมควร และคุ้มค่าที่จะคบหา เหมือนกัน

 

เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ติดตามผู้สื่อข่าว นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)           

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

 

ขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อเชื้อเชิญ ทีมงาน Autodeft.com  เข้าร่วมทดสอบ  Honda mobilio ใหม่

 

ผลการทดสอบ  Honda Mobilio  ใหม่

 

รถทดสอบ Honda Mobilio RS

ราคาจำหน่าย 739,000 บาท

รายงานการทำงานของเครื่องยนต์

ความเร็วที่ใช้เดินทาง (ก.ม/ช.ม.)	รอบเครื่องยนต์
100	2000
110	2200
120	2400

 

ความเร็วสูงสุดทำได้ขณะทดสอบ 168 ก.ม/ช.ม.

หมายเหตุนั่งสามคน แต่พิกัดเท่า 5  คน

 

[GALLERY782]