Full drive : Ford Eco Sport บราซิลเลี่ยนผจญเมือง ดีกรีสนุกออพชั่นเด่น

  • โดย : Autodeft
  • 19 พ.ค. 57 00:00
  • 13,276 อ่าน

พบบททดสอบรถยนต์อเนกประสงค์คนเมือง Ford Eco Sport ใหม่ ขับจริงพิสูจน์จริง ออพชั่นเยีย่ม แต่มีบางอย่างที่ยังไม่ลงตัว

 

 

เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

 

ถามถึงรถยนต์สักคันที่ตอบโจทย์ การใช้งานได้หลากรูปแบบ ไม่บอกหลายคนก็คงพอจะรู้ดีอยู่เต็มอกว่ จะซื้อรถยนต์แบบนี้ รถอเนกประสงค์คือคำตอบที่เที่ยงแท้ในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรถแบบนี้เป็นที่ต้องการของหลายคนมากขึ้น ก็เป็นโจทย์ที่ทำให้ค่ายรถยนต์ต้องปรับตัวเองไปสู่กลุ่มใหม่

หลายปีที่ผ่านมาในต่างประเทศ รถยนต์อเนกประสงค์ถูกทำให้มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงฟังชั่นเดิมในการใช้งานที่มีความอรรถประโยชน์เสริมสร้างในการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งลุยได เที่ยวได้ ขับเพลินๆ ก็ดี และจากเดิมที่ขาดเรื่องการประหยัดน้ำมัน ก็จับเอาโครงสร้างของรถยนต์ซิตี้คาร์มาใช้ ทำให้มันตอบโจทย์มากขึ้น และหนึ่งนั้นก็มาถึงเมืองไทยแล้วในท้ายที่สุด

Ford Eco Sport

Ford Eco Sport  เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ รุ่นที่ 2 ของรถอเนกประสงค์ขนาดเล็กที่มาลงตลาดไทย โดยการเข้ามาของมันเพื่อชนกับคู่แข่งจากญี่ปุ่น หากแต่  Ford  Eco Sport   มีดีกรีที่ดีกว่ามากพอสมควร ด้วยชื่อเสียงที่ทำตลาดมายาวนานในอเมริกาใต้ จวบจนมันเป็นโครงการที่ขุนเข้ามาในไทย จากความตั้งใจจริงในการชิงตลาดใหม่ ๆ ที่กำลังมีความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กที่มีความประหยัดน้ำมันไปด้วยพร้อมกัน

ชื่อเสียงรถยนต์นั่งอเนกประสงค์  Ford Eco Sport  อาจจะไม่ใช่ที่คุ้นเคยนักในย่านเรา แต่ที่จริงรถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีชื่อเสียงจากค่ายรถยนต์วงรีสีน้ำเงินที่ขึ้นชื่อลือชามาตั้งแต่อดีต

นั่งไทม์แมชชีนกลับไปกับโดเรมอนในยุค   2003  ตอนนั้น ตลาดไม่เคยคิดในเรื่องรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก แต่ในขณะที่หลายคนไม่คาดคิด  Ford  ก็คิด และพวกเขาเริ่มโครงการนี้ในปี 2003  โดยในตอนนั้น เป็นการนำแพลทฟอร์ม รถ Ford Fiesta  มาปรับปรุงตัวตน ให้เป็นรถอเนกประสงค์ ก่อนเริ่มทำคลอดลงตลาดรถยนต์บราซิล ตามมาด้วย อาเจนติน่า เวเนซูเอล่า และรวมถึง ยังกระจายไปสู่ตัวตนในแบรนด์อื่นที่เริ่มสนใจรถยนต์คันนี้ เช่น  Fiat Palio   หรือ จะเป็น Volkswagen Crossfox  ทำให้ในท้ายที่สุดในปี 2011 มีรายงานว่ารถยนต์ Ford Eco Sport ขายไปแล้วกว่า   700,000 คันเลยทีเดียว

หลังจากประสบความสำเร็จในตลาดอเมริกาใต้ ทำให้  Ford  ตัดสินใจลองชิมลางตลาดใหม่ๆ ที่กำลังเติบโตดูบ้าง โดยเฉพาะในแทบเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่แปลกแตกต่างหรือที่เรียกว่า  Emerging Market  แต่ก็มีความสำคัญมากพอสมควร

เช่นเดิม ใน Ford Eco sport ใหม่ ค่ายวงรีสีน้ำเงิน ยังคงยึดถือธรรมเนียมเดิม โดยการนำแพลทฟอร์มรถยนต์  Ford Fiesta  มาดัดแปลง เหมือนรุ่นที่แล้ว โดยความคืบหน้าโครงการมีการตามติดอย่างต่อเนื่องก่อนที่ในงาน Delhi Auto Expo เมื่อปี  2012  Ford  จะเปิดตัวรถต้นแบบ Ford Eco Sport   ออกมา ในวันที่ 4  มกราคม และ   6 เดือนให้หลังรถ Ford Eco sport ก็เปิดตัวในบราซิลอย่างเป็นทางการ

Ford Eco Sport

ในบ้านเรา Ford Eco sport เปิดตัว ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อท้าชนคู่แข่งจากญี่ปุ่นในช่วงก่อนงาน  Motor Expo 2013  โดยการมาถึงของ  Ford Eco Sport   เน้นการทำตลาดตรงสู่ผู้บริโภค ภายใต้การแข่งขัน  Ford Eco sport Urban Discoveries  แต่ด้วยความแตกต่างจากรถอเนกประสงค์ที่มีในตลาด ทำให้มันได้รับความสนใจมากพอสมควรเช่นกัน

จากวันแรกที่เห็นหน้าตามาวันนี้ อีกครั้งที่เราเข้ามาอยู่กับ  Ford Eco Sport  ก็ยังยอมรับว่าการออกแบบ  Ford Eco sport เน้นในเรื่องความทันสมัย ในการออกแบบ ที่ดูดีตั้งแต่แรกพบเห็นกันเลยทีเดียว

ใบหน้าที่ดูเป็นมิตรในแบบดุดันทำให้ Ford Eco sport ฉีกตัวตนเดิมของ Ford Fiesta  ไปหมดสิ้น ตัวรถมีความสูงกว่า Ford Fiesta อย่างชัดเจน ทำให้ความรู้สึกที่ดูบึกบึนมากกว่าเดิม แย้มใบหน้าด้วยอารมณ์ที่ดูทันสมัยเตะตา ด้วยเส้นสายใหม่ของว่าที่รถยนต์อเนกประสงค์ของ  Ford  ใหม่ ๆ ในอนาคต

อันที่จริงพูดกันตามตรงมันได้ดีเอ็นเอมาจาก  Ford Territory   ที่นำเข้ามาขายในไทยจากออสเตรเลีย ทำให้รถมีความรู้สึกหรูหราตั้งแต่แรกเห็น ด้วยการให้รายละเอียด ตั้งแต่ด้านหน้าด้วยกระจังหน้าใหม่ที่เบิกกว้าง โป่งข้างถูกตีออกเพื่อให้ความรู้สึกที่บึกบึนมากขึ้น ฝากระโปรงเสริมความสูงมากขึ้นเล็กเพื่อเพิ่มความรู้สึกในการลุย

Ford Eco Sport

เส้นสายที่ดูดีทางด้านหน้า ส่งต่อถึงทางด้านข้าง เช่นเดียวกับหลังคาที่ได้ออพชั่นที่ไม่เคยคิดว่าจะพบรถในราคา 8 แสนกว่าบาท อย่าง มูนรูฟจากโรงงาน แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากมายแต่ก็มากพอที่จะทำให้หลายคนตะลึงว่ามันมีด้วยหรอ

ออพชั่นที่ลงตัว หน้าตาที่ทันสมัย อาจจะมาขัดใจทางบั้นท้าย เมื่อทีมออกแบบ Ford  ตัดสินใจ ว่า พวกเขาจะปิดจ๊อบการออกแบบ Ford Eco Sport  ใหม่ด้วยตัวตนที่เป็นรถอเนกประสงค์ดั้งเดิมแท้จริง ซึ่งเส้นสายที่ดูทันสมัยทางด้านหน้ามาจบที่ Practical Design  ทางบั้นท้าย ด้วยการย้ายเอายางอะไหล่ มาไว้ทางบั้นท้าย ซึ่งต้องยอมรับว่ามันดูแปลกตาไปสักนิดกับรถอเนกประสงค์ในยุคนี้

แต่ที่ให้อภัยไม่ได้ในเรื่องการออกแบบน้น คงเป็นเรื่องของประตูท้ายที่ไม่ได้ปรับให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานในประเทศไทย เพราะ บานประตูควรเปิดออกทางขวา แต่ว่า  Ford Eco Sport  เปิดออกทางซ้าย ทำให้มันหมุนบานประตูเข้าหาฟุตบาท และคนใช้งานต้องออกไปอยู่ด้านนอก ในยามที่ต้องขนของเข้ารถ นี่คิดเล่นๆ ถ้าอยู่ริมถนนคงเสียวใช่น้อย เวลารถวิ่งมา หรือถ้าคิดแบบติดลบโคตรโชคร้าย มีมอเตอร์ไซค์มากระชากกระเป๋าไป จะโทษอะไร ก็คงต้องโทษประตูนี่แหละครับ เจ้านาย

นอกจากนี้ประตู ต้องเปิดสุดอย่างเดียว จะเปิดงับมีจังหวะ  1-2 แง้มๆก็ไม่ได้ ต้องเปิดสุดแล้วแอบใช้กันชนรถคันอื่นเป็นที่พักพิงแทน

Ford Eco Sport

ยังดีที่  Ford Eco Sport  มีความดีอยู่บ้าง โดยเฉพาะในเรื่องขนาดตัวที่มีความยาวไม่ต่างจากซิตี้คาร์มากนัก ตัวรถยาวเพียง 4,245  ม.ม. กว้าง 1,765 ม.ม. และท้ายสุด สูง  1,708 ม.ม. ให้การควบคุมที่ง่ายด้วยฐานล้อยาว 2,521  ม.ม. และรถมีระยะต่ำสุดจากใต้ท้องสูงถึง 200 ม.ม. ช่วยเพิ่มอำนาจในการปีนป่าย ยามต้องลุย อย่างเช่นฟุตบาทในเมือง หรือในยามหน้าฝนที่น้ำท่วมเฉอะแฉะ ก็ไม่หวั่นเมื่อต้องลุยน้ำสูงถึง   500 ม.ม.

เปิดประตูเข้าสู่ห้องโดยสาร กายภายนอกที่ดูดี ก็ช่วยให้ภายในดุลงตัวมากยิ่งขึ้น ความทันสมัยถูกปลุกปั้นเข้ามาเพื่อบอกว่า นี่คือรถยนต์จาก  Ford  แนะนำด้วยมาตรวัดสีฟ้า  Iced Blue  มนต์เสน่ห์ ดูสบายตาในการขับขี่ พวงมาลัยวงใหญ่กว่า ford Fiesta  เล็กน้อย ยังคงรูปแบบ  3  ก้านสไตล์สปอร์ต

ที่ขาดไม่ได้คือระบบความบันเทิง  Ford Sync  สั่งการด้วยเสียง ปุ่มเพียบเหมือนๆเช่นที่ผ่านมา ที่ยังคงแอบใช้งานยากอยู่บ้าง แต่เมื่อคุ้นชินระบบแล้ว ทุกอย่างก็จะลงตัวไปเอง

Ford Eco Sport

ถัดลงมาเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ มีให้เสร็จสรรพในรุ่นนี้ ส่วนคันเกียร์ ยังคงสไตล์การออกแบบเดิมจาก  Ford Fiesta  ไอปุ่มข้างเกียร์ นี่ก็เหลือเกินว่าใช้งานยาก แม้จะพยายามกระดิกนิ้ว ลองมาแล้วไม่รู้กี่ทีก็ไม่มีทางที่จะโอเค ต่อการใช้งานบนสภาพถนนจริง

แม้ว่าในภาพรวม Ford Eco Sport จะเป็นร่างทรงตัวตนอเนกประสงค์จาก  Ford Fiesta  หากความจริงก็ยังมีจุดต่างเริ่มจาก เบาะนั่งถูกยกขึ้นให้ตำแหน่งสูง เพิ่ม ทัศนวิสัยในการมองเห็นขอบข่ายรถยนต์ ขณะขับขี่ได้ดี และ อีกนัยหนึ่งลดความรู้สึกสปอร์ตของตัวรถลงไป แล้วกลับกลายเป็นความนุ่มสบายที่สามารถสัมผัสได้ ทุกครั้งที่หย่อนบั้นท้ายลงนั่ง และ เอาพนักผิงหลังระหว่างการเดินทาง

Ford Eco Sport

จุดเด่นอีกประการอยู่ที่ การให้พื้นที่โดยสารที่ดีกว่า โดยเฉพาะใครที่เคยกังขาเรื่องการนั่งใน ford Fiesta  ใน ford Eco Sport  จะนั่งทางตอนหลังได้ขึ้น แม้ว่าจะต้องยอมรับในแง่ของพนักผิงหลัง มีความแข็งไปบ้างอาจจะไม่เหมาะมากมายนักต่อการเดินทางไกล

ทว่าเรื่องความเอเนกประสงค์ ใช่ย่อย ด้วยพื้นที่ความจุที่มากพอจะยัดเครื่องซักผ้าขนาด 5  ลิตรเข้าไปได้เมื่อพับเบาะ ที่สามารถแยกพับในอัตรา  60/40  แต่ต้องใช้เบาะหลังเพื่อการโดยสาร Ford Eco Sport  ก็ยังมีที่เหลือเฟือมากพอ ต่อการใช้งาน สามารถคุดคู้เข้าไปนอนได้  หรือไม่ก็พอที่จะยัดกระเป๋าใบใหญ่ได้สบายๆ อย่างไรกังวล

ความลงตัวในความอเนกประสงค์และการใช้งาน น่าจะเรียกว่าเป็นจุดเด่นที่ดีที่สุดของรถยนต์  Ford EcoSport  ที่ทำให้มันเหนือกว่าคู่แข่งในกลุ่มเดียว กัน แต่ว่า ชื่อ  Eco Sport  นั้น ก็มีความหมายแฝงหมายถึงสมรรถนะความเร้าใจในการขับขี่ที่มาพร้อมความประหยัด  ซึ่งใต้ฝากระโปรง  Ford Eco Sport  ในเวอร์ชั่นบ้านเรา ค่ายรถยนต์วงรีสีน้ำเงิน แนะนำเครื่องยนต์ขนาด 1.5  ลิตร แบบ  4  สูบ แถวเรียงเข้ามาตอบโจทย์ในเรื่องสมรรถนะการขับขี่  พร้อมระบบ TI-VCT  ให้กำลังสูงสุด  110 แรงม้า ที่  6,300 รอบต่อนาที และยังให้แรงบิดสูงสุด  142   นิวตันเมตร  ที่  4,400 รอบต่อนาที ทั้งหมดส่งลงชุดเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่  Powershift  6  สปีด แถมยังมีโหมดปรับเกียร์ธรรมดาให้ใช้เมื่อต้องคิดเร็วทำเร็วในระหว่างการขับขี่

Ford Eco Sport

การมาพบปะ  Ford Eco Sport ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2  ของเราที่ได้มาอยู่กับรถอเนกประสงค์ที่ต้องการสร้างความแตกต่าง ครั้นย้อนไปตั้งแต่ในช่วงการเปิดตัวครั้งแรกที่ เน้นว่ามันจะต้องเป็นรถอเนกประสงค์คนเมือง ก็ทำให้หลายคนจับจ้องว่า มันจะตอบโจทย์ได้มากน้อยเพียงไร แต่การขับครั้งที่แล้ว แม้จะมีบททดสอบโชว์ศักยภาพมากมาย หากว่ามันยังไม่ใช่การวิ่งในเมืองอย่างแท้จริง

ครั้งนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นการใช้งาน  Ford Eco Sport จริงๆในเมือง ซึ่งค่ายวงรีน้ำเงินวางตำแหน่งรถคันนี้เอาไว้ว่ามันคือรถยนต์อเนกประสงค์ที่เหมาะสมต่อการจราจรติดขัด ถนน หนทางต่างๆที่คับแคบ และยังตอบโจทย์ต่อการใช้งานจริงยามขับขี่

สัมผัสแรกที่รู้สึกได้เมื่อขึ้นขับ ขยับออกมาย่านใจกลางเมือง ซึ่งพร้อมต้อนรับ Ford Eco Sport ด้วยความหิน ทั้งการจราจรที่หนาแน่นตลอดเวลา ไปจนถึงที่จอดรถที่หายาก ซอยแคบ ทั้งหมดครบองค์ พร้อมพิสูจน์เจ้าอนเกประสงค์คันนี้

Ford Eco Sport ก็เริ่มพิสูจน์ตัวเองทันทีว่าข้าพเจ้ามีดีอย่างที่ทุกคนคาดหวังเอาไว้ ตั้งแต่ความคล่องตัว เมื่อครั้นเรากวาดพวงมาลัยลงจากที่จอดรถของค่ายวงรีสีน้ำเงินย่านใจกลางเมือง ซึ่งพวงมาลัยของ Ford Eco Sport ค่อนข้างมีน้ำหนักกำลังดีเหมาะมือ อาจจะมีความหนักกว่า  Ford Fiesta  บ้างเล็กน้อย ด้วยขนาดยางที่กว้างกว่า ในรุ่นที่เราขับเป็นตัวท๊อปสุด  Titanium   ใช้ยางหน้ากว้าง   205/65/  R16  ติดตัวมาให้จากโรงงาน  ส่วนรุ่นทั่วไปยางจะเป็นขนาด 195  

เมื่อโผล่ออกมาที่ถนนสภาพจราจรที่ติดขัดเช่นนี้ ซอยลัดน่าจะเป็นทางออกของใครหลายๆคน เมื่อยามต้องทำความเร็วแข่งกับเวลา และแถวสุขุมวิทนี้ทางลัดก็เยอะมาก แต่ซอยหนึ่งที่ปราบเซียน คงเป็น ซอยสายน้ำผึ้งที่มีความแคบ แถมยังไร้ระเบียบ ด้วยรถจอดชิดฟุตบาท นั่นไม่พอ เจอรถสวนกันทุกนาที เรียกว่าเป็นหนึ่งในซอยที่มีความคับคั่งสูงพอสมควรเลยทีเดียว

Ford Eco Sport

แม้ว่าซอยจะไม่ใช่เรื่องพิศสมัย สำหรับรถอเนกประสงค์มากมายนัก แต่เมื่อ Ford Eco Sport ถูกย่อให้มีขนาดเล็กลงมา ที่จริงมันขนาดเท่า Ford Fiesta  อาจจะยาวกว่าเล็กน้อย และด้วยการวิศวกรรมดังกล่าว Ford Eco Sport  จึงมีความคล่องตัวมากพอสมควรกว่ารถอเนกประสงค์ทั่วไป และซอยแคบไม่ใช่ประเด็นปัญหาต่อสภาวะการขับขี่ในเมืองอีกต่อไป มิหนำซ้ำ ความเป็นรถอเนกประสงค์ ยังช่วยให้ มันสูงกว่าเดิม ซึ่งช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีกว่ารถซิตี้คาร์ทั่วๆไป

ความคล่องตัวในเมืองจากการควบคุมเรียกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้  Ford  Ecosport  มีความโดดเด่นมากขึ้นมาทันที...ในสายตาเรา

 ...อาจจะจริงอยู่ที่มันควบคุมได้ดีในการเปลี่ยนทิศทางหรือแม้กระทั่งในยามจอดรถที่ง่ายมากขึ้น ในการหาพื้นที่เหมาะสมในการเสียบเข้าไปแล้วเดินเฉิดฉายออกจากรถ แต่ว่าการควบคุมอีกประการที่สำคัญก็เป็นเรื่องของพละกำลัง จากเครื่องยนต์ ซึ่งต้นกำลัง แบบ 4  สูบ แถวเรียง ขนาด 1.5  ลิตร ดูจะไม่ค่อยลงตัวเท่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอัตราเร่งออกแนวผู้ดีเนิบๆ ไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน ซึ่งขัดกับระบบการบังคับเลี้ยวและควบคุม ที่คล่องตัวว่องไวถูกใจ แต่เครื่องยนต์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด

เครื่องยนต์ที่ดูอืดความเร็วต่ำเดินเบาก็ไม่ดี ที่จริงน่าจะพูดว่ามันไม่มีกำลังมากพอในการเคลื่อนรถไปข้างหน้าเราไม่เปิดคันเร่งออกไป  ซึ่งที่จริงควรจะสามารถเลื่อนได้ด้วยความเร็วประมาณหนึ่ง แม้จะยังไม่เปิดคันเร่งออกไป

Ford Eco Sport

ประเด็นหนึ่งที่ดูจะเป็นปัจจัยสำคัญ คือเครื่องยนต์มีขนาดเล็กเกินไปและกำลังของเครื่องยนต์ไม่พอต่อการใช้งาน  ด้วย Ford Eco Sport เอง ก็มีขนาดที่ใหญ่กว่ารถซิตี้คาร์ของค่าย Ford Fiesta  ตัวใหญ่กว่า ย่อมหมายถึงน้ำหนักที่มากกว่า รวมถึงยางที่ที่กว้างก็มีส่วนสำคัญในเรื่องความอืดอาดของรถ ที่ทำให้รู้สึกอัตราเร่งไม่กระฉับกระเฉง แม้ชุดเกียร์  PowerShift  พยายามจะตบกระชากให้รู้สึกว่ารถนั่นพุ่งอยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีมากมายนัก

ความไม่พุ่งเท่าที่ควร ทำให้การจับเวลาอัตราเร่งมาเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องหาคำตอบกับ  Ford Eco Sport  ใหม่ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และเมื่อเราทำอัตราเร่ง  0-100 ก.ม./ช.ม. เราได้เวลาดีที่สุดที่  13.97 วินาที เท่านั้น แต่ที่น่าตกใจไปกว่าคือช่วง   80-120 ก.ม./ช.ม. ที่ทำได้ดีที่สุดเพียง  10.0 วินาทีพอดี  และนั่นอาจจะหมายถึงอัตราเร่งแซงที่ต้องแอบลุ้นกันบ้าง

การขับขี่ในเมืองของเรากับ Ford Eco Sport เดินทางมาถึงบททดสอบสุดท้ายนั้นคงไม่พ้นเรื่องอัตราประหยัดในเมือง ซึ่งหลายคนคงจะคาดหวังในเรื่องนี้มาพอสมควร ด้วยความที่มันเป็นรถยนต์อเนกประสงค์เครื่องเท่าซิตี้คาร์ ขนาด  1500 ซีซี  ก่อนเติมน้ำมันเราขับมาแล้วกว่า 141.2 กิโลเมตร .. ได้เวลาลุ้น น้องเต็มถัง!!! ประกาศิตที่ชอบมากเวลามาเติมน้ำมัน เด็กปั้มเสียบหัวจ่ายกดพรวดน้ำมันเข้าสู่รถ ...และท้ายสุดเราจอดที่ 14.9 ลิตร เท่ากับการขับในเมืองที่เจอทั้งสภาพรถติดใช้ความเร็วต่ำ จบที่ 9.4  กิโลเมตร/ลิตร ...

เอ้ย!! Ford Eco Sport  เอ็งทานหนักเหมือนกันนะเนี่ย!!!  

ปาดเหงื่อแหกกระเป๋าจ่ายเงินค่าน้ำมัน ...ยังดีที่มีมากพอ เพราะ ไม่คิดว่าจะทานหนักอะไรขนาดนั้น แต่ก็ช๊อกไปพอๆกัน เมื่อพูดว่า นี่เป็นอเนกประสงค์คนเมือง แต่อัตราซดของมันไล่กับอเนกประสงค์ขนาดกลางหลายๆรุ่น ซึ่งบ้างยังทำอัตราประหยัดได้ดีกว่าด้วยซ้ำไป

ในเมืองไม่ดีไม่เป็นไร..ทีนี้นอกเมืองจะสามารถแก้ตัวได้หรือเปล่า ตั้งแต่ตอนทดสอบเรื่องอัตราเร่ง ก็คาดเดาอะไรได้หลายๆอย่างเกี่ยวกับสมรรถนะนอกเมืองว่ามันคงจะไม่หวือหวามากมายนัก น่าจะออกแนวเป็นรถที่ขับชิวไปเรื่อยๆมากกว่า ในการเดินทาง

Ford Eco Sport

การทดสอบนอกเมืองครั้งนี้เพื่อให้สมจริงต่อการเดินทาง นอกจากแฟนสาวขาประจำเดินทางไกลกับผมแล้ว ขอแนะนำน้องนักทดสอบรถคนใหม่ล่าสุด น้อง Top Taro  ที่มาช่วยเราจากนี้ไป ทำให้ครั้งนี้เรามีปัจจัยผู้โดยสาร  3  คน พร้อมสัมภาระติดตัวแค่นั้น

เมื่อออกนอกเมือง  Ford Eco Sport ก็เริ่มอวดความเป็นรถอเนกประสงค์ให้เราเห็นมากขึ้นอย่างชัดเจน ความที่มันสูงกว่าทำให้มีความนุ่มนวลมากกว่าในการขับขี่ทางไกล ช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ทางด้านหน้า พร้อมช่วงล่างทางด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมนั้น ไม่ได้ มีความแตกต่างจากซิตี้คาร์ทั่วไป

แต่ Ford Eco Sport ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลมากกว่าและก็มั่นใจในการขับขี่มากขึ้นพอสมควร  อาจจะด้วยยางที่มีขนาดกว้างกว่าซิตี้คาร์ทำให้รู้สึกเกาะถนนดีขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนเลนในระหว่างเดินทางก็มั่นใจเพียงแต่จะโยนมากกว่าเก๋งทั่วไปจากความสูงของรถ ส่วนจะใช้ความเร็วสูงหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหาในการขับขี่  

หากปัญหายังคงอยู่ที่เครื่องยนต์เช่นเดิม โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางใช้ความเร็วสักนิด 110 ก.ม./ช.ม.  Ford Eco Sport ใช้รอบเครื่องยนต์มากถึง  2800 รอบต่อนาที ในการขับขี่ถือว่าค่อนข้างพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งย้อนกลับไปตอนมาทดสอบกลุ่ม ทีมวิศวกรเผยว่า สิ่งเดียวที่แตกต่างระหว่าง Ford Eco Sport กับ  Ford Fiesta คืออัตราทดเฟืองท้ายที่ปรับให้เหมาะสมต่อการเดินทาง

Ford Eco Sport

ในช่วงถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าลงใต้ไปยังปลายทางการเดินทางแบบเรื่อยๆไม่รีบร้อนมากมายนักเป็นช่วงที่ Ford Eco Sport ทำได้ดี แต่เมื่อต้องเร่งรีบในบางจังหวะที่ต้องแซงขึ้นหน้า Ford Eco Sport ยังคงอาการเดิมคล้ายในเมืองคือเร่งไม่ค่อยขึ้น ยังดีที่มีปุ่ม Toggle  Switch  มาให้ได้ใช้ พัฒนาสัมผัสกระดิกนิ้ว ซึ่งอาจจะยังไม่ค่อยถนัดนักในการใช้งานจริง แต่ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งเมื่อต้องการเค้นกำลังออกมา

แม้ว่า toggle Switch  จะช่วยในการเรียกกำลังออกมาได้มากพอสมควร แต่เอาเข้าจริงหลายครั้ง ที่เราต้องเร่งแซงการคิกดาวน์ ดูจะเป็นทางออกที่ดีกว่า และความเชื่องช้าของชุดเกียร์  6  สปีดนั้น ทำให้หลายครั้ง เราจะต้องคำนวณให้ดีก่อนแซง ก่อนที่คิดจะเหยียบแป้นคันเร่งลงไป และเมื่อเกียร์ตบลง เครื่องยนต์ 1.5  ลิตร ก็มักจะโหยหวนกรีดร้องแบบว่า ...เอาล่ะ!!! ไปแล้วโว้ยยยยยยย!!!  รีดแรงม้าสูงสุดมาใช้ แถมมันยังดูเหมือนไม่พอด้วยซ้ำไปในบางจังหวะ โดยเฉพาะในช่วงถนน 2  เลนสวน ซึ่งหากตัดสินใจไม่ดีก็อาจจะเป็นอันตรายได้

มาถึงที่หมายปลายทางหาดสามร้อยยอด กับความประทับใจใน Ford Eco Sport  ที่พาแอบเสียวบ้างบางจังหวะในส่วนของกำลังเครื่องยนต์แต่ท้ายสุดนี้การขับขี่นอกเมือง เราจบที่ตัวเลข  12.2  ก.ม./ลิตร ถือว่าสมน้ำสมเนื้อต่อเครื่องยนต์ 1.5  ลิตร ...

 

สรุป...ออพชั่นลงตัว ขอเครื่อง Eco Boost  

 

หลังจากลงมาสูดบรรยากาศริมทะเล พร้อมโยนกุญแจ ให้น้องท๊อปเตรียมขับขากลับ เพื่อผมจะได้นั่งสบายๆ บ้าง ก็ได้เวลาที่จะสรุปสมรรถนะภาพรวมของ  Ford Ecosport  เจ้าอเนกประสงค์น้องเล็กค่าย ford  ที่พยายามเข้าชกตรงจุดที่ยังไม่มีใครทำตลาด

ในแง่หนึ่งเราตองยอมรับว่าการออกแบบของ  Ford Eco Sport  ค่อนข้างให้ความลงตัวมากพอสมควร ทั้งขนาดตัวถัง รวมถึงเส้นสายทางด้านหน้าที่ดูมีเสน่ห์ในความหรูหราทางด้านการขับขี่ แม้ว่าด้านท้ายอาจจะเป็นส่วนที่ไม่ค่อยถูกใจนักกับการจัดวางยางอะไหล่ออกมาข้างนอกที่ดู

 แต่เอาเถอะ ...เรื่องยางอะไหล่พอมองข้ามไปได้ ทว่าเรื่องประตูเปิดออกด้านซ้าย นี่คงต้องบอกว่า Stop!!!..  มันไม่ใช่ มันควรจะเปิดออกขวามากกว่าในความเป็นจริง และเป็นเรื่องสำคัญมากต่อการงานที่ควรปรับให้เหมาะกับประเทศที่จำหน่าย ...

มีพี่สื่อในวงการยานยนต์แอบเม้าท์กับผมว่า จะคิดอะไรมาก  ford  ไม่มีทางปรับเพราะมันเป็นการออกแบบเพื่อขายทั่วโลก แต่เรื่องนี้ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะถ้าคิดจะพับข้างแบบประตูตู้เย็นแล้วก็ก็ควรที่จะปรับการออกแบบให้เหมาะสมต่อประเทศที่วางจำหน่ายด้วย ไม่งั้นก็ทำแบบเปิดขึ้นบนเหมือนชาวบ้านเขาไป จบ...

ภายในออพชั่นหลายๆอย่างค่อนข้างมีความลงตัว เรื่องการนั่งทำได้ดีทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงมูนรูฟที่แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็ให้มาในรถราคา 8 แสนกลางๆ ถือว่าเป็นโจทย์ที่ทำให้เราอึ้งได้ไม่น้อยเช่นกัน

Ford Eco Sport

แต่เรื่องที่อยากจะขอร้องสุดท้ายเลย คือ การกลับไปทำการบ้านเรื่องเครื่องยนต์ 1.5  ลิตร ถ้ามันจะอืดขนาดนี้จะซดน้ำมันจนไม่เหมาะที่ใช้กับว่า Eco Sport  ที่เป็นชื่อรุ่นรถ ก็ควรจะหาตัวเลือกอื่น อาจจะเป็นเครื่อง 1.6  ลิตร ที่น่าจะกระฉับกระเฉงกว่านี้ไหม ...

หากที่ช้ำใจสุดคือหลายตลาดรอบบ้านๆเรา Ford Eco Sport มาพร้อมเครื่องยนต์  Ecoboost เจ้าขุมพลัง  3  สูบแถวเรียงเครื่อง 1.0 ลิตร ซึ่งบ้านเรามีเป็นรุ่นเครื่องเคียงใน Ford fiesta  แต่กลับไม่ยอมนำมาทำตลาดในอเนกประสงค์  ford Eco Sport  ซึ่งเครื่องรุ่นนี้เป็นตัวชูโรงที่สำคัญในรถรุ่นนี้

แน่นอนว่า การไม่  Eco  คือ ประหยัด จากที่เราพิสูจน์อัตราประหยัดมา โดยเฉพาะตัวเลข  9.4  ก.ม./ลิตรในเมือง รวมถึงความไม่สปอร์ต จากอัตราที่ค่อนข้างไปทางความอืดอาดนั้น ทำให้  Ford Eco Sport  เป็นรถที่เหมือนลงตัวแต่ไม่ลงตัวอย่างน่าเสียดาย

หนทางหนึ่งที่สามารถแก้ได้เลย ก็คงการกลับไปปรับรีวิวเรื่องของความเหมาะสมกำลังเครื่องยนต์ใหม่สักนิด และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ทดสอบรถมาเลยที่ต้องบอกว่า มันต้องมีกำลังเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย หรือไม่ ถ้าคิดว่ารถขายได้หักคอเอาเครื่อง Eco Boost 1.0 มายัดลงไปเสีย จะดีกว่า

ในภาพรวม Ford Eco Sport   เป็นรถอเนกประสงค์ที่ออพชั่นดีมีความลงตัวเรื่องการออกแบบ ทุกอย่างล้วนดูเพอร์เฟ็คในเรื่องการใช้งาน เหลือเพียงอย่างเดียวที่ไม่ลงตัวนั่นคือสมรรถนะของกำลังเครื่องยนต์

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ขอบคุณ ฟอร์ดประเทศไทยที่เอื้อเฟื้อ รถทดสอบ  Ford Ecosport Titanium

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

 

ผลการทดสอบรถ  Ford Eco sport

รถทดสอบ  Ford Ecosport Titanium

ราคาจำหน่าย   829,000 บาท

สื่งที่ชอบ  : การออกแบบภายนอกที่ดูดี ภายในที่จัดออพชั่นมาเต็ม

สิ้งที่ไม่ชอบ : กำลังเครื่องยนต์ดูน้อยไปนิด ทำให้รถดูอืดอาดมากไป และ อันตรายในบางจังหวะ

สิ่งที่อยากให้มี : ช่วยกลับไปพิจารณาเรื่องกำลังเครื่องยนต์ โดยเฉพาะหากเป้นไปได้ นำรุ่น Eco Boost  มาขายเถอะ

 

รายงานการทำงานของเครื่องยนต์ที่เกียร์สูงสุด

ความที่ขับขี่  (ก.ม./ช.ม.)  

รอบเครื่องยนต์ ที่เกียร์  6  

90

2300

100

2500

110

2800

120

3100

 

อัตราประหยัด

ในเมือง

 9.4  ก.ม./ลิตร

นอกเมือง

12.2  ก.ม./ลิตร

 

การทดสอบอัตราเร่ง

 

ครั้งที่ 1

ครั้งที่ 2

ครั้งที่ 3

เฉลี่ย

0-100 ก.ม./ช.ม

14.06

15.00

13.98

14.35

80-120 ก.ม./ช.ม

11.10

10.00

11.00

10.70

[GALLERY496]

5 เรื่องน่าสนใจ