Hands on : Subaru Forester 2016 iP ลองจัดน้องใหม่ การเปลี่ยนแปลงอันแสนหวาน
- โดย : Autodeft
- 21 มี.ค. 59 00:00
- 21,081 อ่าน
ถามถึงรถยนต์อเนกประสงค์ที่วางจำหน่ายในตลาดบ้านเรา น้อยคนนักจะนึกถึงแบรนด์รถยนต์ Subaru ที่ขึ้นชื่อในเรื่องสมรรนถะการขับขี่ที่ไว้วางใจได้ แม้ระยะหลังตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์ Subaru XV มา จะทำให้ชื่อเสียงค่ายรถยนต์รายนี้กระเตื้องมากข้นเข้ามาอยู่ในใจใครหลายคน ทว่าอเนกประสงค์พันธ์แท้อย่าง Subaru Forester กลับไม่ค่อยได้เห็นบนถนนมากนัก
“เราจะนำมันมาประกอบในภูมิภาคภายในปี 2014” ประโยคนี้ยังจำได้ขึ้นใจจนวันนี้ ย้อนไป 3 ปีที่แล้วโดยประมาณ เมื่อ Subaru เริ่มเห็นความนิยมใน Subaru XV และ Subaru Forester ในฐานะชายกลางที่มีชื่อเสียงระดับโลก น่าจะมีทิศทางที่ดีตามกระแสรถยนต์นั่งอเนกประสงค์กำลังนิยมในตลาดโลก การตอบโจทย์ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่า และ ความสามารถในการขับขี่มากกว่า ในราคาที่พอเอื้อมถึงได้เป็นสิ่งที่ทำให้แผนธุรกิจของเครือตันจง ก้าวย่างอย่างรวดเร็ว และวันนี้มันพร้อมแล้ว
เจอหน้าครั้งแรก Subaru Forester 2016 ใหม่ เริ่มต้นการออกแบบใหม่ที่ลงตัวในความทันสมัยมากขึ้น ทาง Subaru จัดการเปลี่ยนกระจังหน้ารถให้ดูลงตัวมากขึ้น เช่นเดียวกับกันชนหน้าใหม่ และไฟหน้าใหม่ที่ลงตัวในแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Light ภายในโคม
ตัวโคมเองถึงจะดูลงตัวแต่ก็ยังให้อะไรมากกว่า ด้วยระบบ Steering Responsive Headlight (SRH) สามารถเลี้ยวตามการหมุนพวงมาลัย เพิ่มการส่องสว่างในยามขับขี่กลางคืนด้วยไฟหน้า LED ส่วนการเปลี่ยนแปลงอื่นๆที่สำคัญ คือด้านหลังได้ไฟท้ายใหม่ พร้อมไฟตัดหมอกในตัว และกระจกมองข้าง มีไฟ LED บอกการเปลี่ยนทิศทางและปรับพับไฟฟ้า และที่จะลืมพูดไม่ได้คือประตูหลังไฟฟ้า
เรื่องมิติตัวถังไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิม ตัว Subaru Forester 2016 มาพร้อมความยาว 4,610 มม. กว้าง 1,795 มม และสูง 1,735 มม. ตัวรถยังคงระยะฐานล้อ 2,640 มม. รุ่นใหม่เปลี่ยนล้อมาใช้ขอบ 17 นิ้ว สีสันทูโทนหน้าเงา แตกต่างจากการออกแบบในรุ่นที่เปิดตัวญี่ปุ่นนิดหน่อย แล้วส่งตรงจากมาเลเซีย ด้วยยาง Continental ขนาด 225/60/R17
ได้เวลา เปิดประตู่สู่ห้องโดยสาร 2016 Subaru Forester iP ต้อนรับด้วยการออกแบบครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะที่ขาดไม่ได้คือ ระบบ Pin Code Access ใช้รหัส 5 หลักในการเข้ารถ และยังสามารถทำงานได้แบบ Smart Entry ด้วยเช่นกัน
ภายในห้องโดยสาร ในภาพรวมยังคงความเป็นอเนกประสงค์ด้วยรูปแบบที่คุ้นเคยในความสบายสูงสุดในการขับขี่ เริ่มจากการออกแบบให้ความรู้สึกสปอร์ตทันสมัย เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมเมมโมรี่ 2 โปรแกรม ส่วนฝั่งคนนั่งเป็นเบาะนั่งปรับไฟฟ้าเช่นกัน
ตรงหน้าคนขับบอกการขับขี่ด้วยเรือนไมล์สไตล์สปอร์ต ควบคุมมั่นใจผ่านพวงมาลัย 3 ก้าน และ มีปุ่มสวิทช์ต่างๆบนพวงมาลัย ได้แก่ การควบคุมระบบเครื่องเสียงภายในรถ , การควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) และท้ายสุดควบโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ระหว่าง I (Intelligent) และ S (Sport) เพื่อการขับขี่อันเร้าใจ แถมด้านหลังมีแป้น Paddle Shift มาให้ขับสนุกมากข้น
ปุ่มสตาร์ทช่วยให้มันรู้สึกดูสปอร์ตมากขึ้น เหลียวรอบๆ อย่างเร็วๆ Subaru Forester ใหม่ เปลี่ยนแปลงระบบเครื่องเสียงภายในรถ อัพเดทการใช้งานทำงานผ่านจอสัมผัสให้ความลงตัวมากกว่าเดิม ถัดลงมาเป็นระบบปรับอากาศแบบแยกโซน ส่วนตรงคันเกียร์เพิ่มเติมปุ่ม X- Mode ผู้ช่วยในการลุยเข้ามา ส่วนจอแสดงข้อมูลตรงกลางยังมีครบให้ได้ดูเหมือนเคย
แอบเหล่กระจกหลัง เรื่องพื้นที่การนั่งผู้โดยสารตอนหลังน่าจะเรียกว่านั่งสบายหายห่วง ก่อนมาขึ้นขับผมแอบไปลองนั่งหลังเอนนิดหน่อย อยู่ในจุดที่สบายพอสมควร เข็มขัดนิรภัยก็ให้ 3 จุดทุกที่นั่ง รวมถึงเบาะนั่งตอนหลัง สามารถปรับพับได้ในอัตรา 60/40 น่าเสียดาย ที่มันมีเพียง 5 ที่นั่งขาดเบาะแถว 3 ทำให้บางคนมองข้ามรถรุ่นนี้ไปในทันที
ใต้ฝากระโปรงเป็นขุมพลัง Boxer แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ไม่เปลี่ยนแปลงเรื่องกำลังขับขี่ สูงสุดที่ 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 198 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที กำลังที่ไม่มากมายนี้เน้นความนุ่มนวลในการขับขี่มากกว่า ด้วยระบบเกียร์ Lineartronic CVT ซึ่งแม้เราจะไม่ค้นพบการเปลี่ยนในเรื่องสมรรถนะการขับขี่ แต่ทางคุณ ทาคูจิ ดาอิ ประธานฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ และรองประธานฝ่ายองค์กรของ Subaru กล่าวกับเราก่อนลองขับว่า พวกเขาจัดการปรับการตั้งค่าการทำงานของเกียร์ CVT ใหม่ มันเงียบขึ้นและนุ่มนวลมากขึ้นกว่าเดิม
เราพร้อมแล้ว วันนี้มีผู้โดยสารรวมผู้ขับขี่คือผมเอง อยู่ในรถทั้งสิ้น 5 คน โดยทาง Subaru ต้องการให้เราเห็นสมรรถนะของรถมากขึ้น เลยจัดการลงทุนเนรมิตถนนริมทะเลสาบเมืองทองกลายเป็นสนามขับทดสอบเจ้า Subaru Forester ใหม่
คำถามหนึ่งที่ผมอดไม่ได้ที่จะถาม คุณทาคูจิ คือ เมื่อเทียบกับ Subaru XV เจ้า Subaru Forester มันแตกต่างกันอย่างไร ..เขาตอบสั้นๆ แต่เข้าใจได้ง่ายมากๆว่า มันแตกต่างในเรื่องพื้นที่การใช้งาน ระหว่างเพื่อการลุยและบนถนนธรรมดาทั่วไป ซึ่ง Forester จะเน้นการขับขี่บนเส้นทางที่ทรหดมากกว่า
ออกตัวสตาร์ท!!! สัมผัสแรกของ Subaru Forester ทำให้เราประทับใจทันที คงไม่พ้นความรู้สึกจากพวงมาลัยในการบังคับทิศทาง มันมีน้ำหนักเบาและหมุนได้ง่ายมากๆแถมยังเฉียบคมในการบังคับทิศทาง ด้วยการใช้ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion พร้อมชุดพวงมาลัยไฟฟ้าทำให้ง่ายต่อการควบคุม
น้ำหนักที่เบาน่าจะทำให้หญิงสาวนักขับชื่นชอบมันอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะเมื่อรถคันนี้ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยระบบ Active Torque Split AWD (All Wheel Drive)
การขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลานี่เอง เป็นไฮไลท์สำคัญการขับขี่ในวันนี้ และ Subaru Forester ตอบสนองต่อเส้นทางอันโหดหินอย่างมั่นใจ โดยเฉพาะบุคลิกของเครื่องยนต์แบบ Boxer ด้วยการมีแรงเหวี่ยงขณะเข้าโค้งน้อยกว่า ให้ความมั่นใจในการเดินทางทั้งที่เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ มีความสูงใหญ่ แต่ขณะขับขี่จะรู้สึกได้ทันทีว่ามันไม่ค่อยเหวี่ยง แม้จะเข้าโค้งด้วยความรุนแรงพอสมควร รวมถึงการทำงานของเครื่อง Boxer ด้วยการวางสูบตรงข้ามกัน ช่วยลดอาการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการทำงานของเครื่องยนต์ ช่วยลดความรู้สึกตรึงเครียดในการโดยสาร แม้คนขับจะกำลังสนุกสนานกับเส้นทางการขี่
เสียงเล็กๆ จากคนนั่ง สวัสดีค่ะ เดือนเองค่ะ ต้องยอมรับนะคะว่า นี่คือ Subaru จริงๆ สำหรับเดือนเอง Subaru คันนี้เป็นคันที่ 2 ที่มีโอกาส ขับ คันแรกคือ Subaru Outback คันนั้นพวงมาลัยค่อนข้างหนักมากค่ะ Bonn อธิบายว่า เพราะมันเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่เจ้า Subaru Forester นี้ ผิดคาดมากค่ะ พวงมาลัยเบา ค่อนข้างขับง่ายพอสมควรเลยทีเดียว แต่ให้เดือนมาขับทางฝุ่นลุยๆแบบนี้ นี่ก็ครั้งแรกเหมือนกันค่ะ เคยแต่นั่งที่ Bonn ขับ ยอมรับว่าค่อนข้างยาก ยิ่งพวงมาลัยเบามือแบบนี้เดือนรู้สึกแปลกๆนะ มันไม่ค่อยมั่นใจเมื่อยามต้องขับบนถนนแบบนี้ เดือนบอกตามตรงว่ากลัวมันควบคุมไม่ได้ แม้ว่าจะรู้ว่ารถเอาอยู่ และมีผู้ช่วยในการขับขี่พร้อม แต่เดือนว่าอาจจะดีกว่านี้ ถ้ามันหนักเมื่อต้องลุยทางแบบนี้ ...จะว่าขัดแย้งระหว่างกันก็ใช่ค่ะ ส่วนเรื่องอื่นเดือนว่า Subaru Forester นั้นค่อนข้างจะลงมากถึงมากที่สุด ที่นั่งหลังไม่เอนมากไป สำหรับเดือนว่าเอนระดับนี้กำลังดีสบายๆ หลับง่ายเลยค่ะ แถมจะบอกว่า สบายกว่า Subaru Outback แต่ถ้านั่งหลังอัด 3 คน อาจจะอึดอัดนิดหน่อย และท้ายสุดเดือนว่า เสียงในห้องโดยสารค่อนข้างเงียบมากเลย ล่ะค่ะ
....................... ผมเต้ยครับ ...เต้ยหลอกไปลุย ...แหม!! นาย Bonn เขาตั้งให้ สำหรับผม การกลับมาของ Subaru Forester รุ่นปรับโฉมนี้ นอกจากจะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอก ภายใน แล้ว สิ่งหนึ่ง ที่อยากจะบอกเลยคือด้วยขนาดของขุมพลัง 2 ลิตร 150 แรงม้า (คาดว่าจะเป็นเครื่องเดียวกับรุ่น XV) ให้พลังในการตอบสนองที่ดีในทุกย่านความเร็ว อีกหนึ่งความดีที่น่ายกย่องก็คือ ระบบพวงมาลัยที่หันมาคบแบบไฟฟ้า น้ำหนักของพวงมาลัยอยู่เกณฑ์ดีเยี่ยม คมทุกการเข้าโค้งและใช้งานในเมืองเหมาะมากสำหรับสุภาพสตรี ด้านช่วงล่าง นุ่มในทุกสภาพถนน ซึ่งรวมถึงเส้นทางขรุขระ มีหินกรวดทราย ด้วยราคา 1.398-1.498 ล้านบาท ถือว่าถูกและคุ้ม แต่ งานนี้แฟนๆเหล่าสาวกลูกไก่ขาลุย ต้องชั่งน้ำหนักแล้วหละครับจะเลือกรุ่นไหนดี จะ XVหรือ Forester งานนี้รักพี่เสียดายน้องต้องเกิดขึ้นแน่นอน |
ความสนุกสนานในการขับขี่นอกจากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่พาลมาพบกับเครื่องยนต์ที่มีศูนย์ถ่วงต่ำและแรงเหวี่ยงน้อยในยามขับขี่แล้ว ระบบกันสะเทือนของ Subaru Forester ใหม่ ถือว่าเป็นอีกทีเด็ดซ่อนอยู่ในอเนกประสงค์คันนี้ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบดับเบิ้ลวิชโบน ช่วยทำหน้าที่ควบคุมตัวรถให้ความมั่นใจในการขับขี่ จากที่สัมผัสเมื่อเทียบกับรุ่นเดิมมันให้ความรู้สึกมั่นใจและยังนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งในสภาพถนนลื่นเช่นนี้ มันง่ายมากที่คุณจะเดินทางด้วยความเร็ว และในกรณีที่คุณพลาดพลั้งไปบ้างก็ไม่น่ากังวล เพราระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวขณะเข้าโค้ง จะเข้ามารับบทบาทหน้าที่ดูแลคุณตลอดการเดินทาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะไม่มีโอกาสที่จะหลุด หรือหมุนเลย เพราะ รถอย่างไรก็คือรถ ต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวังเสมอ แม้จะมีผู้ช่วยในระหว่างการขับขี่มากมายก็ตาม
ความสนุกสนานในการขับขี่เป็นสิ่งที่เราประทับใจ และเมื่อขับรอบที่ 2 เราค้นพบว่า เจ้า Subaru Forester มีดีมากกว่าเดิมโดยเฉพาะในเรื่องการเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร ผมขับเร็วขึ้น เข้าโค้งเร็วขึ้น ล้อและยางบดหินอย่างเมามัน แต่ภายในห้องโดยสารกลับเงียบ คุณสามารถคุยกันได้แม้จะขับบนเส้นทางลุยๆแบบนี้ มันยิ่งน่าประทับใจ
ลองลุยโหด... Subaru Forester ก็ไปได้
ขับทางฝุ่นเสร็จ...เราย้ายมายังสถานีการขับขี่ออฟโรด สถานีนี้เป็นการจำลองรูปแบบการขับรถลุยพื้นฐานทางออฟโรด
แม้ว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาจะเป็นพระเอกสำคัญในการขับขี่ทุกเส้นทางของ Subaru Forester แต่เมื่อต้องลุยเจ้าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อก็ยังจำเป็นอาจจะต้องมีผู้ช่วยในการขับขี่ สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตในเมือง การออกไปบุกป่าฝ่าดง อาจจะไม่เรื่องถนัดมากนัก หากคุณมีทักษะการขับขี่ในเส้นทางออฟโรด ก็คงจะดีใช่น้อย แต่ถ้าคุณไม่เคยขับมาก่อน จะทำอย่างไร....
X- Mode คือคำตอบนั้นเมื่อคุณขับขี่รถยนต์ Subaru Forester คุณสามารถกดใช้มันได้ที่บริเวณคันเกียร์ โดยระบบจะเข้ามาช่วยในการควบคุมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ และเครื่องยนต์ รวมถึงระบบความปลอดภัยอื่นๆ ภายในรถ เพื่อพาคุณฝ่าฟันทางสุดโหดที่กำลังเผชิญง่ายดายยิ่งขึ้น
ไม่ว่าคุณจะลุยสมบุกสมบัน จนล้อลอยจากพื้นและต้องลุยต่อด้วยสามล้อที่เหลือ หรือ คุณติดหล่มและดิ้นไม่หลุด ระบบจะจัดการการถ่ายกำลังรถให้โดยอัตโนมัติ รวมถึงมันยังช่วยจัดการยามคุณลงเขา ด้วยการทำงานพร้อมระบบ Hill Decent Control ซึ่งคุณไม่จำเป็นจะต้องมีความรู้ในเรื่องการลุยเลย ก็สามารถพาตัวเองและครอบครัวเข้าไปในเส้นทางสุดโหดเยี่ยมชมธรรมชาติ และกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย ....สมชื่อนักท่องป่า “Forester”
Subaru Forester 2016 ลงตัวพร้อมลุยกว่า ในราคาคุ้มค่ากว่าเดิม
การเปิดราคาจำหน่ายใหม่ ทำให้ Subaru Forester ใหม่มีความน่าสนใจขึ้นมาทันที ด้วยค่าตัว 1.498 ล้านบาท อาจจะไม่ได้ถูกกว่าเดิม แต่กลับกันมันอัดแน่นด้วยความคุ้มค่าจากออฟชั่นต่างที่มาแบบจัดเต็มกว่าเดิม
ด้วยแนวทางของ Subaru ที่เปลี่ยนแปลงให้ Subaru Forester ใหม่มีความสปอร์ตทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทำให้รถคันนี้ทันสมัยมากขึ้น จากออพชั่นต่างๆที่มาแบบจัดเต็มจนจุใจ ถึงราคาจำหน่ายจะมากกว่าครอสโอเวอร์รุ่นอื่น แต่เมื่อคุณมีโอกาสขับมัน ซึ่งให้ความลงตัวตรงกลางพอดีระหว่างความสบายและการขับขี่อันสนุกสนานในระดับหนึ่งจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และดีพอหากต้องการเข้าไปใช้วันว่างปลีกวิเวกจากความวุ่นวายของวิถีคนเมืองในปัจจุบันไปดื่มด่ำธรรมชาติจริงๆ
Subaru Forester ใหม่เป็นรถยนต์ที่มีความลงตัวในการขับขี่ด้วยออพชั่นที่มีมากขึ้น และไม่ดูกระเบียดกระเสียนในเรื่องงบประมาณเพื่อทำราคาให้น่าสนใจเหมือนรุ่นก่อน หากรุ่นนี้คุณได้ทุกอย่างมาแบบจัดเต็มด้วยของเล่นเจ๋งๆมากมาย เพียงแต่คุณต้องรับข้อเดียวของรถรุ่นนี้ให้ได้ คือ “มันเกิดในมาเลเซีย” ...ไม่ได้ผลิตที่ญี่ปุ่น (ยกเว้นรุ่นเทอร์โบ)
เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง Fan page ,Twiter (@nattayodc), Blog ส่วนตัว
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
รถทดสอบ Subaru Forester 2016 i-P
ราคาจำหน่าย 1,498,000 บาท
สิ่งที่ชอบ >> สมรรนถะการขับขี่ที่ยังคงลงตัว จากเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และออพชั่นความทันสมัยและหน้าตาที่ดูดีขึ้น ในราคาจำหน่ายที่บวกเพิ่มกว่าเดิมเพียง 8,000 บาทโดยประมาณ
สิ่งที่ไม่ชอบ >> ยังไม่มีความเห็น
สิ่งที่อยากให้มี >>> เบาะนั่งแถวที่ 3 และออพชั่นทางด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่น่าจะเพิ่มเข้ามามากกว่านี้ โดยเฉพาะการติดตั้งระบบ Subaru Eyesight
คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ >> ราคาใหม่ของ Subaru Forester ในสายตาผมมันคือราคาที่คุ้มค่าลงตัวมากขึ้น คุณได้ออพชั่นต่างๆมากมาย น่าเสียดายที่มันรับผู้โดยสารเพียง 5 คน และมีออพชั่นความปลอดภัยน้อยรายการไปหน่อย แต่จะว่าไปด้วยสมรรถนะของรถยนต์ ก็คือมาตรการความปลอดภัยที่สำคัญอยุ่แล้ว ....และที่สำคัญ นี่คือ Subaru