Full Drive : Subaru XV หล่อเข้มลุยเร้าใจ ...
- โดย : Autodeft
- 24 พ.ย. 56 00:00
- 27,086 อ่าน
พบกับบทดสอบของรถอเนกประสงค์ขนาดย่อม ที่หลายคนถามหา เมื่อ Subaru XV ราคาแค่ 1.35 ล้านบาท สมรรถนะ มันจะเป็นเช่นไร
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ค่ายดาวลูกไก่...สมญานามที่หลายน่าจะคุ้นเคยดีเมื่อพูดถึงรถยนต์ที่เปี่ยมสมรรถนะ ที่คนไทยและทั่วโลกรู้จักในนาม “Subaru” แม้ที่ผ่านมา พวกเขาจะประสบความสำเร็จในตลาดสมรรถนะไม่ใช่ ตลาดรถยนต์นั่งทั่วไป แต่เมื่อหัวเรือใหญ่ในต่างประเทศมองว่าพวกเขาทำได้ การเปลี่ยนแปลงจึงเริ่มขึ้น
มหากาพย์ที่นับต่อจากนี้ Subaru จะมาเขย่าวงการรถยนต์มากขึ้น อาจะต้องจับตากันต่อไป แต่ในภาพที่เรากำลังจะได้เห็นต่อจากนี้ รถยนต์ใหม่ที่ดูดีเปี่ยมสมรถนะจากค่ายนี้ก็เริ่มทยอยเข้ามาขาย และหนึ่งในนั้น คือบททดสอบในวันนี้ ที่หลายคนต้องเหลียวตาคล้ายตาม ทุกครั้งที่เห็นมันบนถนนและไม่เชื่อว่านี่คือรถยนต์จากค่าย Subaru ที่พวกเขาขนมาขายในนาม Subaru XV
Subaru XV ไม่ใช่โครงการที่อยู่ดีๆ ค่ายรถยนต์ Subaru นั่งฝันลมๆ แล้งๆ แล้ว ทำขึ้นมาจนกลายเป็นจริง แต่ย้อนไปเกือบกว่า 20 ปีที่แล้ว Subaru ในอเมริกาที่มีคนคบหาไม่น้อย เกิดบ้าพวกแรลลี่สมัยการแข่งขันทางฝุ่นยังเฟื่องฟู มีสาวกค่ายนี้บางคนนำรถ Subaru Impreza รุ่น 5 ประตูไปยกสูง ทั้งที่ตัวแข่ง มันเป็นรุ่น 4 ประตู แต่ทำไปทำมา มีหลายคนทำตามเพราะมันดูดีแบบฉบับ ความอเนกประสงค์ที่ลุยได้ ทาง Subaru อเมริกา จึงเริ่มทำรุ่นพิเศษที่เรียกว่า “Subaru Outback Sport”
ความนิยมอย่างมากในเมริกา ทำให้ทางฝั่งญี่ปุ่นมาลองทำดูบ้างและขายในนาม Subaru Impreza Gravel Express ซึ่งไปขายในบางประเทศที่มีสถานที่ให้ลุย อย่างในออสเตรเลีย ในเรือนร่าง 5 ประตู มาพร้อมเครื่องยนต์เดียวกับตัว WRX ทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ติดตัวมาด้วย แต่มันจะสูงกว่า Subaru Impreza เดิมนิดหน่อย เพื่อให้ฝ่าฟันทางโหดได้ แต่ยังไม่เท่าตัวแรลลี่ ทว่าด้วยสมรรถนะเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มันก็มีสมรรถนะที่ไม่น้อยหน้าใคร
แม้ช่วงที่ Subaru Impreza Gravel Express ออกมามันจะขายได้จำนวนไม่มาก แต่ก็เป็นตัวบ่งชี้ว่ายังมีตลาดกลุ่มใหม่ที่รอรถยนต์ที่ลุยได้และมีอเนกประสงค์ในตัว จวบเมื่อเวลาเหมาะเจาะ Subaru ก็ไม่รอช้าและนำมันกลับมาในนาม Subaru XV
Subaru Gravel Express
เรือนร่างสปอร์ตเก๋ง แต่ดูลุย
ตั้งแต่ที่เห็นในโทรทัศน์ จากการ โฆษณาผ่านทีวีดาวเทียมตามยุคสมัยโลกไร้พรมแดน มาจนถึงการเปิดตัวต้นแบบในช่วงปลายปี 2011 มนต์เสน่ห์ของ Subaru XV ก็ดูตรึงตาตรึงใจผู้เขียนมาตลอด ด้วยการออกแบบที่ดูสวยงามสง่าจนผิดตาจากพี่น้องร่วมค่าย
เดิมที Subaru ออกแบบรถเวิร์คเท่าไรนัก ด้วยพวกเขาเน้นในความสปอร์ตมาก ถึงมากที่สุด หากใน Subaru XV ใหม่นี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขา ปรับให้มันมีเสน่ห์ในความแตกต่าง เมื่อความสปอร์ตถูกผสานเข้ากับความปราดเปรียว เช่นเดียวกัน ยังดูมีความแข้งแกร่งดุดัน ตั้งแต่ทางด้านหน้า เริ่มจากกระจังหน้าใหม่ ที่ดูลงตัวยิ่งขึ้น ไฟหน้าที่ดูคมเข้มโฉบเฉี่ยวดุดัน ให้เส้นสายฝากระโปรงที่ดูทันสมัยและยังคงความสปอร์ต ต่อเนื่องสู่ด้านข้างผ่านเรือนร่าง 5 ประตู
ส่วนด้านหน้าเสา A มาแบบลาดเอียง ให้ความสปอร์ตที่กลมกลืนลงตัว คล้ายรถเก๋ง บนหลังคามีราวหลังคาพร้อมสำหรับพ่อนักขนทั้งทั้งหลายต่อเนื่องสู่ด้าน ที่ทั้งหมด ยังคงความสปอร์ตสามารถเห็นได้จากกันชนท้ายที่มีชุดดิฟฟิวเซอร์รีดอากาศมาพร้อมกัน ไฟท้ายที่ดูเหลี่ยมให้ความถึก แต่ยังดูสปอร์ตเช่นกัน และชายกันชนสีดำด้านเพิ่มความดูดัน ที่ยังต่อเนื่องสู่สเกิร์ตข้าง แก้มข้าง และด้านหน้า กลมกลืนเข้ากับล้ออัลลอย ขอบ 17 นิ้ว สุดเท่ห์ ที่ดูดีในแบบเรียบง่าย จนหลายคนบอก ขอแม็กซ์นี้ไปใส่ได้หรือเปล่า !!
แต่ ทั้งหมดของเรือนร่างยังอยู่ภายใต้การออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดกำลังพอดี ด้วยพิกัดยาว 4450 ม.ม. กว้าง 1780 ม.ม. และสูงเพียง 1600 ม.ม. ตอบโจทย์เรื่องขับขี่จัดวางฐานล้อยาวเพียง 2635 ม.ม. และมันมีระยะสูงจากพื้นต่ำสุด 220 ม.ม. ใกล้เคียงรถลุยบางรุ่น แต่ยังไม่เท่ากระบะยุคนี้
ห้องโดยสารกลมกลืม ปรับตัวในความสปอร์ต
เมื่อเปิดประตูสู่ห้องโดยสาร Subaru XV ให้ ความเป็นปัจเจกในเรื่องการออกแบบด้วยการใส่ความสปอร์ตอย่างกลมกลืน สัมผัสแรกที่รู้สึกได้ คุณจะไม่คิดว่ามันเป็นรถอเนกประสงค์ แต่กลับจะนึกถึงความเป็นรถเก๋งคอมแพ็คคาร์มากกว่า
การให้รายละเอียดภายในด้วยการออกแบบทั้งหมดเป็นสีดำ ให้ มันมีความเชื่อมโยงกับภายนอก แต่ก็ยังให้ความรู้สึกดูหรูหราด้วยเช่นกันในจิตวิญญาณ
การใช้วัสดุถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางยังไม่ดีเท่าที่คิดนัก สมน้ำสมเนื้อกับราคา แต่ไปหนักพวกออพชั่นเริ่มจาก พวงมาลัยมัลติฟังชั่นทางฝั่งซ้ายเป็นการควบคุมระบบความบันเทิง และรับหรือวางโทรศัพท์ ฝั่งขวาเป็นการทำงานของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และขาดไม่ได้กับ Paddle Shift แตะแล้วเปลี่ยนให้ความเร้าใจในการขับขี่
ตรงหน้ามาตรวัดมาพร้อมจอแสดงผลขนาดเล็ก บอกข้อมูลที่จำเป็นต่อการขับขี่ เช่นเดียวกับตรงกลางคอนโซลหน้าจะมีข้อมูลอีกชุดหนึ่ง
ถัดลงมาเป็นระบบเครื่องเสียงเน้นใช้งานง่ายดูดีมากขึ้นเมื่อได้การให้รายละเอียดจาดชุดพลาสติก รวมถึง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แต่ที่ไม่เข้าใจเป็นช่องเก็บของออกแบบมาดี แต่ช่องลึกไปเล็กน้อย และถัดมาเป็นคันเกียร์ ที่ตัดด้วยเมทัลให้ความสปอร์ต ยิ่งได้หัวเกียร์ที่ดูจุ๋มจิ๋มน่ารัก
เบาะนั่งด้านหน้าให้ความสปอร์ตจำแลงมาจากรถ Subaru Impreza เป็นแบบผ้าสีดำ ส่วนด้านหลังก็เช่นกัน แต่ด้วยการให้ฐานล้อที่ค่อนข้างยาวพอสมควร 2635 ม.ม. ก็ทำให้มันขึ้นลงง่าย และการจัดวางท่านั่งผู้โดยสารก็อยู่ในเกณฑ์ที่สบายพอสมควร ระยะเหนือหัว ระยะวางขา ทำได้ดีเกินคาด และที่หัวหมอนเบาะหน้า ยังมีจอเอาไว้ดูหนังไม่ ต้องตบตีทะเลาะเบาะแว้งให้เมื่อยตุ้ม ต่างคนต่างจอ แต่คนตรงกลางส่วนเกินแบบเราสองสามคนต้องมองถนนต่อไป
ถ้าเมื่อไร ต้องการที่จะเปลี่ยนจากขนคนมาเป็นขนของ เบาะหลัง Subaru XVที่นั่งสบายก็สามารถปรับพับได้ และมันน่าจะถูกใจพวกสาวกสองล้อนักปั่นทั้งหลาย เพราะ คุณสามารถโยนเสือภูเขาหรือเสือหมอบไปในรถ ทั้งคันได้โดยไม่ต้องถอดล้อ หรือคิดการใหญ่ไปเที่ยวดูดี๋กับแฟนตามต่างจังหวัดไม่มีที่พัก ถ้ารถคุณติดฟิลม์มืดพอบังสายตา พับเบาะ กางที่นอนปิคนิกล็อกรถนอน ก็ยังได้ ....
สมรรถนะเกินราคา ...ตะลุยป่าคอนกรีตกันโดนใจ
ทุกวันนี้การใช้รถยนต์ของคนเมืองมีการปรับตัวเปลี่ยนไปอย่างมาก ทิศทางที่รถยนต์ต้องประหยัด ยังคงเป็นอะไรที่เถียงไม่ออก แต่เช่นเดียวกัน มันต้องมีฟังชั่นใช้งานที่หลากหลาย ไม่แปลกใจเลยที่ค่ายรถยนต์รายใหญ่ ต่างดาหน้าผลิตรถยนต์กลุ่มเดียวกับ Subaru XV
มันเป็นรถเก๋งก็ใช่ รถอเนกประสงค์ไม่เชิง น่าจะเป็นสิ่งที่นิยาม Subaru XV ได้ และเมื่อคุณเปรียว ยืนรออำลาเรา พร้อมคำว่า “ขอให้ขับทดสอบ” ให้สนุกนะคะ !! บททดสอบ Subaru XV ก็เริ่มต้นขึ้น
หลายคนที่เห็นความหล่อของมันก็ย่อมมีคำถามเรื่องสมรถนะการขับขี่ แม้ชื่อเสียง Subaru จะเป็นเครื่องที่การันตีว่า สมรรถนะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แต่มีน้อยคนที่จะได้เคยสัมผัสยังคงเป็นคำถามอยู่
ขุมพลังใต้ฝากระโปรงยังคงตัวตนความเป็นปัจเจกของค่ายนี้ ด้วยเครื่องยนต์ Boxer ถ่ายทอดตำนานรถยนต์นั่งที่ทรงสมรรถนะในการขับขี่ เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร มาพร้อมกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุดที่ 195 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังลงระบบเกียร์ Linear CVT มีอัตราทดทั้งสิ้น 6 สปีด ตอบสนองการขับขี่ในเจ้าตัวลุยคันนี้
การเกิดมาเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ดีทั้งเมืองและนอกเมือง ทำให้ มันต้องเจออุปสรรคสำคัญ อย่างการขับขี่ในเมือง ซึ่ง ตั้งแต่เคลื่อนรถออกมา ความรู้สึกแรกที่สัมผัสเป็นอารมณ์ถึกแบบหนักๆ รถเคลื่อนตัวได้ แต่ไม่ให้ความรู้สึกพุ่งทะยานในรอบต่ำ ซึ่งเข้าใจว่าอาจจะมาจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ให้มาเป็นมาตรฐาน แต่การทำงานแบบ Active Torque Split AWD ซึ่งจะแบ่งอัตรากำลังระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง 60 /40 และทำงานแบบ Real Time ในการส่งสัญญาณ เพื่อกระจายกำลัง ผ่านในชุดเกียร์ที่มีระบบควบคุม MP-T หรือ Multi Plate Transfer ทำให้ในยามจริงมันไม่ได้เป็นปัญหา แม้รถจะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็ตาม
ระหว่างทางก็คิดไป ด้วยในเมืองในเมืองการขับแบบเร่งๆ เบรก ถ้ารถมีอาการหนักๆ แบบนี้ ดูจะไม่ค่อยสมความเป็น Subaru ว่าแล้ว ก็นึกว่าอาจจะเป็นไปได้ที่มาจากระบบเกียร์ อัตราทดของเกียร์ CVT ของ Subaru 6 สปีด ให้อัตราทดตั้งแต่ 3.581 และสูงสุดที่ 0.570 ขับลงชุดเฟืองท้ายเบอร์ 3.7 ซึ่งจะว่าไปเฟืองท้าแบบนี้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไรต่อการขับขี่ในเมือง
เฟืองท้ายเบอร์สูงเมื่อมากับเครื่องยนต์แรงบิดไม่มากมายนัก ก็ทำให้ รถจะรู้สึกหนักๆ ซึ่ง Subaru XV อาจจะดูไม่กระฉับกระเฉง ถ้าเริ่มในรอบเครื่องยนต์ต่ำ แต่เมื่อ คุณได้รอบเครื่องสัก 2,000 รอบต่อนาที มันก็ดูดีขึ้น
ระบบพวงมาลัยแบบ Rack & Pinion พร้อมระบบไฟฟ้าช่วยในการทำงานทำหน้าที่ได้ดี แม้จะมีน้ำหนักค่อนข้างมากไปหน่อย ถ้าจะให้สุภาพสตรีขับ แต่ช่วงการตอบสนองและระยะฟรีก็ทำได้ดีกำลังเหมาะมือ ระยะเปลี่ยนองศาบังคับล้อค่อนข้างมีความเฉียบคม จากดีเอ็นเอสปอร์ต แต่การใช้กำลังมาก ก็เข้าใจว่ามาจากยาง ซึ่งใช้ยางสปอร์ต ที่ยังมีหน้าสัมผัสใหญ่ขนาด 225/55/R 17
เส้นทางการขับขี่ของเราในงวดนี้ด้วยความอยากรู้เลยผ่านกลางเมืองกันไป ตั้งแต่ลาดพร้าวยันรัชดา ทะลุไปยัง อโศก ก่อตัดเข้าสุขุมวิท แล้วขึ้นทางด่วนออกนอกเมือง ซึ่ง นับเป็นถนนสายหลักๆ ที่หลายคนใช้งาน แม้จะไม่ใช่เวลาในชั่วโมงที่รถติดหนัก แต่เส้นทางเล่นนี้ก็ยังทำให้เรานั่งแช่ในรถได้นานหลายชั่วโมง และเมื่อออกสู่เส้นทางก่อนออกต่างจังหวัดไปทดสอบกันต่อ เราก็ลองเติมน้ำมันวัดอัตราประหยัด แบบคืนถัง หรือ Fill-in ซึ่งเราขับมาทั้งหมด กว่า 114.ก.ม. แลเราเติมน้ำมันไป ทั้งสิ้น 13.202 ลิตร ได้อัตราประหยัด 8.6 ก.ม./ลิตร ซึ่งเป็นสภาพหอนกว่าที่ Subaru เองเคลมไว้ที่ 8.1ลิตร /100 ก.ม.
นอกเมืองยอดเยี่ยมเต็มสมรรถนะให้ความเร้าใจ
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยก็ได้เวลาที่เราจะขับ Subaru XV ใหม่ ออกสู่นอกเมือง ซึ่งการเดินทางในวันนี้ของทีมงาน เรามี่แขกรับเชิญสองคนมาพร้อมการเดินทาง สู่ปลายทางสวนผึ้ง จ.ราชบุรี ที่หลายคนชอบเดินทางไป
ต้องยอมรับว่าในวันทดสอบนั้น รถเดินทางออกต่างจังหวัดค่อนข้างแน่น พอสมควร อาจจะเป็นเพราะมันสามารถหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน จึงเจอรถที่เดินทางไปเที่ยวค่อนข้างเยอะ จนบางช่วงของเส้นทางการจราจรติดขัด ... แต่โดยรวมเราก็เดินทางตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด ความเร็ว 100-120 ก.ม./ช.ม.
ในช่วงนอกเมืองนี้ Subaru XV 2.0 เริ่มแสดงความเป็นตัวตนของมันในลักษณะรถที่เหมาะต่อการเดินทางไกล ชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ระบบช่วงล่าง ที่ด้านหน้าเลือกใช้แบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และ ด้านหลังใช้แบบปีกนกอิสระ 2 ชั้น คล้ายกับรถยนต์นั่งคอมแพ็คคาร์ในยุคปัจจุบัน ที่มักจะมาพร้อมระบบกันสะเทือนในลักษณะเดียว
การเซทออกมาในแบบที่มีความคล้ายกับรถนั่งทำให้ Subaru XV ค่อนข้างมีความนุ่มนวลในการขับขี่แต่ออกไปทางความสปอร์ตหนึบแน่นมากกว่า อย่างชัดเจน ร่องถนนหลายๆครั้งสามารถรู้สึกได้ จากชุดช๊อกและสปริงที่ให้ตอบสนอง ยืดและหดตัวอย่างเร็ว เมื่อบวกยางที่มีหน้ากว้างพอสมควร ทำให้ดูหนืดๆ ไปหน่อย ถ้าขับความเร็วเดินทางปกติ 90-120 ก.ม./ช.ม. เช่นเดียวกับพวงมาลัยที่ยังหนักมืออยู่หน่อยๆ
แต่ถ้าคุณเป็นคนขับรถออกแนวสปอร์ตสักนิด Subaru XV จะเป็นรถที่มีช่วงล่างเหมาะมาก มันตอบสนองในการเปลี่ยนเลนค่อนข้างดี พวงมาลัยก็เบามือลง และการทำความเร็วสูงก็ยังมั่นใจ ที่จริงคงต้องขอบคุณระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ปรับการทำงานตามการใช้งานจริง และยังได้การออกแบบตัวถัง Subaru Dynamic Chassis Control Concept ซึ่งใช้เหล็กแบบ High Tensile เข้ามาช่วยในการสร้างความแข็งแกร่ง ทั้งยังมีน้ำหนักเบา ส่งผลให้ช่วงล่างมีการเกาะถนนมากขึ้น ด้วยการวิศวกรรมช่วงล่างให้ตอบสนองการทำงานอย่างรวดเร็ว เมื่อรวมกับระบบควบคุมการทรงตัว Vehicle Dynamics Control System ช่วยให้ทั้งไม่หน้าดื้อหรือท้ายสะบัด ทำให้ DNA ความสปอร์ตของ Subaru ยังอยู่
ด้านเครื่องยนต์เอง แม้ในเมืองจะแล่นที่รอบความเร็วต่ำได้ไม่สู้ดีนักจากอัตราทดเฟืองท้ายที่ใช้เบอร์ค่อนข้างต่ำไป แต่เวลาล้อหมุนต่อเนื่องในทางหลวง มันกลับดีกว่าและชัดเจนว่าเหมาะมากต่อการขับขี่บนเส้นทางแบบนี้ ระหว่างทางเมื่อใช้ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องเพียง 2100 รอบต่อนาที และ ในช่วง 3000 รอบต่อนาที สามารถทำได้สูงถึง 140 ก.ม./ช.ม.
ช่วงก่อนการทดสอบขับทางไกลผมลองนำ Subaru XV มาทดสอบอัตราเร่ง 0- 100 และ 80-120 ก.ม./ช.ม. ซึ่งเส้นทางทดสอบบนสถานที่ปิดของเราในถนนลาดยาง ได้ผลที่น่าประทับใจ
อัตราเร่ง |
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
0-100 ก.ม./ช.ม. |
14.10 |
13.10 |
12.00 |
13.07 |
80-120 ก.ม./ช.ม. |
8.00 |
7.00 |
7.00 |
7.33 |
*ทดสอบโดยทีมงาน Autodeft ในสถานที่ปิด ถนนแบบลาดยาง นั่ง 2 คน
เวลาทดสอบที่ดีที่สุด ทดสอบด้วย Torque application
และจากการทดสอบ จะพบว่าช่วงออกตัว ของ Subaru XV จากจุดหยุดนิ่งจะค่อนข้างจะช้า และเวลาที่ได้ เมื่อเทียบกับอัตราเร่งแบบช่วงออกตัวแล้วเร่งแซง กลับทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ซึ่งจากตัวเลขที่เป็นทางการ ของ Subaru บอกว่า พวกเขาสามารถทำได้ในเวลา 10.7 วินาที (ไม่ระบุสภาพถนนและลมยาง) แต่สำหรับเรา ตัวเลขที่ได้กับน้ำหนักรถ Subaru XV ที่มีน้ำหนักเปล่า 1,400 กก. มาพร้อมเครื่องขนาด 2.0 ลิตร ถือว่าค่อนข้างอืดไปนิด
ถ้าสังเกตจากการทดสอบที่ทำก่อนออกเดินทาง จะพบว่า Subaru XV จะเร่งดีในช่วงความเร็ว’ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนักเนื่องจาก เครื่องยนต์แบบ Boxer จะทำงานได้ดีในช่วงดังกล่าว เมื่อเครื่องเริ่มได้กำลังรอบเครื่อง รถจะเร่งอย่างรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกับการเดินทางไกล มันหมายถึงการแซงอย่างทันใจบนถนน 4 เลน แต่บนถนน 2 เลน ยังจะต้องอาศัยจังหวะส่งบ้างอย่างทางช่วงเข้าสวนผึ้งเอง นี้จะชัดเจนมากในการต้องใช้ช่วงเร่ง แต่เมื่อคุณรู้จักเครื่องยนต์ รู้จักกำลังก็จะขับง่าย ยิ่งใส่โหมดปรับมือในโหมด M แล้วเลียนิ้วกระดิกที่พวงมาลัย Subaru XV จะให้อำนาจการขับขี่ที่ประทับใจไม่รู้ลืม
ส่วนในเรื่องการห้ามล้อและลดความเร็วก็มั่นใจด้วยระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ ซึ่ง ทางด้านหน้าได้เบรกแบบมีร่องระบายความร้อน ส่วนด้านหลังอาจจะได้จานเบรกแบบ Solid Disc ธรรมดา แต่เมื่อแตะลงไป การทำงานที่คู่กับระบบเบรก ABS 4ช่อง พร้อมการกระจายแรงเบรก EBD อาจจะให้ความรู้สึกเหมือนจะทื่อๆไหลๆ บ้าง แต่เอาเข้าจริงก็สบายใจได้ ด้วยการช่วยเหลือของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ไม่เพียงแค่หยุดดี แต่ยังมีอำนาจในการการหลบมากพอด้วย
ลองเล็กๆ ลุยเบาๆ ป่าชายแดนสวนผึ้ง
ความจริงแล้วการมาสวนผึ้งก็เนื่องจากเราต้องการพา เจ้า Subaru XV มาลุย หลายคนมาที่บอก..จะเอามันมาลุยเขากระโจม หรือ ลุยจุดเดียวที่จะนึกออกได้ แต่เมื่อไม่นานนี้ทางบอล เพิ่งมาทำบุญที่นี่ และเส้นทางที่ตรงยำ Subaru XV มาลุย เส้นทางแบบกรวด ลูกรังนี้ ห่างจากชายแดนไปไม่ไกลนัก ก็พอจะให้ความรู้สึกได้หลายๆ อย่าง
ท่ามกลางป่า Subaru XV และ คน 4 คน ในรถ เรานั่งหัวสั่นคลอน ชนิด ที่หลงอีกที ก็เจอกันพม่า แต่เส้นทางแบบนี้ Subaru XV กลับทำให้เราประทับใจด้วย ช่วงล่างแบบสปอร์ตที่ลุยแล้วไม่รู้สึกสะเทือนจนไส้ไหล และยังให้ความรู้สึกมั่นใจมากกว่า
แถมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเอง ก็ยังใช้งานได้เป็นอย่างดี ตอบนองเร็ว ซึ่งช่วงที่เรามามีฝนลงมาพรำๆ แถมใต้หินแบบนี้ยังเป็นทราย สภาพอากาศ ก็หนาวเย็นน้ำค้างยามกลางวัน เห็นได้ก็ครั้งนี้ ซึ่งถ้าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ตอบสนองไม่ดีจริง เชื่อว่า จะต้องมีลงใช้กำลังความถึกกันบ้างแต่การขับของเราไม่มีติดอุปสรรค และยังสามารถเดินทางไปได้เรื่อยๆ
แม้เส้นทางแบบลูกรังนี้อาจจะไม่ใช่เส้นทางที่โหดนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้ารถสมรรถนะไม่ดี พอ ก็ไม่สามารถที่จะขับเข้ามาแล้วกลับออกไปได้อย่างแน่นอน
สุดท้ายทั้งขับทั้งลุยเรามีระยะทางรวม 667 ก.ม. จากการเติมน้ำมันเต็มพัง และเมื่อหารแล้ว อัตราประหยัดออกมาที่ 11.2 ก.ม./ลิตร จากการขับจริง พร้อมคน 4 คน ถือว่าทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว กับรถยนต์เครื่องยนต์ 2.0 ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
สรุป..ดีเกินคาด..อยากขอ ให้พิจารณา รุ่น 1.6 และ 2.0 Diesel
หลังจากจบบททดสอบ ใน Subaru XV ระหว่างทางกลับจากสวนผึ้ง ก็มานั่งพินิจว่ารถยนต์คันนี้ยังมีอะไรที่ต้องการอีกในเมื่อมันครบครันพร้อมสรรพอยู่แล้ว
ราคา 1.35 ล้านบาท ไม่ใช่ราคาที่แพง ที่จริง ถูกว่า เจ้ารถยนต์อเนกประสงค์หลายรุ่นที่ทำตลาดในปัจจุบัน ด้วยซ้ำ ด้วยการเทียบสมรรถนะ และออพชั่นที่ได้มา แต่ ...ก็ยังมีบางจุดที่ต้องปรับ ซึ่งประการแรกที่ชัดมา และแทบจะเรียกว่า Subaru XV เหมือนชอบฝากรอยรักเอาไว้ ว่า เธอคือของๆ ข้า จากสเกิร์ตข้าง
ด้วยความที่รถสูงไม่มากจนพอจะติดบันไดข้าง ๆไม่ต่ำ เหมือนรถเก๋ง ทำให้เราหลายคนมักไม่ระวังตอนก้าวลง ซึ่งหลังจากการเดินทางลุยได้ฝุ่นแดงๆ เป้นของฝากกลับกทม. พบว่า ช่วงก้าวลง เมื่อหลายคนไม่ระวัง จะได้ฝุ่นข้างรถ ติดด้านหลังกางเกง มาเป็นที่ระลึกทุกครั้งไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรนัก ยิ่งถ้าต้องไปทำงานรับรองว่าไม่สนุกแน่นอน
เช่นเดียวกันพวงมาลัยยังมีความหนักมือไปหน่อย สำหรับการขับในเมือง ควรจะต้องพิจารณากันพอสมควร แต่มันทำตัวดีขึ้นเมื่อขับนอกเมือง แต่พวงมาลัยทีหนัก ทำให้ มันดูไม่คล่องตัวอย่างที่ควรจะเป็นนัก
อย่างไรก็ดี แค่เพียงสองสิ่งที่ยังต้องปรับปรุงไม่ได้หมายความว่า Subaru XV ในภาพ รวมไม่ดี ที่จริง รถมีสมรรถนะที่เลิศกว่าที่คิดเสียอีก จนน่าเสียบดายแทนที่ไม่นำรุ่น ที่อาจจะทำราคาได้ถูกกว่า อย่าง Subaru XV 1.6 ลิตร ซึ่งย่อสมรรถนะเหลือเพียง 114 แรงม้าเข้ามาจำหน่าย
นอกจากนี้ด้วยความเป็นรถเดินทางไกล การพิจารณานำรถรุ่นดีเซลเข้ามาจำหน่ายในไทย ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยเครื่องยนต์ Boxer ที่พัฒนาเป็นดีเซลเทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 147 แรงม้า ใกล้เคียงกับรุ่นที่เราขับแต่น่าจะประหยัดกว่าในแบบเครื่องดีเซล ก็ดูน่าสนใจ เพราะ หลายคนที่รู้ว่าเรานำ Subaru XV มาขับ มักจะถามว่าเป็นเครื่องเบนซินหรือดีเซล
ท้ายสุดการตั้งอัตราดาวน์ 25% ก็ทำให้ Subaru เสียลูกค้า ที่จะเข้ามาคบหา Subaru XV ไปอย่างมากมาย ทั้งที่ราคาไม่ได้แพงอย่างที่คาด หลายคนอยากเป็นเจ้าของแต่ดาวน์สูงไป ก็เลยพลาดจะได้รถสมรรถนะดีออพชั่นเต็มๆไปอย่างน่าเสียดาย
Subaru XV เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ดีคันหนึ่ง ด้วยสมรรถนะหนักแน่นออพชันจัดเต็มราคาก็ไม่แพงอย่างที่คาดด้วยเงินเพียง 1.35 ล้านสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ แต่นั่นหมายถึงคุณต้องยอมกัดฟันดาวน์เสียหน่อย ถึงจะได้เป็นเจ้าของรถดีๆ ที่ชื่อ Subaru XV
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ผลการทดสอบ Subaru XV 2.0 I Premium
Subaru XV 2.0 I Premium
ราคาจำหน่าย 1,350,000 บาท
ผลการทดสอบ
การทำงานของเครื่องยนต์
ความเร็วที่ขับขี่ (กม./ช.ม.) |
รอบเครื่องยนต์ |
80 |
1500 |
90 |
1600 |
100 |
1800 |
110 |
2000 |
120 |
2100 |
ความเร็วสูงสุดขณะทำการทดสอบ 172 ก.ม./ช.ม.
การทดสอบอัตราเร่ง
อัตราเร่ง |
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
0-100 ก.ม./ช.ม. |
14.10 |
13.10 |
12.00 |
13.07 |
80-120 ก.ม./ช.ม. |
8.00 |
7.00 |
7.00 |
7.33 |
อัตราประหยัด
อัตราประหยัดในเมือง |
8.6 ก.ม./ลิตร |
อัตราประหยัดนอกเมือง |
11.2 ก.ม./ลิตร |
*ทดสอบด้วย น้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ลมยาง 35Psi
เรื่องภาพ และ ขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ติดตามความเคลื่นไหวการทดสอบได้รถได้ที่ Facebook
นำเสนอบน Autodeft.com
สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้ โดยมิได้รับอนุญาต
ขอบคุณ คุณตะวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องรถทดสอบ Subaru XV
ขอบคุณ บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ Subaru XV
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY136]