Hands On : Nissan juke 1.6 V …เยี่ยมยุทธสมรรถนะลงตัวในราคาขาย
- โดย : Autodeft
- 14 ก.พ. 57 00:00
- 13,957 อ่าน
มาอย่างรวดเร็ว ในที่สุด ทีมงาน Autodeft.com ก็ได้ทดสอบแล้ว New! Nissan juke สมรรนถะลงตัว ราคาขายก็โอเค อยากซื้อจัดไปเลยครับพี่น้อง
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
เพื่อน....คำๆนี้ ที่มีความหมาย สำหรับหลายคนๆ เช่นเดียวกับผม เพื่อน คือ ผู้ที่สร้างโอกาส รวมถึงช่วยเราประสบความสำเร็จในหลายๆครั้ง เช่นเดียวกับครั้งนี้
จะเป็นอย่างไรถ้าคุณมีเพื่อนแท้จำนวนน้อย แต่พร้อมที่จะช่วยคุณ และมันคงเป็นความบังเอิญที่เพื่อนคนนี้กับไหว้วานผมให้ช่วยทำอะไรบาง ยิ่งถ้าภารกิจนั้นเป็นการขับ Nissan Juke ที่หลายคนรอคอย มีหรือว่าจะปฏิเสธ
ไม่ต้องพูดเลยว่า ทันทีที่วางหูจากเพื่อนรักคนนี้ ผมแทบจะกระโดดดีใจ เพราะ Nissan juke ใหม่ เป็นรถที่อยากขับมาก ทุกวันผมพยายามหาโอกาสในการขับรถคันนี้ที่หลายคนเฝ้ารอ ... เพื่อตอบคำถามท่านผู้อ่าน และ มันยังเป็นหนึ่งในรถที่ผมเองหมายตามองไว้ว่ามันจะตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตส่วนตัวเองด้วย
ในมุมมองผม Nissan Juke เป็นรถที่ต่างออกไป ด้วยการแนะนำรถ กลุ่มใหม่เข้าสู่ตลาด หลังจากที่ประเทศไทยพลาดในการลงตลาดมานาน ในขณะที่เมืองนอกใช้กันมาหลายปีดีดัก แต่ในที่สุดการเข้าสู่ตลาดไทยของ Nissan juke ก็สร้างกระแสในแบบที่มีความแตกต่าง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งยอดจอดในช่วงมอเตอร์โชว์จนสิ้นปีที่มีกว่า 5,000 คัน ซึ่งตอนนี้ มีรถที่เริ่มส่งมอบสู่ลูกค้าแล้ว 1,000 คัน ก็น่าจะทำให้หลายคนเริ่มเห็น Nissan juke ใหม่ บนท้องถนน และเป็นการรับประกันในเสน่ห์ปละความไม่ธรรมดาของมัน
ใบหน้าที่ยิ่งกว้างแต่ไกล พร้อมการดีไซน์ที่แปลก เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของ Nissan juke เลยก็ว่าได้ หน้าตาที่ใครเห็นก็จำได้ ด้วยหน้าตาที่ใครมองแล้วก็ต้องนึกถึง “กบ” เป็นความโดดเด่นของ Nissan juke ทำให้มันเป็นที่สุดของรถเชิญขาก ที่ไม่ว่าใครก็ยื่นมือชี้หาคุณ แบบว่า สวยอ่ะ
การสะกดสายตาคนรอบข้างของ Nissan juke ชัดเจนในความรู้สึกเหมือนตกหลุมรักผู้หญิง ไม่น่าแปลกใจที่ระหว่างขับไปตามทางในเมือง จะมีหลายคนควักกล้องมือถือมาถ่ายภาพขบวน Nissan juke ที่วิ่งยาวหลายคัน และเมื่อคุณขับเจ้าชายกบเข้าสู่เมืองตามต่างจังหวัด อย่าแปลกใจ ที่จะมีเดินมาเคาะกระจก แล้วถามว่า “พี่รถคันนี้เท่าไรครับ” เพราะผมเจอมาแล้ว !!! เช่นเดียวกับที่คนจะมองตามและชี้นิ้วตาม ที่แปลกคือเส้นสายการออกแบบของ Nissan juke เป็นมิตรกับทุกคนในเรื่องความสง่างามไม่เว้นกระทั่งเด็กเล็ก ที่เราเห็นมองและชี้นิ้วตาม ซึ่งเขาอาจจะบอกคุณแม่ที่อุ้มอยู่ว่า “หนูอยากได้คันนี้”
หน้าตา Nissan juke น่าจะเปรียบเหมือนสาวๆ ที่เดินผ่านทำให้ผู้ชายเหลียวมอง เช่นเดียวกันทรวดทรงของมันเน้นในความพริ้วไหว สปอร์ตเต็มอารมณ์ ตั้งแต่ด้านหน้าจรดบั้นท้าย ที่มาพร้อมไฟท้ายลงตัว อย่าแปลกใจที่คุณจะคิดว่าไฟท้ายของ Nissan juke ดูคุ้นตา ด้วยทรงบูมเมอร์แรง ซึ่งเป็นเส้นสายที่คุณสามารถพบได้ในสปอร์ตชั้นนำของค่ายรถยนต์ Nissan
เรือนร่างลงเสน่ห์ในความสปอร์ต ให้มิติด้วยความยาว 4,135 ม.ม. กว้าง 1,765 ม.ม. และสูงเพียง 1,590 ม.ม. เรื่องฐานล้อ พยายามยืดเพื่อเพิ่มพื้นที่โดยสาร ด้วยความยาว 2,520 ม.ม. เรียกว่าใหญ่กว่าซิตี้คาร์ แต่เล็กกว่าคอมแพ็คคาร์นิดหน่อย
ในห้องโดยสาร Nissan juke ให้รายละเอียดความสปอร์ตเพิ่มเติมพร้อมความทันสมัยที่สามารถรู้สึกได้ การแนะนำการออกแบบในสไตล์ทูโทน ผสานแนวคิดโชว์เปลือยสัจจะวัสดุที่นิยมมากในหมู่นักออกแบบ แม้จะรู้สึกว่าประหลาด!! แต่เมื่อรวมกับภายนอกที่มีความแปลกมันก็ลงตัว
ทุกอย่างตอบความสปอร์ตตั้งแต่พวงมาลัยสามก้านพร้อมสวิทช์ ควบคุมเครื่องเสียง น่าเสียดายที่ไร้เงาระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งควรมีในฐานะที่เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ตรงหน้าแนะนำหน้าปัด มาพร้อมไมล์เรืองแสง มีจอแสดงข้อมูลตรงกลาง บอกได้ ทั้งระยะทาง ความประหยัด รวมถึงระยะทางที่ยังสามารถเดินทางต่อได้อีกกับน้ำมันในถัง
เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ต ออกแบบมาได้ค่อนข้างลงตัว ถึงจะมีความสปอร์ต ด้วยการกระชับแผ่นหลังล็อกไหล่ให้อยู่ในอาณัติ แต่ก็ยังนั่งได้อย่างสบายจนน่าเหลือชื่อ เดินทางไกลไม่มีเมื่อยแม้แต่น้อยเลย ส่วนด้านหลังเอง ใครที่กำลังกังวล จากกระแสที่มีคนพูดท้วงมาว่า เบาะตอนหลังมันแคบนั่งแล้วมันจะติดหลังคา บอกตรงนี้เลยว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะ ลองนั่งเองมาแล้ว
สัดส่วนของผมเองก็ไม่ใช่คนตัวเล็กสูง 182 ซ.ม. หนัก 88 กก. นั่งได้อย่างสบายในระดับหนึ่ง ช่วงไหลมีระยะกว้างดี จะมีแค่ช่วงขาที่เหลือจากเบาะหน้าเล็กน้อย และไม่มีที่ยืดขาเหยียดมากมายนัก ด้านพื้นที่เหนือหัว ถ้านั่งตามการเซทลักษณะท่านั่งของเบาะ จะมีพื้นที่เหลือประมาณ 2 นิ้ว สอดผ่านไปได้ ก็ประมาณการสัก 40-50 ม.ม. แต่หากเมื่อไรตัวเราอ่อนหล้าจากเดินทางขอพร้อยหลับ อาจจะเป็นปัญหา เพราะ ขอบหลังคา จะตกหลังที่นั่งพอดี จนถ้าเพื่อนคุณขับรถกระแทกแรงขณะสัปหงกน้ำลายยืดจนหัวเอนไปด้านหลังเล็กน้อย อาจจะหัวโขกเพดานเอาได้ง่ายๆ
ไฮไลท์สำคัญ ใน Nissan juke น่าจะอยู่ที่ช่วงกลางคอนโซลหน้าที่ปรับอัดความทันสมัยเข้ามา โดยเฉพาะทีเด็ดระบบ I-Connect ระบบความบันเทิงในรถที่มีฟังชั่นคล้าย Tablet ด้วยการทำงานผ่านหน้าจอดสัมผัส สามารถ เล่นได้ทั้งไฟล์เพลง ไฟล์ภาพ หรือ กระทั่งวีดีโอ ทั้งยังเชื่อมต่อ Bluetooth และสัญญาณ wifi ซึ่งทำให้สามารถคุณเล่นอินเตอร์เน็ตในรถได้ถ้าต้องการ และยังสามารถถอดออกจากตัวรถได้ถ้าต้องการ น่าเสียดายที่ตัวมันเองไม่มีแบตเตอร์รี่ในตัว แต่คุณอาจจะใช้พลังงานสำรองจาก Power Bank ได้เพราะมีช่องเสียบมาให้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจะดูรุงรังนิดหน่อย
ถัดลงมาเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติวางไว้ให้ใช้งานได้ถนัดมือ และเป็นตำแหน่งเดียวกับระบบ I Con ที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ การใช้งานตรงนี้หลายครั้งในการขับขี่จะยุ่งเหยิงเล็กน้อย
ใต้ฝากระโปรง Nissan juke รุ่นจำหน่ายในไทย ได้เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร หัวฉีดคู่ที่เราคุ้นเคยจากรถ Nissan Sylphy มายัดใส่ไว้ ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แต่มีแรงบิดเหลือเฟือถึง 154 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พ่วงเข้ากับสมรรถนะจากระบบส่งกำลัง Xtronic CVT ซึ่งจะเรียกว่าแปลกสักหน่อยกับกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ แต่ก็ไม่ได้ดูเคอะเขินในความเป็นจริง ที่ Nissan juke เป็นรถ Sport Crossover ที่ไว้ขับในเมืองเป็นสำคัญ
การเดินทางไปหัวหินกับ Nissan Juke เรียกว่าเป็นโจทย์ลงตัวสำหรับการขับขี่ Nissan juke ด้วยทางไกล น่าจะเป็นบททดสอบที่สำคัญของเจ้าชายกบที่หลายคนมอง กอปรกับหัวหินวันนี้กลับมาเป็นที่เที่ยวที่ชื่นชอบของใครหลายคนการเดินทางสะดวก ก็น่าจะเป็นหลายทางที่หลายคนไปอยู่แล้ว
ในสภาพการขับขี่จริงเครื่อง 1.6 ลิตร หัวฉีดคู่ไม่ได้ทำให้ผิดหวังด้วยกำลังที่ไม่มากแต่แรงบิดดี คือโจทย์ที่ตอบเรื่องการใช้งานจริง ทั่งในเมืองและยิ่งกับเส้นทางนอกเมืองเช่นนี้ยิ่งเห็นชัด
น้ำหนักตัวเปล่าของ Nissan juke ที่ 1,193 กก. เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เจ้า HR 16DE สามารถขับขี่ได้อย่างสนุกสนานเกินคาดในอเนกประสงค์คันนี้ เมื่อเทียบกับ Nissan Sylphy หรือ Pulsar ที่มันประจำการอยู่เดิม เจ้าชายกบมีความได้เปรียบมันเบากว่าถึง 62 กก. เมื่อเทียบระหว่างรุ่นท๊อปด้วยกัน
และด้วยน้ำหนักตัวที่เบาลงทำให้เครื่องยนต์สามารถออกฤทธิ์ได้มากขึ้น ซึ่งก็ตรงตามสไตล์ของรถที่เน้นความรู้สึกสปอร์ตเต็มเปี่ยมในอารมณ์ขับขี่ ยิ่งช่วงทางหลวงนี้การเร่งแซงเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่ Nissan juke ทำได้เกินคาดอาศัย แรงบิดที่ดี น้ำหนักตัวที่เบา และความชาญฉลาดของเกียร์ CVT กดคันเร่งปื้ดเดียว ...เอาอยู่ !!
ความง่ายดายในการขับขี่เป็นหนี่งในปัจจัยที่ดีของ Nissan juke และ ถ้าจะพูดให้เต็มปาก เจ้าชายกบคันนี้ยังมาพร้อมกับความแปลกใหม่ให้อารมณ์ขับขี่ ผ่านระบบ I-Con (ไม่ใช่ I-Connect นะ คนละตัว) หรือ Integrate Control System ให้คุณเปลี่ยนอารมณ์การขับขี่ตามสไตล์ที่ต้องการ
แบ่งออกเป็น 3 โหมดสำคัญ ได้แก่ Normal โหมดเริ่มต้นสำหรับการขับขี่แบบคนทั่วไป , Power โหมดบ้าพลังในยามที่ต้องการเค้นเน้นแรงเร้าใจสุดๆ และท้ายสุด Eco ตัวตนในความประหยัดเซฟค่าใช้จ่ายในกระเป๋าถ้าต้องการ
น่าเสียดายที่ระบบ I Con ใช้งานง่ายจริง แต่ไม่เอื้อนักต่อการกดจิ้มระหว่างขับขี่ แม้ปุ่มจะอยู่ตรงเหนือคันเกียร์พอๆ ให้คุณเลือกปรับ แต่จังหวะนั้นต้องแอบเหร่มองนิด..เอ้ย เรากดถูกเปล่าจะ Power ไม่ใช่ไปโดน Eco อันนี้จบกัน
ยิ่งมีเรื่องร้ายกว่านั้น ถ้าคุณดันเพิ่งปรับระบบปรับอากาศผ่านแผงควบคุม จังหวะนี้มักจะเป็นช่วงที่ลืมตัวบ่อยๆ แล้วถ้าคุณไม่ได้กดปุ่ม D- mode ทางขวาก่อน ไม่ได้มอง.....กดป๊าปแล้ว แอร์จะดับทันที โดยเฉพาะตรงตัวโหมด Power เนื่องจากแชร์แผงควบคุมเดียวกับระบบแอร์ และในตำแหน่งนั้นมันเป็นตำแหน่ง OFF หรือ ปิดการทำงานของระบบปรับอากาศ ... ทันที กว่าจะรู้ตัวก็ร้อนตับแตกแล้วล่ะครับ ท่านผู้อ่าน
ตามที่ถามวิศวกรมา ระบบ I con จะทำการปรับสมรรถนะ 4 ส่วนใหญ่ๆ เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้ Nissan juke ตั้งแต่ เครื่องยนต์ การตอบสนองของเกียร์ การทำงานของลิ้นปีกผีเสื้อ และท้ายสุดที่คือการตอบสนองของพวงมาลัย จึงไม่แปลก ที่รถจะมีบุคลิกที่แตกต่างกันในแต่ละโหมด
หากในการขับขี่จริงก็ยอมรับว่า ไม่ความแตกต่าง ที่ชัดเจนคงจะยกให้โหมด Power ไปโดยปริยาย เพราะ กดแล้วฟีลลิ่งรู้สึกได้ทันที แต่ระหว่าง Normal กับ Eco ยังไม่ค่อยแตกต่างมากเท่าไร อาจจะต้องรอทดสอบภายหลังเพื่อพิสูจน์ในเรื่องความประหยัดน้ำมัน
ระหว่างทาง Nissan juke ก็พาเราอึ้งไปเล็กน้อยด้วยรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำมากจนแทบจะแบกับดิน ด้วยการเดินทางที่ 100 ก.ม./ช.ม. จะใช้รอบเครื่องเพียง 1600 รอบต่อนาที และ ที่ 120 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องเพียง 2000 รอบต่อนาที ซึ่งต้องขอบคุณความล้ำหน้าของระบบเกียร์ Xtronic CVT ว่าไปแล้วชุดเกียร์ก็ขับให้ความรู้สึกที่ดีและจะดีกว่านี้อีกถ้าสามารถเลือกอัตราทดได้เอง
สมรรถนะการขับขี่ที่ดีของเครื่องยนต์ จะขาดไม่ได้เลยกับระบบช่วงล่างที่รองรับสมรรถนะได้เปี่ยมล้น ซึ่ง Nissan จับเอาแพลทฟอร์มเดียวกันของ Nissan Sylphy มายัดใส่ไว้ในรถคันนี้ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าตกลงใครยืมใครแน่
สูตรสำเร็จระบบกันสะเทือนแบบแม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้าและด้านหลังใช้แบบทอร์ชั่นบีม เป็นการวิศวกรรมที่คุ้นกันดีในซิตี้คาร์ แต่บนทางหลวง Nissan Juke ก็ยังขับได้อย่างมั่นใจเกินคาด ด้วยความรู้สึกที่อาจจะเบาหวิวจากตัวถังที่เบา แต่ช่วงล่างยังเกาะถนนแน่นเปรี้ยะเกินคาด
ที่จริงระบบกันสะเทือน Nissan juke แอบกระด้างเล็กๆอยู่บ้างให้ความรู้สึกสปอร์ต โช๊คอัพมีความรู้สึกเกาะถนนดีกว่า Nissan March รุ่นใหม่ และมีระยะยืดยาวกว่า ทว่าสปริงก็มีจังหวะตอบสนองเร็วมาก คล้ายคลึงในรถสปอร์ต แต่ในอีกแง่ถ้ามองจากความเป็นรถอเนกประสงค์ที่คงเน้นนั่งมากกว่า บางคนอาจจะไม่ชอบระบบกันสะเทือนในสไตล์แบบนี้สักเท่าไรนัก ทว่ามองที่สไตล์ตัวตน Juke แล้ว มันก็ค่อนข้างลงตัว
ในภาพรวมนอกเมืองเจ้าอเนกประสงค์ Cross over ,Nissan juke ค่อนข้างลงตัวพอสมควร แล้วกับในเมืองล่ะ .. !!
อาจจะเรียกว่าเป็นคราวเคราะห์ หรือโชคดีกันแน่!! อันนี้ก็ไม่อาจจะรู้ได้ เพราะหลังจากที่เราเดินทางกลับจากหัวหินเข้สู่ชานเมืองกรุง ในช่วงเวลาบ่ายก่อนเย็นเล็กน้อย ชีวิตเมืองกรุงก็ต้องรับเราด้วย การจราจรติดขัด จังหวะรถติดแบบนี้ทำให้เราได้รู้ความสามารถของ Nissan juke ที่สามารถสนองตอบต่อการขับขี่ในยามจราจรคับคั่งได้ดีเกินตัว
ไฟตากับที่ดูแปลกของ Nissan juke เป็นประโยชน์ก็ตรงนี้ที่สามารถใช้มันเป็นตรงที่กำหนดระยะทางด้านหน้าได้เป็นอย่างดี
พวงมาลัยเองในเมืองเองค่อนข้างจะใช้ง่ายเบาะสบายมือพอๆกับอีโค่คาร์ของค่าย และรถมีความคล่องตัวค่อนข้างสูงพอสมควร ทำให้จะปัดซ้ายป้ายขวามุดเข้าว่าฝ่ารถติดทำได้อย่างที่ติ ที่สำคัญเลยแรงบิดของ Nissan juke และ การตอบสนองชุดเกียร์ค่อนข้างว่องไว และพิกัดที่เบาของ Nissan juke ทำให้การควงรถไปมาระหว่างทางค่อนข้างง่าย แถมระยะตัวสั้น เป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้ Nissan juke เปี่ยมด้วยดีกรี ความเป็นตัวตนรถเหมาะสมกับคนเมือง
ที่สำคัญท้ายสุดก่อนจากเราแอบกดอัตราประหยัด Nissan juke มาดู และพบตัวเลขที่หน้าปัด ซึ่งความตะลึงกับตัวเลข 8.4 ลิตร/100 ก.ม. หรือ หารแล้วได้ 11.9 ก.ม./ลิตร โดยประมาณ จากการขับความเร็ว 100-130 ก.ม./ช.ม. บนทางหลวงนอกเมือง และยังนั่งแช่รถติดในเมืองเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง
สรุป...ซื้อ!! เลย ถ้าชอบ งบไม่พอตัวล่างก็โอเค
ในภาพรวมแล้ว จะต้องเรียกตามตรงว่า Nissan juke เป็นรถที่ค่อนข้างมีศักยภาพสูงมากในราคาที่ตั้งเอาไว้ เรียกว่าทุกบาททุกสตางค์จ่ายไป จะไม่มีจุดไหนที่คุณจะไม่ชอบรถคันนี้เลย
ความสปอร์ต ความทันสมัย และสมรรถนะ ทุกอย่างบรรจบอย่างลงตัวจนไม่น่าเชื่อ ผู้เขียนเองไม่ได้อวยว่ารถคันนี้เจ๋งที่สุดในตลาด และแต่มันเป็นรถอีกคันที่เราแทบจะไม่พูดถึงข้อติดที่มีในรถ เพราะแทบไม่มีเลยจริงๆ
อย่างไรก็ดี Nissan juke ยังมีจุดที่ต้องไปพัฒนา (ไม่ใช่ปรับปรุง) หนึ่งในนั้นก็เป็นระบบ I Connect ซึ่งจะดีกว่านี้อีกมันมีแบตเตอร์รี่ในตัว ซื้อรถเหมือนแถม Tablet นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจและดึงดูลูกค้าไม่น้อยเลยจริงๆ
ส่วนเรื่องการขับขี่ที่ดีอยู่แล้วคงไม่ต้องปรับปรุง แต่เรียนตามตรงว่าเมื่อเป็นรถอเนกประสงค์ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเดินทางไกลจะมีมากขึ้นและบ่อยขึ้น ซึ่งอยากแนะนำให้พิจารณาระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control เข้ามา ประจำการในรถคันนี้ เพื่อตอบโจทย์ความสบายระหว่างการเดินทางและความประหยัดมากขึ้น
ท้ายสุดก็พูดเลยว่า น่าจะมีในส่วนของรุ่นเทอร์โบ ออกมาขายโชว์พาวเล่นๆจำนวนจำกัด ว่า Nissan juke ยังมีเวอร์ชั่นที่เร้าใจกว่า โดยเฉพาะในต่างประเทศ เครื่อง 1.6 ลิตรมีเวอร์ชั่นซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ที่ขับสนุกมากขึ้นเร้าใจมากกว่า และเปี่ยมด้วยความสปอร์ตที่ลงตัว รวมถึงน่าจะมีรุ่นเกียร์ธรรมดาออกมา สำหรับใครที่รักความสนุกสนานในการขับขี่
หลายคนที่มองอยู่ เป็นครั้งแรกที่ผมจะพูดว่า..Nissan juke เป็นรถที่ดี คุ้มค่าคุ้มเงินในกระเป๋า และถ้าชอบสามารถซื้อได้ เพราะมันจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน แต่กระนั้นเอง มีหลายคนกังขาว่าต้องซื้อรุ่นท๊อปอย่างเดียว จึงจะมาเต็ม ซึ่งก็จริงอยู่ในส่วนหนึ่ง
แต่รุ่นเริ่มต้น ราคา 819,000 บาท ก็ไม่ได้มีความเลวร้ายจนโลกแตกอย่างที่คิด เพียงไร้สปอร์ยเลอร์หลัง ยางบังโคลนล้อ และปลายท่อไอเสียโครเมี่ยม ไม่มีสัญญาณกะระยะถอยหลัง สีคอนโซลภายในไม่เหมือนกัน เบาะหนังกลายเป็นผ้า ถ้าไม่คิดมาเรื่องออพชั่นเล็กๆน้อยๆ ตัวรองก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรครับ
หลังจากลงจาก Nissan juke หันมองมันอีกที ด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องในใจว่า มันลงตัวมากกว่าที่คิด เพราะส่วนตัวเองก็มองรถคันนี้อยู่เหมือนกัน และน่าจะพูดได้เต็มปากว่า ณ ตอนนี้ Nissan juke เป็น sport Cross over ที่ลงตัวในทุกด่าน และยังคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด เมื่อเราพูดถึง Sport Cross over ขนาดเล็ก....สวัสดี
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ขอบคุณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อให้ร่วมคาราวานทดสอบ Nissan juke ใหม่ กรุงเทพ-หัวหิน รวมถึง คุณ ชาญ พี่ตุ้ก และ เบนซ์มาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Nissan ครับ ที่ช่วยดูแลเป็นอย่างดี และในโอกาสนี้ autodeft.com ขอใคร่ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
ท้ายสุดขอขอบคุณเพื่อนรักคนหนึ่ง อาจจะไม่สะดวกเอ่ยนามกร แต่ขอบคุณมากที่ช่วยกันด้วยดีตลอดมา
ผลการทดสอบ Nissan Juke 1.6V
รถยนต์ Nissan juke 1.6 V
ราคาจำหน่าย 858,000 บาท
อัตราประหยัดจากการทดสอบ ..อัตราเฉลี่ย 11.9 ก.ม./ลิตร
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY298]