Hands On : Mitsubishi Triton 2014 ...รุ่นสุดท้ายก่อนเปลี่ยนโฉม ดูดีสมรรถนะลงตัวเช่นเคย
- โดย : Autodeft
- 9 ธ.ค. 56 00:00
- 44,309 อ่าน
ขับอีกครั้ง Mitsubishi Triton รุ่นสุดท้ายก่อนปรับโฉมที่ยังลงตัว
ตั้งแต่เปิดขายมายาวนานย้อนกลับไป ก็เป็นเวลากว่า 7 ปีเห็นจะได้ ที่ Mitsubishi Triton เปิดตัวออกมาทำตลาดอย่างเป็นทางการในไทย แม้ว่าเพื่อนๆ จะเร่งเดินหน้าปรับโฉมกันไปหมดแล้ว แต่ สำหรับ Triton ที่รอเวลาปรับโฉมในปีหน้าที่จะมาถึง พวกเข้าก็ขอเพิ่มออพชั่นเป็นครั้งสุดท้ายไว้สั่งลา
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ Mitsubishi Triton ยังดูดีตั้งแต่อดีตมาจวบจนปัจจุบัน ด้วยการให้รายละเอียดที่เพอิ่มขึ้นทุกครั้ง ยิ่ง 2 ปี ก่อนจัดการยกเครื่องแรงมาให้สัมผัสสมรรถนะ 178 แรงม้า จากเครื่อง 2.5 ลิตร ยิ่งทำให้หลายคนสนใจ
บ่ายวันหนึ่งขณะที่ผู้เขียนกำลังนั่งเหงา ท่ามกลางบรรยากาศ Tokyo Motor Show ค่ายทรีไดมอนด์ ก็โทรมาไถ่ถามความว่างงานว่า พอจะเจียดเวลาได้หรือไม่ จริงๆ ต้องบอกว่านาทีนั้น เวลาเหลือกินเหลือใช้ หลังจากโหมมาตั้งแต่ช่วงตุลาคมที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ไปสัมผัส Mitsubishi Triton ใหม่กัน
ในภาพรวมคงจะต้องบอกว่า Mitsubishi Triton 2014 ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่เป็นนัยยะสำคัญจากที่ผ่านมา เพียงแต่ในโฉม 2014 เน้นจับลูกค้ามากขึ้น ด้วยออพชั่น ซึ่ง พี่จิ๋ว สุดหล่อจาก Product Planning ของ Mitsubishi เดินลงมาพูดข้อมูลเกี่ยวกับรถ โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ในการล้อมวงฟังว่า ในงวดนี้ Mitsubishi Triton ใหม่ ได้ ระบบเนวิเกเตอร์ นำทางติดในรุ่นขับสองยกสูงเพิ่มขึ้นจากเดิม และ ยังแนะนำสีใหม่ ไทเทเนียม เกรย์
สีผสมผสานระหว่างสีน้ำตาลและเทา ก็เลยออกมาในสไตล์ที่ดูแปลกๆ แต่สวยมากยามโดนแดด ทำให้รถดูมีลุคหรูตั้งแต่แรกเห็น อันที่จริงขอยอมรับในทีมออกแบบ Mitsubishi Triton ว่าพวกเขาทำงานหนักจริง สามารถออกแบบรถให้ดูดีไม่มีเสื่อมคลายอย่างเส้นสายโค้งมลทันสมัย มาถึงวันนี้ แม้ใกล้เต็มแก่แล้วที่มันจะถูกเปลี่ยนรุ่น แต่ Mitsubishi ยัง ดูดีอยู่ ตั้งแต่ด้านหน้าจรดบั้นท้าย ที่ไม่มีมาลอกเลียนแบบได้ แม้จะมีรถรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นพยายามทำตัวให้โค้งมลตาม
เปิดประตูสู่ห้องโดยสาร Mitsubishi Triton 2014 ปรับรายละเอียดให้ดูหรูหรามากขึ้น อีกด้านหนึ่งมันก็ยังดูสปอร์ลงตัวมากขึ้นด้วย การแนะนำเบาสีดำ ทำให้รุดูดี ในวันนี้ที่เราขับรุ่น Mitsubishi Triton Plus 2014 การได้ระบบนำทางมาเพิ่มเติม ช่วยให้มันดูทันสมัยมากขึ้น ตรงหน้าคนขับยังคงให้รายละเอียดสปอร์ต
แต่ถึงไม่ได้บอกเรื่องการปรับแต่งเบาะเพิ่ม แต่เราก็พอจะรู้สึกได้ถึงความสบายที่เพิ่มขึ้น ถ้าเทียบจากที่ขับมาในรุ่นก่อนหน้านี้ เบาะนั่งที่ดูกระด้างปรับให้ซับและหนุนช่วงสะโพกและหลังดีขึ้น กว่าเดิม ซึ่งในรุ่นอัตโนมัตินี้ ยังได้มีตำแหน่งเกียร์มาให้เล่น เลือกปรับอัตราทดได้เอง ยังแอบเสียดายนิดว่า ไหนๆจะสั่งลา มี Paddle Shift มาให้มันเสียหน่อยจะเจ๋งยิ่งกว่านี้อีก
การเดินทางวันนี้ไปดันแบบชิวๆ ปลายทางอยู่ที่จันทบุรี เส้นทางวิ่งออกมอเตอร์เวย์ แล้วไปบรรจบที่ทางเลี่ยงเมือง เส้นทางที่หลายคนคุ้นเคยในการขับขี่ ซึ่งระหว่างทางในการขับขี่ เราค่อนข้างใช้ความเร็วพอสมควร ไม่หวั่นพี่ตำรวจจะจับเลยแม้แต่น้อย
ในยามใช้ความเร็วเช่นนี้ระบบช่วงล่างเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆต่อการขับขี่ และ Mitsubishi Triton ใหม่ ก็ยังเจ๋งอยู่ ด้วยการให้ช่วงล่างที่แน่นอน แม้ถ้าเทียบกับรถกระบะทุกวันนี้ เชื่อว่าทุกคนจะต้องพูดว่ามันค่อนข้างกระด้างพอสมควร ในความเป็นกระบะ ที่มาพร้อมระบบปีกนกสองชั้น พรอ้มคอยย์สปริง ส่วนด้านหลังก็เป็นแบบแหนบหลายแผ่นซ้อน ช่วยในเรื่องความนิ่งและการบรรทุก
ยิ่งใช้ความเร็วยิ่งชัดว่าช่วงล่างขิง Mitsubishi Triton ยังไว้ใจได้เหมือนเดิม แต่พวงมาลัยยังคงเป็นประเด็นที่ควรจะพิจารณาในการปรับปรุงในรุ่นต่อไป เพราะรถสปอร์ตมาก แต่ยังตอบสนองได้ไม่ไวพอ ในหลายครั้งการให้จังหวะพวงมาลัยน้อยไป ทำให้ต้องตวัดในองศาที่มากและเร็ว เพื่อให้รถปรับทิศทางตามที่ต้องการ ทำให้มันเสี่ยงมากที่จะเกิดอุบัติเหตุ ทางที่ดีควรจะใช้ชุดแรคพวงมาลัยอัตราทดสูงกว่านี้อีกหน่อยหนึ่ง
แม้จะมีเรื่องติบ้างเล็กน้อย แต่ในแง่เครื่องยนต์ใต้ฝากระโปรง Mitsubishi Triton เน้นให้ความเร้าใจในการขับขี่ เดินทีมมันมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 และ 3.2 ลิตร แต่เมื่อ 3.2 ลิตร ทำตลาดได้ไม่ดีนัก ก็เลยถอดออกแล้วหันมาใช้การอัพพลังให้เครื่อง 2.5 ลิตร เป็น 178 แรงม้า ในหลายรุ่นแทน
การได้กำลัง 178 แรงม้า ทำให้มันยังเป็นสิ่งที่หลายคนสนใจอยู่ เพราะ กำลัง 178 แรงม้าในเครื่องยนต์ดีเซลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำกัน สมรรถนะระดับรถเก๋งยังอายนี้เป็นอะไรที่หลายคนสนใจมาก โดยเฉพาะการได้ระบบเทอร์โบแปรผันเข้ามาตอบโจทย์สมรรถนะ ด้วยกำลังแรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่มีให้ใช้ตั้งแต่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที ช่วยให้มันขับขี่ง่ายขึ้น
ยิ่งได้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดเข้ามาช่วยเสริมการทำงาน พร้อมความชาญฉลาดของระบบควบคุมสั่งการ Invect II แล้ว ยิ่งทำให้มีความมั่นใจได้มากขึ้น ซึ่งชุดเกียร์สามารถปรับลดตำแหน่งเกียร์เองได้ โดยเฉพาะช่วงทางลาดชัน แต่ถ้าคิดว่ายังไม่ทันใจ ลองเลื่อนไปที่ sport Trotnics ดู ก็สามารถเค้นสมรรถนะ 178 แรงม้า ได้เต็มๆ เหมือนคุณขับรถเกียร์ธรรมดา ยังไงอย่างงั้น
ตลอดสองวันที่ขับขี่ Mitsubishi Triton 2014 ต้องยอมรับว่า นี่คือขั้นซุปเปอร์เซย่าของ เข้ากระบะร่างทันสมัย Mitsubishi Triton ที่น่าจะตอบโจทย์เรื่องออพชั่นมากที่สุดในหมู่กระบะ ก่อนรอวันที่มันจะปรับโฉมใหม่ในราวๆ ไตรมาส 3 ของปีหน้า
สำหรับใครที่มอง Mitsubishi Triton อยู่แต่ยังคิดว่าจะซื้อดีไหม ผมกล้าพูดเลยว่า ถ้าไม่ได้คิดในเรื่องอื่นนอกจากการเอาไว้ใช้งาน ด้วยราคา สมรรถนะ และ ออพชั่นที่ให้มาอย่างครบครัน มันน่าคบหา...มากๆ
เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ขอบคุณ คาราวานทดสอบ โดย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY174]