Hands on : Mazda CX-5 Sky active G ดุน้อยกว่าแต่ยังเร้าใจ

  • โดย : Autodeft
  • 14 ธ.ค. 56 00:00
  • 18,315 อ่าน

ทดสอบ Mazda CX-5 Sky Activ G ลองสมรรถนะเครื่องยนต์เบนซินผลิตจริงที่เร้าใจที่สุดในหมู่ไร้เทอร์โบ

 

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ตั้งแต่เปิดตัว ออกมา ในช่วงก่อนมอเตอร์โชว์  Mazda Cx- 5  เรียกว่า เป็นรถยนต์กลุ่มอเนกประสงค์ที่ชาวไทยจับตารอ ด้วยยอดขายถล่มทลาย นับตั้งแต่เริ่มเปิดรับจอง มาจนถึงปัจจุบัน ที่มีคนจำนวนมากยังเฝ้ารอจับจองเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะที่หลายคนจับตามอง คงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ที่ได้รับอานิสงค์การพัฒนาด้วย เทคโนโลยี Sky Activ เช่นกัน  และราคาก็จับต้องได้มากกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซล

แม้จะถือว่านี่เป็นครั้งแรกที่ขับ Mazda CX-5  อย่างจริงจัง ครั้งแรก นับตั้งแต่มีการเปิดตัว ออกมา แต่เรือนร่าง Mazda CX-5  ใหม่ ก็เริ่มคุ้นหน้าตา เรามากขึ้น โดยเฉพาะ การออกแบบ ที่นำธรรมชาติแห่งการเคลื่อนไหว มาประยุกต์ในการออกแบบรถ โดยเส้นสายใหม่นี้ถูกเรียกว่า Kodo จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวที่สามารถสะกดใจคุณได้ตั้งแต่แรกเห็น

Mazda CX-5

นาย ณัฐยศ ชูบรรจง นักขับทดสอบและเว็บมาสเตอร์ Autodeft.com

การออกแบบที่ฉีกแนวจากเดิม ทำให้ Mazda CX-5  มีความแตกต่างจากรถรุ่นอื่นๆที่มีอยู่ในพอร์ทการขายของ  Mazda  ในปัจจุบัน ด้วยเอกลักษณ์ปัจเจกใหม่ ที่มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น กระจังหน้าแบบ  5 เหลี่ยม ปรุงความสปอร์ตคลุกความหรูหรา ด้วยแถบโครเมี่ยมที่ดูมีอารมณ์ความแตกต่างจากความสปอร์ตที่มากมายในในตลาด

โป่งหน้า ดุมีความโค้งว้าว ให้ความรู้สึกบึกบึนและดุดันทางการ ไฟหน้าออกแบบที่ผสานให้มันดูคล้ายรถจับจ้องมาที่คุณ ทั้งหมดผสานหลักการทางอากาศพลศาสตร์ตอบโจทย์ในการขับขี่ มากขึ้นทั้งยังช่วยให้มีการประหยัดน้ำมันมากขึ้น

ส่วนด้านหลัง เพิ่มดีกรีความสปอร์ต แต่ให้ความรู้สึกที่ดูแล้วมีความทันสมัย ทำให้ภาพรวมของ  Mazda CX-5  เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีความสปอร์ตหรูหรา และเหมาะสำหรับคนทุกวัย มันดูไม่ได้แก่เกินไป และไม่ได้ดูวัยรุ่นจนผู้ใหญ่ไม่กล้าขับขี่มันไปบนถนน

 

ลองครั้งแรก  Sky Activ G 2.5

 

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนที่แล้ว Mazda  เคยจัดทริปในการขับขี่รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล  Mazda Sky Activ D  แต่หลังจากปล่อยเวลาล่วงเลยมา ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสสัมผัสเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่ง เป็นรุ่นที่หลายคนน่าจะมองมากกว่า ทั้งด้วยปัจจัยทางด้านราคา รวมถึง สมรรถนะของเครื่องยนต์เอง แต่ที่ขาดไม่ได้คงเป็นความคุ้นเคยของเครื่องยนต์เบนซินในรถยนต์กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

Mazda CX-5

น่าจะเรียกว่าเป็นโชคดีที่เริ่มการเดินทางก็มีโอกาสสัมผัส  Mazda Sky Activ G 2.5  ลิตร ที่สุดสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซิน จาก  Mazda  ที่มาให้จับจอง ด้วยจิตวิญญาณสปอร์ตที่ฝังภายใน

กายภายนอกของ  Mazda CX-5 2.5 S  ใหม่ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรจากพื้นฐานในการออกแบบที่ใช้เส้นสายสปอร์ตทันสมัย  Kodo Style  แต่ในรุ่นนี้จะคล้ายรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งมาพร้อมล้ออัลลอย ขอบ  19 นิ้วจากโรงงาน หน้ากว้าง  7 นิ้ว พร้อมยาง 225/55/R19 พร้อมสรรพในความสปอร์ต

ภายในห้องโดยสาร Mazda CX-5  แนะนำตัวด้วยการออกแบบโทนสปอร์ตสีดำตั้งแต่เปิดประตู ทุกอย่างล้วนดูลงตัวกลมกลืนกับภายนอกในเรื่องความสปอร์ต

แต่จะว่าไปการออกแบบภายในห้องโดยสาร ดูแล้วเรียบไปสักนิด สำหรับรถที่มีดีกรีในความสปอร์ต ในช่วงคอนโซลหน้าที่สั้น ตัน และไม่ค่อยเล่นลวดลายอะไรมาก ยังดีที่เป็นวัสดุนิ่มให้ความรู้สึกดียามสัมผัส ที่ตรงหน้าคนขับมาพร้อมพวงมาลัย 3  ก้าน เติมความรู้สึกสปอร์มาพร้อมปุ่มอำนวยความสะดวกมามายจัดวางไว้ที่พวงมาลัย

ตรงกลางคอนโซลหน้าด้านบนเป็นระบบความบันเทิงทำงานผ่านจอสัมผัสใช้งานง่ายพอตัว แต่ทรงดูเรียบๆ ไปสักหน่อย ทำให้รู้สึกไม่ลงตัว อาจจะเป็น เพราะ การออกแบบตรงจุดนี้มีการให้คอนโซลยุบลงหาชุดเครื่องเสียง ทำให้ดูแล้วแปลกๆ แต่ไม่ได้เลวร้ายจนให้อภัยไม่ได้ เพียงแต่น่าจะทำได้ดีกว่านี้อีกนิดหนึ่ง

ถัดลงมาเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ สามารถแยกอุณหภูมิปรับแยกซ้าย-ขวาได้ตามต้องการ ช่วยให้คุณไม่ต้องทะเลาะกับตุ๊กตาหน้ารถ ดูเข้าท่ากับชุดคันเกียร์ดีไซน์สปอร์ตกลมกลืน

Mazda CX-5

เบาะนั่งออกแบบให้มีสไตล์ทรงบัคเก็ทซีท โอบกระชับพอตัวในช่วงแผ่นหลัง เช่นเดียวกันที่รองนั่งก็รับรูปพอดี แต่ก็ยังมีแอบแข็งบ้างเล็กน้อย หุ้มด้วยหนังสีดำเดินด้านแดง เพิ่มอารมณ์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น  ด้านคนนั่งปรับด้วยมือ แต่ด้านคนขับปรับไฟฟ้า  8 ทิศทาง ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น และมีมาให้เป็นมาตรฐานในทุกรุ่น ด้านหลังเบาะสามารถปรับพับ แยกได้ 3 ส่วน ในอัตรา 40:20:40  เสียดายที่ยังไม่ได้ลองนั่งเบาะตอนหลังดูในการทดสอบคราวนี้

แต่ทีเด็ดของ  Mazda CX-5  เครื่อง  2.5  ลิตร อยู่ที่การให้ความพรีเมี่ยมด้วยเครื่องเสียงจาก Bose  พร้อมลำโพง  9 ตำแหน่งภายในห้องโดยสาร ซึ่งคุณพอจะสามารถแยกมิติเสียงได้อย่างชัดเจน ยิ่งกว่านั้นยังให้สุนทรีย์การฟังเพลงมากขึ้น กีตาร์เป็นกีตาร์ นักร้องเป็นนักร้อง ไม่จับฉ่ายเหมือนเครื่องเสียงทั่วไป ทว่าฟังไปๆ รู้สึกว่ามันขาดเสียงทุ้มไปหน่อย ทว่าคุณสามารถปรับในเซทติ้งอีก 3 ขีด ก็จะพอดีในเรื่องของเสียงเบส  แต่มาสด้าบอก นี่เป็นการเซทลักษณะเครื่องเสียงให้เหมาะกับคนทุกวัย ไม่ใช่เรื่องแปลก..อะไร

เมื่อพูดว่านี่เป็นเครื่องยนต์ 2.5  ลิตร .... ใต้ฝากระโปรงมาสด้า ซีเอ็กซ์  5  ก็มาพร้อมดีกรีสมรรถนะแนะนำมาพร้อมต้นกำลัง Mazda Sky activ G  ขนาด 2.5  ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่  5,700 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด  256  นิวตันเมตร ที่ 3,250 รอบต่อนาที

กำลังทั้งหมดส่งลงระบบเกียร์อัตโนมัติ  Mazda Sky active Drive  ที่มาพร้อมอัตราทด 6  จังหวะ พร้อมระบบสับเกียร์ด้วยตัวเอง Activmatic

เส้นทางการขับขี่ Mazda CX-5 เบนซิน 2.5  ลิตร ของเรา มารับช่วงต่อไม้สองในเส้นทางนอกเมือง ซึ่ง ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันจะเหมาะมากต่อการขับขี่ของเครื่องยนต์บล็อกกลาง

Mazda CX-5

เมื่อเริ่มเคลื่อนตัว  Mazda Skyactiv G 2.5  เริ่มโชว์ศักยภาพด้วยการเคลื่อนตัวที่ความเร็วต่ำ Walking speed  ที่ค่อนข้างไหลได้เร็วพอสมควร เมื่อหักพวงมาลัยออกถนนใหญ่ การเดินทางอันเร้าใจก็เริ่มขึ้น

เส้นทางถนนพระราม 2  ธนบุรี-ปากท่อ มุ่งหน้าวังมะนาว จังหวัดเพชรบุรี น่าจะเป็นที่คุ้นเคยของใครหลายคนที่เดินทางมุ่งลงสู่จังหวัดแดนใต้ เป้นอย่างดี การขับขี่ Mazda CX-5  ของเรา ก็มาพร้อมความตื่นเต้นตั้งแต่ออกตัว แม้แรงบิดจะไม่ได้มากเท่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ที่จริง น้อยกว่า เกือบครึ่งของแรงบิดที่มีในรอบต้นๆ

แต่ความสนุกสนานในการขับขี่ของ  Mazda CX-5 Skactiv G 2.5 ลิตร ก็ไม่ได้ลดลงไป การเป็นเครื่องเบนซินมีข้อได้เปรียบมากกว่าในเรื่องเครื่องยนต์ที่มีรอบให้ใช้เยอะกว่า ซึ่งคุณสามารถลากได้เร้าใจ ยิ่งเสียงเครื่องยนต์ SkyActiv G  ที่มาพร้อมอัตรากำลังอัด 13:1 ที่ค่อนข้างสูง เสียงหวานเร้าใจคล้ายเครื่องยนต์สมรรถนะสูงจากสนามแข่ง ทำให้คุณมีความรู้สึกยินดี ที่จะบี้คันเร่งติดพื้น

Mazda CX-5

เกือบตลอดเวลาที่ขับ  Mazda CX-5  2.5  เราใช้ความเร็วค่อนข้างสูง ตั้งแต่  110 ก.ม./ช.ม. ไปจนถึงความเร็วสูง  190 ก.ม./ช.ม. ที่ขับกันไปแบบไม่ตั้งใจ เผลออีกที ..นี่มันจะ 200 ก.ม./ช.ม. แล้วหรือนี่ ซึ่งในช่วงรอบเร่ง โดยเฉพาะ รอบกลางของเครื่องยนต์ตอบสนองดีมาก

ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการได้ชุดท่อไอเสีย  4-2-1  พร้อมคอท่อยาว ทำให้ ลดอุณหภูมิไอเสียจากห้องเผาไหม้  ช่วยให้เครื่องยนต์เร่งได้อย่างต่อเนื่องไม่รู้สึกตื้อหรือตันเร็ว แม้จะเริ่มเข้าสู่ช่วงความเร็วสูงแล้วก็ตาม หากขุมพลัง Sky Activ ยังสามารถเร่งได้อย่างต่อเนื่อง ให้ความรู้สึกสปอร์ตก้นจมเบาะ แม้จะมาพร้อมล้อขอบ 19นิ้ว  แบบที่ Mazda  เคยบอกใน วีดีโอนำเสนอว่า  Thrilling acceleration เพราะท้ายสุดมีโอกาสเหมาะลองจับอัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. จากโปรแกรม torque OBD  ได้เวลา  6.0 วินาที ในการเร่ง ถือว่าดีพอสมควรเลยทีเดียว

นอกจากการเร่งที่เร้าใจในยามที่เดินทางไก เครื่องยนต์  sky Activ G  2.5 ลิตร ก็ยังวางใจได้ในเรื่องความประหยัด ด้วยรอบเครื่องยนต์ แม้จะเดินทางด้วยความเร็วสูง อย่างการเดินทางความเร็วสูงสุดตามกฎหมายกำหนดบนเส้นทางหลวง 120 ก.ม./ช.ม. ก็ใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 2,250  รอบต่อนาที และถ้าคุณต้องการความเร็วอีกนิด 130 ก.ม/ช.ม ก็ใช้รอบเครื่องยนต์  2,400 รอบต่อนาที และจะยิ่งน่าแปลกใจขึ้นไปอีก ถ้ารู้ว่า Mazda CX-5 2.5 ขับด้วยอัตราทดเฟือง 4.325  

Mazda CX-5

ด้านระบบส่งกำลัง  sky Activ Drive  ตัวขับเคลื่อนพระรองค่อนข้างให้อารมณ์สปอร์ตเช่นกัน ยิ่งบวกความรู้สึกที่ด้านเกียร์ออกแบบ มาได้ จุ่มจิ๋มน่ารัก จับกระชับมือยิ่งดูลงตัว แม้ด้วยกำลังของเครื่องยนต์ 2.5  ลิตร ทำให้ เราไม่ได้ใช้การเปลี่ยนเกียร์ Activematic ทว่าช่วงทาง 2 เลนสวน ก็ได้ใช้บ้างเล็กๆ ซึ่งก็ตอบสนองค่อนข้างเร็วทันใจดี ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับเกียร์ธรรมดา มากกว่าชุดส่งกำลังอื่นที่เคยขับมา

นอกจากความน่าชื่นชมทั้งเครื่องและเกียร์แล้ว ระบบกันสะเทือนก็เป็นอีกสิ่งที่สร้างความประทับใจได้มากเช่นกัน ย้อนกลับเมื่อครั้น  Mazda Sky Activ technology forum ที่มาจัดให้เราวิ่งทดสอบเทคโนโลยีในสนามแข่ง ต้องยอมรับว่า การทดสอบช่วงสั้นๆ ทำให้อาจจะไม่รู้เรื่องมาก แต่ก็พอบอกได้ว่าช่วงล่างที่เราคุ้นเคยจะดูไม่ธรรมดาเหมือนที่ผ่านๆมา

แต่เมื่อถูกผนวกเข้ามาอยู่ในรถ Mazda CX-5  การออกแบบช่วงล่างใหม่ทั้งหมดภายใต้พื้นฐานเดิม ซึ่งด้านหน้ามาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กดันโคลง และด้านหลังใช้ อิสระมัลติลงิคพร้อมเหล็กันโคลง ที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี แต่มาสด้าการกระจายแรงสั่นสะเทือนจากถนนที่จะเข้าสู่ห้องโดยสาร ออกไปข้างนอกหรือส่งมันลงพื้นด้วยเพียงการลดความซับซ้อนของชิ้นส่วนช่วงล่างลง รวมถึงผนวกกับโครงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนที่ต้องรับแรงจากช่วงล่าง

Mazda CX-5

สูตรสำเร็จนี้กลายเป็นยาวิเศษที่ทำให้  Mazda CX-5  มีความแตกต่างจากพี่น้องผองเพื่อนกล่มรถอเนกประสงค์ ด้วยตลอดระยะทางการขับขี่ รถจะให้ความรู้สึกนิ่มนวลในห้องโดยสาร แม้จะต้องผ่านทางอุดมด้วยหลุมบ่อก็รู้สึกว่า ห้องโดยสารสะเทือนน้อยมากคล้ายมี 2  บุคลิกในตัว ทั้งนุ่มสบาย แต่กลับกันยังหนึบแน่นอมีแอบกระด้างนิดหน่อย โดยเฉพาะ ถ้าคุณต้องเผชิญพวกหลุมบ่อ ทว่าเน้นที่ความหนึบมากกว่าในการเถาะถนน ยิ่งในความเร็วสูง หรือ อยากสาดโค้งมันส์ ก็ไม่มีปัญหา รวมถึงพวงมาลัยเองก็ออกแบบมาค่อนข้างสปอร์ตให้ความเฉียบคมในการบังคับเลี้ยว น่าจะถูกใจคนชอบขับรถที่ต้องการความแม่นยำในการควบคุม

นอกจากตัวช่วงล่างเองที่มีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว ระบบช่วยเหลือในการขับขี่เอง ก็ยังตอบสนองไดเร็ว ช่วงระหว่างทาง มีจังหวะหนึ่ง ซึ่งเราใช้ความเร็วค่อนข้างสูง แต่ข้างหน้าเป็นโค้งขวาเกือกม้า เราลองเข้าโค้งนี้ ด้วยความเร็ว  110 ก.ม./ช.ม. โดยประมาณ แต่โชคร้ายไปหน่อย ที่ล้อหลังไปเหยียบหินกรวดที่ไหล่ทาง ทำให้ท้ายเริ่มปัดเกิดการ Over steer  เสี้ยวนาทีนั้นของประสบการณ์การขับขี่ผมตัดสินใจเริ่มคัดพวงมาลัยช่วยพร้อมเบรก เพื่อรักษาการทรงตัวและกำลังเตรียมที่จะเร่งช่วย แต่เสี้ยวนาทีกำลังจะการทำตามที่คิด ระบบ Dynamic stabilities Control ก็มารับช่วงต่อทันที มันสั่งเบรกทำงานทางด้านหน้าขวา และหลังซ้ายเพื่อให้รถมีการทรงตัวที่ดีขึ้น ซึ่งสำหรับคนที่ไม่มีทักษะการขับขี่ สามารถช่วยได้เยอะในยามหน้าสิ่งหน้าขวานเช่นนี้

 

2.0 ลิตร เร้าใจแบบพอเพียง

หลังจากขับอย่าเมามันส์มากว่าครึ่งทาง ก็ได้เวลาที่เราจะมาสลับไปขับรถยนต์  Mazda Cx-5  ใหม่ ในรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร  ซึ่งมีเครื่องยนต์เล็กลง แต่มีความประหยัดมากขึ้นจากรุ่น 2.5  ลิตร อย่างไม่ต้องสงสัย และจะเป็นรุ่นที่คนจำนวนไม่น้อย คงตั้งใจจะคบหา

การขับทดสอบ  Mazda CX-5  2.0 ของเรา วันนี้เป็นรุ่น  ออพชั่นจัดเต็มรุ่น  S  ซึ่งมีหลายๆอย่างๆคล้ายกับในรุ่น 2.5  ลิต  ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่มีเสน่ห์จากเส้นสาย  Kodo  เหมือนเดิม จะต่างเพียงล้ออัลลอย ที่ลดลงมา 2  เบอร์ อยู่ที่ขอบ 17 นิ้ว พร้อมยาง ที่มีหน้ากว้าง 225/65/R17 ซึ่ง จะมีขอบแก้มยางสูงกว่าจากการลดขนาดวงล้อลงไป (รุ่น   C  จะต่างเพียงโคมไฟหน้าไม่เป็นโปรเจคเตอร์ และไม่ได้ไฟซีนอน รวมถึงไม่มีไฟเดย์ไทม์ และระบบทำความสะอาดไฟหน้า)

ด้านในห้องโดยสารรายละเอียดในภาพรวมคล้ายกันทุกประการ ทั้งเบาะคนขับปรับไฟฟ้า ด้านคนนั่งให้ปรับมือ เบาหลัง พับได้ 3 ตอน  40/20/40  ระบบปรับอากาศอัตโนมัติสามารถแยกซ้าย-ขวา อย่างเดียวที่ต่างในรุ่น  C  ล่างสุด คือกุญแจรีโมท อัจฉริยะ  และรุ่น  2.0 ไม่ได้เครื่องเสียงจาก  Bose  แต่มาพร้อมระบบเครื่องเสียง วิทยุ  CD Mp3  พร้อม ลำโพง 6 ตำแหน่ง ซึ่งสิ่งที่ต่างอยู่ที่มิติของเสียงในห้องโดยสาร รวมถึงลักษณะเสียงเน้นโทนแหลม กับเสียงกลางใน Bose  จะหายไป จนแตกต่างอย่างชัด แต่ถ้าไม่ซีเรียสอะไรขนาดที่ว่า ต้องมีเครื่องเสียงเทพเอาไว้ฟัง โอเปร่าทั้งวง เครื่องเสียงใน Mazda CX-5  2.0 ก็ไม่ได้กากขนาดนั้น

Mazda CX-5

ใต้ฝากระโปรง  Mazda Cx-5  2.0 ลิตรประจำการด้วยต้นกำลัง  Mazda Skyactiv G 2.0  ลิตร เครื่องยนต์แบบ  4 สูบแถวเรียง ที่มีกำลังอักมากที่สุดในหมู่รถ Production กับกำลังอัดสูงถึง  14.0:1 แต่มาสด้า ไม่ได้ออกแบบเครื่องยนต์มีลักษณะสูบสแควร์  สมมาตรระหว่าง ช่วงชักและขนาดของลูกสูบ ตามเครื่องยนต์  4 สูบแถวเรียง  2.0 ลิตรทั่วไป แต่ออกแบบ ให้ช่วงชักมีระยะมากกว่า เน้นเรียกกำลังแรงบิด ซึ่ง ในรุ่น 2.0 ลิตร นี้ ให้กำลังสูงสุด 163  แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที  และมีแรงบิดสูงสุด  210 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที

เมื่อขับขี่ ไม่น่าแปลกใจที่เครื่อง 2.0 ลิตร จะอืดอาดกว่า 2.5 ลิตร พอสมควร แต่หากมองสมรรถนะเครื่องยนต์ Sky Activ G  2.0 เทียบกับคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาดก็ถือว่า ดีกว่าอย่างชัดเจน การเร่งต่างๆ ทำออกมาได้ดี ถึงไม่ได้มีโอกาสจับอัตราเร่ง เนื่องจากเป็นช่วงเดินทางแบบคาราวาน แต่เครื่องยนต์ดูมีกำลังพร้อมจะพุ่งทะยานอยู่ตลอดเวลา

แม้สังเกตนิสัยเครื่องยนต์ที่ดูแล้วน่าจะจัดจ้าน แต่เรากลับพบว่ามันไม่พุ่งเท่าที่คิด ทว่าปัจจัยหนึ่งน่าจะมาจากชุดเกียร์  skyActiv Drive  ที่เหมือนกับรุ่น  2.5  ลิตรทุกประการ เพียงแต่ปรับอัตราทดเฟืองท้ายก่อนขับลงล้อสูง ถึง  4.624  เน้นการเร่งที่จัดจ้านในช่วงต้น จึงเป็นสาเหตุว่า ในช่วงรอบปลายความเร็วสูง จะยืดยาดกว่าทั้งที่มีกำลังอัดมากกว่า แต่จะดีขึ้น ถ้าใช้ ระบบ activematic  ให้เป็นประโยชน์ สามารถเค้นเพิ่มได้อีกพอสมควร ในจังหวะที่ต้องใช้กำลังจริงจัง แต่ถ้าขับเรื่อยๆ คิกดาวน์จาก D  ก็แซงได้แบบนิ่มๆ

Mazda CX-5

ส่วนระบบช่วงล่างเอง Mazda Cx-5 2.0 ออกแนวนุ่มนวลกว่าพอสมควร จากแก้มยางที่สูงกว่า 2.5  ลิตร  และด้วยน้ำหนักเปล่าของรถที่ต่างกันราวๆ 60  ก.ก. ก็ทำให้มีการใช้ชุดโช๊คสปริงที่ต่างๆกัน ซึ่งภาพรวมของของรุ่น 2.0 ลิตร อยู่ที่การเป็นรถครอบครัว ขับสบายๆมากกว่าเน้นที่ความเร้าใจในความสปอร์ต

 

สรุป   ชอบซิ่ง 2.5  เน้นขับสบายชอบความประหยัด 2.0

 หลังจากลงจากรถ Mazda CX-5 2.0 ลิตรมา ความแตกต่างระหว่าง  Mazda CX-5  เครื่อง  2.0 ลิตร และ 2.5  ลิตร ก้ค่อนข้างจะมีความชัดเจน ในประเด็นสมรรถนะการขับขี่ โดยเฉพาะที่หลายคนอยากทราบยิ่งคืออัตราประหยัด ซึ่งก่อนที่ผู้เขียนจะบอกผลของอัตราประหยัดที่ได้ ขอบอกก่อนว่าการขับในวันนี้ผ่าหลายฝีเท้ามาก

แต่ทั้งหมด ตลอดเส้นทาง การทดสอบใช้ความเร็วกันพอสมควรแบบไม่บันยะบันยังมีเท่าไรใส่เต็มกันจริงๆ  และผลจากการบอกอัตราประหยัดครั้งนี้ เติมด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 โดยผมมีตัวเลขจากหน้าปัด มาให้ดู เทียบกับผลการทดสอบ Mazda CX-5  ตามโหมด  JC08  ซึ่งเป็นการทดสอบผสมผสานระว่างในเมืองและนอกเมือง ด้วยน้ำมันเบนซิน 92 ของญี่ปุ่น ดังนี้

 

ตารางแสดงอัตราประหยัดน้ำมัน เปรียบเทียบระหว่าง การทดสอบเทียบระหว่าง JC08 และการทดสอบที่ได้

 

ผลจาก JC08

(กม./ลิตร)

จากการทดสอบในคาราวาน (จากหน้าปัด)

ตัวเลขประหยัดจากหน้าปัด

(ก.ม./ลิตร)

Mazda CX-5 2.0

15.6

8.3 ลิตร/100 ก.ม.

12.0

Mazda Cx-5 2.5

15.2

9.0 ลิตร / 100 ก.ม.

11.11

 

จากตารางพอจะชี้ชัดว่า ในรุ่นเครื่องยนต์  2.5  ลิตร ค่อนข้างทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน ในเรื่องความประหยัด แม้จะมีกำลังมากกว่า แต่กลับมีอัตราประหยัดค่อนข้างใกล้เคียงกับรุ่น 2.0 ลิตร ซึ่งมีซีซี น้อยกว่า  ซึ่งระหว่างทางผมได้สังเกตการทำงานของรอบเครื่องยนต์พบว่า  2.0 ลิตร มีกำลังรอบเครื่องค่อนข้างสูงพอตัว แต่ยังน้อยกว่าคู่แข่ง

 

ตารางเทียบ อัตราการทำงานของรอบเครื่องยนต์ใน Mazda CX-5 ระหว่าง Sky Activ G 2.0 และ  2.5  ลิตร

 

ความเร็วที่ใช้ในการขับขี่

(ก.ม./ช.ม.)

Sky Activ G 2.0

(รอบต่อนาที)

Sky Activ G 2.5

(รอบต่อนาที)

80

1700

1400

90

1900

1700

100

2050

1900

110

2250

2100

120

2500

2250

 

ด้วยความใกล้เคียงดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ เครื่องยนต์  2.5  ลิตร มีอัตราประหยัดใกล้เคียงกับ 2.0 ลิตร และในช่วงความเร็วเดินทางนอกเมือง ยังใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำกว่าในตำแหน่งเกียร์สูงสุด เมื่อผนวกแรงบิดเยอะกว่า ทำให้สามารถคงคันเร่งยาวได้นานกว่า ทำให้มีอัตราประหยัดมากกว่า

 

แม้ในภาพรวมความประทับใจ Mazda CX5 2.5 ลิตร จะค่อนข้างเป็นต่อในเรื่องของการแนะนำเทคโนโลยีที่มาพร้อมกำลังอย่างลงตัว และน่าประทับใจ หวนนึกถึงทุกครั้งที่ใช้รอบเร่งตวัดขึ้นไปเรียกกำลัง 190 แรงม้ามาใช้งาน

แต่กลับกันกันด้วยออพชั่นที่ไม่ต่างมาก ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ก็มีรายละเอียดหลายส่วนเหมือนกัน เพียงแต่บุคลิกของมันไม่ได้มีความสปอร์ตแบบเปิดเผย แต่พร้อมให้เร้าใจในการเร่งทุกครั้งที่ เหยียบคันเร่งลงไป จะติดเพียงการทดเฟืองท้ายที่ทำให้ดูและ ช่วงรอบกลางและปลายอืดอาดไป หน่อย แต่เชื่อว่า ถ้ามีการทดเฟืองท้ายเบอร์เดียวกัน การขับขี่น่าจะได้บุคลิกเดียวกัน

ในแง่ความคุ้มค่า 2.0 ลิตร ดูจะเหมาะมากกว่า กับคนที่ต้องการสมรรถนะพอตัว แต่มีงบไม่มากนักในการซื้อหารถยนต์อเนกประสงค์ที่มีออพชั่นครบครัน กลับกันรุ่น 2.5  ลิตรนั้น เป็นออพชั่นที่มาแบบจัดเต็มในเรื่องความสปอร์ต สมรรถนะ และความประหยัด ..แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกเครื่องยนต์ไหน ทั้งคู่ก็มาพร้อมของดี ....Mazda Sky Activ Technology

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ภาพ  Mazda

ขอบคุณคาราวานทดสอบ Mazda CX-5 กรุงเทพ-กุยบุรี โดย  บริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

 

[GALLERY183]

5 เรื่องน่าสนใจ