Full Review : TR Transformer MAX 3.0 4WD จอมลุยร่างสง่าด้วยร่างหลังคาสูง

  • โดย : Autodeft
  • 15 ก.ค. 58 00:00
  • 10,124 อ่าน

พบบทดสอบรถตัวลุยโดยคนไทย เพื่อคนไทย เมื่อเรามีโอกาสได้สัมผัสรถยนต์อเนกประสงค์ TR Transformer Max

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (นายเต้ย)

เรียบเรียงโดย  ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

นึกถึงค่ายรถยนต์ของคนไทย ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ ชาวไทยจะคุ้นเคยรถอเนกประสงค์แบบ 7 หรือ 11 ที่นั่งและรถกระบะ 4 ประตู ที่นำแชสซีส์ของรถกระบะมาดัดแปลงจากฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย เพื่อตอบสนองการใช้งานในด้านต่างๆเช่นพาครอบครัวไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดหรือ พาก๊วนเพื่อนไปเที่ยวผจญภัย

แต่เมื่อค่ายรถญี่ปุ่นขอกลับไปผลิตรถกระบะ 4 ประตู กับ รถอเนกประสงค์ เองทำให้ไทยรุ่งเกิดปิ๊งไอเดียอยากทำตลาดรถเฉพาะทางแนวตรวจการณ์ลาดตระเวนเพื่อใช้ในภารกิจต่างๆของหน่วยงานราชการ หรือองค์กรต่างๆ เพื่อให้หน่วยงานได้ประหยัดงบประมาณในการสั่งซื้อและลดการนำเข้ารถประเภทดังกล่าวจากต่างประเทศในนาม TR MUV4 โดยคำว่า MUV ย่อมาจาก Military Utility Vehicle

TR Transformer MAX 3.0 4WD

TR Transformer MAX 3.0 4WD

 TR MUV 4 ที่มีให้เลือกทั้งรุ่นหลังคาเหล็ก รุ่นหลังคาผ้าใบ รุ่นสเตชั่นแวกอน โดยใช้แพลตฟอร์มของ Toyota Vigo Champ มาพัฒนากลายเป็นรถตรวจการณ์รูปทรงคล้าย Hummer นำมาเผยโฉมครั้งแรกที่เมื่อปีพ.ศ. 2552 ในฐานะรถต้นแบบและเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมจำหน่ายในปีพ.ศ. 2554 พร้อมกันนี้ในปีเดียวกันได้แนะนำ TR Transformer อีกหนึ่งผลผลิตจาก TR MUV4 มาพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นรถตรวจการณ์สำหรับคนทั่วไปเน้นในเรื่องความหรูหราออฟชั่นที่ครบครัน เริ่มรับจองตั้งแต่ต้นปีพ.ศ. 2555

ช่วงแรกจำหนายในรูปแบบรถทรงตัดตรง 5 ประตู แถมมีรุ่นสี่ประตูออกมาจำหน่ายควบคู่กัน ที่มีให้ลือกทั้งรุ่นขับสองยกสูงกับรุ่นขับสี่ 4WD และล่าสุดในปีพ.ศ 2558 ไทยรุ่ง เปิดตัว TR Transformer MAX รถตรวจการณ์หลังคาสูงหรือ Hi-Roof สำหรับลูกค้าที่ชอบความใหญ่โตโอ่โถงและนั่งสบาย

เรือนร่างภายนอกที่ยังคงเอกลักษณ์ที่สืบทอดความดุดันบึกบึนจาก TR Transformer รุ่นก่อนๆ เส้นสายการออกแบบตัวรถที่ได้แรงบันดาลใจจากรถ Hummer อเมริกาด้วยกระจังหน้าสีเทาแบบ 7 ช่องที่ทรงเดียวกับรถ Jeep พร้อมไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ทรงกลมที่มองแล้วให้อารมณ์แบบรถคลาสสิกไปอีกแบบหนึ่ง คมเข้มด้วยกันชนหน้าสีดำพร้อมไฟตัดหมอกทรงกลม

ด้านข้างติดตั้งคิ้วขอบล้อทรงเหลี่ยมสีดำ เพิ่มความหล่อเหลาด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 6 ก้าน ดีไซน์พิเศษขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง ออฟโรดแบบ AT ขนาด 265/75R16 ซึ่งชุดล้อลายพิเศษและยางนั้นเป็นออฟชั่นเสริม แต่ถ้าเป็นล้อกับยางสเปคเดิมจะใช้ล้ออัลลอยด์ 6 ก้านลายเดียวกันกับ Vigo Champ รุ่น Smart Cab 4WD ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง H/T ขนาด 16 นิ้วเช่นกัน บันไดข้างสีดำช่วยขึ้นลงในการเข้าออกรถได้สะดวกส่วนด้านหลังโยกย้ายยางอะไหล่ ไปอยู่ที่ใต้ท้องรถ พร้อมกันชนหลังสีดำและอีกหนึ่งจุดเด่นที่ต้องยกนิ้วให้นั่น บันไดขนาดเล็กที่ด้านหลังเพื่อความสะดวกในการขึ้นลงแต่ส่วนของฝากระโปรงท้าย เปิดได้ 2 บาน ซึ่งอาจสร้างความยุ่งยากในการปิดถ้าหากใช้งานในช่วงแรกๆ เพราะต้องไขล็อคด้วยกุญแจเฉพาะที่ทาง ไทยรุ่ง จัดไว้ให้ดอกหนึ่ง

TR Transformer MAX 3.0 4WD

ที่กล่าวมาทั้งหมด จุติในมิติตัวรถของ TR Transformer MAX รุ่น 3.0 4WD มีความยาว X กว้าง X สูง อยู่ที่ 5,110 X 1,852 X 2,088 มม. ระยะฐานล้อเท่ากับ Toyota Vigo Champ 3,085 มม. แต่พิกัดน้ำหนักตัวรถอัพเพิ่มไปถึง 2,350 กก.

วันแรกที่ควบเจ้า TR Transformer MAX โดยขับจากเพชรเกษม 81 มุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ไปยังห้างไฮโซแถวสุขุมวิท พอมาถึงห้างทางเจ้าหน้าที่ รปภ. มาบอกกับผมว่ารถคุณหลังคาสูงไม่สามารถขึ้นอาคารจอดรถได้ให้ไปจอดที่ชั้นใต้ดิน ทำให้ผมมีอันต้องพาเจ้า TR Transformer MAX ไปจอดรถที่ชั้นใต้ดินร่วมกับเหล่ารถตู้ส่งของ ไปจนถึงรถตู้ระดับหรู เพราะรถรุ่นนี้เป็นรถหลังคาสูงเกือบ 3 เมตร

เมื่อกดกุญแจรีโมทระบบเซ็นทรัลล็อคจะสั่งการปลดล็อคแค่สี่ประตูเท่านั้น แต่ไม่ครอบคลุมถึงฝากระโปรงท้าย เปิดประตูก้าวเข้าสู่ห้องโดยสาร คุณจะพบสิ่งที่คุ้นเคยนั่นคือแผงแดชบอร์ด ไปจนถึงคอนโซลเกียร์รวมถึงออฟชั่นที่ติดมาไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบสี่ก้าน เครื่องเล่น DVD พร้อมระบบนำทาง สวิตช์เครื่องปรับอากาศแบบหมุนและเบาะนั่งคู่หน้า ทั้งหมดล้วนยกชุดมาจาก Toyota Vigo Champ 4WD แทบทั้งสิ้น

แต่มีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับการเป็น TR Transformer Max ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าหุ้มหนังแท้พร้อมปักโลโก้ Transformer  รวมถึงเบาะนั่งตอนสองหุ้มหนังแท้เช่นกันพร้อมที่พักแขนและที่วางขวดน้ำในตัวซึ่งสามารถปรับพับได้ ส่วนเบาะตอนสาม ทางไทยรุ่ง มีให้เลือกถึง 2 รูปแบบนั่นคือ แบบเบาะนั่งแยก 2 ที่นั่ง หรือ เบาะนั่งแบบเดียวกับรถสองแถวทั้งซ้าย-ขวาตามความชอบของลูกค้า ซึ่งค่าตัวต่างกันแค่ 10,000 บาท

TR Transformer MAX 3.0 4WD

TR Transformer MAX 3.0 4WD

TR Transformer MAX 3.0 4WD

เมื่อเข้าไปนั่งเบาะตอนหน้า ด้วยส่วนสูงของผมขนาด 174 ซม.รวมถึง ปรับตำแหน่งเบาะคนขับให้สูงขึ้นนั้น สามารถมองทัศนวิสัยในการขับขี่ค่อนข้างชัดเจน แต่มาขัดๆตรงที่เสา A ที่ค่อนข้างใหญ่อาจมีการบดบังไปบ้างในเวลาเลี้ยวกลับรถ พอปลี่ยนมานั่งตั้งแต่ตอนสองและตอนสาม บอกได้เลยว่า สบายสุดๆ  เนื่องจากเป็นรถตรวจการณ์หลังคาสูง ทำให้ตัดประเด็นในเรื่องในเรื่องหัวติดหลังคาได้เลย แต่จะว่าไปก็ทำใจในเรื่องของการนั่งแบบเบาะรถสองแถวตอนหลังหน่อย แต่ถ้าไม่ใช่ ก็พับเก็บได้

เรื่องความประณีตภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะการบุวัสดุภายใน พี่บอลได้เล่าให้ฟังว่าตอนสมัยที่พี่เขาได้ไปร่วมกรุ๊ปเทส TR Transforner  รุ่นหลังคาเตี้ยว่า การบุวัสดุภายในบางจุดใช้การเปลือยวัสดุ ทั้งหลังคารถกับเสา A ทำให้ดูไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่แต่พอมาเป็น TR Transformer Max  ได้มีการหุ้มวัสดุภายในทั้งแผงเสา A ขึ้นรูปด้วยพลาสติกสีดำกลมกลืนกับสีของแผงหน้าปัดพร้อมราวจับเพื่อสะดวกในการขึ้น-ลง แผงหลังคาขึ้นรูปพร้อมแอร์ราวในตอนสองกับสวิตช์เปิดปิด

เพื่อความสวยงามในตัวแต่ยอมรับเลยว่าการหุ้มวัสดุภายทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมแต่ด้านการเก็บเสียงเมื่อมาถึง 80 กม./ชม. เก็บเสียงได้ค่อนข้างดี แต่พอเข้า 90-120 กม./ชม. มีเสียงลมปะทะเข้ามาพอสมควร ส่วนหนึ่งมาจากตัวรถที่ออกแบบมาไม่ได้เน้นในเรื่อง Aerodynamics หรือความลู่ลม ถ้าใส่ใจนิดนึงจะทำให้รถดูมีความเงียบขึ้นแม้เมื่อต้องขับในความเร็วสูงๆ

 

สำหรับ TR Transformer Max 4WD ที่นอกจากใช้แพลตฟอร์มรวมถึงของตกแต่งภายในจากToyota Vigo Champ แล้ว ทางไทยรุ่งเห็นประโยชน์ของการใช้แพลตฟอร์มของ Toyota Vigo Champ จึงนำเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลเทอร์โบแปรผัน มาใช้ด้วยเช่นกันด้วยเครื่องขนาด 3.0 ลิตร 4 สูบ ในรหัส 1KD-FTV ที่ให้แรงม้าสูงสุดถึง 171 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิด 343  นิวตันเมตรที่1,400 – 3,400 รอบ/นาที มาพร้อมระบบเกียร์ธรรมดา  5  สปีดและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part-Time

TR Transformer MAX 3.0 4WD

TR Transformer MAX 3.0 4WD

เท่าที่ได้ควบเจ้า TR Transformer Max 4WD ที่มาพร้อมกับตัวรถน้ำหนักร่วมเกือบ 2 ตันครึ่ง ทำให้พลกำลังอาจหดหายไปบ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นอืดอาดพอที่จะเร่งแซงได้ไม่เหมือน Toyota Vigo Champ ที่หนักไม่ถึง 2 ตัน พอกดคันเร่งไปนิดนึง วิ่งไวราวกับจรวด ด้านระบบคลัตช์ของรุ่นนี้เซ็ตมาได้อย่างดีเยี่ยมสามารถ เหยียบคลัตช์เพื่อเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างสบายๆ

ระบบช่วงล่าง ของ TR Transformer Max 4WD ในส่วนด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบลีฟสปริงหรือแหนบแผ่นซ่อนพร้อมโช้คอัพทรงกระบอกติดตั้งทแยงมุมกัน และติดตั้งระบบระบบตัดต่อกำลังอัตโนมัติสำหรับชุดเกียร์ 4WD ถึงแม้ช่วงล่างยกชุดจาก Toyota Vigo Champ 4WD แต่ทางไทยรุ่ง กลับเซ็ตช่วงล่างให้มีความนุ่มนวลมากขึ้นไม่ว่าสภาพถนนจะเรียบแบบโรยด้วยกลีบกุหลาบ หรือมีอุปสรรคเป็นหลุมเป็นบ่อก็ตาม

ส่วนยางที่ติดรถมาเป็นยางประเภท A/T หรือ All Terrain เมื่อขับด้วยความเร็ว 90 กม./ชม.เป็นต้นไปเริ่มจะมีการสั่นๆบริเวณพวงมาลัย รวมถึงมีเสียงยางดังเข้ามาในห้องโดยสารซึ่งเรียนกับท่านผู้อ่านว่าเป็นเรื่องปกติของยาง A/T อยู่แล้ว ขนาดรถส่วนตัวของผมยังใช้ยาง A/T ก็มีเสียงยางดังเช่นกัน

 

Bonn Test Mode …..นอกจากสิ้นเปลืองแล้วยังท้าทายกับสมรรถนะในทางวิบากที่เขากระโจม

ในการทดสอบ Bonn Test  Mode ตามปกติมีด้วยกันสองส่วนคือ โหมดอัตราสิ้นเปลือง ทั้งในเมืองกับนอกเมืองด้วยความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ตามสภาพการใช้งานจริง และโหมดสมรรถนะในการขับขี่ เพื่อจะได้ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของรถแต่ละรุ่นมีความแรงเร้าใจแบบสมกับราคาคุยที่หลายค่ายได้เคลมไว้หรือไม่ ครั้งนี้ที่ได้นำ TR Transformer Max มาทดสอบทางผมจึงขอเทสแค่อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน ด้วยเหตุผลบางประการในเรื่องตัวถังรถทางผมจึงขอตัดเรื่องสมรรถนะทั้งอัตราเร่งและความเร็วสูงสุดออกไป แต่จะเป็นสมรรถนะในการลุยแทน

TR Transformer MAX 3.0 4WD

และครั้งนี้ผมได้แขกรับเชิญพิเศษมาร่วมทดสอบในโหมดนี้ ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหน พี่บอล สุดหล่อเจ้าของ Bonn Test Mode นี่เอง โดยผมกะพี่บอล ได้พาเจ้าหล่อ TR Transformer Max ยัดหัวจ่ายเติมเต็มถังด้วยน้ำมันดีเซลจากปั้มประจำ จากนั้นก็ขับตามเส้นทางสูตรเฉพาะในการขับขี่ แต่ครั้งนี้มีการเปลี่ยนเส้นทางนิดนึงเนื่องจากเส้นทางที่ใช้ทดสอบประจำนั้น ติดเรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ทำให้สภาพเส้นทางเกิดการชำรุด จึงต้องใช้เส้นทางใหม่ที่เน้นในเมืองมากขึ้นแถมเส้นทางที่ทดลองอัตราสิ้นเปลืองครั้งนี้มีเรื่องรถติดไฟแดงเป็นเวลานานรวมถึงเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ทำให้อาจเป็นอุปสรรคในการทดสอบ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี

ระหว่างช่วงทดสอบอาจมีด่านตำรวจมาตั้งแถวที่ทำการสหประชาชาติ ตรงแยกมัฆวาน ซึ่งผมกะพี่บอลก็ยินดีให้ตรวจค้น พร้อมกับคำแซวของตำรวจว่า “ยิงเข้าไหม” ตอนแรกผมเองก็แอบงงๆกับคำพูดที่ตำรวจนายนั้นพูดออกมา แต่พอพี่บอลได้พูดกับตำรวจนายนั้นไปว่า พี่ก็ลองยิงดูสิ และมาเฉลยๆกับผมในทีหลังว่าที่เขาพูดว่ายิงเข้าไหมหมายถึงรถคันนี้เป็นรถกันกระสุนหรือเปล่า เท่านั้นแหละครับถึงบางอ้อทันที

ท้ายสุดสุดท้ายของการทดสอบ โหมดประหยัด Bonn Test  Mode ด้วยระยะทาง 65.5 กิโลเมตร เราจัดน้ำมันไปเพียง 6.658 ลิตร ได้อัตราสิ้นเปลืองเชื่อเพลิงที่ 9.84 กม./ลิตร ที่ถือว่าตัวเลขนี้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างพอใจ เพราะตัวรถมีน้ำหนักอยู่ที่ 2,350 กก.รวมถึงด้วยการเป็นรถหลังคาสูงและการออกแบบที่อาจไม่ได้เน้นเรื่องการลู่ลมจึงทำได้เพียงเท่านี้ หนำซ้ำตัวเลขที่ออกมานั้นอาจเท่ากับหรือใกล้เคียงกับ Toyota Fortuner 3.0 4WD ที่มาพร้อมระบบขับสี่แบบ Full-Time

TR Transformer MAX 3.0 4WD

ในเมื่อ TR Transformer Max ที่นำมาทดสอบนั้นเป็นรุ่น 4WD ผมจึงกอดคอพี่บอลพาไปทดสอบสมรรถนะ กันที่เขากระโจม สวนผึ้ง ซึ่งคราวที่แล้วผมเคยหลอกพี่เขาไปครั้งหนึ่งว่าขับได้ๆแต่เอาเข้าจริงเพราะความเก้ๆกังๆและไม่เคยมีทักษะในการฝึกขับรถ 4WD ทำเอาพี่บอลปวดหัวกับผมไม่ใช่น้อยมาแล้ว  โดยครั้งนี้พี่บอลรับหน้าที่ขับขึ้นไปที่เขากระโจมทั้งขาไปและขากลับซึ่งครั้งนี้พวกเราได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของเขากระโจม มองเห็นสุดเขตประเทศไทยรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านที่มีทิวทัศน์อันสวยงาม ทั้งภูเขาและเหล่าต้นไม้อันเขียจขจี

ระหว่างขึ้นไป สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้สำหรับ TR Transformer Max 4WD ถึงแม้มันจะใช้ระบบขับ 4 แบบ Part-Time จาก Toyota Vigo Champ 4WD แต่เมื่อเข้าระบบ 4L หรือ ขับสี่ความเร็วต่ำ ปรากฏว่าไฟสัญญาณ 4WD มาแค่ดวงเดียวแต่ไร้สัญญาณรูปตัว 4L ถือว่าเป็นจุดอ่อน และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเราเข้า 4L แล้วหรือยัง แต่อย่างน้อยได้ระบบขับสี่ จาก Toyota มาก็สบายหายห่วงไปได้ระดับหนึ่ง

TR Transformer MAX 3.0 4WD

TR Transformer MAX 3.0 4WD

เพราะระบบขับสี่ ของ Toyota ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องการปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ แม่นยำ จนเป็นที่นิยมของเหล่าสิงห์ออฟโรดชาวไทยมานมนาม ตั้งแต่ ยุครุ่นคานแข็งตัว Hero จนมาถึง Vigo Champ จึงหายห่วงในเรื่องการปีนป่ายเข้าเขากระโจมรวมถึงยางที่ติดรถมานั้นเป็นยาง A/T จึงความสามารถในการปีนป่ายได้อย่างดีเยี่ยมถึงแม้จะต้องทนเสียงยางดังในรูปแบบถนนดำ

หลังเชยชมความงามของเขากระโจมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็กลับสู่ตัวเมืองสวนผึ้งราชบุรี เพื่อมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร แต่ระหว่างทางลงพวกเราเผลอไปทางที่มีหลุมบ่อที่เป็นโคลนทำให้ไม่สามารถขึ้นมาได้ จนรถติดหล่ม แต่ด้วยความโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ฯอุทยานท่านหนึ่งได้ช่วยพวกเราในการยกรถด้วยการใช้วินซ์ของรถพี่เขาพารถของเราที่ติดหล่มออกมาได้ ต้องขอขอบคุณ น้ำใจอันดีงามของพี่เจ้าหน้าที่ท่านนั้นที่ช่วยพวกเราออกจากหลุมบ่อได้ ถ้าติดตรงนั้น แล้วไม่มีรถสัญจรไปมามีหวังผมกะพี่บอลคงต้องติดตรงนั้นตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน

 

 

สรุป……..อีกหนึ่งเวอร์ชั่นใหม่ของยานยนต์คนไทย ที่ดุดันบึกบึนแต่แฝงด้วยความนุ่มสบาย

ด้วยประสบการณ์การดัดแปลงรถยนต์มานานหลายปี ทำให้ไทยรุ่งฯเจนจัดในการพัฒนารถอเนกประสงค์ที่ใช้แพลตฟอร์มรถกระบะตั้งแต่สมัย TR Adventure Master, TR  Allroader , TR Xciter จนต่อยอดกลายเป็นรถ TR Transformer ด้วยการออกแบบในสไตล์ Hummer ที่มาพร้อมกับหลังคาแบบไฮรูฟหรือหลังคาสูง นอกจากชุดบันไดข้างแล้ว สำหรับผู้โดยสารที่จะเข้าไปนั่งในตอนท้ายยังมีบันไดขนาดเล็กเพื่อความสะดวกในการขึ้นลง ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอันหนึ่งของ TR Transformer Max

TR Transformer MAX 3.0 4WD

เมื่อก้าวเข้าไปในห้องโดยสารทำให้ดูโล่งโปร่งสบายกว่ารถ PPV จากค่ายญี่ปุ่นหลายๆค่ายเพราะเป็นรถหลังคาสูง การใช้แผงหน้าปัดรวมถึงออฟชั่นไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น DVD พร้อมระบบนำทาง เครื่องปรับอากาศ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นและมาตรวัดเรืองแสง ล้วนแล้วแต่ยกชุดจาก Toyota Vigo Champ ทั้งสิ้นรวมถึงชุดเบาะนั่งที่ยังโอบกระชับในทุกการเดินทางพร้อมหุ้มหนังแท้ชุดใหม่ สำหรับผู้โดยสารตอน 2 กับ ตอน 3 ไม่ต้องบ่นกับคำว่าร้อนอีกต่อไปเพราะมีแอร์ราวบนหลังคาที่ให้ความเย็นแบบทั่วถึง

การบุวัสดุภายในที่คราวนี้บุได้ดีขึ้น ทั้งหลังคากับเสา A ด้วยวัสดุพลาสติกขึ้นรูปซึ่งนับว่าทำได้ดีขึ้นจากเดิมจะเห็นบางจุดเปลือยกันเห็นๆ พร้อมการเก็บเสียงที่ดีขึ้นในระดับหนึ่งแต่เมื่อเข้าความเร็วในย่าน 90-120 เสียงลมเริ่มเข้ามาทันทีแต่ยังดีที่ว่าสามารถพูดคุยระหว่างการเดินทาง

อีกหนึ่งประโยชน์ของการใช้แพลตฟอร์มของ Toyota Vigo Champ นั่นคือเครื่องดีเซล 3.0 ลิตร 171 แรงม้า เมื่อมาครอบลงในตัวถัง TR Transformer MAX  ที่แบกน้ำหนักไปเกือบ 2 ตันครึ่ง อาจทำให้พลกำลังหดหายไปบ้างแต่ก็สามารถวิ่งแซงได้ค่อนข้างทันใจ แต่อัตราสิ้นเปลืองที่ผมกับพี่บอล ได้ทำไว้นั้น จัดอยู่ในเหลดเดียวกันกับ Toyota Fortuner 3.0 4WD ทั้งที่ๆเป็นรถ PPV 7 ที่นั่งที่ใช้ระบบขับสี่แบบ Full-Time รวมถึงน้ำหนักเกือบ 2 ตัน

ตารางแสดงอัตราการทำงานของเครื่องยนต์

ความเร็วที่ขับขี่ (ก.ม./ช.ม.)

รอบเครื่องยนต์

90

1,800

100

2,000

110

2,200

120

2,400

 

ด้านระบบกันสะเทือนถึงจะยกชุดจากรุ่น Vigo Champ มาทั้งพวงแต่ไทยรุ่ง ก็มีการปรับช่วงล่างให้มีความนุ่มนวลมากขึ้นแต่ไม่ได้มีการปรับในเรื่องการทรงตัว จึงทำให้ตัวรถเกิดอาการไม่เกาะถนนแถมมีอาการโยนตัวอีกด้วย

ด้วยราคาค่าตัวเกือบ ล้านหก เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เป็นรถ PPV แต่มีดีตรงที่เป็นรถหลังคาสูงที่โล่งสบายกว่าใครและเป็นรถที่สร้างจากความคิดของคนไทยทั้งการออกแบบการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจในรถฝีมือคนไทย อย่าง TR Transformer MAX  ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (นายเต้ย)

เรียบเรียงโดย  ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

ขอบคุณ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ที่เอื้อเฟื้อรถ TR Transformer MAX 4WD มาทดสอบ ให้ทีมงาน  Autodeft.com  ในครั้งนี้

รถทดสอบ   TR Transformer MAX 3.0 4WD เกียร์ธรรมดา
ราคาจำหน่าย  1,565,000 บาท (11 ที่นั่ง)
 

Bonn ‘s Comment >>> TR Transformer  MAX   น่าจะเรียกว่าเป็นรถยนต์เวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของ   TR Transformer   ด้วยการออกแบบที่มีความลงตัว สมรรถนะการขับขี่ที่ถือว่าไม่ขี้เหร่ และการเก็บภายในที่ค่อนข้างดี ซึ่ง   TR   พยายามทำงานอย่างหนักในเรื่องนี้ และเราหวังว่าพวกเขาจะคงพยายามต่อไป ..

 

สิ่งที่ชอบ >> เป็นรถที่ออกแบบพัฒนาโดยคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้จะใช้แพลต์ฟอร์มของกระบะจาก Toyota ญี่ปุ่นก็ตาม หลังคารถแบบไฮรูฟ ทำให้ โล่งสบาย ในทุกการเดินทาง

สิ่งที่ไม่ชอบ >>  ประตูท้ายที่เปิดสองส่วน อาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้งาน แถมระบบเซ็นทรัลล็อคไม่ครอบคลุมถึงประตูท้าย รวมถึงการเป็นรถที่ทำตาสั่งลูกค้าหรือ By Order อาจทำให้สเปคบางอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

สิ่งที่อยากให้มี >>> ติดตั้งระบบไล่ฝ้ากระจกหลังเหมือน TR Transformer รุ่นหลังคาเตี้ย และปรับเปลี่ยนการออกแบบประตูท้ายให้สามารถเปิดได้แค่บานเดียวทั้งบาน

คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ >> ถ้าคุณชอบความแปลกมีสไตล์ไม่เหมือนใครเมื่อวิ่งบนท้องถนนแล้ว ทุกคนต้องมองและเป็นคนที่รักสินค้าไทย TR Transformer MAX คันนี้ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอน  

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

 

[GALLERY1514]

5 เรื่องน่าสนใจ