รีวิวรถยนต์ New Honda City ปี 2017 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ใช้งานในเมืองก็ดี นอกเมืองก็ได้

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 23 เม.ย. 60 00:00
  • 341,271 อ่าน

ตั้งแต่ต้นปี 2017 ฮอนด้ากระตุ้นตลาดรถยนต์กลุ่ม Sub-Compact ด้วยรุ่นยอดนิยมจากค่าย New Honda City พร้อมสโลแกน เหนือกว่าที่สุด คือที่สุดในทุกด้าน รุ่นใหม่ล่าสุดในการปรับปรุงโฉมปี 2017 ปรับรูปลักษณ์หน้าตาด้านหน้าใหม่ เพิ่มความหรูหราและสปอร์ตมากยิ่งขึ้น กับโมเดลเจนเนอเรชั่นที่ 4 ภายใต้แนวคิดหลัก “Advanced Energetic Smart Star”

 หากพูดถึง Honda City น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งในตลาดบ้านเรานั้น ฮอนด้า ซิตี้ ถือเป็นรุ่นยนต์นั่งรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่น้อย เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้บริโภคในตลาดที่อาจจะเน้นไปที่คนเมืองที่มีความต้องการใช้งานรถยนต์ที่มีสมรรถนะที่ดี อัตราประหยัดเชื้อเพลิงที่ดี และครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ รวมไปถึงรูปลักษณ์ดีไซน์ที่จะสื่อถึงภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่ได้อย่างสปอร์ตและหรูหราลงตัว

 

New Honda City 2017

รถยนต์ Honda City ใหม่ ที่ทางทีมงานนำมาทดสอบในครั้งนี้เป็นรุ่นท็อป รุ่น SV+ มีรูปลักษณ์ภายนอกที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งหมดทุกรุ่น ตั้งแต่ด้านหน้ากับกระจังหน้าโครเมี่ยมดีไซน์ใหม่ให้ความรู้สึกที่สปอร์ตมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าดูแล้วชวนให้นึกถึงด้านหน้าของรุ่นพี่ร่วมค่ายอย่าง Honda Civic โฉมใหม่ล่าสุดไม่น้อย ด้วยแนวกระจังหน้าชิ้นบนขนาดใหญ่พร้อมโลโก้ฮอนด้าที่ออกแบบมาในลักษณะเดียวกัน ไฟหน้าใหม่แบบ LED ในรุ่น SV และ SV+ และไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ในรุ่น S, V และ V+

 

ไฮไลท์เด่นที่ทางฮอนด้าจัดมาให้กับ LED daytime ในทุกรุ่นย่อยของ ฮอนด้า ซิตี้ ที่ถูกติดตั้งอยู่ภายในโคมไฟหน้าและส่องสว่างในเวลากลางวัน ถัดลงมาด้านล่างจะพบกับไฟตัดหมอกหน้า เมื่อดูเส้นสายรอบตัวรถแล้วยังคงดีไซน์เดิม แนวเส้นสันคมยาวตั้งแต่ช่วงประตูหน้าจรดด้านท้ายยาวต่อเนื่องกันกับไฟท้ายทั้ง 2 ข้าง มิติตัวรถคงเดิมด้วยความยาวตลอดคัน 4,440 มม. ความกว้าง 1,695 มม. ความสูง 1,471 มม (1,477 มม. สำหรับรุ่น V+, SV และ SV+) ทุกรุ่นมาพร้อมฐานล้อ 2,600 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 150 มม.

New Honda City 2017

New Honda City 2017

และอีกหนึ่งจุดสังเกตได้ถึงความแตกต่าง อยู่ที่บริเวณด้านท้ายกับกันชนหลังดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ตที่บริเวณชายกันชนด้านล่างมาพร้อมกับตะแกรงรังผึ้งและไฟทับทิมสะท้อนแสงทั้งซ้าย-ขวา และยังเปลี่ยนดีไซน์ของล้ออัลลอยใหม่ นำเสนอล้อสีทูโทน ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 185/55 R16 สำหรับรุ่น SV และ SV+ และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว รัดด้วยยาง 175/65 R15 ในรุ่น V และ V+

 

ทำให้ภาพรวมของรถยนต์ Honda City ใหม่ ปี 2017 ให้อารมณ์สปอร์ตผสานความหรูหราที่เพิ่มมากขึ้นสังเกตได้อย่างเด่นชัดที่ด้านหน้าที่ได้รับการปรับเปลี่ยนไปมากที่สุด และที่ด้านท้ายเห็นได้ถึงความแตกต่างด้วยการเพิ่มลวดลายความสปอร์ตลงไปที่กันชนหลังเพิ่มความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า

New Honda City 2017

ภายในมาในโทนเข้มสี Gun Metallic ตัดสลับด้วยสีเงินเพิ่มบรรยากาศความสปอร์ตให้กับห้องโดยสาร คอนโซลหน้าจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ให้ใช้งานและควบคุมได้ง่าย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน ที่ด้านขวาเป็นตำแหน่งของระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ หรือ Cruise Control เพื่อการเดินทางอย่างสะดวกสบายสั่งการโดยนิ้วโป้งเพียงนิ้วเดียว ด้วยขนาดของปุ่มและการจัดเรียงตำแหน่งที่อาศัยการใช้งานที่คุ้นเคยไม่นานก็สามารถตั้งค่าการทำงานของระบบนี้ได้โดยไม่ต้องละสายตามาดู ด้านหลังของพวงมาลัยเป็นตำแหน่งของแป้นควบคุมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ 7 สปีด และที่ด้านซ้ายของพวงมาลัยมาพร้อมกับปุ่มควบคุมระบบความบันเทิง เลื่อนย้อนหลังหรือถัดไป เพิ่ม/ลดเสียง ถัดมาที่ด้านล่างกับปุ่มรับสาย-วางสาย ซึ่งแน่นอนว่า ฮอนด้า ซิตี้ ได้ติดตั้งระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนมาให้ผ่าน Bluetooth ด้วยเช่นกัน

New Honda City 2017

ถัดไปที่กลางคอนโซลด้านบนสุดจะพบกับช่องปรับอากาศ 2 ช่อง ทรงเหลี่ยมแบนที่สามารถกระจายความเย็นได้ดี ถัดลงมาจะพบกับตำแหน่งของระบบเครื่องเสียงที่แสดงผลและสามารถควบคุมผ่านระบบสัมผัส ซึ่งชุดเครื่องเสียงนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มาพร้อมลำโพง 8 จุด ที่ให้เสียงได้ทั่วทั้งห้องโดยสาร รองรับการเชื่อมต่อทั้ง USB ,HDMI และ Bluetooth ซึ่งหลังจากการทดสอบใช้งานในเมนูต่างๆ แล้วมีความลื่นไหลดีสัมผัสติดง่ายเมนูต่างๆ ไม่ซับซ้อน การจัดวางตำแหน่งไอคอนเมนูค่อนข้างใหญ่ง่ายต่อการสังเกตและสัมผัสสั่งการ

New Honda City 2017

ส่วนบริเวณมาตรวัดดีไซน์ในแบบวงกลม 3 วงขนาดใหญ่เช่นเคย วงกลมตรงกลางเป็นตำแหน่งของมาตรวัดความเร็ว กม./ชม. ที่ขอบด้านบนจะมีการแสดงสี 2 สี คือสีเขียวและสีน้ำเงิน ซึ่งแต่ละสีที่แสดงนี้จะบ่งบอกถึงผลการขับขี่ในขณะนั้นว่าประหยัดน้ำมันหรือไหม โดยที่ขณะนั้นมีการขับขี่แบบประหยัดก็จะส่องแสงสีเขียวออกมา เป็นระบบที่เรียกว่า Eco Coaching ที่จะจับจากพฤติกรรมการเหยียบเบรกและคันเร่งของผู้ขับในขณะนั้น ด้านซ้ายเป็นมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ และด้านขวาสุดที่จะแสดงอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่หน้าจอส่วนบน มาตรวัดระดับน้ำมันในถังแบบขีดที่ส่วนล่าง และบริเวณตรงกลางกับหน้าจอแสดงข้อมูลต่างๆ แบบดิจิตอล ที่มีทั้งนาฬิกา ระยะทางที่วิ่ง ระยะทางที่สามารถวิ่งได้จากปริมาณน้ำมันในถัง อุณหภูมิ และอัตราเฉลี่ยสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในแต่ละ Trip อีกด้วย

New Honda City 2017

ถัดลงมาจากชุดเครื่องเสียงเป็นตำแหน่งของระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบสัมผัส การสัมผัสสั่งการอาจจะต้องมีการละสายตามามองเล็กน้อย เนื่องจากแผงควบคุมตรงนี้เป็นระบบสัมผัสจึงแบนเรียบเสมอกันทั้งหมด หน้าจอแสดงระดับแรงลม ช่องของลมที่ถูกเปิดเพื่อส่งความเย็น และตัวเลขบอกอุณหภูมิที่ได้ตั้งไว้ ตำแหน่งนี้ในระนาบเดียวกันด้านขวาจะพบกับปุ่ม Push Start สีแดงสดเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์แล้ว และบริเวณแผงใต้ช่องปรับอากาศฝั่งคนขับเป็นตำแหน่งของสวิทซ์ควบคุมกระจกมองข้างแบบไฟฟ้า และปุ่ม Econ Mode สีเขียวสะดุดตา ที่เมื่อมีการเปิดการทำงานในโหมดนี้แล้วสมองกลของรถจะเข้ามาจัดการการทำงานของเครื่องยนต์ ลิ้นปีกผีเสื้อ และระบบเกียร์ รวมไปถึงปรับการทำงานของระบบปรับอากาศอีกด้วย ทั้งหมดเพื่อประสิทธิภาพในการประหยัดสูงสุด

New Honda City 2017

New Honda City 2017

มาถึงพื้นที่ภายในห้องโดยสาร Honda City ใหม่ ยังคงให้ความกว้างขว้างในการโดยสารทั้งตอนหน้าและตอนหลัง เบาะคู่หน้าให้ความรู้สึกเน้นไปทางนุ่ม เบาะกว้างปีกด้านล่างถูกดีไซน์ให้โอบกระชับเล็กน้อย สำหรับคนตัวผอมจะรู้สึกได้ว่าเบาะค่อนข้างใหญ่ และสำหรับใครที่มีน้ำหนักจะไม่ได้รู้สึกว่าเบาะโอบมากเกินไป การโดยสารทั้งในเมืองนอกเมือง หรือระยะทางไกลไม่ได้ก่อให้เกิดความรู้สึกเมื่อยล้าแต่อย่างใด ตัวพนักพิงของเบาะถูกออกแบบมาให้รับกับแผ่นหลังได้เกือบทั้งหมดตั้งแต่ช่วงเอวขึ้นมาจนถึงเกือบหัวไหล่ในเบาะคู่หน้า ส่วนเบาะตอนหลังระยะฐานเบาะรองรับช่วงขาได้ดีเบาะค่อนข้างนุ่ม พื้นฐานช่วงวางขามีเหลือไม่อึดอัดส่วนพื้นที่เหนือศีรษะนั้นสำหรับคนที่สูง 178 ซม. ก็ยังพอมีพื้นที่ตรงนี้เหลืออยู่ในกรณีที่นั่งชิดหลังพิงเบาะ

 

เบาะทั้งหมดถูกหุ้มด้วยผ้าลายใหม่ และเบาะหลังยังสามารถปรับพับแบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกของมากขึ้นสามารถดึงปลดล็อคได้จากบริเวณคันดึงด้านในกระโปรงท้าย โดยพื้นที่ห้องสัมภาระท้ายปกติจุได้ 536 ลิตร  สามารถใส่กระเป๋าใบใหญ่ๆ ได้สบาย และสำหรับใครที่มีเด็กในการเดินทางและใช้คาร์ซีท ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ก็พร้อมรองรับด้วย ISOFIX&Child Anchor จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กอีกด้วย

New Honda City 2017

ด้านขุมกำลังของ New Honda City ยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน I-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ตามสเปคให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที และยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมแป้น Paddle Shift ที่บริเวณหลังพวงมาลัย ซึ่งมาภายใต้เทคโนโลยี Honda Earth Dream พร้อมระบบ G-Design Shift ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

 

ภาพรวมในการขับขี่จริงช่วงในเมือง New Honda City ให้ความคล่องตัวสูง พวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ให้น้ำหนักที่เบาควบคุมง่ายในช่วงความเร็วต่ำ โดยเฉพาะเมื่อต้องขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัวสูง ไม่ว่าจะมุดซ้ายหรือขวา ก็ไม่ใช่ปัญหา หรือแม้แต่การควบคุมรถลัดเลาะไปตามตรอกซอยต่างๆ ที่แคบๆ ก็สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจ ถือเป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่งที่ใช้งานในเมืองได้อย่างดีอีกรุ่นนึงทีเดียว ส่วนเรื่องของพละกำลังที่ใช้ในเมืองนั้นเหลือเฟือ เพราะด้วยการจราจรที่หนาแน่นบวกกับการทำความเร็วนั้นคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าในยามออกเดินทางต่างจังหวัดรถขนาดกะทัดรัดอย่างนี้ก็สามารถไม่น้อย

 

เมื่อเราทดสอบวิ่งบนเส้นทางออกต่างจังหวัด มีการทำความเร็วเพิ่มขึ้นระดับ 100-120 กม./ชม. การควบคุมพวงมาลัยให้ความรู้สึกที่มั่นคง ไม่ต้องคอยประคองพวงมาลัยให้รู้สึกเมื่อยล้าแต่อย่างใด แต่หากได้น้ำหนักความหนืดที่เพิ่มมากกว่านี้ของพวงมาลัยในช่วงความเร็วเดินทางไกลก็จะยิ่งทำให้ขับได้มั่นใจยิ่งขึ้น และด้วยช่วงล่างที่ถูกเซ็ตมาในแบบนุ่มกำลังดี จะไม่ได้นุ่มจนนิ่มเกินไปจนนั่งแล้วรู้สึกเวียนหัว แต่กลับให้ความรู้สึกที่นุ่มและหนึบมั่นใจในการเดินทางได้ในช่วงความเร็วเดินทางนี้ ซึ่งช่วงล่างเองก็สามารถซับแรงกระแทกได้ดี ส่งผลให้การขับขี่ควบคุมรถได้มั่นใจ ในส่วนของระบบเบรกนั้น ฮอนด้า ซิตี้ มาพร้อมกับดิสเบรกที่คู่หน้าส่วนคู่หลังนั้นเป็นดรัมเบรก หากถามว่าเพียงพอต่อการใช้งานในการเบรกรถหรือไม่นั้นก็ต้องขอบอกเลยว่าเอาอยู่ น้ำหนักในการเหยียบเบรกเองนั้นก็ถูกเซ็ตมาได้อย่างค่อนข้างลงตัว ให้ความรู้สึกมั่นใจในการลงน้ำหนักเพื่อเบรกชะลอหรือหยุดรถ ไม่มีให้รู้สึกว่ารถจะหยุดไม่อยู่แต่อย่างใด

New Honda City 2017

ครั้งในการเร่งแซงที่ความเร็วเดินทางออกต่างจังหวัด ก็สามารถที่จะคิกดาวเรียกกำลังหรือเลือกเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองผ่านแป้น Paddle Shift ที่หลังพวงมาลัย ก็สะดวกไปอีกแบบ ซึ่งจากการที่ได้เปลี่ยนเกียร์เองแล้วนั้นก็ทำให้รู้สึกว่าตัวรถกระฉับกระเฉงเร่งได้ดั่งใจสั่ง กับระบบเกียร์แบบ CVT ที่หลายๆ คนจะรู้สึกว่าเป็นระบบเกียร์ที่ทำให้การขับขี่ไม่สนุกสนานเร้าใจ แต่กลับเป็นการเน้นการขับขี่ที่นุ่มนวลต่อเนื่อง ซึ่งสำหรับ Honda City ใหม่ กลับให้ความรู้สึกที่ขับขี่ได้สนุกสนานไหลลื่น การออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไม่ได้รู้สึกว่าตัวรถอืดแต่อย่างใด กดคันเร่งเมื่อไหร่ตัวรถก็เพิ่มความเร็วได้อย่างต่อเนื่องจนแอบประหลาดใจเล็กๆ ไม่น้อย หรือแม้แต่ในยามเดินทางไกลก็ตามการไต่ความเร็วขึ้นไปก็ไม่ได้รู้สึกว่าอืดอาดแต่อย่างใด จวบจนไปถึงการเร่งแซงในจังหวะต่างๆ ก็สามารถตอบสนองได้อย่างน่าประทับใจ

 

และเมื่อพูดถึงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแล้ว ทางทีมงานก็ได้วิ่งทดสอบมาให้ได้ดูตัวเลขกัน กับการใช้งานภายใต้การเดินทางออกนอกเมือง ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา ซึ่งต้องเล่าว่าวันที่ได้ทดสอบนั้นรถค่อนข้างเยอะ และมีช่วงที่รถติดหนักๆ อยู่ 2-3 ช่วง คล้ายกับสถานการณ์ในเมือง รวมไปถึงช่วงที่รถว่างพอที่จะสามารถทำความเร็วได้ถึง 120 กม./ชม. บวกับมีผู้โดยสารด้วยกันทั้งหมดรวม 3 คน และสัมภาระอีกนิดหน่อย ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่หน้าจอรถแสดงอยู่ที่ 13.5 กม./ลิตร และเมื่อใช้การคำนวณจากระยะทางที่วิ่งมาหารด้วยจำนวนลิตรของการเติมน้ำมันเต็มถังกลับเข้าไปทำให้ได้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 13.22 กม./ลิตร เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างใกล้เคียงกันเลยทีเดียว

 

อีกตัวเลขที่ทีมงานได้ทดสอบกันกับ New Honda City ก็คือ อัตราเร่งช่วง 0-100 กม./ชม. โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขของการโดยสารในรถรวมทั้งหมด 2 ท่าน บวกสัมภาระอีกนิดหน่อย สามารถทำเวลาได้ดังนี้
 

ความเร็วที่ขับขี่ (กม./ชม.)

ครั้งที่ 1 (วินาที)

ครั้งที่ 2 (วินาที)

ครั้งที่ 3 (วินาที)

เฉลี่ย (วินาที)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.

11.93

11.96

11.56

11.82

 

ด้านความปลอดภัยทางฮอนด้าก็จัดมาให้กับระบบเบรก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSA) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) และ ISOFIX & Child Anchor จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก และถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น และเพิ่มถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ในรุ่น SV+ ที่นำมาทดสอบ รวมถึงกล้องมองภาพขณะถอยหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ ในรุ่น V+, SV และ SV+

New Honda City 2017

New Honda City ปี 2017 ใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ใช้งานในเมืองก็ดี นอกเมืองก็ได้

เรียกได้ว่าฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ปี 2017 นี้ มีความครบเครื่องในแบบที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองที่มอบความคล่องตัว หรือแม้การเดินทางไกลก็สามารถรองรับการเดินทางได้แบบสบายๆ มาพร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์ที่ดูสปอร์ตหรูหรายิ่งขึ้น พื้นที่ห้องโดยสารที่กว้าง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน เป็นรถยนต์รุ่นหนึ่งที่หากใครที่กำลังมองหารถยนต์ที่เน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก เดินทางออกต่างจังหวัดบ้างในบางครั้งหรือบ่อยครั้ง มองหารถยนต์ที่สามารถตอบสนองด้านการขับขี่ได้เพียงพอ มีกำลังของเครื่องยนต์ที่พอให้เรียกมาใช้งานได้แบบสบายๆ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในระดับสิบกว่ากม./ลิตรขึ้นไป กับงบประมาณในช่วงไม่เกิน 8 แสนบาท Honda City ใหม่ ปี 2017 จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งทั้งหมดของความต้องการ ไม่ว่าจะรูปลักษณ์ การขับขี่ พื้นที่ใช้สอย อุปกรณ์อำนวยความสะดวก จะถูกใจหรือไม่นั้น หากเพียงแต่ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง เพราะทุกคำตอบของคำถามที่สงสัย จะสามารถรู้ได้เมื่อได้ไปลองสัมผัสเอง!!

เรื่องและขับทดสอบโดย รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ (toptaro)

 

คลิกชมภาพ Gallery ของ New Honda City ปี 2017 ได้ที่นี่

 

ขอขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ New Honda City ปี 2017 มาทดสอบในครั้งนี้

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

ราคาจำหน่าย New Honda City มีทั้งหมด 6 รุ่น ดังนี้

รุ่น SV+ CVT                 ราคา 751,000 บาท
รุ่น SV CVT                   ราคา 736,000 บาท
รุ่น V+ CVT                   ราคา 689,000 บาท
รุ่น V CVT                     ราคา 649,000 บาท
รุ่น S CVT                      ราคา 589,000 บาท
รุ่น S MT                      ราคา 550,000 บาท

 

สีภายนอกให้เลือก 6 สี ได้แก่ - สีน้ำเงิน Cosmic Blue (เมทัลลิก) (สีใหม่) - สีเงิน Lunar Sliver (เมทัลลิก) - สีขาวมุก White Orchid - สีเทา Model Steel (เมทัลลิก) - สีดำ Crystal Black (มุก) - สีขาว Taffeta White 

5 เรื่องน่าสนใจ