Test Drive: รีวิว ทดลองขับ MG ZS 1.5 X จุเยอะ ราคาดี เทคโนโลยีเพียบ ออพชั่นเต็ม
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 1 ก.ค. 62 00:00
- 40,028 อ่าน
Morris Garage หรือเราเรียกกันสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า MG ถึงแม้จะเคยเป็นแบรนด์ที่มีชาติกำเนิดมาจากดินแดนผู้ดี ประเทศอังกฤษ แต่เราคงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ปัจจุบัน ภาพลักษณ์ของยี่ห้อนี้ กลายเป็นรถยนต์ยี่ห้อจากแดนมังกร ประเทศจีนไปโดยปริยาย ทำให้หลายคนที่ยังคงติดภาพการลอดกเลียนแบบ ก็อปปี้สินค้าจากคนอื่นจากประเทศนี้ มีทัศนคติที่ค่อนไปทางแย่กับทุกสินค้าที่ส่งออกมายังประเทศไทยแล้วแปะคำว่า Made In China
ถึงแม้ว่า กระแสเหยียดหยามแบรนด์ทีมาจากจีน จะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ทาง เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย ก็ยังคงไม่ย่อท้อ ทยอยปล่อยรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง อาจจะกระท่อนกระแท่นบ้างในช่วงเปิดตัวใหม่ เพราะหลายรุ่นต้องยอมรับว่าอาจจะอยู่ในสถานะที่เรียกว่า ไปไม่รอด อาทิ MG 6 หรือ MG GS ที่ยอดขายไม่ได้ตามใจหวัง พอจะเป็นตัวขายได้ก็เป็นพวกรุ่น MG 3 หรือ MG 5 ที่พอจะไปวัดไปวาได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า รุ่นรถยนต์เหล่านี้แหล่ะ ที่ช่วยให้แบรนด์ MG เป็นที่รู้จักของคนมากขึ้นได้แบบไม่รู้ตัว
แต่เมื่อถึงเวลาการเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ตัวใหม่ของค่ายอย่าง MG ZS ที่ทำเอาวงการสั่นสะเทือน เพราะการเปิดราคามาที่เริ่มต้น 679,000 บาท ตัวท็อปราคาเพียง 789,000 บาท ทำเอาคู่แข่งในตลาดนี้หงายหลังกันเป็นแถบ เพราะมันเป็นราคาที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับรถที่มีขนาดเดียวกัน ทำเอายอดขาย MG ZS พุ่งแบบไม่หยุด สังเกตได้เลยจากบนท้องถนนที่มีรถ Sub Compact SUV รุ่นนี้ที่เราจะเห็นได้บ่อยเป็นอย่างมาก
จริง ๆ แล้ว ทีมงาน AUTODEFT ก็เคยเทสไปแล้วล่ะ กับ MG ZS ในช่วงที่เปิดตัวใหม่ ๆ ประมาณปลายปี 2560 ลองย้อนไปอ่านกันได้ที่ Hands On : MG ZS อเนกประสงค์สุดสมาร์ท..ขวัญใจคนเมืองกับค่าตัวไม่เกิน 8 แสน แต่รอบนี้ ต้องขอเอากลับมาลองขับกันอีกครั้ง เมื่อได้ข่าวของการมาของ MG ZS EV รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายที่มาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ (วันที่ทดสอบ ยังไม่มีการเปิดตัว) เอามาให้ย้อนรำลึกกันหน่อยว่า สมรรถนะการขับขี่มันเป็นอย่างไร เผื่อวันไหนมีโอกาสดีได้ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าบ้าง จะได้เปรียบเทียบได้ว่ามันต่างกันมากขนาดไหน
รอบนี้ยังคงนำรุ่น MG ZS 1.5 X รถอเนกประสงค์จากแดนมังกรตัวบนสุดมาทดสอบ เพราะทีมงาน AUTODEFT เองเชื่อว่า ตัว MG ZS EV น่าจะเอาเข้ามารุ่นเดียวแบบออพชั่นจัดเต็ม (ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากที่คาด) จึงต้องเอารุ่นนี้มาทดสอบกันให้ชัดเจน และแน่นอนว่าก่อนขับ เราก็ต้องมาทำความรู้จักรถคันนี้ให้กระจ่างแจ้งถึงข้อมูลตัวรถกันก่อน โดยรถอเนกประสงค์ Sub Compact SUV MG ZS 1.5 X คันนี้ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 15S4C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi – TECH หัวฉีดมัลติพอยท์ ขนาด 1.5 ลิตร ขับกำลังได้สูงสุด 114 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode ที่หลายคนค่อนขอดว่า เครื่องมันเล็กไปหรือเปล่า, ทำไมเกียร์แบบโบราณ มีแค่ 4 สปีด อันนี้คงต้องทำความเข้าใจว่า ทาง เอ็มจี เองคงต้องการให้ MG ZS 1.5 X นั้น อยู่ในราคาที่ไม่มากเกิน รวมทั้งมองในเรื่องความประหยัดน้ำมันเข้ามาด้วย มันจึงออกมาในสเปกแบบนี้ ส่วนจะเพียงพอในการขับขี่หรือไม่ เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน
มิติของตัวรถ MG ZS 1.5 X ก็ถือว่าาอยู่ในขนาดที่ไม่เล็กอะไร เอนไปทางใหญ่ด้วยซ้ำ กับขนาด 4,314 x 1,809 x 1,624 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) ฐานล้อกว้าง 2,585 มม. ระยะสูงจากพื้นถึงท้องรถ 165 มม. น้ำหนักรถโดยประมาณที่ 1,258 กิโลกรัม ล้อที่ใส่มานั้นเป็นล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ลาย 5 ก้าน มาพร้อมยางขนาด 215 / 50 R17 ไฟหน้ามาแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ Daytime Running Light เป็นลายเส้นในกรอบโคมไฟหน้าเลย ส่วนกระจังหน้านั้น ออกแบบเป็นสไตล์เดียวกันกับ MG 3 ที่เน้นเป็นแบบตาข่ายขนาดใหญ่ ไม่ได้เป็นช่องลมแนวยาวเหมือน MG GS มีโคมไฟตัดหมอกอยู่บนชายล่างของกันชน ด้านท้ายมีไฟท้ายแนวนอน ต่อยาวจากตัวถังรถไปถึงประตูท้าย มีไฟเบรกดวงที่ 3 เป็นไฟ LED แต่ไม่มีมือจับเปิดประตูหลัง เพราะได้มีการใช้งาน Logo ของ MG ที่อยุ่ด้านท้ายเป็นที่เปิดประตูนั่นเอง (โคตรเฟี้ยว) มีไฟตัดหมอกหลังให้บนกันชน ช่วงล่างด้านหน้าใช้งานเป็นแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นทอร์ชันบีม ใช้ระบบห้ามล้อแบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ แต่จานด้านหน้ามีช่องระบายความร้อนด้วย ส่วนพวงมาลัยนั้นใช้ระบบแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) เลยนะจ๊ะ
ภายในของ MG ZS 1.5 X นั้น เบาะเป็นแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง หุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทางและเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทางด้วยมือ เบาะแถว 2 พนักพิงพับได้แบบ 60:40 หน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 จุด มีระบบสั่งการอัจฉริยะ i – SMART อันเป็นที่ภูมิใจนักของทางเอ็มจี มีระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง พวงมาลัยแบบ Multi-Function ควบคุมเครื่องเสียงและสั่งการใช้งานโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับหน้าจอได้ แอร์ตามสเปกเป็นแบบดิจิตอล แต่เอาจริงมันก็มือหมุนเนี่ยแหล่ะ ไม่ได้เป็นแบบ Auto แต่อุปกรณ์ที่เจ๋งที่สุด คงต้องยกให้หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ที่หลังคาเกือบทั้งแผงเป็นแบบใส ที่มีแผงตาข่ายเป็นตัวกรองแสงเอาไว้ให้ สามารถเปิดรับลมออกไปได้ครึ่งหนึ่ง ติดมาแบบนี้ MG ทำให้อุปกรณ์ตัวนี้ มาอยู่ในรถระดับที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้เลย
ส่วนระบบความปลอดภัยของ MG ZS 1.5 X ก็จัดมาให้เพียบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist), ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System), ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System), ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System), ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal), ถุงลมนิรภัย 6 จุด, กล้องมองหลัง, สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง, ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer และสัญญาณกันขโมย, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ถือว่าเป็นรุ่นที่ใส่ระบบความปลอดภัยมาเยอะมาก เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป ลองหันไปดุรอบข้างได้เลยว่า ในราคานี้ มีใครให้มากกว่านี้ไหม
และแน่นอนว่า MG ZS 1.5 X มีระบบสั่งการบนสมาร์ทโฟน ( i – SMART Mobile Application ) ให้ใช้งานอยู่ สามารถลงโปรแกรมลงบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของเรา จะสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ และเปิดระบบปรับอากาศอัจฉริยะได้, ระบบล็อก และปลดล็อกประตูได้, วางแผนการเดินทาง Travel Plan ได้, สร้างขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ และค้นหารถ Find My Car ได้, ตรวจสอบสถานะรถยนต์ และเตือนความผิดปกติของรถยนต์ได้ ทั้งหมดนี้ สามารถทำได้ผ่านมือถือของคุณเลย
ข้อมูลตัวรถก็เยอะมากพอแล้ว เรามาเริ่มเดินทางเพื่อทดสอบกันดีกว่า เริ่มกันตั้งแต่ท่านั่งเลย ผมว่า MG ZS 1.5 X เป็นรถที่มีขนาดเหมาะสมกับการเข้านั่งของผมเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อก้าวขาแล้วย่อตัวลงไป ก็นั่งบนเบาะได้อย่างพอดี นั่งไปแล้วรู้สึกว่าตัวรถนั้นกว้างกว่าที่คิด ไม่ได้เล็กไปกว่ารถระดับหลักล้านสไตล์เดียวกัน ตัวเบาะมันดูแข็งไปหน่อย แต่ขนาดก็กำลังพอดีตัว วัสดุภายใน สัมผัสอาจจะไม่ค่อยลื่นมือ ดูกระด้าง เกรดในระดับกลางไปหน่อย แต่ถ้ามองถอยหลังไปที่ราคา ระดับนี้ถือว่าพอใช้ได้แล้ว ส่วนเรื่องการจัดวางปุ่ม ผมชอบนะ มีให้กดเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ที่เหลือให้ไปกดเอาในหน้าจอแทน แตกต่างกับบนรุ่นพี่อย่าง MG GS ที่เหมือนจะเอาทุกปุ่มมากางให้กดเต็มแผงไปหมด มันดูแล้วรก ใช้งานยากมากกว่า และหลายการใช้งาน เราก็สามารถสั่งการผ่าน i-Smart ได้เลย ไม่ยุ่งยากดี ส่วนที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นการมีของ Sunroof ที่กว้างมาก ยาวตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านหลัง มันทำให้รู้สึกว่ารถกว้างขึ้นได้อีกมากโข ซึ่งมีเพียงไม่กี่รุ่นหรอกที่ราคาไม่ถึงล้านแต่มี Sunroof ให้ใช้ (อ่อ อีกรุ่นคือ MG 3 นั่นเอง ค่ายนี้ใจถึง)
สับเกียร์เข้าไปที่ D แล้วเริ่มเดินเครื่องกันเลย ช่องปล่อยไหลตัวแล้วกดคันเร่งลงไป MG ZS 1.5 X ก็ไม่ได้ขี้เหล่อะไร ออกตัวพอจะกระฉับกระเฉงอยู่ แต่พอกดให้ลึกเข้า มันก็เริ่มจะต้องรอรอบกันเล็กน้อย กำลังเครื่องจะค่อย ๆ มาทีละหน่อย แต่พูดแบบนี้ ไม่ได้แปลว่ามันอืดจนวิ่งเร่งหนีใครไม่ได้นะ เพียงแต่เวลาขับ เราอาจจะต้องใช้ความใจเย็นเล็กน้อย เครื่องยนต์ระดับ 114 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตัน-เมตร แต่ต้องแบกตัวรถ 1,258 กิโลกรัม บวกกับน้ำหนักตัวคนทดสอบและสัมภาระอีกราว 100 กิโลกรัม แถมยังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ความห่างของอัตราทดเกียร์ คงวิ่งพุ่งปรู๊ดแบบ CVT หรือพวกเกียร์ 7 สปีดขึ้นไปได้อยู่แล้ว แต่สำหรับการใช้งานในเมืองแล้ว เหลือเฟือครับ พูดเลย
สิ่งที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ ต้องบอกว่าเป็นระบบของช่วงล่าง ที่ให้ความนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความหนึบแน่นเกาะถนนทั้งในยามเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนด้วยความเร็ว ทุกการเคลื่อนไหวมันมั่นใจไปทุกย่างก้าว แถมพวงมาลัยไฟฟ้าก็ช่วยทำให้การหันพวงมาลัยนั้น ทำได้แม่นยำพอตัว ถึงแม้ว่า MG ZS 1.5 X จะเป็นรถอเนกประสงค์ SUV แต่เชื่อใจได้เลยว่า ถ้าคุณได้ขับมันแล้ว คุณจะชอบ Feeling ของการได้ขับมันอย่างแน่นอน แถมยังมีตัวเสริมความปลอดภัยในเรื่องของการขับขี่อีกเพียบ ดังนั้น ความมั่นใจในการเข้าโค้ง, การเลี้ยวเปลี่ยนเลน มันมาเต็มสเกลสำหรับการเดินทางทุกเส้นทางแน่นอน
อีกอย่างที่ทำให้การนั่งลงขับ MG ZS 1.5 X นั้นเพลิดเพลินมาก นั่นคือของเล่นมันเยอะเหนือรถราคาเดียวกัน ลำพังแต่เรียก “ฮัลโหล เอ็มจี” ก็สนุกแล้ว ต้องยอมรับกันอย่างว่า ระบบการฟังเสียงภาษาไทย ยังไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ ดังนั้นการรับคำสั่งเรานั้นก็ต้องลุ้นกันหน่อยว่าจะทำงานได้ถูกหรือเปล่า แต่ก็ถูกมากกว่าผิดนะ ถือว่าเป็นเรื่องบันเทิงระหว่างการเดินทางได้ บางทีก็ป้อนคำสั่งหาร้านอร่อยกันสักหน่อย ก็มีแอพ Wongnai มาให้ใช้งานได้เลย ถือว่าเป็นหน้าจอที่มีของเล่นให้เราได้เล่นมากกว่ารุ่นอื่น ที่มักจะมีแต่ระบบมาตรฐาน พวกฟังวิทยุ, ฟังเพลง หรือนำทางได้เท่านั้น มีของเล่นให้กดเล่นระหว่างทางได้เยอะจริง
อีกเรื่องที่ชอบคือ ความจุของตัวรถ ถึงแม้มันจะเป็นรถขนาด Sub Compact SUV แต่ MG ZS 1.5 X มันนั่งสบายมาก นั่งสบายกว่ารถซีดานระดับ Compact อย่างเห็นได้ชัด แถมยังมีที่เหลือด้านท้ายให้เก็บของได้อีกเพียบ ขนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้ไม่ยากเย็น แถมเบาะหลังก็พับลงไปได้อีก ยิ่งเพิ่มรูปแบบการขนของได้อีกหลายอย่าง แต่ถ้าใครนั่งแล้วอึดอัด เราก็สามารถเปิดตัวม่านบังแดดหลังคาให้หลบไป แล้วเผยตัวจริงของหลังคา Sunroof แบบ Panoramic เพียงแค่นี้รถก็ดูกว้างขึ้นอีกเพียบ แต่อย่าได้เปิดตอนแดดเปรี้ยงช่วงเที่ยง ๆ บ่าย ๆ ทีเชียว ไม่งั้นอาจจะมีตัวดำกันได้บ้างล่ะ
MG ZS 1.5 X อาจจะมีจุดด้อยบ้างในเครื่องเครื่องยนต์กับเกียร์ แต่มันไม่ได้เป็นปัญหาในการขับขี่ในเมืองแต่อย่างใด มันยังคงวิ่งตามรถข้างหน้าได้แบบไม่ต้องฝืนตัวเองมาก ถ้าออกต่างจังหวัด มันก็วิ่งทำความเร็วในระดับเกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ไม่ยาก ขึ้นช้าหน่อยแต่เกินแน่นอน และมันสามารถไต่ไปได้มากกว่าที่คุณคิดเอาไว้ แต่มันไม่ใช่รถที่ถูกออกแบบมาให้ขับในความเร็วขนาดนั้นกันบ่อย ๆ ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นรถที่ถูกทดแทนมาด้วยอะไรหลายอย่าง เฉพาะเรื่องระบบความปลอดภัยอย่างเดียว ก็หาตัวเทียบแทบไม่ได้แล้ว จัดใส่มาให้เกือบทุกอย่างเท่าที่เทคโนโลยีของ MG จะมีให้ แถมยังมีของเล่นหลักอย่าง i-Smart ให้ใช้งานได้อีกด้วย มีไหมล่ะกับรถต่ำล้าน แต่สามารถสั่งเปิดรถ, สตาร์ทรถให้เราได้ผ่านทาง Smartphone แถมยังเป็นรถที่มีช่วงล่างในระดับดีเยี่ยมอีกด้วย ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คุณจ่ายเงินเพียงแค่ 789,000 บาท มันก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว จะเอาอะไรมากกว่านี้อีกล่ะ
ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com