Life Test: ทดลองขับ Hyundai H1 Touring ขนคนได้เยอะ ราคาประหยัด ไปแต่งเพิ่มเอาเอง
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 1 ส.ค. 61 00:00
- 35,955 อ่าน
ตลาดรถยนต์ MPV ขนาดใหญ่ หรือที่เราเรียกกันว่ารถตู้นั้น ถือเป็นตลาดใหญ่ เพราะจะมีวิ่งกลาดเกลื่อนกันเต็มท้องถนน แต่เอาเข้าจริงในปัจจุบันนั้น ถ้าเป็นการใช้งานในเชิงส่วนตัว ก็จะมีจริงๆเพียงไม่กี่รุ่น ที่นึกออกก็จะมี Toyota Alphard, Vellfire และ Ventury, Mercedes-Benz Vito, Volkswagen Caravelle ที่เหลือของประเภท MPV ก็จะเล็กกว่านี้ (Volkswagen Caravelle, Kia Canival เป็นต้น) และอีกรุ่นที่เราสามารถเห็นไ
ก่อนหน้านี้ ค่ายรถยนต์จากแดนกิมจินั้น ก็มีนำเข้ามาหลายรุ่นเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังมากสักเท่าไหร่ แต่มันไม่ใช่กับ H1 แและ Starex เลย เพราะนี่คือรุ่นที่สามารถสร้างยอดขายให้กับทางฮุนไดได้เป็นกอบเป็นกำ จนปัจจุบันในหน้าเว็บอย่างเป็นทางการจะมีแค่รถสไตล์นี้กับรถยนต์ไฟฟ้า IONIQ ที่เอาเข้ามาเป็นน้ำจิ้มของทางค่ายเท่านั้น
ด้วยความที่เคยนั่งแล้วแหล่ะ กับรุ่นที่เป็น Elite กับ Deluxe รวมทั้งที่เป็น Starex แต่กับตัวของ Touring ที่เป็นตัวเริ่มต้นนั้นยังไม่เคยนั่งและขับเลย ก็เลยถือโอกาสขอความอนุเคราะห์มาจาก ฮุนได มอเตอร์ (ประเทศไทย) ในการขอยืมรถเพื่อมาทดสอบกันหน่อย ว่าถ้าเป็นตัวเริ่มต้นแบบนี้ มันจะใช้งานได้แตกต่างกับตัวอื่นๆที่ตกแต่งแล้วมั้ย อย่างไร
Hyundai H1 Touring ถ้ามองด้วยตาเปล่าภายนอก จะเห็นข้อแตกต่างกับตัวอื่นๆอย่างชัดเจนก็คือ ล้อที่ให้มาจะเป็นล้อกระทะเหล็ก ส่วนรุ่นอื่นจะเป็นล้อแม็กซ์, กระจังหน้าคนละลาน, กระจกตรงบานประตูเลื่อน ของ Touring จะเป็นบานใหญ่แบบแง้มระบายลมได้ ส่วนของรุ่นอื่นจะมีบานเล็กให้เปิดได้ เท่าที่เห็นจะเป็นเท่านี้ แต่ถ้าไปดูสเปคของตัวรถแล้ว ตัว Touring ดันมีขนาดความยาวมากกว่ารุ่นอื่นถึง 25 มม. (5,150 x 1,920 x 1,925 มม. : ยxกxส) น่าจะเอาไว้เพื่อรองรับการนั่งที่สบายมากกว่าตัวอื่น ส่วนเครื่องยนต์ เป็นตัวเดียวกันก็คือรหัส D4CB ดีเซล 2.5 ลิตร Inline-4 DOHC 16V ให้กำลัง 175 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร เป็นเครื่องยนต์มาตรฐาน EURO4 ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดพร้อม Sequential Shift ใช้ Disc Brake ทั้ง 4 ล้อ (ดีงาม)
ภายในนั้น ตัวเบาะเป็นเบาะผ้าทุกที่นั่ง โดยด้านหลังนั้น ถูกจัดให้เป็น 3 แถว นั่งได้แถวละ 3 ที่นั่ง โดยที่ 2 แถวแรกจะมีเบาะตรงกลางแบบพับได้ ทุกแถวสามารถเลื่อนขึ้นไปข้างหน้าหรือถอยไปข้างหลังได้ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาวา แถวนั้นแถวนี้แคบ ขาติด สามารถขยับได้เลย ใครตัวใหญ่นั่งแถวไหน ก็ให้ข้างหน้าขยับไปหน่อยได้ แต่ถ้าตัวใหญ่ทั้งหมด 9 คน ก็ตัวใครตัวมัน ตกลงกันเอาเอง ส่วนประตูเลื่อนทั้ง 2 บานเป็นแบบ Manual
เอาล่ะ ได้ข้อมูลเบื้องต้นแล้วก็เดินทางกันได้ โดยรอบนี้ผมมีปลายทางไปที่เกาะช้าง จ.ตราด โดยขาไปนั้นจะมีผู้โดยสารรวม 5 คน รวมเด็กน้อยอีก 1 คน น้ำหนักรวมสัมภาระก็ประมาณ 3 ร้อยกว่ากิโลกรัมได้ แต่เมื่อถึงปลายทาง จะมีผู้โดยสารที่เดินทางด้วยกันบนเกาะอีก 4 คน เพิ่มน้ำหนักมาอีก 200 กว่ากิโลกรัมได้ แล้วมาดูกันว่า เครื่องยนต์ที่มีพละกำลัง 175 แรงม้า จะพาคนน้ำหนักรวมเกินครึ่งตัน (ยังไม่รวมน้ำหนักรถอีก) เดินทางได้ดีขนาดไหน
เส้นทางที่ใช้นั้น ก็เป็นการวิ่งแบบยาวๆครับ ใช้ถนนหลวงมอเตอร์เวย์ ก่อนจะตัดออกไปทางบ้านบึง แล้วเข้าระยอง แล้วมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือ จ. ตราดอีกที รถไม่ติดครับ วิ่งไปได้เรื่อยๆ แต่ทริปนี้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้มากมายอะไร เพราะมีฝนตกอยู่ตลอดเส้นทาง เลยพยายามควบคุมความเร็วไม่ให้เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเอาจริงๆแล้ว การตอบสนองของเครื่องยนต์ก็สามารถทำได้ดี ถึงมันจะอืดหน่อยในช่วงพยายามเร่งแซง แต่ก็อย่างว่าแหล่ะครับ การใช้งานรถยนต์ประเภทนี้ก็ต้องทำใจ ไหนจะตัวรถที่มีน้ำหนักพอตัวอยู่แล้ว แถมยังมีผู้โดยสารและสัมภาระอีก เร่งได้เท่านี้ก็ดีแล้ว ส่วนตัวเกียร์ Sequential Shift นั้น เอาจริงๆมันไม่ได้ช่วยได้มากเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายก็ช่วยได้ไม่มากอยู่ดี ขับไปตามปกติแล้วกดคันเร่งหนักหน่อย ก็ไม่ต่างกันมากครับ
แน่นอนว่า Hyundai H1 Touring เป็นตัวเริ่มต้นของเขา ออพชั่นที่ใส่มาจึงไม่ได้เยอะอะไรมากมาย มีแค่พอใช้ตามความจำเป็น เครื่องเสียงด้านหน้า เป็นเครื่องเสียง วิทยุ / CD 1 แผ่น แบบ 2 DIN รองรับไฟล์ MP3 มีช่อง USB ให้เสียบเพื่อเล่นไฟล์ MP3 นะ แต่ไม่สามารถเสียบเพื่อเล่นไฟล์จากโทรศัพท์ได้ ลำโพง 4 ตัว คุณภาพเสียง… (อย่าให้พูดเลย) แอร์เป็นแบบ Manual กระจกไฟฟ้า ส่วนอื่นๆที่นึกออกก็ไม่มีอะไรแล้ว คือมันเป็นตัวที่เริ่มต้นจริงๆ มีอุปกรณ์เอาไว้ให้พอใช้งานได้เท่านั้นเอง
ท่านั่งในการขับนั้น มันอยู่ในจุดที่ดีงามมากๆ มองเห็นทรรศนะวิสัยชัดเจนอย่างมาก ตัวเบาะก็นั่งสบายดี ถึงแม้จะเป็นเบาะผ้าก็ตาม มีพนักวางแขนด้านซ้ายให้ด้วย และมันอยู่ในตำแหน่งที่วางแล้วจับพวงมาลัยได้ถนัดพอดี แต่สิ่งที่แย่ในการขับขี่ Hyundai H1 Touring คันนี้คือ ตำแหน่งของเบรกมืออยู่โคตรต่ำ ต่ำในตำแหน่งที่ต้องเรียกว่าเอื้อมถึงจะดึงขึ้นมาได้ นึกสภาพการดึงเบรกมือของรถตู้สมัยก่อน ที่ต้องก้มไปดึงจากข้างพวงมาลัย อันนี้คืออารมณ์นั้นเลย ถึงมันจะอยู่ข้างตัวก็ตาม และอีกอันที่ไม่ชอบคือ ตำแหน่งใส่แก้วที่ข้างประตู จริงอยู่ครับว่ามันมี 2 ชั้น ใส่ของได้เพียบเลย แต่มันวางแก้วได้จุดเดียวก็คือแถวล่าง ที่ตัดเว้าให้วางแก้วกาแฟได้ คือมันอยู่ต่ำมาก ต่ำระดับหลอดแทบจะโดนเท้าของเราแล้ว ตอนหยิบมาดื่มแต่ละทีก็ต้องก้มลงไม่เยอะมากอีกเช่นกัน และนึกสภาพหลอดกาแฟอยู่ใกล้พื้นสิครับ สยอง เลยต้องเลือกมาใช้ตรงตำแหน่งที่หลังเบาะพับตรงกลางระหว่างคนขับกับผู้โดยสารแทน แต่มันก็ตื้นมาก ต้องคอยระวังไม่ให้ล้มอีก เฮ้อ
สำหรับเรื่องช่วงล่าง ก็ใช้ได้ดีพอสมควรครับ ให้ความนุ่มสบายได้ดี ภายใต้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ช่วงเข้าโค้งอาจจะต้องชะลอความเร็วซักหน่อย เพราะตัวมันโย่ง ทำให้การเข้าโค้งอาจจะไม่ได้เนียนกริ๊บแบบที่เราเคยขับกันในรถเก๋ง (แต่เก๋งบางรุ่นก็ไม่ได้กริ๊บนะ จะบอกให้) คือถ้าดูจากรูปร่างของ Hyundai H1 Touring แล้ว ก็พอจะต้องรู้กันโดยสัญชาตญาณว่าไม่ควรขับเร็วมากอยู่แล้วใช่ป่ะ
สิ่งหนึ่งที่อาจจะดูขัดใจนิดหน่อยก็คือ การเก็บสัมภาระเอาไว้ด้านท้าย เนื่องจากรถคันนี้อาจจะทำมาเพื่อตอบโจทย์ทางด้านการขนคนมากกว่า เลยทำให้เนื้อที่ในการเก็บสัมภาระเลยมีไม่มากนัก ถึงแม้จะดันเบาะสุดท้ายไปด้านหน้าจนสุดแล้วก็ตาม สรุปสุดท้ายเลยต้องยอมสละเนื้อที่แถวสุดท้ายไป เพื่อใช้ไว้เก็บสัมภาระแทน ผู้โดยสารก็นั่ง 2 แถวด้านหลังที่เหลือแทนไป
การเดินทางครั้งนี้ใช้ระยะทางรวมประมาณ 800 กิโลเมตรได้ ขับแบบเรื่อยๆสไตล์พ่อบ้าน บรรทุก 6 คนช่วงเดินทางไปกลับ บรรทุก 10 คนช่วงเดินทางบนเกาะช้าง ได้อัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ประมาณ 9.9 กิโลเมตร/ลิตร ถามว่าดีมั้ย มันก็อยู่ในระดับกลางๆนะ ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ได้แย่มากจนเกินไป ถึงแม้ผมจะคาดหวังก่อนการขับมากกว่านี้ก็ตาม เพราะเคยขับรถในไซส์เดียวกันนี้แหล่ะ แต่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ผู้โดยสารและสัมภาระพอๆกัน แต่ระยะทางนั้นไกลกว่ามาก (ประมาณ 3 เท่าตัว) ได้อยู่ที่ประมาณ 9.6 กิโลเมตร/ลิตร เลยคิดว่าเครื่องดีเซลน่าจะประหยัดมากว่านี้ก็เท่านั้นเอง
ภาพรวมแล้วถือว่าเป็นรถที่สามารถพาคนไปได้เยอะๆ แบบนั่งสบายไม่ต้องเบียดเสียดยัดเยียด ขับไปได้เรื่อยๆไม่ต้องรีบร้อนอะไร คนนั่งไม่รู้สึกเหนื่อยจากความนุ่มนวลของช่วงล่าง แต่ด้วยเป็นตัวเริ่มต้น Hyundai H1 Touring จึงไม่ได้มีออพชั่นอะไรเพื่ออำนวยความสะดวก ส่วนระบบความปลอดภัยก็มีมาให้ทั้ง ABS และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ราคาเริ่มต้นที่ 1,289,000 บาท ถือว่าน่าสนใจทีเดียว เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้เป็นรถรับรองแขกของผู้บริหาร หรือไว้ใช้ในครอบครัว เอาไว้เดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสบาย และถ้ามองว่าการเพิ่มเงินอีกราว 2 แสนกว่าบาท เพื่อขึ้นไปเอารุ่น Elite แล้วได้ออพชั่นเพิ่มมาอีกประมาณหนึ่งแล้วไม่คุ้มค่ากับตัวเอง ลองมองออพชั่นเลือกซื้อตัวนี้ แล้วเอาเงินส่วนต่างมาซื้อของแต่งที่ตรงใจกับตัวเอง ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลยครับ
ทดลองขับและเรียบเรียงโดย Earthpark02
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com