Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Honda Accord Turbo EL ออพชั่นพอเพียง ความแรงเหลือล้น

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 18 มิ.ย. 62 00:00
  • 14,989 อ่าน

ตลาดรถยนต์ซีดาน D-Segment หรือรถยนต์ขนาดกลาง หลายคนอาจจะมองว่า มันกำลังเริ่มล้มหายตายจากออกไปจากตลาดแล้ว เพราะความต้องการของผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจกับรถอเนกประสงค์ SUV กันมากกว่าเดิม ด้วยความที่มีเนื้อที่ใช้สอยในตัวรถที่มากกว่า, ขับลุยได้มากกว่า ในราคาที่ไม่ต่างกันมาก ทำให้รถยนต์ไซส์นี้เริ่มหายไปทีละรุ่น

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

แต่สำหรับตลาดเมืองไทยนั้น ความต้องการในรถประเภทนี้ก็ยังคงมีอยู่ แต่ก็เริ่มกระจุกตัวเหลือเพียง 2 ค่ายยักษ์ ที่กำลังฟาดฟันกันอย่างเต็มที่ นั่นคือ Toyota กับ Honda อาจจะมีแทรกมาบ้างกับ Nissan แต่ในเมื่อเจ้าใหญ่ 2 เจ้าทำการเปิดตัวเจนใหม่ ในขณะที่ทางนิสสันเลือกที่จะปรับเพียงแค่ Minor Change เล็กน้อย แบบนี้ก็ถือได้ว่า ตกขบวนไปเรียบร้อยแล้วสำหรับช่วงนี้

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

ค่ายโตโยต้านั้น ชิงลงมือด้วยการปล่อยรถ All New Toyota Camry ลงสู่ตลาดก่อนในช่วงปีที่แล้ว แต่ด้วยค่ายฮอนด้าเอง ก็มีแผนที่จะเปิดตัว Honda Accord โฉมใหม่มาด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถวางตลาดได้ทัน จึงได้ช่วงชิงการตัดสินใจของผู้ซื้อด้วยการเอารถมาโชว์เสียก่อนในช่วง Motor Expo เมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้คนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถไซส์นี้ต้องลังเล และเชื่อว่าหลายคนก็ตัดสินใจรอดูก่อนว่า ฮอนด้าจะเปิดตัว All New Honda Accord ได้อลังการขนาดไหน และเมื่อผ่านมาถึงปีนี้ ฮอนด้าก็ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อย แต่ก็ยังกั๊กในส่วนของราคาอยู่ ให้ข้อมูลมาแต่ว่า ราคาจะไม่เกินเท่านั้นเท่านี้ ก่อนที่จะเปิดราคาจริงในช่วงไม่นานมานี้เอง

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

ทีมงาน AUTODEFT เอง หลังจากได้ดูรายละเอียดของ All New Honda Accord ที่ถือเป็น Generation 10 แล้ว มันจะคู่คี่ สูสีกับคู่แข่งตัวเอ้ได้อย่างไรบ้าง เพราะถ้าเอาเรื่องราคา ทั้ง 2 ค่ายเปิดราคามาได้ใกล้เคียงกันมาก ยิ่งในรุ่น Hybrid แล้ว ราคานี่เท่ากันเป๊ะ เรียกได้ว่าถ้าใครยังลังเลว่าจะซื้อรถซีดานขนาดกลางอยู่ คราวนี้น่าจะลังเลไปมากขึ้นอีก ดังนั้นถ้าไม่ใช่แฟนตัวยงของค่ายไหนเลย คงต้องมาดูกันถึงดีไซน์ และการขับขี่ซะแล้ว ว่าตัวไหนจะดีและเหมาะกับคนซื้อมากขนาดไหน

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

ในที่สุดเราก็ได้รับหมายเชิญเพื่อเข้าร่วมทดสอบ All New Honda Accord เสียที (ขอขอบคุณทาง ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทยด้วยครับ) ที่จะเข้าทพการทดสอบขับขี่ แต่รอบนี้เรายังไม่ได้ทดสอบรถในตัว Hybrid แต่เราจะมาทดสอบในรุ่น Honda Accord Turbo EL ตัวที่เป็นรุ่นเริ่มต้นกันก่อน (เท่าที่ทราบตอนนี้ ตัว Hybrid ยังไม่มีรถ) ซึ่งถ้าเอาจริง ผมก็อยากลองตัวนี้ก่อนอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นการพลิกโฉมของรถในซีรี่ย์นี้ ด้วยการเอาเครื่องยนต์แบบ Turbo เข้ามายัดใส่เป็นขุมพลังเป็นครั้งแรกเลย ซึ่งถ้าดูตามขนาดแล้ว เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Turbo มันก็เท่ากับที่มีอยู่ใน Honda Civic Turbo RS เลย แต่ด้วยความที่รถมันคนละขนาด มันจะเอาอยู่ไหมนะ

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

รอบนี้เราจะเดินทางไปทดสอบกันที่ จ. เชียงใหม่ครับ ที่ไปทดสอบไกล เพราะทางฮอนด้ามีเส้นทางที่ให้ทดสอบได้ครบทุกสภาวะ ทั้งเส้นทางถนนรถติด, ไฮเวย์ที่ใช้ความเร็วได้ รวมทั้งเส้นทางบนภูเขา ที่มีทางชันขึ้นลง และทางคดเคี้ยวเอาไว้ให้ทดลองกัน  รอบนี้เรามีพรรคพวกลื่อมวลชนรวมกันทั้งสิ้น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 8 คน ผมเองในฐานะทีมงานของ AUTODEFT ได้มีโอกาสร่วมทดสอบในกลุ่มที่ 7 ดังนั้นบทความการทดสอบนี้ อาจจะออกมาช้าเล็กน้อย ช้ากว่าเพื่อนสื่อมวลชนท่านอื่นบ้าง หวังว่าผู้ที่กำลังอ่านบทความรีวิว ทดสอบรถยนต์ Honda Accord Turbo EL รอบนี้ จะไม่งอนเราก่อนนะครับ

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

ตามธรรมเนียมของการทดสอบรถยนต์ทุกครั้ง ที่เราจะมาดูข้อมูลของตัวรถ Honda Accord Turbo EL เบื้องต้นกันก่อน โดยขุมพลังที่ยัดใส่เข้ามาในซีดานขนาดกลางเจนที่ 10 คันนี้ เป็นเครืองยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร DOHC 4 สูบเรียง 16 วาล์ว VTEC Turbo หัวฉีด Multi-Point PGM-FI ซึ่งถ้ามองเบื้องต้นแล้ว มันคือเครื่องยนต์บล๊อกเดียวกันกับที่ใส่ใน Honda Civic ตัวท็อปอย่าง Turbo RS แต่มันมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน โดยรหัสเครื่องยนต์ L15BG (ของ Honda Civic เป็น L15B7) มีการปรับเปลี่ยนในบางจุด ที่สำคัญคือเรื่องของโข่งเทอร์โบที่มีการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ให้เพิ่มแรงบูสอัดอากาศได้มากกว่าเดิม และฝาสูบชุดใหม่ที่ช่วยเรื่องระบายไอเสียที่จาก 4 สูบ ออกไป 2 ท่อไอเสีย ขณะที่ในตัวของฮอนด้า ซีวิคนั้นจะออกไปท่อเดียว ทำให้เครื่องยนต์จังนี้สามารถขับพลังได้สูงขึ้นเป็น 190 แรงม้าที่ 5,500 รอบ แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตรที่ 1,500-5,500 รอบ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่สร้างแรงบิดสูงได้ช่วงยาวพอตัวเลย รองรับการใช้เชื้อเพลิง E85 ส่วนการขับเคลื่อนนั้น ยังคงเลือกใช้งานในส่วนของเกียร์ CVT อยู่เช่นเดิม ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์จะมีกำลังมากกว่าเดิม ตัวเกียร์สามารถเล่นเปลี่ยนสปีดได้ 7 ระดับ  ผ่านการขยับปลายนิ้วไปที่ปุ่ม Paddle Shift ที่อยู่บนคอพวงมาลัย เสียดายที่ไม่มีเกียร์ให้เราสับได้ที่คันเกียร์ พวงมาลัยเป็นแบบไฟฟ้า ที่สามารถปรับแรงได้ตามความเร็วของตัวรถ

Honda Accord Turbo EL

ขนาดตัวรถของ Honda Accord Turbo EL นั้น มีขนาด 4,894 x 1,862 x 1,450 มม. (ยาวxกว้างxสูง) ตัวฐานล้อกว้าง 2,890 มม. ใต้ท้องสูงจากพื้น 131.3 มม. (โคตรละเอียด) ซึ่งถ้าเทียบกับเจน 9 ที่มีมิติตัวรถขนาด 4,860 x 1,850 x 1,455 มม. ก็ถือว่าตัวรถมีขนาดทั้งยาวและกว้างกว่าเดิม แต่ตัวรถถูกกดให้เตี้ยงลงเล็กน้อย เพื่อเพิ่มสมรรถนะในารทรงตัวที่ดีกว่าเดิมนั่นเอง ส่วนตัวฐานล้อนั้นกว่างกว่าเก่าพอตัว เพราะตัวเดิมอยู่ที่ 2,775 มม. เลยทำให้มีพื้นที่เหลือสำหรับวางขาที่มากกว่าเดิม ส่วนล้อเป็นขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/50 R17 ซึ่งเล็กกว่าในรุ่น Hybrid ที่ใช้เป็น 18 นิ้ว เบรกหน้าเป็นดิสก์เบรกที่มีครีบระบายความร้อน ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกปกติ ช่วงล่างดานหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นมัลติลิงค์ อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลงเช่นกัน

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

ภาพลักษณ์ภายนอกของ Honda Accord Turbo EL ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงจากตัวเก่าได้อย่างชัดเจน ก็คือความลาดเอียงของด้านท้าย ที่ลาดลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีผลทั้งทางด้านพลศาสตร์ ที่ช่วยให้ลมผ่านตัวรถได้ดีขึ้น และผลทางด้านจิตใจ ที่มองแล้วเห็นรถออกสไตล์วัยรุ่นมากกว่าเดิม ด้านหน้านั้น กระจังหน้าจากที่เคยเป็นเส้นแถวแนวนอนหลายชั้น แต่งวดนี้ถูกปรับให้เป็นแถบเส้นสีเงินใหญ่แผงเดียว ต่อเนื่องกับไฟหน้าแบบใหม่ ที่ปรับให้เป็นแบบ LED เต็มแผง นับรวมได้ 9 ดวง พร้อมแถบไฟ Daytime-Running Light ที่เป็น LED เช่นกัน เป็นระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติตามความสว่างภายนอก  ส่วนไฟตัดหมอกนั้น ไม่มี จะมีให้เฉพาะตัว Hybrid เท่านั้น กระจกมองข้างเป็นสีเดียวกับตัวรถ ด้านไฟท้าย เป็นทรงคล้าย C Shape ที่ต่อเนื่องกันทั้งตัวถุงรถและฝาท้ายกระโปรง ใช้ไฟแบบ LED ในการส่องแสง ส่วนปลายที่ออก 2 ข้างซ้าย-ขวา ไม่มีปลายท่อสแตนเลส เสาอากาศใช้เป็นแบบครบฉลาม ติดอยู่บนหลังคาด้านท้าย

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

ภายในของ Honda Accord Turbo EL ใช้เป็นเบาะหนังผสมหนังสังเคราะห์ เกรดเดียวกันกับตัว Hybrid คอนโซลเป็นพลาสติกลายหนัง แทรกด้วยลายไม้ ตรงกลางแทรกด้วยหน้าจอ Infotainment แบบ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายและไร้สาย มีระบบ Apple CarPlay สำหรับผู้ใช้งาน iPhone ส่วนคนใช้งาน Android นั้นรอไปก่อน ถึงแม้ในระบบหน้าจอจะมี Android Auto อยู่แล้ว แต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ เพราะยังไม่เปิดให้ใช้งานในประเทศไทย มีช่องเชื่อมต่อด้วย USB จำนวน 2 ช่อง ลำโพง 8 ตำแหน่ง ที่สามารถปล่อยคลื่นเสียงผ่านระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าของโดยสาร หรือ Active Noise Cancellation (ANC) ได้ พวงมาลัยทรงกลม มีปุ่ม Multi-Function เอาไว้ควบคุมหน้าจอเครื่องเสียง, จัดการโทรศัพท์ และระบบ Cruise Control คันเกียร์ทรงสปอร์ต มีปุ่มเลือกโหมดการขับขี่แบบ Econ และ Sport ไว้ให้เลือกใช้งาน ลงมาอีกหน่อยมีปุ่มเบรกมือไฟฟ้า และ Auto Brake Hold ให้ใช้งานได้ด้วยเช่นกัน เบาะนั่งคู่หน้าเป็นไฟฟ้า เบาะคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมปรับดันหลังอีก 4 ทิศทาง บันทึกตำแหน่งได้ 2 ตำแหน่ง ส่วนด้านคนนั่งปรับได้ 4 ทิศทาง แอร์เป็นแบบปรับอัตโนมัติ แยกโซนซ้าย-ขวา ด้านหลังมีช่องแอร์ไว้ช่วยอัดความเย็นไปที่ตอนหลังได้เร็วขึ้น

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

น่าเสียดายที่ All-New Honda Accord Turbo EL นั้น ไม่ได้ให้ระบบความปลอดภัยอย่าง Honda Sensing เข้ามาด้วย แต่ก็ยังคงให้ระบบที่จำเป็นและพอเพียงให้ใช้งานได้มาหลายอย่าง ทั้ง Honda Lane Watch, กล้องมองหลัง, ถุงลมนิรภัย 6 ลูก, ระบบป้องกันการล้อล็อก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA, ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA, สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกระทันหัน ESS นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มระบบอำนวยความสะดวกอย่างระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถเคลื่อนที่, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรบอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start), ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

ข้อมูลของตัวรถก็ครบถ้วนพอประมาณแล้ว เรามาเริ่มทดสอบการขับขี่เลยดีกว่า ก้าวแรกที่เข้าปนั่งในตัวรถ สิ่งที่ชัดเจนเลยก็คือ ตำแหน่งที่นั่งของคนขับด้านหน้านั้น อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้ท่าขับนั้นออกไปแนวที่เอนตัวแบบรถสปอร์ตเลย แทบจะเป็นท่าเดียวกับ Ford Mustang ที่เพิ่งจะทดสอบมาล่าสุดอยู่แล้ว เมื่อนั่งลงไปแล้ว สิ่งที่ต่างอีกก็คือ ทัศนวิสัยในการมองนั้น ดีขึ้นมากกว่าโฉมเดิมประมาณนึงเลย โดยเหตุผลที่มุมมองดีขึ้น ทางวิศวกรผู้ออกแบบจากญี่ปุ่นได้ให้คำตอบมาว่า เสา A ด้านหน้านั้น ถูกขยับให้เยื้องลงมาด้านหลังอีก 100 มม. และลดขนาดของตัวเสาให้เล็กลง เลยทำให้มุมมองในการขับขี่มีมากขึ้น ส่วนตำแหน่งของหน้าจอนั้น จากเดิมที่ถูกฝังรวมเข้าไปในคอนโซลหน้า แต่งวดนี้แหวกแนวใหม่ด้วยการยกออกมาเป็นจอแยกออกมาด้านนอก พร้อมเพิ่มปุ่มอันเบ้อเริ่มเทิ่มมาให้หมุนหนาคลื่น เพิ่มเสียงอยู่ที่ 2 มุมด้านล่างหน้าจอเพื่อความสะดวกในการใช้งาน เอาจริงนะ ผมชอบแบบเดิมมากกว่า ผมเป็นคนไม่ชอบการยกหน้าจอออกมาจากคอนโซลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รู้สึกว่ามันเกะกะสายตา แต่ของแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน เอาเป็นว่าเรื่องนี้ ก็แล้วแต่ความคิดใครความคิดมันก็แล้วกันครับ

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

หน้ปัดแสดงผลนั้น ก็มาแบบใหม่อีกแล้ว โดยหน้าจอทั้งหมดเป็นแบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว แต่ดันมีเข็มความเร็วเอาไว้ให้ 1 แท่ง เมื่อสตาร์ทรถแล้ว แท่งความเร็วก็จะเรืองแสงขึ้นมา พร้อม Background ที่เป็นเลขหน้าปัดความเร็วขึ้นมาด้านขวา ด้านซ้ายก็เป็นช่องบอกวัดรอบ อันนี้เราก็ถามวิศวกรผู้ออกแบบเหมือนกันว่า ทำไมถึงได้ออกแบบเป็นอย่างนี้ ก็ได้เหตุผลมาว่า เพื่อการตรวจสอบข้อมูลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ต้องมีเข็มค้างไว้ จะได้รู้อย่างชัดเจนว่า ตอนที่เกิดเหตุนั้น รถใช้ความเร็วอยู่ที่เท่าไหร่ เออ แบบนี้ค่อยเข้าท่าหน่อย คล้ายบันทึกกล่องดำบนเครื่องบิน ที่ช่วยบันทึกข้อมูลการบินเลย

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

ตำแหน่งการวางปุ่มต่าง ๆ และท่าขับขี่ ผมชอบนะ ดูมันใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน อย่างปุ่มเลือกโหมดขับขี่ ก็อยู่ชิดคันเกียร์เลย ใช้งานสะดวกมาก ปุ่มเบรกมือกับ Auto Brake Hold ก็กดง่าย แต่ที่ขัดใจอยู่เล็กน้อย ก็คือระดับความสูงของคันเกียร์ ทีมีดูจะสูงขึ้นมามากเกินไป ทั้งที่ถ้าอยากจะให้เกิดอารมณ์ Sport ก็น่าจะให้คันเกียร์สั้นลงมาอีกนิดนึง สัก 5 ซม. ก็น่าจะดี จะได้มีฟิลลิ่งในการโยกเกียร์รู้สึกดีกว่านี้ ส่วนช่องใส่แก้วน้ำตรงกลาง สามารถวางได้ 2 แก้ว ใหญ่พอที่จะวางแก้ว Yeti ได้ แต่ช่องข้างประตูไม่น่าวางได้แน่นอน มีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ที่ประตูไม่มีส่วนที่เป็น Soft Touch แต่ก็ไม่ได้รู้สึกระคายเคืองแขนแต่อย่างใด ส่วนการนั่งด้านหลังนั้น เอาจริง ๆ คือไม่ได้ลองนั่งตอนวิ่ง แต่ได้องนั่นแล้ว มันสบายมาก เพราะเนื้อที่ Leg Room มันมีมากขึ้น ทำให้เหยียดขาได้มากกว่าเดิม (เยอะกว่าที่นั่งบนสายการบินแห่งชาติเราแน่นอน) จึงไม่น่าห่วงในเรื่องการเดินทางด้วยรถเป็นเวลานาน ช่องเก็บของด้านท้ายรถก็ใหญ่มาก ขนาด 573 ลิตร เพียงพอกับการขนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้ 2 ใบแน่ มีช่องที่สามารถล้วงของจากในรถได้ แต่ไม่สามารถพับเบาะเพื่อมุดไปท้ายรถได้

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

นั่งเรียบร้อยแล้ว เราก็มากดปุ่ม Start บน All-New Honda Accord Turbo EL กันเลย เส้นทางวันนี้ เราจะเดินทางกันจากแถวซอยฟ้าฮ่าม จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าไปทางเชียงราย ผ่าน อ.ดอยสะเก็ด แต่จะวกกลับมาแถววัดพระบาทปางแฟน แล้ววิ่งกลับมาแถว อ.ดอยสะเก็ด อีกรอบ แล้วกลับรถมาเพื่อเปลี่ยนคนขับ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปจุดปลายทางเดิมอีกครั้ง แล้ววิ่งกลับมาที่ซอยฟ้าฮ่าม อันเป็นจุดเริ่มต้นและปลายทาง ระยะทางรวมราวเกือบ 175 กิโลเมตร ผมทำการทดสอบกัน 2 คน สรุปแล้วก็เฉลี่ยคนละประมาณ 80 กว่ากิโลเมตร เป็นเส้นทางที่มีครบ ทั้งการขับขี่ในเมืองแบบรถติด, รถเยอะเคลื่อนตัวได้, รถน้อย วิ่งยิงยาว และเส้นทางภูเขาคดเคี้ยว โดยผมเองเริ่มรับหน้าที่สารถีผลัดแรก เริ่มต้นการเดินทางด้วยโหมด Normal ก่อน (ขออภัยที่ไม่ได้ลองโหมด Econ เลย เพราะอยากลองเรื่องความแรงล้วน ๆ) ช่วงแรกที่เดินทางในเมือง มันเป็นรถที่ขับสบายจริง ๆ ครับ ท่าขับมันเหมาะมาก ท่าอยู่ในแนวที่เอนตัวมากกว่าแบบอื่น จังหวะวางแขนบนพวงมาลัยอยู่ในท่าที่สบาย และสามารถหมุนพวงมาลัยได้ถนัด น้ำหนักพวงมาลัยนั้นเบาในช่องความเร็วต่ำ ไม่ต้องฝืนออกแรงมากเมื่อต้องหมุนยามเลี้ยว วิสัยทัศน์ในการมองเห็นวัตถุด้านหน้าก็ชัดเจน ถือเป็นรถสไตล์ผู้บริหาร ที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองได้แน่นอน

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

สลับขยับออกมานอกเมืองเล็กน้อย เราก็เริ่มกดคันเร่งบน  Honda Accord Turbo EL ให้มากกว่าเดิม พาออกกำลังกายด้วยการมุดเข้าช่องกันหน่อย กำลังเครื่องในการกดออกตัวนั้น ไม่มีปัญหาเลยครับ เครื่องยนต์อาจจะไม่ได้มีความจุมาก แต่ด้วยพลัง 190 แรงม้า มันนำพาตัวรถพร้อมน้ำหนักคนที่ราว 1.5 ตัน พุ่งขึ้นไปได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ช่วงหมุนพวงมาลัยเพื่อมุดตัว มันดูเบาไปนิดนึง เหมือนมันจะมีจังหวะช่องว่างช่วงหมุนนิดหน่อยก่อนที่รถจะหันตัวตาม ถ้าไม่สังเกตจริงอาจจะไม่รู้สึก แต่มันไม่ใช่อุปสรรคในการพารถเข้าช่องว่างเลย ยังคงวิ่งมุดแทรกตัวผ่านรถคันต่าง ๆ โดยไม่ยากเย็นอะไร แต่ช่วงนี้ที่เริ่มรู้สึกถึงความแข็งของช่วงล่างขึ้นมาบ้างแล้ว มันไม่ได้กระด้างแบบรถกระบะนะ แต่มันกระด้างกว่าตัวเก่า จับความสะเทือนได้มากกว่า แต่เอาเถอะ มันก็ไม่ได้มากจนทำให้จุกได้แต่อย่างใด แต่สิ่งที่ได้มาเพิ่มคือ อาการเกาะถนนที่เพิ่มขึ้นพอตัว ช่วงมุดด้วยความเร็วแบบหันพวงมาลัยกระทันหัน ก็ไม่ได้ทำให้รถนั้นสูญเสียการทรงตัว  เกิดแรงเหวี่ยงจนคุมรถไม่ได้อย่างใจแต่อย่างใด

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

หมดช่วงเมืองแล้ว เข้าสู่เส้นทางที่โล่งว่างกันดีกว่า ช่วงนี้ผมสับโหมดมาใช้งาน Sport เลย เพราะอยากรู้กำลังเครื่องยนต์ว่าจะได้ขนาดไหน สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ เรื่องของรอบเครื่องที่ถูกดันขึ้นมารอการแตะคันเร่งของเรา ให้การตอบสนองเร็วขึ้น ซึ่งมันก็ช่วยได้จริงในช่วงต้น แต่ถ้าเราย่ำเต็มทั้งในโหมด Normal หรือ Sport มันก็ไม่ได้ให้แรงกระชากที่แตกต่างกันเลย คาดเอาว่าระบบสมองกลก็ปล่อยเต็มกำลังเครื่องเหมือนกัน เพราะมันรับรู้การกระทืบเท้าไปที่คันเร่งอย่างเต็มแรงได้ และรู้สึกได้ทันทีว่าไอ้หมอนี่มันต้องการกำลังเครื่องเต็มที่แน่ ต้องจัดให้มันเต็มที่หน่อย กำลังเครื่องเลยมาเต็มแบบไม่กั๊ก ดังนั้นการเปลี่ยนมาโหมด Sport สำหรับคนเท้าหนัก มันสัมผัสไม่ได้ถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าขับเรื่อย ๆ ในเมือง แบบนี้แหล่ะค่อยเห็นความแตกต่างหน่อย และสิ่งที่เปลี่ยนไปอีกอย่างก็คือหน้าปัดข้อมูลรถ ที่จะเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง แล้ววงที่เป็นเข็มวัดรอบ จะเพิ่มวัดบูสเทอร์โบเข้ามาเพิ่มด้วยในทันที โดยเต็มขีดก็คือ 1.5 บาร์ หลังจากเปลี่ยนเข้าโหมด Sport เรียบร้อยแล้ว ก็จัดการลองกำลังเครื่องหน่อย กดตั้งแต่ออกตัว ยาวไปจนถึงความเร็วสูง สิ่งที่สึกได้เลยก็คือช่วงอออกตัวนั้น มันก็พุ่งตัวออกดี แต่มันเหมือนจะแผ่วรอรอบหรือรอกำลังเครื่องราว 60-90 กม./ชม. พอหลุดช่วงนี้ไปได้ก็ไหลยาวไปยันเกือบ 160 กม./ชม. ก่อนจะเริ่มแผ่วลง แต่ยังสามารถยืนระยะไหลไปได้ถึง 200 กม./ชม. ถ้าเทียบกับตัวรถที่ใหญ่แบบนี้ ถือเป็นรถที่กำลังเครื่องต่อเนื่องดีมาก อันนี้เป็นอานิสงส์ของแรงบิดที่สร้างได้สูงช่วงรอบที่ยาว (1,500-5,500 รอบ) และสิ่งที่ต้องชื่นชมก็คือ ถึงแม้จะเป็นความเร็วที่สูง แต่ตัวรถยังนิ่งมาก การควบคุมยังอยู่ในมือของเราได้หมด ไม่มีอาการร่อน หรือปลิวออกมามากเท่าไหร่เลย แถมการเก็บเสียงก็ทำได้ดี กว่าจะได้ยินเสียงลมเข้ามาแบบชัดเจน ก็ระดับเกิน 160 กม./ชม. ไปแล้ว แต่สิ่งที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ก็คือเรื่องน้ำหนักพวงมาลัย ที่ช่วงความเร็วสูงมันดูจะเบาไปนิดนึง ถ้าน้ำหนักพวงมาลัยสามารถปรับให้หนักได้มากกว่านี้หน่อย คงจะดีมากเลยครับ

Honda Accord Turbo EL

ความสนุกของการขับ Honda Accord Turbo EL ก็คือการมี Paddle Shift อยู่ที่พวงมาลัย ถ้าเป็นโหมดปกติ เราก็สามารถกดเพื่อเปลี่ยนเกียร์ได้เลย และเมื่อเราไม่ได้ใช้มันอีกในระยะเวลาหนึ่ง มันก็จะตัดการทำงานแล้วเข้าโหมดปกติไปโดยอัตโนมัติ แต่เมื่อคุณเข้าโหมด Sport เมื่อไหร่ มันจะไม่ตัดการทำงานเอง มันจะค้างไว้อย่างนั้นจนกว่าเราจะเปลี่ยนกลับไปที่โหมดอื่น (Econ, Normal) หรือกด Shift+ ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที ระบบถึงจะตัดการทำงาน ช่วงโหมด Sport ผมลองกดเล่น Paddle Shift แล้วกดคันเร่งแรงเพื่อให้เกียร์เปลี่ยนเอง มันเปลี่ยนให้ครับ แต่กว่าจะเปลี่ยน มันจะลากรอบนานมาก นานจนความเร็วไม่ต่อเนื่อง ดังนั้นการเปลี่ยนเกียร์ด้วยความรู้สึกตัวเองจะเวิร์คกว่า ถ้าอยากต้องการลากความเร็วได้อย่างต่อเนื่องครับ

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

พ้นจากส่วนทำความเร็วกันแล้ว ก็มาช่วงทดสอบ Honda Accord Turbo EL ในช่วงภูเขา ที่มีทั้งทางโค้ง, การขึ้นและลงเนินกันเสียหน่อย ช่วงนี้ผมยังคงใช้โหมด Sport เหมือนเดิม แต่ไม่ได้ใช้ความเร็วสูงมากแล้ว ช่วงการเข้าโค้งทั้งซ้ายและขวา มันทำได้ดีเลยครับ รถทรงตัวได้โดยมีอาการเหวี่ยงน้อยมาก อาจจะมีบางโค้งที่แคบ แล้วเผลอเข้าเร็วไปหน่อย มันก็จะมีอาการท้ายไหลเล็กน้อย แต่ไม่เป็นปัญหาในการควบคุม รถยังสามารถทรงตัวได้อย่างสบาย สิ่งที่ชอบอีกอย่างก็คือ ช่วงที่เรามีการลงเขา โดยปกติที่เคยเจอกับเกียร์ CVT ก็คือมันจะไม่มีการดึงด้วย Engine Brake แต่ไม่ใช่สำหรับคันนี้ เพราะเราจะรู้สึกได้ถึงการดึงของตัวเครื่องยนต์เมื่อลงทางเนินยาว ถือเป็นความฉลาดของเกียร์ และแสดงได้ถึงความแข็งแกร่งไม่แพ้เกียร์แบบเฟืองเลย จริง ๆ แล้วเกียร์ชุดนี้ก็คือชุดเดียวกับของ Honda Civic Turbo RS เช่นกัน แต่มีการปรับระบบควบคุมการทำงานใหม่ แล้วยกมาใส่ในรถยนต์ใหม่ 2019 คันนี้เลย

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

หมดรอบการเป็นผู้ขับขี่ คราวนี้มานั่งเป็นผู้โดยสารบ้าง ที่นั่งของ Honda Accord Turbo EL มันสบายจริง สามารถเหยียดขาได้อย่างยืดยาว ปรับเอนเบาะพิงหลังไปหน่อย นี่แทบจะเป็นท่านอนได้เลย หน้าจออยู่ในตำแหน่งที่สามารถใช้งานได้สะดวก เบาะนุ่มประมาณหนึ่ง นี่ถ้าไม่เกรงใจว่าต้องเป็นเพื่อนั่งคุยกับพี่ใหญ่ ที่ทำหน้าที่เป็นสารถีในกะนี้ ผมว่าผมคงหลับสบายเลย เพราะรอบทดสอบมีช่วงบ่ายหลังอาหารเที่ยงด้วย เบาะก็ประดุจมีพลังงานบางอย่างที่ดูดพลังออกไป หนังตาก็เริ่มหยอน แต่ไม่ได้ครับ เรามาเพื่อทดสอบรถ เราต้องอยู่ให้ตลอดทาง ไม่งั้นจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL

จบการทดสอบรอบนี้ด้วยระยะทางเกือบ 175 กิโลเมตร หน้าจอมีการบันทึกว่า อัตราการบริโภคน้ำมันในรอบนี้อยู่ที่ 8.6 กิโลเมตร/ลิตร บางคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะร้องว่าอู้หู ทำไมมันถึงกินมากขนาดนี้ แต่ถ้าใครได้มาลองนั่งการขับขี่ของทั้งผมและพี่ใหญ่ในรอบนี้ จะไม่พูดอย่างนั้นเลย เพราะตลอดทาง แทบไม่มีช่วงไหนที่ขับกันเรียบร้อยเลย จะมีบ้างก็ช่วงรถติดแถบตัวเมืองใกล้ถึงที่พักแล้ว นอกนั้นกดได้เป็นกด มุดได้เป็นมุด ลองความแรงให้ได้มากที่สุดเท่าที่เส้นทางจะอำนวยและอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย การใช้น้ำมันระดับนี้ถือว่าดีมากแล้ว และหลังจากจบบททดสอบ พวกเราทั้ง 8 คนก็มาสุมหัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการขับขี่ โดยมีอยู่คันหนึ่งที่พยายามขับให้เหมือนการใช้งานปกติของเขาให้ได้มากที่สุด แต่ก็มีบางช่วงที่กดลองไปยันระดับ 200 กม./ชม. เช่นกัน ยังได้อัตราที่หน้าจออยู่ที่ 12.4 กิโลเมตร/ลิตรเลย ถ้าขับแบบบริการผู้บริหารจริง ๆ ตัวเลขน่าจะดีกว่าเดิมพอสมควร โดยทางฮอนด้าได้เคลมเอาไว้ที่ 16.4 กิโลเมตร/ลิตร (การทดสอบใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91)

Honda Accord Turbo EL

และอีกข้อมูลที่อยากจะบอกเพิ่มเติมก็คือ อัตราเร่งของ Honda Accord Turbo EL นั้นเป็นอย่างไรบ้าง โดยรอบนี้ทางพี่วิทิตจาก Auto - Thailand ได้ทำการติดตั้ง Performance Box เข้าไปด้วยเพื่อข้อมูลที่ถูกต้อง จากการทดสอบ 0-100 ได้ค่าเฉลี่ยออกมาที่ 9.6 วินาที ส่วน 80-120 ได้ที่ 6.1 วินาที ถือเป็นตัวเลขอัตราเร่งที่ดีเลยครับ

Honda Accord Turbo EL

Honda Accord Turbo EL ถือเป็นรถซีดานขนาดกลางที่ขับสนุกเลยครับ แต่ถ้าอยากเรียบร้อย รถก็นั่งสบายพอตัวเลย ถูกปรับปรุงให้วัยรุ่นใช้งานได้อย่างดี หรือผู้ใหญ่วัยกลางคนก็ใช้ได้ หรือสูงวัยอยากได้รถนั่งสบายก็ตอบโจทย์ แต่ด้วยความที่มันเป็นตัวเริ่มต้น ราคาค่าตัวที่ 1,475,000 บาท มันเลยทำให้ออพชั่นบางอย่างหายไป ที่ชัดเจนก็คงเรื่องของ Honda Sensing ที่จะมีใส่มาเฉพาะตัว Hybrid เท่านั้น ถ้าตัดเอาบางอย่างมาใส่ได้ โดยเฉพาะระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบช่วยเบรก ก็จะดีขึ้นมาก เพราะผมว่าระบบนี้จะเป็นตัวช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ หรือลดความรุนแรงในการชนได้ และมันควรเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ทุกรุ่นได้แล้ว ไม่เฉพาะในคันนี้ และมีอุปกรณ์บางอย่างที่ถูกตัดออกแบบจุกจิก เช่น ไฟส่องกระจกบนที่บังแดด, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เป็นต้น แต่ก็เข้าใจดีว่าทางผู้ผลิตเองก็ต้องการให้ตัวรถอยู่ในราคาที่สามารถสู้กับคู่แข่งในตลาดได้ ก็เลยมรีความจำเป็นต้องลดบางอย่างออกไปที่มองว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เอาจริงแล้ว ถ้ามองถึงอุปกรณ์ที่มีอยู่ ก็ถือว่าพอเพียงแล้วล่ะครับ ใครที่อยากได้รถขับสบาย นั่งสบาย แต่ยังอยากได้ความแรงในการขับขี่อยู่ ผมว่า Honda Accord Turbo EL เป็นรถที่ตอบโจทย์ความคุ้มค่า ในราคาที่เอื้อมถึงไม่ยากเลยครับ

ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ