Test Drive: ทดสอบรถยนต์ Ford Focus EcoBoost Turbo 1.5L กับเกียร์ชุดใหม่ที่ไร้ปัญหา

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 31 พ.ค. 60 00:00
  • 29,410 อ่าน

ช่วงงาน Bangkok Motor Show 2017 ที่ผ่านมา คำถามที่แอดมินของ Autodeft ถูกถามจากเพื่อนๆอยู่บ่อยๆก็คือ “พี่ครับ ผมไปดูฟอร์ด โฟกัสมา มีโปรโมชั่นลดเหลือ 999,000 บาท สวยมากเลย และอยากได้มาก แต่ห่วงว่าเกียร์มันจะพังอีก พี่ว่ายังไงดีครับ” คำตอบที่ตอบไปทุกครั้งก็คือ “Ford Focus EcoBoost Turbo 1.5L รถยนต์ใหม่ 2017 นี้ เป็นเกียร์ชุดใหม่แล้ว ไม่มีปัญหาแล้วครับ” แต่บางคนก็ยังถามกลับมาว่า “พี่แน่ใจนะครับ ถ้า

Ford Focus EcoBoost

หลังจากนั้นก็ได้ทำการยืมรถยนต์ทดสอบมาจาก บริษัท ฟอร์ด (ประเทศไทย) จำกัด จนได้จับเจ้า Ford Focus EcoBoost Turbo 1.5L สีน้ำเงินสดคันนี้มาจนได้ ต้องขอเล่ารายละเอียดเบื้องต้นของคันนี้ก่อนว่า เป็นรถยนต์ Hatchback ขนาด 5 ที่นั่ง มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5L GTDi EcoBoost Turbo ที่ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้าที่ 6,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 5,000 รอบ รองรับน้ำมันได้ถึงแก็สโซฮอลล์ E85 ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโครง ด้านหลังเป็นแบบอิสระคอนโทรลเบรด มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ดิสก์เบรกครบทั้ง 4 ล้อ ล้อมแม็กซ์อัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50 R17 ระบบความปลอดภัยมาครบ ทั้งระบบป้องกันล้อล็อค ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TC และระบบควบคุมการทรงตัว ESP แถมยังมีระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง Torque Vectoring Control เสริมเข้ามาอีกด้วย

Ford Focus EcoBoost

Ford Focus EcoBoost

การตกแต่งภายนอก ต้องถือว่าออกแนว Sport เป็นอย่างมาก กระจังหน้าและไฟหน้าแลดูคล้ายคลึงกับ Aston Martin รถยนต์ตัวแรงของฝั่งอังกฤษเป็นอย่างมาก (ไม่ต้องแปลกใจ เพราะ Ford ถือหุ้นอยู่ใน Aston Martin 8%) ไฟหน้าแบบฮาโลเจนพร้อม Daytime Running Light แบบ LED เปิดปิดอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง สปอยเลอร์ด้านหลังและสเกิร์ตรอบคันสไตล์สปอร์ต

Ford Focus EcoBoost

Ford Focus EcoBoost

ส่วนภายในนั้น มาด้วยเบาะหนังแท้สีดำทั้งคัน กุญแจเป็นระบบ Keyless สตาร์ทรถด้วยปุ่ม Push-Start ส่วนพวงมาลัยเป็นแบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มควบคุมมากมาย แถมยังมี Paddle Shift เพิ่มความมันในการควบคุมเกียร์อีกด้วย หน้าจอก็เป็นระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทุกรูปแบบ ทั้งเสียบสาย USB, Bluetooth พร้อมระบบ Apple CarPlay และ Android Auto เครื่องเสียงก็เป็นยี่ห้อ Sony พร้อมลำโพงรอบคัน 9 ตัว มีช่องเสียบ USB ให้ 2 จุดคือใต้เครื่องเสียงและในช่องเก็บของระหว่างเบาะหน้า (คือดีงาม) มีกล้องมองหลังขณะถอยพร้อมเซ็นเซอร์รอบคัน (รอบคันจริงๆ), ถุงลมนิรภัยให้มาถึง 6 ลูก และยังมีระบบช่วยจอดทั้งเข้าซองและเทียบข้าง เพิ่มความสะดวกกับคนที่ยังใช้งานรถไม่คล่องอีกต่างหาก

Ford Focus EcoBoost

Ford Focus EcoBoost

พูดถึงระบบอื่นๆมาเยอะแล้ว มาพูดถึงเรื่องหลักที่เราจะทดสอบในครั้งนี้ โดยหลังจากบอบช้ำมามากแล้วกับเกียร์แบบ Power shift คลัตช์คู่แบบแห้ง ทาง Ford ก็ตัดสินใจหย่าขาดเกียร์ลูกเดิม ยกเกียร์ลูกใหม่ในรหัส 6F35 อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ Torque Convertor เข้ามาแทนทั้งชุด ถึงแม้มันจะเป็นเกียร์ไฮโดรลิก แต่ให้ความทนทานมากกว่าเกียร์ชุดเดิมอย่างแน่นอน แถมยังเซ็ตให้มีอัตราเร่งที่ขับสนุกอย่างมาก โดยมีอัตราการทดเกียร์ดังนี้ครับ

เกียร์ 1

เกียร์ 2

เกียร์ 3

เกียร์4

เกียร์ 5

เกียร์ 6

เกียร์ถอยหลัง

4.484

2.872

1.842

1.414

1.000

0.742

2.88

Ford Focus EcoBoost

*ภาพจาก http://www.smartpartsauto.com/6f35-transmission.html


เกียร์ชุดนี้มีให้เลือกใช้ทั้งโหมด D ที่ใช้งานทั่วไป และโหมด S ที่เพิ่มอัตราการตอบสนองต่อคันเร่งได้มากกว่าเดิม แถมยังสามารถเปลี่ยนเกียร์เพื่อเพิ่มความสนุกจาก Paddle Shift ที่อยู่บนพวงมาลัยได้อีกด้วย ทีนี้เรารู้ข้อมูลเบื้องต้นไปแล้ว มาทดสอบการใช้งานจริงกันเลยดีกว่า ว่ามันจะใช้งานได้ดีหรือเปล่า

Ford Focus EcoBoost

Ford Focus EcoBoost

เส้นทางที่ผมใช้ทดสอบรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส ก็คือ เส้นวิภาวดี-รังสิต แล้วแยกไปเข้าเส้นเลียบคลอง รังสิต-นครนายก ก่อนจะวิ่งสู่จุดหมายปลายทางที่อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ จ. นครนายก มีสภาพการจราจรทุกแบบ ทั้งติดขัด,ไหลไปเรื่อยๆ และแบบว่างๆใช้ความเร็วได้ ได้ใช้เกียร์มาทุกรูปแบบ ทั้งใช้เกียร์ D ปกติ, ใช้เกียร์ S ปกติ และมีการใช้ Paddle Shift เพื่อทำการเปลี่ยนเกียร์เร่งแซงหลายๆครั้ง ไม่พบอาการผิดปกติในการใช้งานแต่อย่างใด เกียร์สามารถถ่ายทอดจากกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อได้อย่างดี เมื่อกดคันเร่งเพื่อให้เทอร์โบทำงาน ก็สามารถพารถพุ่งออกไปได้อย่างไม่มีปัญหา ถึงแม้ว่าจะบรรทุกไป 3 คนพร้อมสัมภาระในการถ่ายทำ น้ำหนักรวมน่าจะกว่า 300 กิโลกรัม รถก็ไม่มีอาการอืดออกตัวช้าให้เห็นแต่อย่างไร และทีสำคัญ ระหว่างทางที่วิ่งไปสู่จุดหมาย ไม่มีอาการที่เรียกว่าสะดุด, กระตุก, กระเด้า หรืออะไรก็ตามที่เคยเกิดขึ้นกับบางคันที่ใช้เกียร์ Power Shift แต่อย่างใดเลย ดังนั้นในการทดสอบแรกสำหรับผม ถือว่าผ่าน ใช้งานได้ดีตามปกติครับ

Ford Focus EcoBoost

เมื่อถึง จ. นครนายกแล้ว ก็เริ่มทำการทดสอบการใช้เกียร์ในหลากหลายรูปแบบ เริ่มจากการเดินคันเร่งเบาๆจาก 0 – 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง แล้วตั้งความเร็วให้นิ่งๆในระดับนี้ ซึ่งถ้าเป็นเกียร์ตัวเก่า อาจจะมีจังหวะโขยกโยกเบาๆจากการทำงานของคลัตช์คู่ แต่กับเกียร์ลูกนี้ไม่พบอาการนี้แต่อย่างใด สามารถคงความเร็วนิ่งๆได้อย่างไม่มีปัญหา จากนั้นก็เริ่มขยับไปที่ 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็ไม่พบปัญหาเช่นกัน การเปลี่ยนเกียร์ต่อเกียร์ก็ไหลลื่นดี ไม่มีอาการสะดุดช่วงเปลี่ยนเกียร์แต่อย่างใด ถ้าไม่บอกมาก่อน อาจจะเข้าใจว่าเป็นเกียร์แบบ CVT ด้วยซ้ำ

Ford Focus EcoBoost

หลังจากทดสอบรอบความเร็วต่ำแล้ว เรามาเริ่มทดสอบกับอัตราเร่งกันบ้าง โดยเริ่มจากการทดสอบ 0-100 ในโหมดเกียร์ D จะทำได้ 9.74 วินาที และในโหมด S ที่ 9.47 วินาที ซึ่งจากการทดสอบทั้ง 2 ครั้ง รถก็วิ่งออกตัวและเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาอาการสะดุดระหว่างรอยต่อ วิ่งได้ต่อเนื่องอย่างดี ดังนั้นการทดสอบเร่งความเร็วนี้ก็ผ่านอย่างไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

Ford Focus EcoBoost

ต่อมากับการเร่งเพื่อไปสู่ความเร็วสูง เมื่อมีทางโล่งๆแล้ว ก็ลองกดคันเร่งเพื่อให้เครื่องยนต์ระดับ 180 แรงม้าได้แสดงพลังบ้าง ผมกดขึ้นไปที่ระดับ 160-170 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ห้ามเลียนแบบ เพราะอาจจะเกิดอันตราย)  แล้วนิ่งๆในระดับนี้ไว้ซักประมาณนึง นอกจากอัตราเร่งที่สามารถตอบสนองเท้าของเราจนไต่ไปถึงความเร็วระดับนี้อย่างไม่ยากเย็นนักแล้ว เกียร์ก็ยังทำงานได้ปกติ ไม่มีอาการแปลกประหลาดผิดปกติในการใช้งานแต่อย่างไร ถึงจะเป็นจังหวะที่เครื่องยนต์ส่งพลังสูงมา เกียร์ก็รับคำสั่งแล้วส่งพลังลงสู่ล้อเพื่อทะยานไปข้างหน้าได้อย่างดี ดังนั้นบททดสอบนี้ก็ผ่านเช่นกันครับ

Ford Focus EcoBoost

บททดสอบต่อมาด้วยการขึ้น-ลงเขา ผมทดสอบขาขึ้นด้วยการเหยียบคันเร่งเบาๆ ตรงทางขึ้นไปสันเขื่อนขุนด่านปราการชล ด้วยความเร็วประมาณ 20-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง รถก็วิ่งไหลลื่นไปได้ตามปกติ ขาลงเขาใช้งานเกียร์ D ไว้ แล้วใช้ Paddle Shift ดึงให้อยู่ที่เกียร์ 1 ปล่อยรถไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก เกียร์และเครื่องยนต์ก็ทำหน้าที่ Engine Brake ได้อย่างดี ไม่มีอาการกระตุกที่รอบสูง ความเร็วต่ำแต่อย่างไร ดังนั้นการทดสอบนี้ก็ถือว่าผ่านเช่นกันครับ

Ford Focus EcoBoost

อีกการทดสอบที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ อัตราการเร่งเครื่องยนต์เพื่อเร่งแซง การไต่ความเร็วจาก 100  กิโลเมตร/ชั่วโมง สู่ความเร็วระดับ 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็ว่องไวตามใจนึก เพียงแค่กดคันเร่งให้ลึกเท่านั้น รถก็จะพุ่งออกไปได้อย่างสบาย ไม่มีอาการรอรอบ กดแล้วมาเลย และเมื่อเร่งแซงแล้วใช้งาน Paddle Shift เพื่อสับเกียร์ลงมาด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความเร็วในการออกตัว และเพิ่มความสนุกในการเปลี่ยนเลนได้เป็นอย่างมาก ด้วยอานิสงค์ของระบบเทอร์โบชาร์จ ในตระกูล Ecoboost พร้อมระบบการทำงานของเกียร์ชุดใหม่ ทำให้ได้ความแรงดั่งใจสั่งได้ทุกรอบที่เหยียบคันเร่งเลย

Ford Focus EcoBoost

ส่วนเรื่องอื่นๆ ในเรื่องของการควบคุม ต้องบอกว่าด้วยการทำงานของพวงมาลัยแบบไฟฟ้าของ Ford Focus EcoBoost Turbo 1.5L คันนี้ คมและแม่นยำในการหมุนทุกครั้ง เหมาะกับการใช้งานมุดไปตามช่องว่างต่างๆได้อย่างดี ช่วงล่างถูกเซ็ตมาให้รองรับความเร็วสูง ออกจะดูกระด้างไปนิดหน่อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกัน แต่มันให้ความแน่น เกาะถนนอยู่ทุกโค้ง แม้จะเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วขนาดไหน รถก็สามารถเกาะไปบนถนนได้โดยไม่เสียหลัก ไม่หลุดไปจากที่เราต้องการเลย ถ้าเป็นขาซิ่ง รับรองว่าจะชื่นชอบการเซ็ตช่วงล่างแบบนี้แน่นอน

Ford Focus EcoBoost

การทดสอบในรอบนี้ ผมได้ใช้งานน้ำมันแบบ E20 ตลอดการทดสอบ โดยแบ่งการใช้งานทดสอบในเมือง 1 รอบ และการใช้งานนอกเมืองอีก 1 รอบ แบบมีกดแรงๆหลายครั้ง ได้อัตราการใช้งานในเมืองอยู่ที่ 8.2 กิโลเมตร/ลิตร และนอกเมือง 11.3 กิโลเมตร/ลิตร ด้วยเงื่อนไขขับแบบสบายใจ เอามันเท้าอยู่ตลอดทาง ถ้าถามว่ามันกินมากไหม ถ้าเปรียบเทียบการใช้งานทั่วไปก็ถือว่าเอาเรื่องนิดหน่อย แต่ถ้าได้ลองขับแล้วพบกับอัตราเร่งที่ขับสนุก ชวนให้กดคันเร่งอยู่ตลอดเวลา กินขนาดนี้ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้เลยครับ

Ford Focus EcoBoost

สรุปจากการทดสอบทั้งหมดต้องบอกว่า หลังการใช้งานมาราว 300 – 400 กิโลเมตร และรถคันนี้ก็ถูกใช้งานมาก่อนผมทดสอบรถแล้วกว่า 13,XXX กิโลเมตร การทำงานของเกียร์ก็ยังไม่มีสิ่งใดบ่งบอกว่าเกียร์จะทำงานผิดปกติ ยังตอบสนองรับคำสั่งจากเท้าเราได้อย่างสบาย ตัวรถก็ขับสนุก แถมฟังก์ชั่นในรถยังมีอีกมากมาย ด้วยราคาจำหน่ายปัจจุบันอยู่ที่ 1,099,000 บาท ก็ต้องถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบความเร็ว และเชื่อว่าถ้าใช้งานเกียร์อย่างถูกวิธี ไม่มีการใช้งานแบบพิสดารประเภทเปลี่ยนเกียร์ตอนเร่งรอบสูงๆ ผมเชื่อว่าเกียร์ก็สามารถใช้งานได้ปกติตามอายุขัยทั่วไปของมันแน่นอนครับ
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.ford.co.th/cars/focus

ชมภาพทั้งหมดของ  Ford Focus EcoBoost Turbo 1.5L ได้ที่นี่

เรียบเรียงโดย Earthpark02

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ