Life Test: ทดสอบรถยนต์ Chevrolet Colorado High Country Storm: ใหญ่ ปลอดภัย พร้อมความสบาย
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 30 ต.ค. 60 00:00
- 42,519 อ่าน
“รถกระบะอะไรตั้งล้านกว่าบาท” เป็นคำถามที่ออกมาจากคุณแม่ของผมเอง ที่บังเอิญได้เห็นรถกระบะคันหนึ่งที่จอดวางขายอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่หนึ่ง นั้นคือ Chevrolet Colorado High Country Storm ปะป้ายบอกราคาเริ่มต้นไว้ ซึ่งถ้าเอาจริงๆมันก็ไม่ใช่กระบะคันแรกที่ราคากว่า 1 ล้าน แต่มันน่าจะเป็นคันแรกที่แม่ผมได้เห็น เชื่อว่าในความคิดของเขาต้องคิดว่า รถกระบะเป็นรถใช้แรงงาน มันจึงไม่น่าจะแพง
หลังจากอธิบายไปคร่าวๆว่าราคานี้เป็นเรื่องปกติ เพราะกระบะสมัยใหม่นั้นไม่ได้เน้นการใช้งานแบบเดิมแล้ว หลายคนเอามาใช้เป็นรถในชีวิตประจำวัน จึงทำให้ราคามันประมาณเดียวกับรถเก๋งทั่วไป (บางทีก็มากกว่าด้วยซ้ำ) แต่ความคุ้มค่ามันมีอยู่ แต่ดูเหมือนแม่จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ก็เลยเอามาให้แกลองดูซักที จึงได้ทำเรื่องขอยืมรถ และได้รับความอนุเคราะห์จากทางบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้ยืมรถ Chevrolet Colorado High Country Storm สีขาวมุกมาทำการทดสอบ (ขอบคุณมากคร้าบ ( -/- ) ) เพื่อให้แม่ได้หายสงสัยกันซักทีว่าทำไมราคารถกระบะเดี๋ยวนี้ถึงได้เกินล้านไปแล้ว
Chevrolet Colorado High Country Storm ที่ได้รับมา เป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นตัวต่อยอดมาจาก Chevrolet Colorado High Country 4x4 ที่ถูกเอามาตกแต่งใหม่ เริ่มจากที่เห็นชัดที่สุดก็จะเป็นกระโปรงหน้าที่มีสติ๊กเกอร์สีดำด้านขนาดใหญ่แปะไว้เพิ่มความดุดัน, สติ๊กเกอร์ด้านข้างสีดำเช่นกันพาดเอียงๆจากประตูหลังมาถึงครึ่งประตูหน้า ผมพยายามดูว่าเป็นลายอะไร ดูแล้วน่าจะเป็นลายทุ่งหญ้าและก้อนเมฆนะ (ใครเห็นเป็นลายอื่นวานบอก), สปอร์ตบาร์ด้านหลังเป็นสีดำเงาตัดกับสีขาวของตัวรถ (ของรุ่นปกติเป็นสีเดียวกัน), ล้ออัลลอยรมดำขนาด 18 นิ้ว เพิ่มความคมเข้ม, กระจกมองข้างสีดำ, กันชนหลังสีดำ Anthracite เข้ม และมือจับฝาท้ายสีดำ เอาจริงๆก็คือการตกแต่งใหม่ที่นำสีดำมาตัดเพิ่มความคมเข้ากับสีรถนั่นเอง
ส่วนอุปกรณ์อย่างอื่นนั้นไม่ต่างจากรุ่นปกติเลย เครื่องยนต์ยังเป็นรหัส LP2 ดีเซลดูราแมกซ์ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ พร้อมเทอร์โบแปรผัน (VGT - Variable Geometry Turbocharger) และอินเตอร์คูลเลอร์ 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่สามาเปลี่ยนเป็นเกียร์ Manual สไตล์ Sequential Shift ได้ ช่วงล่างด้านหน้าใช้ระบบอิสระ ปีกนกสองชั้น พร้อมคอยล์สปริง และโช้คอัพแก๊ส ด้านหลัง ลิฟสปริง แป้นรูปครึ่งวงรี พร้อมโช้คอัพแก๊ส ยางเป็นขนาด 265/70 R18 เบรกหน้าเป็นดิสก์ หลังเป็นดรัมตามปกติ พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมระบบความปลอดภัยมากมายที่ใหม่มาในตัวรถ (ไว้ว่ากันทีละตัว)
การทดสอบครั้งนี้เน้นการใช้งานทั่วไป โดยให้แม่ได้ลองนั่งดูเองว่า มันจะคุ้มค่าจริงไหม เส้นทางการทดสอบครั้งนี้เลยถือโอกาสเดินทางไปรับอากาศบริสุทธิ์กันที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีซักหน่อย เส้นทางการเดินทางก็เลือกใช้งานถนนรามอินทราต่อเนื่องไปยังวิภาวดีรังสิต ก่อนจะเปลี่ยนเข้าสู่เส้นผ่านแยกวงศ์สว่างไปจนถึงแยกบางพลัด แล้วเลี้ยวขวามุ่งหน้าสู่ถนนปิ่นเกล้านครชัยศรี เส้นทางช่วงนี้ต้องบอกว่า มีทั้งวิ่งเรื่อยๆกับติดขัดตลอดเส้นทาง แถมช่วงที่มีการสร้างรถไฟฟ้า ถนนก็มีความขรุขระเล็กน้อยอยู่ตลอดเส้นทาง จริงอยู่ว่า Chevrolet Colorado High Country Storm มันคือรถกระบะที่ถูกออกแบบมาให้งานขนของได้ แต่การเซ็ตช่วงล่าง โดยเฉพาะด้านหน้านั้น มีความนุ่มนวลกว่ากระบะทั่วไป เอาล่ะว่าด้านหลังมันก็มีกระเด้งบ้าง ไม่นุ่มนวลเหมือนรถเก๋งทั่วไป แต่ได้มาขนาดนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจแล้ว
หลังจากเข้าสู่ถนนเพชรเกษมได้ ก็จัดการกดคันเร่งมากกว่าเดิมเพื่อเร่งเวลา (ช่วงนี้แม่หลับ เหยียบได้) เครื่องยนต์ก็ตอบสนองเท้าเราได้อย่างดี ม้า 180 ตัวที่อัดอยู่ในเครื่องยนต์นั้นทำงานได้ดีไม่มีงอแง อาจจะมีรอรอบบ้างในช่วงกดแรงๆ แต่ก็ไม่ได้นานอะไรมากมาย ทันต่อการเร่งแซงได้อย่างสบาย พวงมาลัยก็เบามือ สามารถหมุนซ้ายขวา เปลี่ยนเลนได้อย่างสบาย อันนี้เป็นข้อดีของพวงมาลัยไฟฟ้าจริงๆ และระหว่างที่กดคันเร่งอยู่นั้น บังเอิญมีรถคันหนึ่งวิ่งตัดเลนข้ามา ก็มีเสียงเตือนดัง “ปิ๊บๆ” แล้วมีไฟแดงเป็นไฟ LED เรียงแถวนอน สว่างมาบนกระจกด้านหน้า เพื่อเตือนว่ามีวัตถุอยู่ด้านหน้าของตัวรถ ให้กดเบรกได้แล้ว ซึ่งการทำงานนี้เป็นระบบแจ้งเตือน การชนด้านหน้า (Forward Collision Alert) นั่งเอง ซึ่งจังหวะนี้แม่ตื่นขึ้นมาพอดี เอาเป็นว่าโปรโมชั่นเร่งความเร็วได้หมดลงแล้ว
จากนั้นก็เดินทางถึงตัวเมืองราชบุรี ก็เลยแวะรับประทานอาหารกลางวันซักหน่อย วันที่เดินทางไปนั้นอากาศค่อนข้างร้อนอยู่ และจังหวะที่จอดรถ ก็จอดกลางแดดซะด้วย (และแน่นอนว่ารถทดสอบไม่มีฟิล์ม) ใช้เวลากินข้าวซักเกือบชั่วโมง ช่วงเช็คบิลก็เลยแอบอวดระบบที่ผมชอบมากเป็นพิเศษ นั่นคือรีโมทสตาร์ท เพียงแค่ผมกดปุ่มปิดประตู แล้วต่อด้วยการกดปุ่มสตาร์ทรถค้างไว้บนรีโมทจากโต๊ะอาหาร เท่านี้รถก็สตาร์ทขึ้นมาทันที พร้อมเปิดแอร์เพื่อให้ความเย็นรอก่อนที่เราจะไปถึงตัวรถ เมื่อจ่ายเงินค่าข้าวเรียบร้อยและเดินเข้าสู่ตัวรถ ในห้องโดยสารก็เย็นฉ่ำแล้ว เราก็จัดการเอากุญแจเสียบแล้วหมุนไปตามปกติ ก็เดินทางไปต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดหน้าต่างเพื่อระบายความร้อนออกไปเหมือนรุ่นอื่นเลย
ก่อนจะเข้าสู่อำเภอสวนผึ้ง ก็ขอแวะไปที่ โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม ที่เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่อยู่ในอำเภาโพธารามซะก่อน เส้นทางการเดินทางก็จะเป็นถนนราดยางเลนสวนไปกลับ ซึ่งผมเองก็มีบ้างที่เผลอมองข้างทางจนเริ่มออกนอกเลน แต่รถก็มีระบบช่วยเตือน เมื่อขับขี่รถออกนอกช่องจราจร (Lane Departure Warning) คอยเตือนให้ดึงรถกลับมา เมื่อดังบ่อยๆเข้า เสียงที่มาเตือนเป็นอีกเสียงก็คือ เสียงด่าจากแม่นั่นเอง เอาเป็นว่าระบบนี้เล่นเอาเตือนซะจนต้องหันกลับมาที่ถนนอย่างเดียวเลย ส่วนตัวห้องโดยสารนั้นก็กว้างสบาย ขนาดผมตัวอวบๆ (ระยะสุดท้าย) ยังนั่งขับได้อย่างสบาย ส่วนแม่ที่นั่งมาด้วยนี่ไม่ต้องพูดถึง บางจังหวะเล่นหลับยาวเลย
หลังจากได้เดินศึกษาที่โครงการแห่งนี้ ได้ความรู้ในเชิงการเกษตรมากมาย จนอยากจะผันตัวมาเป็นเกษตรกรเลย และทำให้เราได้รู้อีกอย่างว่า ศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ นั้น เป็นศาสตร์แห่งความมหัศจรรย์ ที่สามารถนำมาใช้กับผืนดินที่แห้งแล้ว ขาดความอุดมสมบูรณ์จากการทำเกษตรอย่างผิดวิธีมาเป็นเวลายาวนาน ให้พลิกฟื้นกลับมาเป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาสิ้นสุดไม่ได้กับปวงชนชาวไทยจริงๆ ที่พระองค์ได้พระราชทานวิชาความรู้เหล่านี้ให้คนไทยได้ใช้ด้วยตัวเอง จนหลายจุดทั่วประเทศสามารถพลิกฟื้นกลับมาพึ่งพาตนเองได้อย่างพอเพียง
หลังจากออกมาจาก โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม ก็เดินทางไปต่อที่อำเภอสวนผึ้ง พาคุณแม่ไปแวะตามจุดท่องเที่ยวธรรมชาติต่างๆเช่น ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ไปนั่งแช่เท้าคลายเมื่อย, แก่งส้มแมว นั่งเล่นริมลำธารลมเย็นสบาย ก่อนปิดท้ายด้วยการขึ้นไปชมวิวที่จุดชมวิวห้วยคอกหมู ชมวิวทั้งฝั่งประเทศไทยและประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางที่ขึ้นไปนั้นก็จะเป็นทางฝุ่นที่มีทางขรุขระเยอะหน่อย เลยได้ลองระบบ 4x4 แบบ 4H วิ่งขึ้นไป แน่นอนว่าแรงบิดระดับ 440 นิวตันเมตร ไม่มีปัญหากับการขึ้นในครั้งนี้แต่อย่างใด หลุมไหนก็ไปได้ ถึงแม้จะเจอแม่บ่นมานิดหน่อยตอนขึ้น แต่เมื่อได้เห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามแล้ว ก็คุ้มค่ากับการเดินทางขึ้นมาจริงๆ
โดยรวมแล้ว Chevrolet Colorado High Country Storm มันก็คือรถกระบะที่การใช้งานใกล้เคียงกับรถ PPV ตัวยอดนิยมอย่าง Chevrolet Trailblazer เป็นอย่างมาก ต่างกันตรงที่มีตัวกระบะเข้ามาแทนแถวนั่งที่ 3 และการเซ็ตช่วงล่างที่ต่างกัน เพราะคันนี้ถูกออกแบบมาใช้บรรทุกได้ด้วย ส่วนของเทรลเบลเซอร์จะเน้นนั่งสบายมากกว่า รวมทั้งระบบบางอย่างเช่นระบบแจงเตือน จุดอับสายตา (Side Blind Zone Alert), ระบบชวยเตือน การจราจรที่ดานหลัง ขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) ก็ไม่ได้ติดมาด้วยเท่านั้นเอง ส่วนระบบความสะดวกสบายอื่นๆ อย่างเช่นหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วพร้อมระบบ Apple CarPlay, ระบบนำทาง Navigator, ระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control ก็มีมาให้พร้อมเช่นกัน อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของทริปนี้อยู่ที่ 11.9 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนค่าตัวอยู่ที่ 1,098,000 บาท ถ้าถามว่าแพงมั้ย ถ้าคุณมองว่าเป็นแค่รถกระบะมันก็แพงอยู่ แต่ถ้าเทียบออพชั่นที่ได้มาทั้งเรื่องความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่ได้มา ก็ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว การันตีโดยคุณแม่ผมเองหลังจากจบทริปว่า “หายสงสัยแล้วว่าทำไมรถกระบะคันนี้ถึงราคาเกินล้าน”
ทดสอบและเรียบเรียงโดย Earthpark02
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com