BMW X4 Xdrive 2.0 d Msport แตกต่างอย่างมีสไตล์
- โดย : Autodeft
- 4 พ.ย. 59 00:00
- 62,911 อ่าน
จะซื้อรถใหม่ทั้งทีหลายคนคงเคยเจอปัญหา เรื่องความต้องการของตัวเอง ถูกปิดกั้นตัวเลือกต่างๆ ด้วยความจำเป็น ... ไม่แปลกที่การเลือกรถยนต์สักคันจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆคน และคงจะดีกว่าถ้ารถสักคันสามารถสอดคล้องทุกความต้องการได้
นี่แหละครับ... เป็นโจทย์สำคัญที่ทำให้รถยนต์อเนกประสงค์ก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตของใครหลายๆคน มันครบครัน ลงตัว พร้อมสรรพทางด้านฟังชั่นและการลุย หากว่าเจ้าอเนกประสงค์ก็ยังมีจุดบอดในเรื่องการออกแบบที่ต้องทำให้มันดูใหญ่ ดูทึกถึก... นั่นยังมาถึงโจทย์การออกแบบของ BMW ว่า ทำไมเราจะทำให้รถอเนกประสงค์สปอร์ตไม่ได้ ..
ความคิดนอกรีด...แบบนี้ ถามใครก้คงบอกว่า บ้า!!! แต่ความคิดนี่แหละที่ทำให้เกิดรถยนต์กลุ่มใหม่ ของค่ายบาวาเรี่ยนและมันกลายเป็นรถที่ขายดีไม่น่าเชื่อ ด้วยทรวดทรงแปลกสุดประหลาด ประมาณว่า อเนกประสงค์ ก็ไม่ใช่ เก๋งก็ไม่เชิง ทำเอาหลายคนสนใจและไม่คิดว่า BMW จะคิดทำรถยนต์แบบนี้ออกมา
เรือนร่างหน้าตา BMW X4 ตั้งแต่แรกเห็น อาจจะขัดใจในสายตาของใครลายคน มันเป็นรถยนต์ที่คุณต้องตั้งคำถามต้องย่ำไปบนโชว์รูมตราพัดฟ้าว่า นี่มันรถอะไรของมัน ...(วะ) แปลกประหลาด ดูไม่สะดุดตา แต่เมื่อมองบ่อยๆ คุณกลับมายังโชว์รูม รอบที่ 2 รอบที่ 3 คุณจะเริ่มค้นพบว่า BMW X4 นั้นสวยเหมือนกัน
ถึงจะสวมชื่อตระกูล X บอกความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ของค่าย แต่ที่มาที่ไป เจ้า BMW X 4 แตกต่างออกไปสักหน่อย อย่างที่พอจะเดาได้ เจ้าอเนกประสงค์คันนี้คือการย่อขนาดของ BMW X6 ลงมาตอบตลาด และเราอยากคุณรู้ที่มาสักหน่อย ...
เรื่องราวการสร้าง BMW X6 เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากและหลายคนคาดไม่ถึง มันเกิดขึ้นในช่วงการพัฒนา BMW X5 รุ่น E70 เมื่อทางวิศวกรและนักออกแบบมีโอกาส ร่วมโต๊ะสนทนาว่า เราน่าจะทำรถยนต์อเนกประสงค์ให้มันดูสปอร์ตได้ มันอาจจะดูเป็นความคิดห่ามๆ บ้าๆ ที่พูดเล่นกันในวงสนทนา หากมันก็จุดประกายให้ Peter Tuennermann มั่นใจว่า แนวคิดดังกล่าวจะสามารถทำออกตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความแปลกใหม่ได้ และในตอนปี 2003 ยังไม่มีใครคิดแบบนี้ ดังนั้น เมื่อจบโครงการพัฒนารถยนต์ BMW X5 พวกเขาก็เริ่มพัฒนาทำเรื่องเล่นๆให้กลายเป็นจริงในชื่อ BMW X6
รถอเนกประสงค์ BMW X6 เป็นรถที่น่าเหลือเชื่อในสายตาคนที่ได้เห็นมัน มันสปอร์ตดูดีพร้อมลุย และนับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ของ Pierre Leclercq จนทำให้รถขายดี และเขาได้ตั๋วไปนั่งในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของค่ายรถยนต์ชั้นนำ Great Wall เมื่อสามปีที่แล้ว
BMW X6 เป็นรถยนต์ที่ตรงใจลูกค้า โอเค!! มันดูประหลาด แต่ลูกค้าก็ชอบมันอย่างไม่ต้องสงสัย ในปีแรกที่วางจำหน่าย BMW X6 มียอดขายถึง 26,580 คัน และเมื่อประมวลยอดขาย BMW X6 รุ่นแรก ทางค่ายตราพัดฟ้า กวาดยอดไปมากถึง 240,000 คัน เลยทีเดียว
ไม่แปลกที่ BMW X6 รุ่นที่สองจะรีบออกมาตอบตลาดทันควัน แต่ราคาที่พุ่งทะยานขึ้นไปแตะระดับ 7 ล้านบาทไทย ก็คงทำให้ลูกค้าจำนวนไม่น้อยคิดหนักในการจับจองเป็นเจ้าของพวกมัน ทางตราพัดฟ้า จึงมองว่าเราน่าจะปรับขนาดมันลงมาสักหน่อย และทำให้ราคามันถูกลง เพื่อจับลูกค้าที่ต้องการซื้อสไตล์และสมรรถนะ ...และนั่นคือที่มาของ BMW X4
ฝีมือการออกแบบคนเดียวกับ BMW Series 3 รุ่นปัจจุบัน คริสโตเฟอร์ เวล กลับมาร่ายมนต์ในการออกแบบรถยนต์อเนกประสงค์ร่างสปอร์ตย่อส่วนรุ่นใหม่ ให้ความงามตั้งแต่ใบหน้าที่ดูคล้าย BMW Series 3 แต่มีความดุดันมากกว่า ไปจนถึงบั้นท้ายที่จัดการหั่นช่วงท้ายแล้วแปลงมันเป็นสไตล์ท้ายลาด ไปจนถึงด้านหลัง ตลอดจนตัวรถยังได้การออกแบบหลังคาคล้ายกับทรวดทรงกึ่งคูเป้ มีเสน่ห์ในแบบของมันเอง เส้นสายการออกแบบช่วงข้างมาพร้อมความเข้มข้นในสไตล์สปอร์ตมากขึ้น
น่าแปลกที่ตัวรถไม่ได้ให้ความรู้สึกเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ แบบ BMW X3 และ BMW X5 มันดูเหมือนการขยายร่างเจ้า Series 3 ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นแล้วปรับการออกแบบให้ดูน่าสนใจขึ้น ไม่ว่าจะกระจังหน้าไตคู่และซุ้มล้อขนาดใหญ่ เติมความทันสมัยด้วยชุดไฟหน้า-ไฟท้าย LED ลงตัวในการขับขี่ด้วยล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ด้านหน้าใช้ยาง 245/45/ R19 ส่วนด้านหลังเน้นหน้ากว้างกว่าด้วยขนาด 275/40/R19
น่าเสียดายที่ คริสโตเฟอร์ไม่ยอมซ่อนมือจับเปิดประตูประตูหลังไม่งั้น เชื่อเลยว่า BMW X4 จะดูหล่อมากกว่านี้อีก และถึงจะดูคันใหญ่โตรโหฐานมากมาย แต่ที่จริงแล้ว เจ้า BMW X4 นั้นไม่ได้มีขนาดแตกต่างจาก BMW Series 3 มากมายนัก มันมีความยาวตลอดคัน 4,671 มม. กว้าง 1,881 มม. ไม่รวมกระจกมองข้าง และสูง 1,624 มม. มีฐานล้อยาว 2,810 มม.
ถ้าเทียบกับ BMW Series 3 โฉมปัจจุบัน BMW X4 จะมีความยาวกว่า 47 มม. กว้างกว่า 70 มม. และสูงกว่า 195 มม. แต่ถ้าเทียบกับ BMW X3 แล้ว BMW X4 จะมีความกว้างน้อยกว่า 3 มม. และเตี้ย 89 มม. ทว่าตัวรถกลับมีความยาวกว่า X3 อีก 19 ม.ม ส่วนเรื่องฐานล้อเท่ากันหมดทั้ง 3 รุ่น
รูปทรงแปลกตาบางครั้งเก๋ง บางครั้งอเนกประสงค์ แล้วแต่อารมณ์ความรู้สึก ……
BMW X4 ครบเครื่องเรื่องความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร ตั้งแต่แรกสัมผัสจากเบาะนั่งคู่หน้าทรงบัคเก็ตซีท สไตล์สปอร์ต ใช้สะดวกสบายด้วยฟังชั่นปรับไฟฟ้า ทีเด็ดอยู่ที่การออกแบบปีกข้างให้สามารถโอบกระชับได้ตามขนาดเรือนร่างของคุณโดยใช้ลมปรับตัวปีข้างให้แน่นเวลาไม่หลุดตอนเทโค้ง หรือจะปรับให้มันนั่งสบายๆ ก็ได้เหมือนกัน
ตรงหน้าคนขับ รถมาพร้อมพวงมาลัยสปอร์ตหุ้มหนังครบครันด้วยปุ่มต่างบนพวงมาลัย อันได้แก่ระบบ Cruise Control ธรรมดาๆ ทางฝั่งซ้าย ทางขวา เป็นปุ่มจัดการระบบเครื่องเสียง เหลือบตาขึ้นมาเป็น มาตรวัดสไตล์สปอร์ต ยังคงใช้เข็มแบบอนาลอก มีทั้งวัดรอบและความเร็ว แถมด้วย อุณหภูมิวัดความร้อนน้ำมันเครื่อง บางคนอาจตกใจว่าเป็นอุณหภูมิหม้อน้ำจากความเคยชิน ผมว่าเขียนกำกับไว้ว่า oil temp. ก็น่าจะดีไม่น้อย
เหลียวมองตรงกลาง มาหน้าจอแสดงผลและการเชื่อมต่อ BMW connect ใช้งานง่ายดาย ผ่านชุดปุ่มที่อยุ่ตรงกลางข้างคันเกียร์ทางด้านล่าง ตัวระบบ BMW Connect เป็นผู้ช่วยสำคัญ ทั้งใช้ในการเรื่องความบันเทิง และยังแสดงข้อมูลต่างอีกมากมายเกี่ยวกับตัวรถ ยาวเป็นหางว่า ผมขอเล่าคร่าวๆที่ได้มีโอกาสลองใช้ระหว่างการทดสอบ เช่น ระบบ xdrive Status ดูการตอบสนองของระบบ และยังสามารถวัดองศา การตะแคง และ ไต่ของรถได้อีก , หน้าจอแสดงข้อมูลทั่วไป มีเรื่องของอัตราประหยัดก เฉลี่ย และระยะทาง ... รวมถึง ยังเป็นจอเดียวกับการกะระยะในการถอยจอด ไร้วี่แววกล้องมองหลัง เรียกว่าเล่นกัน 3 วัน 7 วัน ก็ไม่มีวันเบื่อ
เอาเข้าจริงถามผม BMW X4 ยังขาดฟังชั่นพวกลูกเล่นเพื่อความสบายไปหน่อย อาทิ เข็มขัดนิรภัยไม่สามารถปรับสูงต่ำได้ ผมลองควาญหาทั่วแล้ว ยังไม่เจอเลยตลอดการทดสอบในครั้งนี้ รวมถึงไม่มีปุ่มเปิด-ปิด ฝาท้ายภายใน ทั้งที่สมควรน่าให้อำนวยความสะดวก ยังดีที่คุณสามารถเปิดฝาท้ายได้หลายวิธี ทั้งจากรีโมทเอง จากการกดมือจับ หรือจะเตะเข้าไปใต้กันชนอย่างเท่ห์ๆ เพื่อให้ระบบฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ทำงาน และที่สำคัญที่สุด คือในห้องโดยสารไม่มีหูหิ้วมือจับ หรือที่พี่ J!MMY Headlightmag ตั้งชื่ออย่างกิ๊บเก๋ว่า “ศาสดา” ทำเอาผมงงไปเหมือนกันว่า BMW คิดอะไรอยู่
มองตอนแรกต้องบอกว่าไม่ชอบใจเรื่องเบาะนั่งตอนหลังเลย แต่พอลองเปิดประตูลองโดยสารยามมีสารถีขับให้นั่ง ก็ยอมรับว่า มันเป็นเบาะนั่งในฝันสำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ พื้นที่การโดยสารอาจไม่กว้างมากแต่นั่งได้สบาย หลังคาที่เทลาดเอียงไม่ใช่ปัญหา ด้วยเบาะนั่งตอนหลังปรับระดับต่ำกว่าเบาะนั่งด้านหน้าลงไปพอสมควร แถมตัวเบาะยังไม่จุดรับแรงกระแทกช่วงล่างโดยตรง ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งสบาย และถ้าคุณต้องเปลี่ยนสู่โหมดนักขนของ ก็สามารถแยกพับได้ในอัตรา 40/20/40
ใต้เรือนร่างสปอร์ตกึ่งลุย BMW X4 มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 รุ่นในปัจจุบัน คือ เบนซินและดีเซล ทั้งสองเครื่องยนต์เป็นขุมพลังที่ยกมาจากเจ้าอเนกประสงค์ BMW X3
ต้นกำลังรหัส B47 ใหม่ล่าสุดจากค่ายตราพัดฟ้า พร้อมสนองตอบกำลังขับเคลื่อนสูงสุด 190 แรงม้า สูงสุดที่ 4,000 รอบต่อนาที ตัวรถทำแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนลงระบบเกียร์อัตโนมัติ จาก ZF 8 สปีด ตลอดจนยังพกระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลา X-Drive มาด้วย
ในการขับขี่จริง ต้องยอมรับว่าเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกนี้อาจจะไม่ได้มีกำลังแรงม้าหวือหวา แต่กำลังแรงบิดอันเหลือร้ายของมันก็พอคุณออกตัวอย่างรวดเร็ว แม้จะอยู่ในโหมดการขับขี่ปกติ คุณจะรู้สึกถึงการตอบสนองที่ดี ทุกครั้งที่ออกตัวจากไฟแดง รถจะพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วทุกครั้งได้อารมณ์สปอร์ตพอตัว
การขับ BMW X4 ในเมือง ต้องยอมรับว่าเจ้าอเนกประสงค์คันนี้มีทัศนวิสัยที่ดีกว้างไกลในการขับขี่ ตัวรถที่ดูใหญ่เทอะทะ ที่จริงแล้วขับง่ายมากๆ สตรีเพศก็ใช้งานมันได้ ด้วยระบบพวงมาลัยไฟฟ้า ที่ตอบสนองเบามือ และตึงมือกำลังพอดี มีระยะฟรีบ้างเล็กน้อยในการขับขี่ ตามสไตล์รถยนต์อเนกประสงค์ รวมถึงหน้ารถที่มีระยะยื่นสั้นช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเดินทาง ยิ่งกว่านั้นมันยังเป็นรถที่มีวงเลี้ยวแคบเพียง 5.45 เมตร เรียกความสามารถในการกลับรถ หรือเลี้ยวในที่แคบได้เป็นอย่างดี
และเมื่อไรก็ตามที่คุณนึกถึงเรื่องของการประหยัดน้ำมัน รถก็ยังมีระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ รวมถึงยังมีโหมดการขับขี่ประหยัดพิเศษ Eco Pro ด้วย ถ้าต้องการจะเซฟน้ำมันจริงๆ ส่วนเรื่องความสบายในการขับขี่ในเมือง ขับๆ หยุดๆ แบบนี้ คุณมีผู้ช่วยคนใหม่ที่ทำงานร่วมกับเบรกมือไฟฟ้า ระบบ Brake Hold ช่วยให้คุณไม่เมื่อยเท้าขวายามรถติด และแม้จะใช้ระบบนี้ เจ้าระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติก็ยังทำงานปกติ ตามสภาวะเงื่อนไขการทำงานของมัน
จะหนาวๆ มาหลายวัน ไม่เป็นไปดังคาด ว่าแล้ว ฝนก็กระหน่ำลงมาทำเอาถนนแปลสภาพเป็นคลอง ตามภาษาบางกอกเมืองเวนิสตะวันออก สภาพทางที่เปี่ยมด้วยน้ำท่วมขัง BMW X4 โชว์ ศักยภาพของมันในการลุยน้ำขังรอการระบายแบบรถยนต์อเนกประสงค์ ด้วยความสูงจากระยะต่ำสุดจากพื้น 204 มม. ตลอดจนในยามที่คุณเผลอย่ำแอ่งน้ำก็สบายหายห่วง ด้วยความสามารถของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ BMW X Drive ผู้ปิดทองหลังพระในด้านสมรรถนะการขับขี่ของอเนกประสงค์คันนี้ มันสามารถแปรผัน อัตรากำลังระหว่างล้อ และปรับการถ่ายทอดกำลังทางด้านหน้าและด้านหลังอย่างอิสระ ทำให้รถไม่มีอาการดึงข้างใดข้างหนึ่งเมื่อลงน้ำ
ขับมากว่า 128.3 กิโลเมตร ผมเติมน้ำมันดีเซลพรีเมี่ยมในการทดสอบรถยนต์หรูทุกรุ่นเป็นมาตรฐานใหม่ ไป 13.043 ลิตร จบอัตราประหยัดการทดสอบในเมืองที่ 9.83 กิโลเมตร/ลิตร
..... มันไม่ประหยัดมากมายอะไรอย่างที่คิด ส่วนหนึ่งอาจจะด้วยการจราจรที่ติดขัดมากขึ้นในเมืองกรุง และเมื่อพูดถึงรถอเนกประสงค์แล้ว คงจะเหมาะกับทางไกลมากกว่า
เช้าวันต่อมาผมไม่รอช้าที่จะคว้า BMW X4 ดินทางไกล ระหว่างทางผมทบทวนสาเหตุอัตราประหยัดไม่สู้ดีนัก เหตุผลของเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะมีอะไรมากไปกว่า การออกแบบและตัวรถที่ค่อนข้างสูงโปร่ง นั่นหมายความถึงมันยิ่งต้านอากาศมากกว่า แม้ว่าจะมีค่าสัมประสิทธิเสียดทานกว่า 0.33 cd ดีพอๆ กับรถเก๋งบางรุ่นจากญี่ปุ่น กอปรกับน้ำหนักที่มากกว่าเจ้า BMW Series 3 ด้วยพิกัดตัว 1,735 กก. (DIN) ก็น่าจะเป็นสาเหตุสำคัญของความประหยัด
เมื่อขับนอกเมือง BMW X4 เป็นรถยนต์ที่คุณหลงรักมันอย่างสุดใจ กำลังของมันไม่มากมาย แต่แรงบิดมหาศาลของช่วยให้คุณสนุกสนานบนทางหลวง แถมยามขับเข้าถนนสองเลนสวนก็ไม่ต้องแซงแบบคอยลุ้นว่าจะหรือเปล่า
นอกจากเรื่องกำลังเครื่องยนต์ที่ดีตามคุณลักษณะขุมพลังแรงบิดสูงแล้ว เรื่องของระบบกันสะเทือนเจ้านี่ ก็จัดว่าไม่ธรรมดา ตอนนำมาทดสอบในวันแรกๆ ผมก็บ่นๆ ว่า รถอะไรไม่มีที่ห้อยโหนมาให้ผู้โดยสาร กะว่า เดี่ยวจะเขียนติลงในบทความรีวิวด้วยซ้ำ
แต่เมื่อมาขับจริงๆ ผมเริ่มถึงบางอ้อ... นั่นเพราะ วิศวกรรมที่เหนือชั้นของ BMW พวกเขาสามารถลบแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นกับตัวรถในยามเปลี่ยนเลน เข้าโค้ง หรือ กระหักหลบอย่างว่องไวได้หมดจด มันเป็นรถที่ประหลาดมาก และทำให้ผมหลงรักทันที มันคือรถที่คุณซิ่งได้ทุกสถานที่ไม่หวาดหวั่นในทางโค้ง ไม่น่ากลัวเวลามุดฝ่าการจราจรแข่งกับเวลา
มิหนำซ้ำสไตล์ระบบกันสะเทือนยังออกมาในแนวของรถยนต์หนึบแน่น แต่ไม่แข็งกระด้าง ด้วยการทำงานผ่านระบบกันสะเทือนแบบ Double Joint Spring Strut Axel in lightweight construction ทางด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นระบบ Five link axel in light weight construction สัมผัสของมันทำให้ผมกล้าพูดว่าเป็นรถยนต์ที่ค่อนข้างอภิรมย์ มันตอบโจทย์ได้ทั้งภรรยาของคุณและคุณ ไม่ว่าคุณหรือเธอจะขับ ก็เป็นรถที่ขับสบายได้อารมณ์สปอร์ตพร้อมลุยในทุกเส้นทาง
และถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่ได้วางแผน นำรถหรูเข้าไปบุกป่าฝ่าดง แต่ถ้ายามใดที่คุณจะเป็นจะต้องออกผจญภัย BMW X4 ก็พร้อมในระดับหนึ่งสำหรับเส้นทางที่ไม่ได้หินอะไรมากมายนัก เพียงแต่ที่ต้องระวังคือพวงหินคม นอกนั้นไปได้สบายมาก
BMW X4 xdrive 2.0d ...เสน่ห์เยอรมัน ที่ยากจะห้ามใจ ...
เวลานี้ผมกำลังขับกลับกรุงเทพ เจ้า BMW X4 กลายเป็นรถที่ผมเริ่มรู้สึกว่ามันน่าครอบครอง เป็นเจ้าของหากวันหนึ่งมีโอกาสที่จะไขว่คว้ามันมา พลันระหว่างที่คิดนั้น เพลงยอดฮิตประจำเดือนฟังมันทุกวัน จากคลื่นวิทยุขาประจำของผมก็ดังขึ้น ...
แต่ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน
ไม่ต้องมาเขิน ฉันพูดจริงๆ
เธอมีเสน่ห์มากมาย จะน่ารักไปไหน
อยากจะได้แอบอิง ยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์ ……
..... เพลงคนมีเสน่ห์ของพี่ ป้าง นครินทนทร์ กิ่งศักดิ์ นี้ช่างเข้ากับเจ้า BMW X4 ยิ่งนัก มันเป็นรถที่ดูทีแรก อะไรอ่ะ ..ไม่หล่อเลย แถมจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจนำรถรุ่นนี้มาขับด้วย แต่เผอิญเหมือนดวงต้องมาเจอกัน พอดูไปดูมา เออก็เริ่มสวยดี พอลองขับก็เริ่มรู้สึกชอบ .... และนาทีนี้ก็กลายเป็นรถที่ผมรักแล้วแปะมันไปในรายชื่อรถในฝันต้องซื้อไปแล้ว ....ผมไม่รู้ว่า BMW ทำได้ไง แต่รถคันนี้เป็นรถที่ต้องคบนานๆ ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งรักมัน
น่าขันที่คุณจะลืมประหยัดน้ำมันในรถคันนี้ไปสนิทใจ คุณจะไม่สนว่าจะต้องจ่ายค่าน้ำมันเท่าไร เมื่อขับไปบนถนนคุณหล่อมากๆ คุณจะเป็นเป้าสายตาใครหลายคน พร้อมคำว่า “นี่รถบีเอ็มจริงหรือ” ตามมาด้วยคำซุบซิบจากคนที่มองเข้ามา แต่ผมอยากจะบอกว่า นี่แหละคือ Real BMW มันเป็นรถที่ไม่สนแนวคิดอื่นๆ ไม่ได้เน้นทางด้านความหรูหรา หากกลับเปี่ยมด้วยเสน่ห์ความมีปัจเจก ความสปอร์ต มีความคิดผู้นำ แบบกล้าคิดกล้าทำ และทำมันออกมาได้ดี
สำหรับหลายคนอาจจะมอง BMW X4 เป็นเพียงร่างทรง X6 ย่อขนาด แรกๆ ผมก็คิดแบบนั้น แต่เมื่อได้ขับ BMW ได้พิสูจน์แล้วว่ามันไม่ใช่แบบที่คุณคิด โดยเฉพาะทางด้านสมรรถนะในการขับขี่ ผมลองเหยียบทำสมรรถนะยามค่ำคืน ผมได้ตัวเลขที่น่าประทับใจ ด้วยอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ดีที่สุดในเวลา 9.7 วินาที (ตามสเป็คได้ 8 วินาที) เร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม ดีที่สุดในเวลา 6.8 วินาที และสามารถเร่ง 0-160 ก.ม./ช.ม. ดีที่สุดในเวลา 26.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 208 ก.ม./ช.ม. (ตามสเป็ค 212 ก.ม./ช.ม.) มันเป็นรถที่มีสมรรถนะดีใกล้เคียงคำว่าสปอร์ต แค่อาจจะยังไม่เต็มขั้นเท่านั้น
ตารางแสดงการทดสอบอัตราเร่ง รถยนต์ BMW X4 Xdrive 2.0d
|
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. |
9.878 |
9.882 |
9.749 |
9.836 |
อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. |
7.000 |
6.400 |
6.900 |
6.767 |
อัตราเร่ง 0-160 ก.ม./ช.ม. |
27.20 |
26.10 |
26.90 |
26.733 |
ทางด้านอัตราประหยัดเอง แม้ว่าจะไม่สู่ดีนักในเมืองเนื่องจากเป็นรถที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักตัวมาก แต่ในภาพรวมแล้ว BMW Xdrive 2.0d ก็ไม่ได้อยู่ในขั้นเลวร้ายอย่างที่คิด จากการทดสอบทั้งหมดด้วยน้ำมันดีเซลพรีเมี่ยม ต้องยอมรับว่า ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นรถที่เหมาะสำหรับการเดินทางมากกว่า ใช้ขับในเมือง
ตารางแสดงอัตราประหยัดน้ำมันของรถยนต์ BMW X4 Xdrive 2.0d
อัตราประหยัดในเมือง |
9.83 ก.ม./ลิตร |
อัตราประหยัดนอกเมือง |
13.84 ก.ม./ลิตร |
Bonn test mode |
15.74 ก.ม./ลิตร |
จากอัตราประหยัดระหว่างการทดสอบ คงจะเห็นได้ว่าการขับขี่ในเมืองเจอสภาวะการจราจรติดขัด ทำให้อัตราประหยัดรถไม่สู้ดีนัก แม้ว่าจะมีระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราวเข้ามาช่วย ตลอดจนยังมีเทคโนโลยี BMW Efficient Dynamic เป็นตัวประกอบหลังฉาก หากด้วยน้ำหนักที่มากของ BMW X4 และ ทรงทรงที่ไม่ได้เพรียวลมเหมือนเก๋ง ส่งให้มันซดน้ำมันพอตัวเมื่อขับในเมือง
อย่างไรก็ดี ถนนนอกเมืองเหมือนสวรรค์ของรถคันนี้มันพร้อมสรรพในเรื่องการขับขี่ และเครื่องยนต์ ดีเซลบล็อกนี้มีกำลังเหลือเฟือให้คุณขับใช้งานนอกเมือง จนคุณจะนึกสนุกว่ากำลังขับรถสปอร์ตอยู่กลายๆ
... น่าเสียดายที่ BMW X4 ยังตกม้าตายในหลายเรื่องเริ่มจากการออกแบบที่เกือบจะสมบูรณแบบ ถ้าอีตาคริสโตเฟอร์ซ่อนมือจับประตูเพิ่มต้นทุนสักหน่อยรถจะดูหล่อกว่านี้ ตลอดจน ตัวรถ BMW X4 ยังต้องการออพชั่นบางอย่างภายในเพิ่มเติม เช่น ตัวปรับ ระดับเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารตอนหน้า ...
เรื่องศาสดามือจับในรถก็สมควรมี บางคนไม่ได้เอาไว้ใช้ห้อยโหน แต่สำหรับผู้บริหาร หลายครั้งมันกลายเป็นที่แขวนสูตร และเสื้อเปลี่ยนระหว่างทางในยามที่ออกหลายๆงานในวันเดียว
นอกจากนี้อยากเห็นพวกลูกเล่นความทันสมัยมากขึ้นในรถคันนี้ ผมเข้าใจว่าทางทีมวิศวกรเข้าคงเหมาะเอาว่ารถคันนี้เป็นสปอร์ตอเนกประสงค์เลยจัดสมรรถนะมาให้อย่างครบครัน แต่ทุกวันนี้คนชอบสมรรถนะก็รักอยากได้ลูกเล่นกระจุกกระจิกในการใช้งานและน่าจะดีกว่าถ้ามีมาให้
BMW X4 อาจจะเป็นรถยนต์ที่หลายคนมองข้ามันไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยราคาจำหน่าย 3.999 ล้านบาท รถเป็นแบบนำเข้าทั้งคันจากต่างประเทศ (CBU) เมื่อเทียบกับ BMW X3 Xdrive 2.0d Highline ในราคา 3.499 ล้านบาท (ประกอบในประเทศ) คุณจะเห็นว่า BMW X4 มีราคาจำหน่ายแพงกว่า 5 แสนบาท
บางคนอาจจะเหลือบขึ้นไปมอง BMW X5 รุ่นใหญ่ฟังชั่นครบ ที่มีราคาเริ่มต้น 4.599 ล้านบาท แต่คุณได้เครื่องใหญ่กว่า หากก็ไม่ได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ X Drive แบบใน BMW X4 แถมต้องเป็นหนี้เพิ่มอีก 6 แสนบาท ก็ทำเอาน่าขบคิดไม่น้อย ด้วยว่าคนที่ซื้อรถระดับ 4 ล้านบาท ก็น่าจะซื้อรถราคาสี่ล้านกลางๆได้ไม่ยากอะไรนัก
แต่ถ้าคิดแบบสบายใจว่าคุณซื้อรถสไตล์ BMW X6 ในขนาดมินิกว่า คุณก็คงจะรู้สึกดีขึ้นที่รู้ว่าสามารถประหยัดเงินไปได้สองล้านบาท เพื่อสนองความต้องการของตัวคุณเอง
BMW X4 เป็นรถที่หลายคนอาจจะไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะดีเลิศมากมายอะไร มันเป็นรถที่ประหลาด แต่ซ่อนสมรรถนะเอาไว้จนขับดีเหนือคำบรรยาย และที่สำคัญด้วยการออกแบบที่แปลกแตกต่างทำให้มันมีบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร เพียงแต่คุณต้องยอมสู่ราคาเจ้าหนูนี่หน่อย แล้วจะรู้ว่ารถที่ขับดีมีสไตล์ดูเมื่อไรก็สวยไม่รู้เบื่อ นั้น...มีจริง!!! และถ้าคุณคิดว่าราคา 3.999 ล้านบาทแพงไป ล่าสุด BMW เพิ่งนำเข้ารุ่นใหม่ BMW X4 Xdrive 2.0i M Sport สนนราคาถูกกว่ารุ่นดีเซล อีก 3 แสนบาท
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง Content Specialist - นักขับทดสอบรถยนต์ Autodeft.com ติดตามได้ที่ Facebook
ขอบคุณ บีเอ็ม ดับบลิว ประเทศไทย ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ BMW X4 Xdrive 20d มาให้ทดสอบในครั้งนี้
ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา ได้ที่ www.Autodeft.com
หรือผ่านทาง Fanpage Facebook กดไลค์และ Follow ได้ที่ www.facebook.com/autodeft
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com