Test Drive : รีวิวรถยนต์ใหม่ All New Suzuki Ertiga อเนกประสงค์ 3 แถว 7 ที่นั่ง ขับดีเกินคาด! ในราคาสุดเซอร์ไพรส์
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 17 ก.พ. 62 00:00
- 54,728 อ่าน
นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา All New Suzuki Ertiga อีกหนึ่งรถยนต์ใหม่คันล่าสุดในปี 2019 นี้ ที่เข้าทำตลาดต่อเนื่องจากโฉมก่อน ถือเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่ทำตลาดในประเทศไทยและได้รับการตอบรับอย่างดีมาโดยตลอด ชูจุดเด่นเรื่องความอเนกประสงค์ในการโดยสารและบรรทุกสัมภาระ พร้อมราคาค่าตัวไม่สูง ซึ่งจากการเปิดตัวโฉมใหม่ล่าสุดนี้ก็เรียกได้ว่าสร้า
อีกหนึ่งโอกาสอันดีที่ทีมงาน AUTODEFT ได้ร่วมทดลองขับรถยนต์ใหม่ All New Suzuki Ertiga ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ บนเส้นทางจังหวัดเชียงราย ที่ตลอดเส้นทางส่วนใหญ่เป็นถนน 2 เลน สลับทางโค้งไปมา รวมไปถึงในบางช่วงที่มีเส้นทางขึ้นและลงเขาเล็กน้อย พร้อมขับผ่านสถานที่สำคัญ ณ สามเหลี่ยมทองคำ ที่จะมาบอกเล่าความรู้สึกหลังจากการขับขี่ให้ได้ทราบกัน รวมไปถึงการโดยสารในตำแหน่งที่นั่งแถว 2 และ 3 ที่หลายๆ ท่านอยากทราบกันว่าสามารถนั่งโดยสารได้อย่างสะดวกสบายมากน้อยขนาดไหนตลอดการเดินทาง
แรกเห็นกับดีไซน์ภายนอกของ All New Suzuki Ertiga ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด มีการเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT เช่นเดียวกับ Suzuki SWIFT ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้า ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิม 50 กิโลกรัม ให้ความแข็งแรง และสมรรถนะการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นที่ได้พิสูจน์กันมาแล้วในบอดี้ SWIFT ใหม่ และเมื่อมาดูที่เรื่องของตัวเลขมิติตัวรถเมื่อเปรียบเทียบกับโฉมก่อน เห็นได้ชัดว่า Suzuki Ertiga ใหม่ มีความยาวที่เพิ่มขึ้นถึง 130 มม. เป็น 4,395 มม. กว้างขึ้น 40 มม. เป็น 1,735 มม. สูงขึ้น 5 มม. เป็น 1,690 มม. และยังคงระยะฐานล้อเท่าเดิมที่ 2,740 มม. แต่ในส่วนของตัวเลขความสูงจากใต้ท้องรถนั้นเตี้ยลง 5 มม. แน่นอนว่าจากตัวเลขความยาวที่เพิ่มขึ้นมานี้ ทำให้เราสามารถรับรู้ได้ว่าภายในห้องโดยสารของรถนั้นต้องมีพื้นที่มากขึ้น และส่วนของพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายที่เพิ่มขึ้นอย่างสังเกตได้ โดยเฉพาะเวลาที่มีการโดยสารของเบาะทั้ง 3 แถว พื้นที่ด้านหลังก็ยังสามารถรองรับการวางสัมภาระได้
สำหรับอุปกรณ์ภายนอกที่ติดตั้งมาให้ตามสมัยนิยม กับทั้งไฟหน้า Projector พร้อมกระจังหน้าโครเมี่ยมสุดหรู ลงตัวกับกันชนหน้าทรงสปอร์ตติดตั้งมาพร้อมไฟตัดหมอกทรงกลมและกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ในรุ่น GX ที่สามารถปรับ-พับด้วยระบบไฟฟ้า ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65 R15 และไฟท้าย LED พร้อมไฟหรี่ Light Guiding ในโคมเดียวกัน ดีไซน์แบบเดียวกับรถยุโรปทรง L ส่วนของประตูข้างเปิดได้ 3 จังหวะ เพิ่มความกว้างขวางสามารถเข้าออกได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ภายในมาในโทนสีดำตกแต่งสลับด้วยลายไม้ที่บริเวณแดชบอร์ดหน้า พวงมาลัย และแผงประตูข้าง และแน่นอนว่ามาพร้อมกับเบาะแบบ 7 ที่นั่ง โดยแถวสองสามารถพับได้แบบ 60/40 แถวที่สามสามารถพับได้แบบ 50/50 ทำให้เพิ่มพื้นที่บรรทุกของมากสุดถึง 550 ลิตร พวงมาลัยมาในแบบ 3 ก้านสุดคุ้นเคยทรง D-Shape พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และบลูทูธ ช่องปรับอากาศได้รับการดีไซน์ให้ดูกลมกลืนไปกับแนวเส้นขวางยาวกลางแดชบอร์ด โดยมีตำแหน่งของชุดเครื่องเสียง MP3 WMA เชื่่อมต่อได้ทั้ง สมาร์ทโฟนและ Bluetooth พร้อมลำโพงรอบคัน 4 จุด อยู่ตรงกลางเด่นออกมา ซึ่งถัดลงมาด้านล่างจะพบกับสวิทซ์ไฟฉุกเฉิน และลงมาจะพบกับชุดควบคุมแอร์แบบสวิทซ์หมุนปกติ ที่จะมีส่วนของช่องปรับอากาศที่เหนือศรีษะสำหรับเบาะแถวสองที่สามารถกระจายความเย็นได้ 3 ระดับ ได้ทั่วทั้งคัน และอีกหนึ่งจุดกับที่วางแก้วด้านหน้าบริเวณใกล้คันเกียร์กับช่องเป่าลมเย็นที่จะช่วยรักษาความเย็นของเครื่องดื่มเอาไว้ได้ ส่วนของการสตาร์ทเครื่องยนต์ทำได้อย่างง่ายดายด้วย Keyless Push Start โดยเราสามารถเก็บกุญแจรีโมทไว้กับตัวและเข้าออกรถได้อย่างสะดวก รองรับการชาร์จไฟด้วยตำแหน่ง USB และช่องจ่ายไฟสำรอง 12V ถึง 2 ตำแหน่งด้านหน้าและกลางห้องโดยสาร
มาถึงในส่วนของการขับขี่ อย่างที่บอกกันไปแล้วในช่วงต้น กับเส้นทางการขับส่วนใหญ่บนถนน 2 เลน มีทางโค้งไปมา สลับกับการขับขี่ผ่านตัวเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น แรกสัมผัสกับเครื่องยนต์เบนซินพร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT K15B ขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด บวกกับแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT อันโด่งดัง ทำให้การขับขี่ตั้งแต่การออกตัวของ All New Suzuki Ertiga นั้นคล่องตัวมากทีเดียว ไม่ได้รู้สึกเลยว่าอืดอาดแต่อย่างใดในรถระดับนี้ พวงมาลัยมีน้ำหนักที่เบากำลังดีในช่วงของการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น รวมไปถึงไฟแดงเป็นระยะๆ การเคลื่อนตัวในช่วงความเร็วต่ำ จากจุดหยุดนิ่งนั้นคล่องตัวสูงมากทีเดียว การเปลี่ยนเลนไปมาทำได้อย่างคล่องแคล่ว ทัศนวิสัยในการขับขี่เห็นได้อย่างชัดเจน ด้วยตำแหน่งเบาะที่สามารถปรับสูงต่ำได้และท่านั่งในการขับขี่ทำให้สามารถมองและเห็นรอบๆ ได้อย่างสะดวกและมั่นใจ กระจกบานหน้าขนาดใหญ่ น้ำหนักของแป้นเบรกสามารถค่อยๆ กดลึกเพื่อความนุ่มนวลในการหยุดรถได้ง่าย ไม่ไวเกินไปจนอาจทำให้ผู้โดยสารเวียนหัว
และเมื่อมาถึงในช่วงที่สามารถทำความเร็วเดินทางกันได้ ต้องยอมรับเลยว่าในช่วงความเร็วเดินทางประมาณ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือมากกว่านี้ All New Suzuki Ertiga สามารถตอบโจทย์การขับขี่ได้อย่างเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่เพิ่มพละกำลังเข้ามา รวมไปถึงการเปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT และการปรับปรุงพัฒนาส่วนต่างๆ ของรถ ทำให้ความคล่องตัวการเร่งความเร็วทำได้อย่างน่าพอใจในรถยนต์ประเภทนี้ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เพียงพอต่อการใช้งานปกติทั่วไป สามารถทำความเร็วขึ้นไปได้ไม่ยาก และในจังหวะที่ต้องการเร่งแซงก็สามารถทำได้อย่างมั่นใจ และสำหรับเกียร์ 4 สปีดนี้ต้องยอมรับเลยว่าเซ็ตมาให้มีรอบที่ค่อนข้างสูง ตัวรถจึงพร้อมที่จะลากรอบขึ้นไปเพียงแต่เราเติมคันเร่งไม่มากนัก ตรงนี้เลยทำให้เรารู้สึกว่ารถนั้นไม่อืดและพร้อมที่จะเพิ่มกำลังและทำความเร็วขึ้นไปได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งสิ่งที่น่าประทับใจอีกเรื่องเลยก็คือ ความเงียบของภายในห้องโดยสารขณะขับขี่แม้ที่ความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง เสียงที่เข้ามาภายในห้องโดยสารนั้นน้อยมาก จะมีได้ยินกันชัดๆ ก็เพียงแต่เสียงของเครื่องยนต์ในจังหวะที่เราเติมคันเร่งและมีการเปลี่ยนเกียร์ลงและลากรอบทำความเร็วขึ้นไป และแม้ว่าความเร็วที่เพิ่มสูงขึ้นกว่านี้เสียงที่มีเพิ่มขึ้นเข้ามาบริเวณกระจกมองข้างนั้นก็ยังมีเพียงเล็กน้อย ซึ่งในการใช้งานจริงที่เรามีการเปิดเพลงในห้องโดยสาร เสียงลมที่บริเวณกระจกข้างนั้นก็แทบจะไม่ได้ยินเลย
การควบคุมตัวรถรวมไปถึงการเกาะถนนในช่วงของความเร็วเดินทางต้องบอกว่าตัวรถถูกเช็ตมาให้เน้นไปทางนุ่มในการโดยสาร แต่ไม่มีอาการย้วยให้รู้สึก การขับขี่ผ่านถนนที่ไม่เรียบหรือต่างระดับ ช่วงล่างสามารถซับแรงได้อย่างดี ไม่ทำให้รู้สึกว่าตัวรถกระเด้งกระดอน การควบคุมตัวรถผ่านโค้งต่างๆ ด้วยความเร็วสามารถทำได้อย่างมั่นใจ แม้ว่าตัวรถจะสูงก็ตาม ใครที่กำลังกังวลว่าจะสามารถขับออกต่างจังหวัดไกลๆ ไหวไหมนั้น เลิกกังวลไปได้เลย All New Suzuki Ertiga สามารถตอบสนองและให้ประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย แต่เล็กน้อยกับส่วนของตัวปีกเบาะคู่หน้าที่จะค่อนข้างนุ่มและนิ่มเกินไปหน่อย จนอาจจะทำให้ในการขับขี่ในช่วงที่เป็นทางโค้งไปมาต่อเนื่อง อาจจะไม่สามารถทำให้ผู้โดยสารและผู้ขับขี่อยู่นิ่งไม่เคลื่อนที่ไปทางซ้ายหรือขวาของตัวเบาะเนื่องจากปีกเบาะที่นิ่มเกินไป แต่การออกแบบเบาะที่สามารถนั่งในท่าทางของการขับนั้น ส่วนของพนักพิงด้านหลังสามารถรองรับแผ่นหลังได้เต็มกำลังดีเลยทีเดียว
เมื่อถามถึงตัวเลขอัตราการบริโภคเชื้อเพลิงนั้น ในครั้งนี้แม้จะไม่ได้มีการวัดแบบเป็นจริงเป็นจังเนื่องด้วยเวลาที่จำกัด แต่ตัวเลขที่ตัวรถคำนวณได้อยู่ที่ 12.3 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่คำนวณจากการขับขี่ตลอดเส้นทางที่มีการใช้ความเร็วในหลายช่วง รวมไปถึงการขับฝ่าการจราจรและไฟแดงอยู่หลายช่วงด้วยนั้นเอง
และอีกเรื่องที่หลายๆ คนคงอยากรู้กันไม่น้อยกับการโดยสารในตำแหน่งเบาะแถว 2 และ 3 ซึ่งจุดเด่นหนึ่งเลยของตัวเบาะแถว 2 ก็คือ ความสามารถในการเลื่อนไปทางด้านหน้าและหลังได้ กระจกข้างบานใหญ่ของเบาะแถวที่สองสามารถเปิดลงได้สุด โดยครั้งนี้ได้ลองเก็บภาพการนั่งทั้งในส่วนของเบาะแถว 2 โดยเลื่อนตัวเบาะไว้กลางๆ และได้ลองเข้าไปนั่งที่เบาะแถว 3 สำหรับคนที่ตัวสูง 178 เซนติเมตร การนั่งโดยสารที่เบาะแถว 3 สามารถนั่งได้โดยที่พื้นที่เหนือศีรษะยังเหลือ รวมไปถึงส่วนของพื้นที่บริเวณขาก็ยังมีเหลือเช่นกัน บอกได้เลยว่าเป็นเบาะแถว 3 ที่สามารถใช้งานได้จริง และการนั่งโดยสารก็ไม่ได้รู้สึกอืดอัดเนื่องด้วยช่องกระจกด้านข้างที่ค่อนข้างกว้างนั้นเอง
ส่วนระบบความปลอดภัยของ All New Suzuki Ertiga ก็ได้ติดตั้งมาให้ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมการทรงตัว ESP และมีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ISOFIX และ Top tether สำหรับเด็ก ซึ่งนับเป็นระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่ต้องมีในปัจจุบัน โดยการทำตลาดในช่วงแรกของการเปิดตัวนี้มาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อย GL และ GX ที่รุ่น GX นับเป็นรุ่นท็อปสุดในตอนนี้ ซึ่งหากถามถึงในอนาคตจะมีการนำรุ่นย่อยพิเศษ หรือรุ่นย่อยที่สูงกว่านี้มาจำหน่ายหรือไม่นั้นก็ถือได้ว่ามีความเป็นได้ไม่น้อย แต่แน่นอนว่าในเรื่องของราคาก็ต้องเพิ่มขึ้นสูงตามออฟชั่นด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนี้กับ All New Suzuki Ertiga ที่ทางทีมงานได้ลองสัมผัสและทดลองขับกันมา มีความโดดเด่นและสร้างความประทับใจมากมาย กับทั้งการขับขี่ที่สามารถตอบสนองได้อย่างคล่องตัว ความเงียบของห้องโดยสารที่เงียบเกินคาด ซึ่งทั้งหมดนี้อยากจะขอบอกว่าการได้ลองไปสัมผัสและพิสูจน์ถึงคำบอกเล่าจากทีมงานว่าเป็นจริงหรือไม่ คุณเท่านั้นที่จะต้องไปลองสัมผัสและทดลองขับกับรถอเนกประสงค์รุ่นล่าสุดด้วยตัวเอง ที่ไม่ได้มีดีแต่เรื่องของราคาเท่านั้น...
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com