Chevrolet Sonic 1.6 E 85 .. ที่สุดซับคอมแพ็คคาร์ สมรรถนะเยี่ยมกว่าที่เคย

มาแล้วบททดสอบ Chevrolet Sonic 1.6 ใหม่ ลองไกลๆกับน้ำมัน E85 จะเป็นเช่นไรมาติดตตามดู

 

               

 

                พูดถึงการเลือกซื้อรถยนต์ในปัจจุบัน เราคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าราคาน้ำมันแพง กลายมาเป็นปัจจัยที่ทำให้คนซื้อรถยนต์ยุคใหม่มองรถยนต์ที่สอดคล้องในการใช้งานมากขึ้น เนื่องด้วยขนาดก็หมายถึงพลังงานที่ใช้ด้วย และบางทีรถยนต์ขนาดใหญ่ ก็ไม่ไหมายความว่าจะตอบโจทย์ดีเสมอไป

                จะทำอย่างไรให้ประหยัด คำตอบยุคสมัยนั้นอยู่ที่พลังงานทางเลือก และห้วงเวลาน้ำมันแพงประดุจทองเช่นนี้ขึ้นลงกันแทบรายวัน ทำให้น้ำมัน  E85  กลายเป็นก้าวย่างที่สำคัญ ที่เข้ามามีบทบาทอย่างมาก และรถที่ใช้พลังงานทางเลือก  E85  ได้ ก็แทบจะมีชัยไปกว่าครึ่งของคู่แข่งเลยทีเดียว

                Chevrolet Sonic  1.6  เป็นการกลับมาทวงบัลลังค์อีกครั้ง จากเมื่อปีกลาย ซึ่งค่ายรถยนต์โบวไทน์ ทำให้ตลาดตื่นตัว ด้วยการออกแบบที่แปลกแตกต่าง สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แต่เช่นเดียวกัน คำว่า Sonic  ก็หมายถึงความเร็วแรงในหลายๆ ซึ่งกลายคนยังโอดครวญว่ามันยังไม่ได้ดั่งใจในรุ่นเครื่องยนต์  1.4  ลิตร

                การกลับมาครั้งนี้ Chevrolet Sonic 1.6  ลิตร ใหม่ประเดิมด้วยเรือนร่างเดิม ซึ่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนักจากรุ่นก่อน รายละเอียดในเรื่องแรงบันดาลใจจากการออกแบบ ที่มาจากรถมอเตอร์ไซค์ ซุปเปอร์ไบค์ ยังคงมาให้เราได้สัมผัสกันเช่นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระจังหน้าชิ้นเดียวกับกันชนที่ดูโฉบเฉี่ยว รวมถึง ไฟหน้าแบบเปลือยที่ดูแปลกตามากขึ้น

                แต่รุ่น 1.6  ลิตร ใหม่นี้ก็ยังมีอะไรเพิ่มเข้ามาเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น  เช่นไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ซึ่งจะว่าไปก็ยังมีรายละเอียดน้อยไปสักหน่อย ใจจริง ก็อยากให้มีอะไรมากกว่านี้ จากที่ผ่านมา

                ในห้องโดยสารโดยสาร เปิดมาปุ๊ป วันนี้เราไปลองกันใน Chevrolet Sonic 1.6 E85 LTZ  รูปแบบการออกแบบห้องโดยสารสไตล์ทูโทนยังคงเป้นทีตราตรึงใจ สีเทา-ส้มดูมีความลงตัวเช่นเคยเหมือนที่ผ่านมา รวมถึงการออกแบบห้องโดยสารสไตล์ dual cockpit  ที่ให้การแบ่งแยกเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่และการโดยสาร

                ตรงหน้าคนขับเรือนไมล์สไตล์สปอร์ตในแบบดิจิตอลผสมเข็มวัดรอบแบบอานาล๊อกยังเป็นจุดเด่นเหมือนเคย แต่ไฮไลท์ใน Chevrolet Sonic  1.6  ลิตร ใหม่ก็ยังมีอะไรมากกว่าที่เคย ด้วยระบบความบันเทิงใหม่ที่แนะนำเข้า  Chevrolet My link  ใช้งานง่ายเว่อผ่านจอสัมผัส   7 นิ้ว และยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพา รวมถึงโทรศัพท์มือถือ เช่นเดียวกันยังมีแอพพลิเคชั่น ให้ไม่พลาดทุสถานีเพลงโปรดสามารถฟังออนไลน์ได้ ทุกที่ซึ่ง 3  G ...ไปถึง

                ตัวรถที่เร้าใจวัยรุ่นมาพร้อมของเล่นใหม่ จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็น่าจะเป็นเครื่องยนต์ใหม่ กับต้นกำลัง  4  สูบแถวเรียงขนาด 1.6  ลิตร ให้กำลัง 115 แรงม้าที่  6,000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 155 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที เช่นเดิมยังคงมาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ  6 สปีด  พร้อมระบบ Driver Shift Control  และต้องขอแสดงความเสียใจที่ในรุ่นนี้ไม่มีเครื่องยนต์เกียร์ธรรมดา

                เมื่อขึ้นขับครั้งแรก ความเปลี่ยนแปลงไม่มากมายถ้าไม่นับเรื่องของเครื่องยนต์ ทำให้ความรู้สึกเหมือนกลับมาพบเพื่อนเก่าอีกครั้งด้วยที่ผ่านมา ทางผู้เขียนเคยจับรุ่น  1.4  ลิตร มาลองแล้วลองอีกจนเรียกว่าเป็นรถอีกคันที่ใช้งานจนกระจ่างแจ้ง ในสมรรถนะ

                การมาทดสอบครั้งนี้โชคดีที่ Chevrolet  อยากอวดสมรรถนะน้ำมัน   E85  พวกเขาจึงให้เราเติมน้ำมันพลังงานทางเลือก ซึ่งมีราคาลิตรละ  20  บาท ต้นๆ ถูกกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์  E10 ที่เราใช้งานในรถทั่วไป เกือบครึ่ง...

                เมื่อเติมน้ำมันเสร็จ การขับขี่ใน Chevrolet Sonic  E85  ก็เริ่มต้นขึ้น ภายในรถคันเรามีสื่อทั้งหมด 3  คน นั่งกันไปโดยมีปลายทางที่พัทยา วิ่งแบบไม่เร็วมากนักชิวๆ เพื่อทดสอบสภาพใช้งานจริงที่น่าเกิดขึ้น กับกลุ่มผู้ใช้

                ช่วงแรกสภาพการจราจรบนถนนบูรพาวิถีคับคั่งพอสมควร จนถึงแถวบางพลี ด้วยมีอุบัติเหตุเล็กน้อย ก็เลยไต่ความเร็ว 50 ก.ม./ช.ม. ก็เรียกว่าหรูแล้ว และเมื่อพ้นการจราจรหนาแน่นมาได้ เราก็มาใช้ทางมอเตอร์เวย์และก็หยุดพักในครึ่งแรกที่ โอเอซิส นั่นเอง

                การเดินทางช่วงแรกไม่ได้วัดอะไรมากนัก แต่จากที่สัมผัสได้แม้นั่งอยู่ในตำแหน่งคนนั่งก็ไม่พ้นกำลังเครื่องยนต์ที่ดูมีแววมากขึ้นกว่าเดิม ในรุ่น  1.4  ลิตรที่เร่งกันเครื่องสนั่นลั่นทุ่ง แต่ล้อหมุนเอื่อยๆ ไม่ใช่ว่าเครื่องยนต์ไม่ดีแต่กำลังน้อยไป ทว่าในบล็อก 1.6  ลิตรนี้ กลับรู้สึกวิ่งได้อย่างคล่องตัวสมความเป็น Sonic  มากขึ้นกว่ารุ่นเดิม

                เมื่อถึงเวลาขับขยับคันเกียร์เดินทาง Chevrolet sonic 1.6  ลิตร ใหม่มีกำลังเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ที่น่าแปลกใจคือ Chevrolet  ยังเน้นการออกตัวเอื่อยๆ แล้วทำกำลังดีในช่วงกลางไปยันรอบปลาย ซึ่งทำให้ความรู้สึกของคนที่รักและคาดหวังในสมรรถนะ จะรู้สึกถึงความเหนื่อยของรถยนต์ แต่มันไม่แปลกนัก เพราที่ต่างประเทศมักจะออกแบบรถในสไตล์นี้ทั้งนั้น

                หลังออกสู่ถนนมอเตอร์เวย์การขับขี่ชนิดเจอกันเอาดาบหน้าทำให้เรามีโอกาส ลองสมรรถนะอย่างเต็มที่ เครื่องยนต์ 1.6  ลิตรเอง ค่อนข้างเหมาะพอตัวกับทางหลวง ด้วยรอบเครื่องยนต์เพียง   2,000 รอบต่อนาที  ที่  90 ก.ม. /ช.ม. และตวัดไปเรื่อยได้ถึง 130 ก.ม./ช.ม. ในช่วง 3,000 รอบต่อนาที

                ถนนว่างมองเหมือนไม่มีกล้องตรวจจับความเร็วนั่ง 3  คน ลองเค้นความสูงสุดดูเล็กน้อย เมื่อเร่งรอบเครื่องไปที่ช่วงรอบกลางแรงบิด  130 นิวตันเมตร ก็พาเราทะยานความเร็วอย่างรวดเร็ว ในช่วงใช้ความเร็วสูงนี้ ทำให้เราเห็นว่าชุดส่งกำลังยังมีจังหวะเอ๋อบ้างเช่นในช่วงคิกดาวน์ โดย Chevrolet  พยายามจะเราไล่ตำแหน่งการเร่งที่เกียร์  5  ซึ่งเป็นปกติวิสัยของคนขับรถ แต่ด้วยอัตราเฟืองท้ายที่ปรับลดลงเป็น  3.720 แทน   4.110 ในรุ่น 1.4  ลิตร ก็เป็นหอกข้างแคร่ในเรื่องอัตราเร่ง เพราะ แม้ที่เกียร์ 5  จะเป็นอัตราทด  1.000 แต่เมื่อคุณต้องการกำลังจริงๆ มันกลับมีอัตราเร่งไม่ต่างมากอย่างที่คิด

                อีกเรื่องที่น่าจะลองพิจารณาใหม่ คือ ระบบ Driver Shift Control  ซึ่งใส่มาที่หัวเกียร์ ของ  Chevrolet Sonic  ตั้งแต่รุ่น 1.4  ลิตร  ซึ่งปัญหาเดิมยังคงตามมา คือมันใช้งานไม่ถนัดอย่างที่ควรจะเป็นการกระดิกนิ้วเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ไม่เคยง่าย ต่อให้คุณเป็นเซียนเกมจิ้มชั้นนำ ก็เชื่อว่ายังไม่ง่ายอยู่ดี ยิ่งจังหวะชิงไหวชิงพริบในการขับขี่กดว่าว มีบ่อยครั้งจากการทดลองทั้งขาไปและกลับ จึงอยากให้ลองพิจารณาทางด้านวิศวกรรมใหม่สักนิด แต่ยังดีที่เครื่องยนต์  1.6  ลิตร แม้จะมีกำลังน้อยนิดเพียง  115  แรงม้า ต่ำกว่าคู่แข่งหลายๆเจ้ากลับให้อัตราเร่งที่ดียิ่งล้อหมุน ยิ่งพุ่งปรี๊ดก็พอชดเชยกันได้ จนแทบไม่ต้องใช้ระบบ Driver Shift  เลย

                ในการทำความเร็วสูงสุด เราได้ตัวเลขที่ 184  ก.ม./ช.ม. และไม่ไปมากกว่านั้น เพราะ ถูกล็อกเอาไว้ จากโรงงาน ซึ่งสำหรับเครื่องยนต์ 1.6  ลิตร นั่ง 3  คนทำได้ขนาดนี้ก็เรียกว่าโอเคแล้ว แถมที่ซัดอยู่นี้ยังเป็นน้ำมัน E85  เร่งได้ฟินสุดๆ แต่ น้ำมันก็หายตัวได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ทว่าจากการเดินทางไปกลับเราได้อัตราประหยัดที่ 10.1 ก.ม./ลิตร จากการขับขี่ด้วยน้ำมัน  E85

                ด้านระบบกันสะเทือนเองก็ค่อนข้างจะลงตัว พอสมควร ด้วยระบบช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้า และทอร์ชั่นบีมทางด้านหลัง ซึ่งตอนเปิดตัวทางวิศวกรบอกว่าเพื่อให้ระบบกันสะเทือนลงตัว จึงมีการเปลี่ยนใหม่ ในชุดแพทางด้านสวมเข้าไปพร้อมเครื่องยนต์  1.6  ลิตร

                แต่เมื่อเราขับจริงอย่างที่กำลังไปพัทยานี้กลับรู้สึกว่า วิศวกรคงจะลืมการทำให้เหมาะสมทางด้านระบบกันสะเทือนหลัง เพราะค่อนข้างจะอ่อนมาก เมื่อเทียบกับด้านหน้าที่แข็งจนแทบไม่รู้สึกรอบต่อของถนน แต่มันไม่ได้มีความกระด้างเลยแม้แต่น้อย ทว่าทางด้านหลัง เมื่อผ่านรอบต่อ คุณจะรู้สึกถึงการยุบตัวของโช้คได้อย่างชัดเจน และจะเห็นได้ง่ายในรุ่นซีดาน แต่ในรุ่นแฮทช์แบ๊คนี้ อาจจะไม่เท่าไร เพราะ ด้วยโครงสร้างน้ำหนักและลักษณะท้ายรถที่ตอบสนองเร็ว ทว่าก็พอจะบอกได้ว่าช่วงล่างด้านหลังอ่อนกว่า แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากมายนัก

 

                ในภาพรวม Chevrolet sonic  1.6 ลิตร เป็นนิยามความสปอร์ตในความเป็น Chevrolet Sonic  ซึ่งยังไม่ใช่ขั้นสุดของรถรุ่นนี้ แต่สามารถทำได้ดีกว่านี้จากเครื่องยนต์  1.4  ลิตรเทอร์โบ เหมือนในเวอร์ชั่นที่ขายในอเมริกา เพียงแต่อาจจะมีความเป็นไปได้ยากที่จะมาให้จะลงในไทย แต่ในเมื่อคู่แข่งตัดใจคว้าเครื่องเทอร์โบมาทำตลาดในบ้านเรา อะไรๆ ก็เป็นไปได้ ทั้งนั้น

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย  ณัฐยศ ชูบรรจง

 

ผลการทดสอบ Chevrolet Sonic 1.6 E85

การทำงานของเครื่องยนต์ 

 

ความเร็วที่ใช้ (ก.ม./ช.ม.)	รอบเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที)
80	1800
90	2000
100	2200
110	2400
120	2600
130	3000

 

ความเร็วสูงสุดในการเดินทาง   184  ก.ม./ช.ม.

อัตราประหยัด  10.1 ก.ม./ลิตร   (น้ำมัน E85 )

 

[GALLERY2]

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com