Hands-on : Toyota Vios 1.5 S Top Option สปอร์ตล้ำสมรรถนะเอาอยู่....
- โดย : Autodeft
- 4 พ.ย. 56 00:00
- 38,270 อ่าน
ในที่สุดเราก็เอื้อมถึงที่สุดรถยนต์ซิตี้คาร์ยอดนิยม มาพบบททดสอบเร้าใจของ Toyota Vios ใหม่ 1.5 S Top option กันเลย
ตั้งแต่เปิดเว็บไซต์ autodeft.com มาได้ครบ 30 วันส่วนตัวแล้วเคยคิดเล่นๆว่าจะหา เซอร์ไพร์สมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านก่อนใคร แต่ด้วยส่วนหนึ่ง เรายังเป็นน้องใหม่มาก หลายคนที่เป็นพีอาร์ก็ไม่ทราบว่าเจ้าเว็บไซต์ยานยนต์ใหม่หน้าตาสวยๆนี้ใครอยู่เบื้องหลัง
แม้จะขับรถทดสอบกันมากมายหลายคันผ่านฝีเท้าที่เรียกว่าทั้งกระทุ้งยันเอาความจริงมาเปิดเผยก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อ และรุ่นหนึ่งที่หลายคนถามมาหาผมหลังไมค์มาก พอๆกับที่มันเป็นที่สนใจด้วยมันเป็นรถยนต์ยอดนิยม มาตรฐานคนอยากมีรถ Toyota Vios ที่นาทีนี้หลายคนยิ่งมองหนักขึ้น เมื่อ ออพชั่นของมันถูกเปรียบเปรยเข้ากับ Toyota Yaris ใหม่พี่น้องร่วมค่ายของมันเอง
Toyota Vios ในโฉมใหม่นี้เป็นเจนเนอร์เรชั่นที่สามแล้ว ตั้งแต่มีการพัฒนารถยนต์นั่งขนาดเล็กเข้าสู่ตลาดในบ้านเรา จะเล่าย้อนความแบบเร็วๆ ก็ต้องย้อนไปก่อนจะเป็นชื่อ วีออสเสียอีก กับ Toyota Soluna ซึ่งตอนนั้นรถยนต์ขนาดเล็กยังไม่เป็นที่นิยมมากถึงทุกวันนี้ ทำให้ Toyota Soluna เป็นรถยนต์ที่ออกมาในสไตล์รถยนต์ต้นทุนต่ำราคาถูกใครก็เป็นเจ้าของได้
โดยชื่อ Soluna เองก็ตั้งกันง่ายๆ เป็นคำสมาสระหว่าง solar และ Lunar หรือจะว่าก็ ดวงมาทิตย์บวกพระจันทร์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ตลาดมือสองในปัจจุบันรุ่นทีเรียกว่า “ท้ายหยดน้ำ” ซึ่งเป็นรุ่นหลังปรับโฉมแล้วได้รับความนิยมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ลงตัวกว่า และราคาคบหาได้ง่ายๆ แต่ทีเด็ดมันอยู่ที่การโฆษณาที่ขับขี่จากบ้านเราไปทั่วโลก จำไม่ได้ว่าล่าสุดจบที่ไหน แต่จำได้ว่าไปถึงอียิปต์โน่น
ต่อจาก Soluna ด้วยความที่ชื่อนี้ติดหูคนไทยไปแล้ว โครงการพัฒนารถยนต์นั่งขนาดเล็กก็เริ่มขึ้น โดยการเปิดตัวในระดับโลก ภายใต้ชื่อ Vios ใหม่มีขึ้น พ้อมแนะนำรถนั่งขนาดเล็กออกมา ทรวดทรงสปอร์ตโดนใจทุกคน นั่นไม่นับพรีเซนเตอร์ บริทนี่ย สเปียร์ สมัยชียังรุ่งสุดๆจนอะไรก็ฉุดไม่อยู่ ที่มาพร้อมเพลง anticipating กระฉ่อนทีวีไทย แต่บ้างก็มีกังขาแนวทางพัฒนาที่ปรับการออกแบบจนรถดูเล็กลง แต่ท้ายที่สุดทุกคนก็ยอมรับว่ามันเป็นซิตี้คาร์ตัวจริง ใช้ง่ายขับคล่องในเขตเมือง
เครื่องยนต์เองรหัส 1NZ-FE กับบล็อก 4 สูบแถวเรียงให้ความประหยัดลงตัว ถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์เล็กสุดแล้วในตลาดตอนนั้น แต่ทุกคนงง คือ เรือนไมล์ย้ายไปไว้ตรงกลาง และหันเอียงๆเข้าหาคนขับ เรียกว่าขับเร็วไม่เร็ว รู้กันทั้งรถ อาจจะมีแถม shift light ระบบสัมผัสจากตุ๊กตาหน้ารถ ถ้าขับไม่ดี ซึ่งโตโยต้าอ้างว่าเป็นข้อมูลการวิจัยว่า จะช่วยให้คนขับมีสมาธิมากขึ้น และเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างจริงๆ
ความสปอร์ตในรุ่นแรกทำให้รุ่นที่สองออกมายกเครื่องเปลี่ยนการออกแบบดูเป็นรถที่ เส้นสายความหรูหรามากขึ้นตามยุคสมัย ซึ่งก็ดูดีไปอีกแบบและเข็นขายกันทันทีในช่วงปี 2007 ในช่วงนั้นตั้งผู้เขียนเองเริ่มเข้าวงการมาแล้ว ก็ได้มีโอกาสทดสอบรถ Toyota Vios ในโฉม 2 อยู่บ้าง
ในภาพรวมรวมตอนนั้น การถอดความสปอร์ตออกไป ทำให้การวิศวกรรมหลายย่างในตัวรถเปลี่ยนไป คราบสปอร์ตที่พอจะพบได้ที่พวงมาลัย ช่วงล่างถูกปรับให้ธรรมดาลง คนขับรถทั่วไปอาจจะไม่นึกถึงว่ามันจะเปลี่ยนไป แต่ด้วยความที่เคยจับรุ่นแรกมาบ้าง ตอนนั้นทดสอบโฉม 2 จึงได้อานิสงค์เต็มๆ ที่พิสูจน์ได้ว่าบางอย่างในรถ Vios มีความเปลี่ยนไป โดยเฉพาะบุคลิกในการขับขี่ ที่เน้นใช้งานมากขึ้น ขับประหยัดมากขึ้น แม้จะเครื่องเดิมเกียร์เดิม ซึ่งก็ยังมีสมรรถนะที่เยี่ยมยอด แม้ในภาพตอนนั้นยังมีบางส่วนที่ไม่ลงตัวโดยเฉพาะช่วงล่าง แต่ถ้าไม่ได้เอาไปซิ่งกับใคร ขับสบายๆไปกลับบ้าน-ที่ทำงาน มันลงตัวสุดๆ แล้ว
ภาพที่วนเวียนในหัว..หวนมาอีกที ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะแก่พอจะเห็นรุ่นที่ 3 !!!
การเปิดตัวครั้งแรกในโลกเป็นที่ทำให้ผมไม่มีวันลืมได้อย่างมาก เพราะวันนั้นเป็นวันก่อนเปิดมอเตอร์โชว์ การทำงานคนเดียวเหมือนที่ผ่านๆ มา ทำให้ต้องวิ่งขาขวิด ไปงานต่างๆ รวมถึง Toyota Vios แม้จะต้องไปทั้งเลือดอาบแขน เพราะ รถมอเตอร์ไซค์ล้มระหว่างทาง ก็คือสิ่งที่ต้องทำ เพราะมันคือหน้าที่
แม้ไม่ใช่ทหาร แต่รู้ว่าคุณผู้อ่านหลายคนรอคอย และเมื่อการเปิดตัวออกมาเป็นอย่างทางการ ทุกอย่างก็จบลงอย่างสวยงาม ด้วยเรือนร่างใหม่ที่ดูแล้วบอกว่า ... ใช่เลย... !! ด้วยรุ่นใหม่กลับมาเป็นความสปอร์ตอีกครั้ง ภายใต้คอนเซปต์ Have it All และ ล่าสุดถึงเวลาที่จะได้ตะบันหลังพวงมาลัยเสียที
ยามเย็นวันทำงาน..อีกครั้งที่มีน้าๆคอยให้การจุนเจือ..ข้อความในFacebook ดังขึ้นแฟนผม ที่อยู่ข้างเร่งทำหน้าหงิกบอกบุญไม่รับ ทันทีหลังจากที่ผมอ่านข้อความแล้วอมยิ้ม
มันไม่ใช่เพราะผมคุยกับกิ๊ก แต่ เพราะน้าท่านหนึ่งที่ผมเคารพนับถือในวงการขอความช่วยเหลือบางอย่างและโจทย์ คือการเอา Toyota Vios ใหม่ขับไปคืน ด้วยความเคารพ และไม่อยากหลอกว่า จะขอไปทดสอบหน่อย ก็เลยบอกไปกันตามความจริง และก็ได้รับอนุญาต จนมาเป็นรีวิวที่เพื่อนๆ ได้อ่าน
วันนี้การเดินทางในยามเช้าผมรู้สึกดีใจ มันเหมือนเป็นการเริ่มต้นการทำงานอีกครั้งในสายรถยนต์ รถที่พื้นฐานที่สุดกำลังจะถึงมือผม และเมื่อเราพบเจอกัน Toyota Vios ใหม่ก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังเลย
เรือนร่างที่งดงามสวยสร่างนี้ของ Toyota Vios ใหม่ สามารถสะกดใจผมได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยเรือนร่างที่เน้นเส้นสายความงามในแบบสปอร์ตตั้งแต่แรกเห็น ด้วนเส้นสายที่ดูล้ำหน้ายิ่งขึ้นกว่ารุ่นเดิม เมื่อผสานการออกแบบที่ปรับทิศทางความสปอร์ตอีกครั้ง เชื่อเลยว่าหลายๆคนต้องชอบ
รุ่นที่นำมาขับทดสอบวันนี้เป็นรุ่นToyotsa Vios 1.5 S top option เรียกว่าสุดๆ แล้วใน Toyota Vios ซึ่งภายนอกรอบคันมาพร้อมเรือนร่างที่ให้รายละเอียดแบบกึ่งหรูหรา ตั้งแต่กระจังหน้าที่สะกดด้วยโครเมี่ยม โคมไฟหน้าให้แบบโปรเจ็คเตอร์ติดตัวมา ใครอยากใส่ไฟซีนอน ก็ได้เลยไม่โดนเพื่อนร่วมทางด่าลับหลัง มือจับประตู 4 บ้านให้สไตล์โครเมี่ยมดูดีทีเดียว ส่วนด้านหลัง มาพร้อมคิ้วโครเมี่ยม แต่ไฟท้ายทรงสปอร์ตไม่ได้ให้ไฟแบบ LED มา อาจจะไม่หวือหวาเท่าไรนัก ท้ายสุดลงตัวด้วยแม็กซ์สุดเท่ห์รมดำสปอร์ตมาแต่ไกล ขนาด 16 นิ้ว จัดมาพร้อมยาง 195/50/16
เรือนร่างสุดสปอร์ต ผนึกในขนาดตัวถังที่มีความยาว 4,410 ม.ม. กว้าง 1,700 ม.ม. และ สูง 1,475 จัดมากับฐานล้อยาว 2,550 ม.ม. ให้ระยะต่ำสุดจากพื้นเตี้ยกว่าคู่แข่งเล็กน้อยเพียง 145 ม.ม. ซึ่ง ก็น่าจะช่วยให้มันดีขึ้นในการทรงตัว ยิ่งในการออกแบบใหม่นี้ได้เรือนร่างที่ผสานด้านหลักอากาศพลศาสตร์เข้ามาด้วย แม้ไม่มากเท่ารุ่นพี่ แต่ไฮไลท์เด็ด หลังคา Catamaran ก็บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา รวมถึง การให้ครีบ ที่ กระจกมองข้างและบั้นท้ายช่วยเรียงอากาศ อีกนิดหน่อยก็พอสมควร
สะบัดตูดลงนั่งในห้องโดยสาร Toyota Vios ใหม่ ให้ทีเด็ดที่ดูดี ความสปอร์ตภายนอกกลมกลืนใน แม้จะเป็นรถซิตี้คาร์ แต่ Toyota ดูจะพยายามมากขึ้นในการออกแบบภายในให้โดนใจลูกค้าภายใต้งบที่จำกัดจำเขียดของคนที่ซื้อรถยนต์คันแรกๆ
การแนะนำภายในสีดำ ดูดีเข้าท่าทีดี ถามผม...ตัวผู้เขียนบอกเลยว่า โอเคนะซื้อ!! ด้วยคุณภาพวัสดุที่สมเหตุสมผล แม้จะติดไปทางการใช้พลาสติกเสียมาก แต่ก็พยายามมีลูกเล่นใหม่ๆเข้ามา เช่นการทำให้ดูเป็นตะเข็บ ประดุจหนัง การให้วิทยุดูเหมือนมีคาร์บอนไฟเบอร์เอย หรือ จะแผงข้างประตูแบบ Paino black ที่ดูลงตัวเข้าท่ามาก ขอปรบมือซูฮกทีมออกแบบกันเลย
เช่นเดียวกันเบาะนั่งสำหรับมนุษย์ยักษ์อย่างผมถือว่าลงตัว สามารถนั่งได้อย่างสบาย พนักผิงหลังโอบกระชับเว้าพอดี จะมาติดเล็กที่เบารองนั่ง อาจจะไม่เหมาะคนตัวใหญ่ และยังติดแข้งเล็กน้อย แต่ในภายรวมเรื่องเบาะนี่ลงตัว แถมในรุ่น S นี่แอ๊บสปอร์ตได้อีก ด้วยการเดินด้ายสีฟ้า..เจ้าพ่อคุ๊ณณ!!! ไหนๆ จะทำแล้ว เดินด้ายแดงไปเลย หรือสงสัยจะเก็บมุขนี้ไปใช้ในตัว Toyota Vios TRD Sportivo แหงๆ (ขอแอบเม้าท์ว่าน่าจะมีแน่นอน)
ด้านหลังเอง คนตัวใหญ่นั่งสบาย แม้วันนี้จะขับเองเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อแอบลงไปนั่งหลังในตำแหน่งที่ผมขับมา พื้นที่การโดยสารยังมีเหลือๆ การนั่ง 4 คนน่าจะลงตัวตามสภาพใช้งาน แต่ถ้ายัด 5 นี่อาจจะมีอึดอัดบ้าง แต่พื้นที่วางไหล่ ระยะวางขา ถือว่าดีกว่ารุ่นเดิมพอสมควร เรียกว่า โอเคนะในการโดยสาร และเช่นเดียวกัน ห้องสัมภาระก็ใหญ่ขึ้นให้พื้นที่เก็บของมากขึ้น
พร่าม!! มานาน คุณผู้อ่านคงนึก เมื่อไรมันจะขับสักที ..เอาๆไปกันเลยดีกว่า บทแรก ผมขับวนเล่นดูม๊อบในเมืองว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ก็วิ่ง สาธรตัดไปรัชดา เส้นทางโหดๆ ที่วันนี้รถดันโล่งเสียงอย่างงั้น
การขับขี่ Toyota Vios ใหม่ในเมืองถือว่าลงตัวพอสมควร ด้วยมันเป็นรถที่มีความคล่องตัวมาก พวงมาลัยตอบสนองไวใช้ได้ ตามมือพอสมควร แต่ไม่ได้คมแบบรถสปอร์ต อาจจะเพราะ Toyota มองกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนขับรถแรกๆ ถ้าไม่มีระยะฟรีนิดหน่อย เดี่ยวกำแพงคงจะถามหา ก็เลยทิ้งระยะฟรีนิดๆ แต่ก็ไม่มากพอที่จะรู้สึก อะไรนัก
เครื่องยนต์เอง แม้จะครั้งนี้ Toyota Vios ใหม่...!!! จะใช้เครื่องยนต์บล็อกเดิม 1 NZ-FE ขุมพลัง 4 สูบแถวเรียงขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที ที่ตั้งแต่รุ่นแรกมายันโฉมนี้ จนหลายคนเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์ แรงม้าก็ไม่ขยับแถมระบบเกียร์ก็ อัตโนมัติ 4 สปีด ซึ่งชาวบ้านเขาไปถึงไหนกันแล้ว.. แต่พี่ต้าเราบอก ..ในเมืองจะเอาอะไรมากแค่นี้ก็เหลือๆ ซึ่งก็จริงเพราะทันทีที่เหยียบคันเร่ง รถก็เร่งทะยานออกไปอย่างง่ายดาย ก็เหมาะดีนะ สำหรับการขับขี่ในเมือง ขับๆ เบรกๆ จะซิ่งได้ถึง 80 ก.ม./ช.ม. รึเปล่ายังไม่รู้
ระหว่างทางผมมีแอบทดสอบลัดซอยดูความคล่องผสานเครื่องยนต์และพวงมาลัย ซึ่งการวิ่งในซอยแคบๆแบบสองเลนสวนในใจกลางกทม. ก็ทำได้ง่าย รถมีความคล่องตัว จากการใช้พวงมาลัย และที่ความเร็วระดับนี้ด้วย ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ ที่ให้เฉพาะรุ่นท๊อปและรองท๊อปก็ทำงานได้ดี หน้าเบรกจิกดีใช้ได้ เหมาะสำหรับใช้ในความเร็วต่ำ แต่ยังต้องดูความเร็วสูง
ขับไปขับมาในเมืองพักใหญ่ก็ถึงเวลาต้องดูความประหยัด ขับจริงติดจริงเร่งจริง กระแทกเบรกจริง ไม่เสียดายเวลาใน Toyota Vios ใหม่ ทำอัตราประหยัดที่หน้าจอได้ 12.6 ก.ม./ลิตร ไม่เลวเลยทีเดียวในบล๊อก 1500 ซีซี ซึ่งก็เป็นข้อพิสูจน์ว่า 4 AT ยังแจ๋วอยู่ในเมือง
ได้เวลาออกนอกเมืองที่จริงวันนี้เวลาที่จำกัดเลยไม่ได้ขับไปไกลมากมาย เอาเส้นใกล้ๆ อย่างวงแหวนราชพฤกษ์ตัดไปแวะถ่ายรูปที่ พุทธมณฑลสาย 5 ก่อนแอบซิ่งเชง แถวๆ นั้นเสียหน่อย
ในช่วงการขับขี่ที่ใช้ความเร็วพอสมควร ระบบช่วงล่างเริ่มแสดงศักยภาพออกมา แม้จะยังใช้ระบบช่วงล่างแบบแม๊คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้าและทอร์ชั่นบีมทางด้านหลัง สูตรสำเร็จรถซิตี้คาร์ แต่การให้ดีเอ็นเอความสปอร์ตมันก็ดูมั่นใจมากขึ้น แม้การเซทออกมาจะเป็นในทางความนิ่มหนึบ ซึ่งเป็นสไตล์รถนั่งมากกว่า รถสปอร์ต แต่ก็โอเค เสถียรภาพในการขับขี่ที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. ผมลองตะบันดูความเร็วสูงสุดเล่นๆ ในระยะ 1 ก.ม. มีเลข 160 ก.ม. ให้เห็น อย่างแน่นอน แต่หลังจากนั้นจะขึ้นช้าหน่อย ซึ่งก็คงไม่มีใครบ้าขับมากกว่านั้น เพราะ ที่ความเร็ว 150 ก.ม./ช.ม. ช่วงล่างเริ่มเบาขึ้น บ้างแล้ว แต่ก็ยังขับได้ ถ้าคุณมีนัดหมายที่ต้องรีบจริงๆ
*****แต่ที่ต้องระวัง!!!! เลย คือเรื่องของการเบรกแรงๆ เพราะระหว่างทาง คุณพระคุณเจ้าพี่แมงกะไซค์ไม่ได้ดูรถเลย ตัดออกมาเอาดื้อ ผลคือต้องเหยียบเบรกเต็มฝ่าเท้าที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. และที่น่ากลัวคือเมื่อคุณเหยียบแรงขนาดที่ ABS ทำงาน ต้องถือพวงมาลัยให้แน่น ด้วยเพราะ รถจะมีอาการ Over Steer หรือท้ายสะบัดพอสมควร สำหรับมือใหม่ หรือคนที่ไม่มีทักษะขับรถมากพอ ถือว่าน่ากลัวเลยทีเดียว แต่ผมจะบอกว่าไม่ต้องตกใจ จับพวงมาลัยแน่ๆ อย่าไปแก้ เพราะ ด้านฐานล้อยาวของ vios จะช่วยคุณเอง
พวงมาลัยเองให้น้ำหนักดีในช่วงความเร็วสูง ทำได้ลงตัวกว่าที่คาด แต่ปัญหาเริ่มเกิดกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 จังหวะ เพราะเมื่อคุณขับที่ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. ก็ซัดยับเสียตั้ง 2300 รอบต่อนาที และที่ความเร็ว 100 ก.ม. 2500 รอบต่อนาที ที่เกียร์สุดท้าย ดังนั้นผมคงไม่ต้องบรรยายว่าการเดินทางต่างจังหวัดจริงๆ ซึ่งเราหลายคนเอากันเต็มลิมิตที่จ่าไม่ยืนโบกหยอยๆ รอเก็บเงินข้างหน้า 120 ก.ม. /ช.ม. ต้องใช้รอบเครื่องยนต์ถึง 3100 รอบต่อนาที ซึ่งผลก็มาจากอัตราทดเกียร์ที่มีเพียง 4 จังหวะ ทำให้ต้องใช้อัตราทดเฟืองท้ายสูงถึง 4.237 และยิ่งยืนยันด้วยการทดสอบ 0-100 ก.ม./ช.ม.จาก GPS ด้วยโปรแกรม torque OBD
ครั้งที่ |
0-100 ก.ม.(วินาที) |
80-120 ก.ม.(วินาที) |
1 |
14.0 |
10.0 |
2 |
15.0 |
11.0 |
ถ้าสังเกตจะพบว่าจากอัตราเร่งดังกล่าว ช่วงรอบกลาง 80-120 แทบจะใช้เวลาเกือบเท่ากับตอนเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. นั่นก็เนื่องจากการเซทอัตราทดเฟืองท้ายก่อนลงเพลาที่สูงพอสมควร ใจเองลึก..อยากจะตะโกนบอก Toyota ว่าเอา Super CVT-i มาลงเถิดหรือไม่ก็เพิ่ม เป็น 5 จังหวะ คนใช้จะได้ไม่มีข้อกังขา ในเรื่องความเก่าของเทคโนโลยี
จบการทดสอบ ผมเอารถมาถึงที่หมายที่ Toyota สำนักงานใหญ่ พร้อมความเหวอเลี้ยวเข้าโรงงานผิดประตู จนยามวิ่งมาโบกหยอยๆ ว่า ทางนี้!!! แต่ท้ายสุดความประทับใจใน Toyota Vios กับการขับขี่นอกเมืองก็ได้อัตราประหยัดที่ 13.7 ก.ม./ลิตร
เมื่อปิดประตูเดินแบกกระเป๋าสรรพาวุธส่วนตัวออกจากรถ แล้วยืนมองเหมือนส่งสาวอำลากลับบ้าน Toyota Vios ใหม่มีความประทับในการออกแบบภายนอก ห้องโดยสารที่ลงตัวระบบช่วงล่างที่หนึบกว่าที่คาด และสมรรถนะของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ,1NZ-FE ที่ยังเก๋าอยู่ ผมว่าโอเคนะ..
แต่กลับกันก็ยังมีบางจุดที่ Toyota ควรต้องกลับไปทำการบ้าน เริ่มจากระบบเบรก ซึ่งยังมีบางช่วงที่ยังตอบสนองแก่ผู้ขับขี่ที่ขาดทักษะอยู่ ไม่ได้ โดยเฉพาะจังหวะเบรกแรงมากๆ และที่สำคัญสุดได้เวลาแล้วมั้ง...กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด หรือไม่ก็กระโดดไป CVT-I ไปเลย ซึ่งตรงนี้ไม่ได้ติติง..แต่เมื่อมองเห็นจึงให้คำแนะนำเผื่อจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาต่อไป ....สวัสดี
เรื่องและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ขอบคุณ น้าผู้ใหญ่ใจดี ที่ทำให้ผมได้ขับ vios ถึงจะไม่เอ่ยชื่อ แต่คงทราบดีอยู่แล้ว ขอขอบคุณจากใจจริงๆ ครับ
เช่นเดียวกัน ขอบคุณ Toyota Motor Thailand สำหรับการต้อนรับอย่างดี ในตอนไปคืนรถทดสอบครับ
ผลการทดสอบ Toyota Vios 1.5 S top option
รถ Toyota Vios 1.5 S Top Option
ราคาจำหน่าย 734,000 บาท
การทำงานของเครื่องยนต์
ความเร็ว (ก.ม./ช.ม.) |
รอบเครื่องยนต์ที่เกียร์สูงสุด |
80 |
2100 |
90 |
2300 |
100 |
2500 |
110 |
2800 |
120 |
3100 |
ความเร็วสูงสุด ระหว่างการทดสอบ 162 ก.ม./ช.ม
การทดสอบอัตราเร่ง
ครั้งที่ |
0-100 ก.ม.(วินาที) |
80-120 ก.ม.(วินาที) |
1 |
14.0 |
10.0 |
2 |
15.0 |
11.0 |
อัตราประหยัด ในเมือง 12.6 ก.ม./ลิตร
นอกเมือง 13.7 ก.ม./ลิตร
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY79]