Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Suzuki Swift ซัดจมไมล์ในกิจกรรม “Up The The Max” ที่สนามพีระฯ
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 6 เม.ย. 65 00:00
- 8,288 อ่าน
ถ้าจะพูดถึงรถ Eco Car ที่จะเอามาแต่งซิ่ง แน่นอนว่ารถ Hatchback อย่าง Suzuki Swift มักจะเป้นตัวเเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ที่ต้องการเอามาแต่วอยู่เสมอ ด้วยพื้นฐานของตัวรถที่ดี ขนาดกำลังดี และที่ต้อวยอมรับกันก็คือ เป้นรถที่ทรงคล้ายกับรถแบรนด์คลาสสิคของวัยรุ่นอย่าง Mini มากที่สุดแล้ว
All-New Suzuki Swift โฉมปัจจุบัน ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 หรือประมาณเกือบ 4 ปีมาแแล้ว แต่ยอดขายของรถ Eco car รุ่นนี้ยังทำได้ดีอยู่เรื่อย ๆ เลย และยังคงเป็นรถที่สร้างยอดขายให้กับทางซูซูกิได้เป็นกอบเป็นกำอย่างต่อเนื่องทุกปี ของแบบนี้ถ้าไม่แน่จริง ไม่น่าจะทำแบบนี้ได้
ย่างเข้าปี 2022 หลังจากผ่านเรื่องราวอะไรมากมายจากการระบาดของโควิด-19 มาถึงวันนี้ได้เวลาเดินต่อแล้ว เพราะสุดท้ายเราก็ต้อวอยู่ร่วมกับโรคนี้ไปให้ได้ ดังนั้นทางซูซูกิจึงได้จับเอารถอย่าง Suzuki Swift มา Re-Branding กันใหม่อีกครั้ง ด้วยการจัดกิจกรรมขึ้นมาสำหรับใให้นักข่าวสายยานยนต์อย่างพวกเราได้ขับรถเพื่อรีวิวกันใหม่อีกรอบ โดยรอบนี้ใช้ชื่อกิจกรรมว่า “Suzuki Swift Up The The Max” โดยให้พวกเราได้ซัดกันแบบจมคันเร่งในสนามแข่งที่สนามพีระเซอร์กิตนั่นเอง
ก่อนอื่นเรามาดูสเปกเบื้องต้นของ Suzuki Swift กันก่อนดีกว่า โดยรถใหม่คันนี้ จะเปHนรุ่นย่อย GLX อยู่ในกลุ่มรถ Eco Car ที่ใช้ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิรหัส K12M ขนาดความจุ 1.2 ลิตร ที่ให้กำลังแรงได้สูงสุด 83 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT รองรับการใช้น้ำมันได้สูงสุดที่ E20 ช่วงล่างด้านหน้าเลือกใช้เป็น แม็กเฟอร์สัน สตรัท พร้อทคอยล์สปริง ด้านหลังเป็น ทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง ใส่มาพร้อมแม็กซ์อัลลอยขนาด 16 นิ้ว รัดด้วยยาง 185/ 55 R16 พร้อมระบบห้ามล้อแบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ น้ำหนักรวมบรรทุกแล้วมีเพียง 1,365 กิโลกรัมเท่านั้น มิติของตัวรถมีขนาดยาว-กว้าง-สูง = 3,845 x 1,735 x 1,495 มม. ฐานล้อกว้าง 2,450 มม. ใต้ท้องรถสูงจากพื้น 120 มม.
การออกแบบคงไม่ต้องลงรายละเอียดเยอะ เพราะเราเห็นกันมาจนชินตาแล้ว บอกให้รู้แค่ว่าด้านหน้าใช้ไฟหน้าแบบ LED Projector ปรับระดับสูง-ต่ำได้ มีไฟ DRL แบบ LED อยู่ในโคมไฟหน้า มีไฟตัดหมอก ไฟท้ายแบบ LED
ภายในของ Suzuki Swift GLX มาเป็นเบาะผ้า คู่หน้าเขาบอกว่ามาในแบบสปอร์ต ปรับด้วยมือทุกตำแหน่ง ด้านหลังเบาะพับได้แบบ 60:40 หน้าจอเป็นระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ที่มาพร้อมกับลำโพงอีก 6 ตำแหน่ง พวงมาลัยไฟฟ้าทรง D Shape สไตล์สปอร์ตปรับได้ 4 ทิศทาง มีปุ่ม Multi-Function ไว้ควบคุมนู่นนี่นั่นได้ แอร์อัตโนมัติ
ระบบความปลอดภัยของ Suzuki Swift GLX ก็มีมาให้ไม่น้อย เห็นเป็นรถ Eco Car แต่ให้มาทั้ง
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS
- ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า SRS
- ถุงลมนิรภัยม่านด้านข้าง SRS
- คานกันกระแทกด้านข้าง
- ระบบป้องกันล้อล็อก
- ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน
- ระบบ Idling Stop
- ระบบกุญแจนิรภัย
- ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
- ระบบสัญญาณเตือนภัย
- กล้องมองหลัง
คงพอแล้วกับข้อมูลเบื้องต้นในรอบนี้ของ Suzuki Swift GLX เพราะเป็นข้อมูลเก่าที่พวกเราส่วนใหญ่ก็คงพอรู้กันหมดแล้ว เรามาว่ากันเรื่องการทดสอบเลยดีกว่า รอบนี้กิจกรรม “Up The The Max” ก็คือการให้เราซัดกันในสนามพีระเซอร์กิต จ.ชลบุรี สนามแข่งชื่อดังอันเก่าแก่ยาวนานของประเทศไทย ผมเองได้ขับในสนามนี้มาหลายรอบแล้ว พอจะรู้ถึงไลน์หรือวิธีการขับได้พอสมควร แต่รอบนี้ผู้จัดไม่อยากให้มันง่ายขนาดนั้น เลยจัดวิ่งทวนสนามหรือตามศัพท์ของการแข่งขันที่เขาเรียกว่า Reverse Track เสียเลย งานนี้ทำเอานักข่าวทำตาลุกวาวกันเป็นแถบ ก็เพราะว่าโอกาสในการขับรูปแบบนี้มันแทบไม่มีเลย
แต่แน่นอนครับว่าการขับขี่ทุกอย่าง อยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน ในระหว่างทางก็เลยมีการวางฐานเพื่อการทดสอบเป็นระยะ เริ่มจากฐานวงเลี้ยว ที่ให้เราต้องวิ่งม้วนเป็นวงกลมก่อน 1 รอบก่อนที่จะวิ่งต่อไปได้ ก่อนจะต่อด้วยฐาน Lane Change ที่ต้องวิ่งเข้าตามช่องแล้วหักเลี้ยวเหมือนหลบอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะวิ่งต่อไป จากนั้นก็ต้องไปเจอกับฐาน Slalom หักซ้าย-ขวาไปตามช่อง พอผ่านไปแล้วก็จะเจอกับฐาน Emergency Braking ที่เราต้องวิ่งเข้าไปแล้วคอยดูว่าเจ้าหน้าที่เปิดประตู (กรวย) ให้เราหักซ้ายหรือขวา พอหักไปแล้วก็เบรกทันทีจนหยุดไม่ไห้ชนกรวยที่ขวางอยู่ ก่อนที่จะกดมิดไมล์วิ่งเข้าเส้นชัยไป
รอบนี้ได้ทำการขับทดสอบรวมทั้งหมดประมาณ 3 รอบ โดย 2 รอบแรกจะเป็นการขับเพื่อให้รู้สมรรถนะของรถ Suzuki Swift GLX ว่าดีขนาดไหนทั้งเรื่องอัตราเร่ง, การทรงตัว, การควบคุม และแน่นอนคือเรื่องการเบรก ส่วนรอบสุดท้าย จะยกเลิกฐานสุดท้าย แต่จะไปเพิ่มกล่องจอดที่เส้นชัยแทน แล้วหาเอาผู้ที่ทำเวลาได้ดีที่สุดมารับรางวัลไป
ผมขอพูดรวม ๆ เลยนะครับว่า ถึงแม้ว่า Suzuki Swift จะเป็นรถ Eco Car ที่ใ้ช้เครื่องยนต์เล็ก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่มันก็ยังมีลายของความ “สปอร์ต” ติดตัวมันอนู่ เพราะยังคงเป็นรถที่คล่องตัวในการขับขี่ แรงต้นมาเร็ว ถึงแม้ว่ากลางกับปลายจะหายไป พวงมาลัยขับได้กระชับ ไม่ถึงกับคมกริบแต่ขับได้สนุกพอตัว และที่ดีมากก็คือเรื่องของช่วงล่าง ที่นิ่ง ทรงตัวดี เข้าโค้งได้ดี อาการหลุดเมื่อหักพวงมาลัยเร็วมีน้อย ต้องขอบคุณโครงสร้าง HEARTECT ที่เป็นหัวใจหลักที่ทำให้รถคันนี้ขับได้ดีขนาดนี้ ลองนึกดูว่าถ้ามีเครื่องยนต์แบบ 1.5 Turbo จะขับได้มันขนาดไหน
การทดสอบรถ Suzuki Swift ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นมากมายหรอกครับ เป็นเหมือนการย้ำเตือนอีกครั้งให้ว่า รถ Eco Car คันนี้เป็นรถที่ขับสนุก ขับดีขนาดไหน ซึ่งถ้าใครอยากได้รถไว้ใช้ในเมือง แต่ยังอยากได้ความสนุกในการขับขี่เอาไว้ด้วย แถมยังเอาไปแต่งแบบนั้นแบบนี้ได้อีกหลายแนว สุดท้ายแล้ว Suzuki Swift ก็ยังเป็นรถ Eco Car ที่คุ้มค่าคุ้มราคาอยู่เหมือนเคยครับ กับราคา 557,000 บาทในรุ่นย่อย GL และ 629,000 บาทในรุ่น GLX
ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com