Test Drive: รีวิว ทดลองขับ New Suzuki SWIFT ปี 2021 รุ่น GL & GLX เพิ่มอุปกรณ์ตอบโจทย์ ขับดีเช่นเคย
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 17 ก.พ. 64 00:00
- 12,088 อ่าน
หลังจากเปิดตัวแนะนำโฉมใหม่ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ผ่านช่องทางออนไลน์ กับ NEW SUZUKI SWIFT ปี 2021 รถยนต์อีโคคาร์ใหม่ล่าสุดจากค่ายซูซูกิ ที่ได้รับการปรับใหม่ทั้งภายนอกและภายใน รวมไปถึงอุปกรณ์ออพชันเพิ่มเติม นำเสนอมากับสองรุ่นย่อยทางเลือก GL และ GLX ที่พร้อมลุยตลาดอีโค่ในไทยต่อเนื่อง ก่อนเปลี่ยนโฉมใหม่ในอนาคต หลังจากที่มีการส่งรุ่นตกแต่งพิเศษกระตุ้นตลาดตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไปแล้วก่อนหน
ล่าสุด ทาง บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด ก็ได้เชิญทีมงาน AUTODEFT เข้าร่วมทดสอบรถใหม่ New Suzuki SWIFT ปี 2021 โดยการขับทดสอบในครั้งนี้เป็นในรูปแบบในเมืองเป็นหลัก มีวิ่งออกช่วงชานเมืองเล็กน้อยย่านลาดกระบัง รวมระยะทางตลอดการขับทดสอบในวันนี้ประมาณ 100 กิโลเมตร
โดยครั้งนี้ทางทีมงานได้ขับทดสอบไปกับรถใหม่ New Suzuki SWIFT ปี 2021 รุ่นย่อย GL ตัวเริ่มต้น รูปโฉมภายนอกจุดแตกต่างกับรุ่นย่อย GLX พอมีให้สังเกตได้ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าฮาโลเจนมัลติรีเฟลคเตอร์ ไฟ DRLs ที่บริเวณกันชนหน้า ไฟเลี้ยวที่แก้มข้างตัวรถ ล้อกระทะพร้อมฝาครอบขนาด 15 นิ้ว และด้านท้ายไม่มีกล้องมองหลังขณะถอย
โดยส่วนของรุ่นย่อย GLX ไฟหน้าเป็นแบบ LED Projector ปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อม DRLs ในโคม และมีไฟตัดหมอก กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ปัดเงาเพิ่มความโดดเด่น และทั้งสองรุ่นย่อยมากับกระจังหน้าตกแต่งโครเมียม ไฟท้ายแบบ LED ไฟเบรกดวงที่สาม และกระจกสีตัดแสง
ขยับมาภายในตัวรถกันบ้าง รุ่น GLX วัสดุตกแต่งบริเวณคอนโซลและแผงประตูหน้าสีเงินใหม่ ส่วนของ GL จะเป็นสีขาวแบบเดิม และรุ่น GLX พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าแบบหุ้มหนัง ปรับตำแหน่งเข้า-ออก รวมถึงสูง-ต่ำได้ แต่ GL ไม่สามารถปรับเข้า-ออกได้ มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยทั้งสองรุ่นย่อย ส่วนระบบสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัยและควบคุมระบบความเร็วอัตโนมัติบนพวงมาลัยมีเฉพาะใน GLX กระจกไฟฟ้าสี่บานและที่ด้านคนขับปรับลงอัตโนมัติเท่านั้น มีระบบเซ็นทรัลล็อก ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กุญแจรีโมทพร้อมไฟกระพริบตอบรับ ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ และ Keyless push start ทั้งสองรุ่นย่อย
ชุดหน้าปัดมาตรวัดต่าง ๆ กับจอดิจิตอล MID มือจับประตูด้านในโครเมียม เบาะที่นั่งปรับตำแหน่งสูง - ต่ำบริเวณคนขับ พนักพิงศีรษะแบบแยกส่วน เบาะหลังปรับพับ 60:40 มีช่องจ่ายไฟสำรองบริเวณคอนโซลหน้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติทั้งสองรุ่นย่อย
จุดแตกต่างชัดเจนกับจอกลางความบันเทิง GLX มาพร้อมจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้วใหญ่ขึ้น พร้อมเครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Blutooth® ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน Apple CarPlay และ Android Auto ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันนี้ได้อย่างดี เรียกได้ว่าเปิดใช้งานแผนที่นำทางผ่านหน้าจอนี้ได้เลย นอกจากนี้จอกลางนี้ยังแสดงภาพจากกล้องมองหลังอีกด้วย ส่วนของ GL จะเป็นชุดเครื่องเสียงแบบปุ่มกด ไม่รองรับการเสียบสาย HDMI
มิติตัวรถไม่แตกต่างมีความยาว 3,845 มม. ความกว้าง 1,735 มม. ระยะฐานล้อกว้าง 2,450 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.8 มม. และมีความสูงใต้ท้องรถที่ 120 มม. มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 37 ลิตร พื้นที่เก็บสัมภาระ 265 ลิตร
ขุมกำลังเครื่องยนต์ยังคงเดิมกับเครื่องยนต์เบนซิน DUALJET หัวฉีดคู่ รหัส K12M ขนาด 1,197 ซีซี แรงสุด 83 แรงม้า แรงบิด 108 นิวตันเมตร รองรับน้ำมัน E20 ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ระบบเบรกดิสก์เบรกสี่ล้อ และในรุ่น GL ด้านหลังเป็นดรัมเบรก โดดเด่นด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT
ภาพรวมในช่วงของการขับขี่ต้องบอกเลยว่าการเช็ตติ้งฟิลลิ่งต่าง ๆ ยังคงเดิม ในสไตล์ของ Suzuki SWIFT ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนามาให้เป็นรถที่ขับขี่ได้สนุกและคล่องตัว พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าให้ความรู้สึกในการควบคุมได้คล่องแคล่ว โดยเฉพาะกับการขับขี่ในเมืองที่เมื่อต้องการหักเลี้ยวเปลี่ยนเลนไปมา ก็สามารถทำได้อย่างแม่นยำ บวกกับพวงมาลัยที่น้ำหนักเบากำลังดี
ขุมกำลังการตอบสนองเรียกได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป ในช่วงการเดินทางไกลก็สามารถทำได้ดี การวิ่งที่ความเร็วระดับ 100-120 กม./ชม. ทำได้แบบสบาย ๆ การตอบสนองและความมั่นใจในการเบรกแม้ว่าในรุ่น GL จะมากับดรัมเบรกที่ล้อหลัง การขับขี่ก็ยังมอบความมั่นใจได้ทั้งการหยุดรถ ชะลอ หรือเบาเบรก ความรู้สึกที่สัมผัสได้จากช่วงล่างที่ค่อนข้างเน้นไปทางสปอร์ตมากกว่าในแบบรถเล็ก ที่คุณอาจสัมผัสได้ถึงรอยต่อถนนที่ค่อนข้างลึกอย่างเช่นบนทางด่วน
และในส่วนของการนั่งโดยสารยอมรับเลยว่าตัวเบาะของ Suzuki SWIFT ได้รับการออกแบบมาได้อย่างโอบกระชับดีทีเดียว ดีไซน์สปอร์ตหุ้มด้วยผ้า ให้สัมผัสการนั่งขับและโดยสารอย่างดี โดยเฉพาะเบาะคู่หน้า การปรับตำแหน่งเบาะที่นั่งสามารถทำได้อย่างงายดายแม้จะยังไม่ใช่ปรับไฟฟ้าก็ตาม สำหรับตัวผมที่สูงประมาณ 178 ซม. การนั่งโดยสารที่ด้านหน้าช่วงขาต่าง ๆ รู้สึกไม่อึดอัดหรือติดเลย ส่วนของคอนโซลหน้าช่วงที่เก็บของด้านซ้ายได้รับการดีไซน์ให้หลบช่วงขานั้นเอง
ส่วนของระบบความปลอดภัยมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า SRS ถุงลมนิรภัยม่านด้านข้าง SRS รวม 6 ตำแหน่ง ในรุ่น GLX ส่วน GL มากับถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS เท่านั้น นอกนั้นระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ได้แก่ คานกันกระแทกด้านข้าง ระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบ Idling Stop ระบบล็อกนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก 2 ตำแหน่ง ระบบกุญแจนิรภัยชุดซ่อมยางฉุกเฉิน และระบบสัญญาณเตือนภัย
สรุปออพชั่นความแตกต่างที่เพิ่มเติมจากเดิม ได้แก่
เกรด GL
- กระจังหน้าสไตล์สปอร์ตตกแต่งลายเส้นโครเมียม
- กระจกมองข้างพับไฟฟ้า
- ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ/ Keyless entry
- Keyless Push Start
- สัญญาณเตือนเมื่อลืมกุญแจ
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
เกรด GLX
- กระจังหน้าสไตล์สปอร์ตตกแต่งลายเส้นโครเมียม
- ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยปัดเงาขนาด 16 นิ้ว
- วัสดุตกแต่งคอนโซลและแผงประตูหน้าสีเงิน
- จอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
- กล้องมองหลัง
ทั้งหมดนี้กับการขับทดสอบ New Suzuki SWIFT ปี 2021 โดยเฉพาะกับรุ่นย่อย GL ตัวเริ่มต้นที่มาพร้อมราคา 557,000 บาท ที่เพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเข้ามาในโฉมปีล่าสุดนี้ เรียกได้ว่านับเป็นอีกรุ่นย่อยที่ทำตลาดและจะสร้างยอดขายให้กับทางซูซูกิได้ไม่น้อย ซึ่งในเรื่องของการขับขี่นั้นยังคงความสนุกเช่นเคยในแบบ SWIFT แต่ในปี 2021 นี้เอง ได้เพิ่มเติมออพชั่นให้สอดรับกับการใช้ชีวิตในปัจจุบันได้ตอบโจทย์และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ใครที่สนใจอย่าลืมที่จะไปสัมผัสและทดลองขับกันด้วยตัวของคุณเองกันนะครับ…
สิ่งที่ชอบ
- รูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบทั้งภายนอก-ภายใน ในสไตล์ของ SWIFT
- จอกลางความบันเทิง 8 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
- ฟิลลิ่งน้ำหนักของพวงมาลัยที่เบาแม่นยำคล่องตัว
- เบาะนั่งสบาย โอบกระชับดี
- กล้องมองหลังติดตั้งมาให้เรียบร้อย
- รุ่น GL มีระบบกุญแจ Keyless และปุ่มสตาร์ท รวมไปถึงระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาให้แล้ว
สิ่งที่ไม่ชอบ
- อยากให้มีกระจกออโต้ขาขึ้นฝั่งคนขับ
- อยากให้มีกระจกมองหลังตัดแสง
- อยากให้มีระบบล็อครถอัตโนมัติ
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com