Test Drive : รีวิว ทดลองขับ All New Subaru Forester 2.0 i-S เจ้าป่าจอมเท่…หล่อสำอาง ลุยได้ดั่งใจ

  • โดย : Autodeft
  • 21 มิ.ย. 62 00:00
  • 29,017 อ่าน

หลังจาก Subaru หันมาเอาดีกับตลาดรถยนต์อเนกประสงค์หรือ SUV (Sport Utility Vehicle) ควบคู่กับการทำตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงหรือ Performance Car ด้วยเอกลักษณ์เทคโนโลยีเครื่องยนต์ลูกสูบนอนยันหรือ Boxer และระบบส่งกำลังขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ทำให้ค่ายรถยนต์เจ้าของโลโก้ดาวลูกไก่ ประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้ใช้รถทั่วโลกด้วย Subaru Leone Estate Van 4WD ต้นแบบรถ SUV ของค่ายที่มีชื่อเสียงมีผลตอบร

Subaru Forester

Suabru Forester เจนเนอเรชั่นแรกเปิดตัวมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1997 และขายยาวนานมีการเปลี่ยนหน้าตามาหลายเจน ล่าสุดในเดือน มีนาคม ปี 2018 เปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 5 ภายใต้รหัสตัวถัง SK ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา และในปีเดียวกันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงเมืองไทย พร้อมกันนี้ทาง ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล (TCIL) ยกให้เมืองไทยเป็นฐานการผลิตสำหรับในประเทศ (Completely Knocked-Down หรือ CKD) และส่งออกไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาคทั้งมาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา ณ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ภายใต้ชื่อ ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) (TCSAT) สำหรับเวอร์ชั่นไทยทาง TC Subaru จำหน่าย Suabru Forester เจนใหม่ ด้วยกัน 3 รุ่นย่อยแต่สำหรับผมเลือกรุ่นรองท็อปอย่าง 2.0 i-S มาทดสอบ

ความหล่อเหล่าของตัวรถถ้ามองผ่านๆอาจคล้ายกับเจนที่แล้ว (เจเนอเรชั่นที่ 4 รหัส SJ ) แต่ปรับดีไซน์เข้ากับยุคสมัยในแบบ Dynamic x Solid ไม่ว่าจะเป็น ตั้งแต่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม พร้อมไฟหน้าแบบ LED ปรับระดับอัตโนมัติ ติดตั้งระบบไฟหน้าปรับตามทิศทางการเลี้ยว SRH (Steering Responsive Headlight) โดยทิศทางของลำแสงไฟหน้าจะหมุนไปซ้าย-ขวา ตามการหมุนของพวงมาลัย พร้อมไฟ LED Daytime รูปตัว C โค้งเท่งดงามในโคมเดียวกัน รับกับชุดกันชนหน้าแนวหรูนูนออกมาด้วยสีทูโทนพร้อมกรอบไฟตัดหมอกแบบ LED ตกแต่งชายล่างกันชนด้วยสีเงิน

Subaru Forester

ด้านข้าง เท่ทุกมุมมองด้วยกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ดีไซน์แบบรถสปอร์ตคูเป้ เส้นสายการออกแบบลงตัวกว่าเจนที่แล้วคิ้วขอบล้อสีดำรับกับล้ออัลลอยเป็นแบบ 5 ก้านสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว 18 X 7’’J พร้อมยางจาก Bridgestone Dualer H/P ขนาด 225/55 R18 ตกแต่งชายล่างสีเงิน แร็คหลังคาออกแบบให้สูงขึ้นและจุดผูกเชือกรัดอย่างสะดวกขึ้นและจุใจ เสน่ห์เย้ายวนกับเสาอากาศแบบครีบฉลาม ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED C-shaped ฝาท้ายมาพร้อมระบบไฟฟ้าช่วยให้สามารถเปิด-ปิด และล็อกประตูทุกด้านของรถได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียวเอาใจสุภาพสตรีหัวใจนักช็อป กันชนท้ายสีทูโทนแนวดุดันติดตั้งไฟตัดหมอกหลังเป็นออพชั่นจากโรงงงานและตกแต่งด้วยชายล่างกันชนหลังสีเงินเช่นเดียวกับด้านหน้าและด้านข้าง

Subaru Forester

Subaru Forester 2.0 i-S เจนใหม่นี้เป็นรุ่นที่ 3 ของค่ายที่ใช้แพลตฟอร์ม Subaru Global Platform ลักษณะเด่นส่งผลให้ตัวรถคล่องตัวลุยตามใจสั่งรวมถึงโครงสร้างมีความแข็งแรงมากขึ้นในทุกความเร็ว ปลอดภัยกว่าเดิมเพราะมีความแข็งแรงมากกว่า 70-100% เมือเทียบกับรุ่นเดิมและจุดศูนย์ถ่วงจัดวางต่ำลง ช่วยลดการโคลงตัวได้ร้อยละ 50 มิติตัวรถใหญ่ขึ้นด้วยเกือบทุกส่วน (แพลต์ฟอร์มเดียวกับ Subaru XV) ตั้งแต่ ความยาว 4,625 มม. ความกว้าง 1,815 มม. ความสูง 1,730 มม. ความสูงจากพื้นถึงตัวรถมากถึง 220 มม. ฐานล้อ 2,670 มม.น้ำหนักรถ 1,542 กก.และความจุถังน้ำมัน 63 ลิตร เมื่อเทียบกับรุ่น Forester เจนที่แล้วพบว่า ความยาวเพิ่มขึ้น 15 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 20 มม. ฐานล้อเพิ่มขึ้น 30 มม. แต่ความสูงน้อยกว่า 5 มม.

Subaru Forester

Subaru Forester

Subaru Forester

ด้วยความเป็นรถยนต์ที่พัฒนามาจาก Subaru XV สามารถหยิบยืมงานดีไซน์ภายในโดยเฉพาะแผงคอนโซลหน้าที่คุ้นเคยมาใช้แต่ปรับบุคลิกให้ดูดีกว่าด้วยโทนสีดำเข้ม แผงคอนโซลหน้าตกแต่งผิวสัมผัสเดินด้ายขาว พร้อมแผงตกแต่งสีเงินคมเข้ม สุขุมขึ้น คับคั่งด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ทั้งมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ แสดงข้อมูลการทำงานของตัวรถขนาดใหญ่ 4.2 นิ้วแบบ LCD พวงมาลัย 3 ก้าน มัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังเดินด้ายขาวจับกระชับมือ ซ้ายมือเป็นปุ่มควบคุมเครื่องเสียงจอข้อมูลการขับขี่และปุ่มรับโทรศัพท์ ขวามือเป็นปุ่มการทำงานของระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control และโหมดการขับขี่ SI-Drive สนุกกับการเปลี่ยนเกียร์มันส์สะใจด้วย Paddle Shift แต่ก้านไฟเลี้ยวกับที่ปัดน้ำฝน เหมือนกับ Subaru XV ตรงที่สลับตำแหน่งแบบเดียวกับรถยุโรป ทำให้เจ้าของรถที่พึ่งมาใช้รุ่นนี้เป็นครั้งแรกอาจงงกันสักนิด

Subaru Forester

Subaru Forester

เด่นด้วยจออเนกประสงค์เหนือคอนโซลกลางแบบ LCD 6.3 นิ้ว สำหรับบอกอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง สภาวะการขับขี่ และข้อมูลการบำรุงรักษารถ ฯลฯ อลังการกว่าเดิมด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว (Panasonic เป็นผู้ผลิต OEM) รองรับความบันเทิงหลากรูปแบบ พร้อมระบบนำทางและมีเมนูภาษาไทยให้ เชื่อมต่อสะดวกด้วยพอร์ท USB AUX HDMI BLUETOOTH กับลำโพงคุณภาพ 6 จุด เสียงเพลงค่อนข้างละเอียด ฟังไพเราะตลอดการเดินทาง ถัดลงมาเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ DUAL-ZONE แยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา โดยรถยนต์คันนี้ไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสงมาให้ แต่กระจายความเย็นได้ทั่วถึงและเย็นเร็วติดตั้งช่องแอร์ทางด้านหลังคอนโซลกลาง และมีช่องเสียบ USB สำหรับ Smartphone ถึง 2 ช่อง ชาร์จกันอย่างเต็มที่ เข้าเบรกและปลดเบรกขณะจอดถาวรได้สบาย ด้วยระบบเบรกมือแบบไฟฟ้า (EPB) แบบกดขึ้น-ลงแทนที่แบบคันโยก เพิ่มความสบายช่วงรถติดกลางสี่แยกด้วยระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ (AVH) หรือเรียกอีกอย่างนั่นคือ Auto Brake Hold นั่นเอง ปลดล็อกประตูรถและฝาท้ายด้วยกุญแจรีโมทแบบ Smart Entry เพียงใส่กุญแจในกระเป๋ากางเกงกดไปที่ ปลายก้านเปิดประตูก็สามารถปลดล็อกและล็อกได้ทันที พร้อมปุ่ม Push Start ตามสมัยนิยม

Subaru Forester

Subaru Forester

Subaru Forester

เบาะนั่งทรงสปอร์ตให้ความลงตัวนั่งสบายในการเดินทาง เสริมภาพลักษณ์สปอร์ตด้วยโทนวัสุดหุ้มหนังสีดำเดินด้ายขาว ด้านคนขับและคนนั่งปรับสูง-ต่ำด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง เอกลักษณ์เป็นมาตั้งแต่ Subaru XV ตรงหมอนรองศีรษะปรับดันหัวได้ถึง 5 ระดับ เหมาะสำหรับบุคลิกของผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าที่แตกต่างกัน เบาะหลังนอกจากให้ความสบาย และเหนือศีรษะที่สูง โปร่ง ที่มีพื้นที่เหลือยังมีที่วางแก้วมาให้ตรงที่พักแขนตรงกลางและจุดยึดที่นั่งเด็ก ISOFIX นอกจากนี้ยังปรับเอนได้เพิ่มความสบายในการเดินทางพร้อมช่องวางขา (Leg Room) ที่ใหญ่เหยียดขาได้สบายๆ ยังสามารถพับ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่ใหญ่ขึ้นมากสุด 1,775 ลิตร  ช่องเปิดท้ายรถที่กว้างขึ้นและพื้นที่วางขาที่กว้างขึ้นในห้องโดยสารด้านหลังช่องใส่ของหลังเบาะรถแบบหลายช่อง

Subaru Forester

Subaru Forester

ถึงจะเป็นรถยนต์พื้นฐานเดียวกับ Subaru XV ทำให้สามารถลดต้นทุนในการพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเมืองไทยใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส FB20 Boxer อัตราส่วนกำลังอัดเครื่องยนต์เป็น 12.5:1 ระยะชัก/ขนาดกระบอกสูบ 84.0/90.0 มม. พร้อมระบบ Direct Injection ขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ให้กำลังเต็มสมรรถนะด้วยระบบควบคุมวาล์วแบบแอคทีฟ (AVCS: ACTIVE VALVE CONTROL SYSTEM) ทั้งไอดี และไอเสีย พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มแรงบิดช่วงรอบต่ำให้อัตราเร่งที่ดียิ่งขึ้น ปล่อย CO2 ที่ 179กรัมต่อกิโลเมตร

Subaru Forester

จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT 7 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตรตลอดเวลา Symmetrical all-wheel drive พร้อมระบบ X-MODE ช่วยในการควบคุมเครื่องยนต์ ระบบส่งถ่ายกำลังล้อทั้ง 4 ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษเลือกโหมดได้ 2 รูปแบบทั้งโหมดทางฝุ่น DIRT/SNOW และ โหมดโคลน MUD/D.SNOW พร้อมระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมยานพาหนะได้อย่างมั่นใจ

Subaru Forester

เกือบ 10 ปีที่ขุมพลังเบนซิน BOXER 2.0 ลิตร รหัส FB20 ใช้เป็นขุมพลังประจำมาตั้งแต่ Forester เจน 3 รหัส SH (แถมเป็นเครื่องเดียวกันที่อยู่ในน้องเล็ก Subaru XV) และเมื่อมาอยู่ในเจ้าป่าเจนนี้ ที่พัฒนาเรี่ยวแรงให้ดีขึ้นกว่า ยอมรับว่ากำลัง 156 แรงม้าโชว์ศักยภาพอย่างเต็มกำลัง ทุกช่วงความเร็วไม่ว่าจะขับในเมือง นอกเมืองขับยาวๆ ยังให้ความสนุกสนานในการขับขี่แต่ถ้าอยากเพิ่มความเร้าใจอีกขั้น สามารถเลือกโหมดการขับขี่ SI-Drive ทั้งโหมด Intelligent และ Sport ถึงแม้การเร่งแซง มุดซ้าย มุดขวา อาจมีความล่าช้าอยู่นิดหน่อยเพราะด้วยน้ำหนักรถมากถึง 1,542 กก.นั่นเอง สำหรับรอบการทำงานของเครื่องในช่วงความเร็ว 90-120 กม./ชม.ทำผลงานสูงสุดถึง 2,000 รอบ/นาที ด้วยรอบตั้งแต่ 1,350 1,500 1,700 และ 2,000 รอบ/นาที ตามลำดับ การเก็บเสียงอยู่ในระดับน่าพอใจแต่อาจมาเสียตรงที่เสียงลมและและเสียงเครื่องที่ทำให้รำคาญใจในช่วงความเร็วสูงๆ แต่ความเร็วปกติช่วง 70-110 กม. เงียบพอสมควรฟังเพลงพูดคุยสนทนากันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว

ระบบส่งกำลังที่เป็นระบบเกียร์อัตโนมัติแปรผันต่อเนื่อง CVT 7 สปีด ลูกเดียวกับ Subaru XV อัตราทดเท่ากันตั้งแต่ 3.600-0.557 (ตอนผลักมาที่เกียร์ M) กับ 3.600- 0.512 (ตอนเข้าเกียร์ D) และเฟืองท้ายเป็น 3.900 ผสานกับกำลังเครื่อง 2 ลิตร ส่งผลให้การตอบสนองเกียร์แม่นยำขึ้นทำงานได้อย่างสมดุลขึ้น ส่งกำลังดีต่อเนื่อง สามารถลบข้อครหาในอดีตนั่นคือการทำงานของเกียร์ที่ไม่ฉับไวได้อย่างหายห่วง

Subaru Forester

Subaru Forester

ช่วงล่างทั้งหน้าและหลังเลือกใช้ระบบแบบอิสระ 4 ล้อ เริ่มจากด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และหลังแบบปีกนกคู่ดับเบิ้ลวิชโบน ทำผลงานได้เยี่ยมในช่วงการขับขี่ให้ความนุ่มนวลช่วงความเร็วปกติ เกาะถนนเข้าโค้งมั่นใจ ซับแรงกระแทกที่เป็นหลุมเป็นบ่อรวมถึงช่วงจัมพ์คอสะพานได้ดี อาการโคลงตอนเลี้ยวเห็นน้อยมาก เป็นได้ว่าการจัดวางของเครื่องยนต์แบบลูกสูบนอน ช่วงล่างที่เหมาะสมโครงสร้างแพลต์ฟอร์มใหม่ รวมถึงตัวช่วยต่างๆระบบควบคุมการทรงตัว (VDC) ส่งผลเรื่องการทรงตัวดีกว่าและโดนเด่นกว่าเจ้าอื่นๆ

ระบบบังคับเลี้ยวแน่นอนแล้วว่าเลือกใช้ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้า ขอชื่นชมในเรื่องน้ำหนักพวงมาลัยที่น้ำหนักดีการบังคับทิศทางอยู่ในเกณฑ์แม่นยำ ให้ความคมทุกการขับขี่ ควบคุมดี ระบบเบรกยังเป็นดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบเบรก ABS การตอบสนองของแบรกเมื่อเหยียบไป 30 % ทำผลงานดี หยุดรถฉับไวทันใจหายห่วงทันทีว่ารถจะไม่ไถลไปชนคันหน้า

Subaru Forester

ปิดท้ายด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจากโปรแกรม Save Mode ทำได้ 13.65 กม./ลิตร จากระยะทางรวม 61 กม.จัดน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ 95 เต็มถังจากปั๊มแถวเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ 4.47 ลิตร ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ตามสภาพการใช้งานจริง ส่วนการใช้งานในเมืองได้ตัวเลขสิ้นเปลืองที่ 8.71 กม./ลิตร และการใช้งานนอกเมืองได้ตัวเลขสิ้นเปลือง 11.32 กม./ ลิตร จากระยะทาง 394.9 กม. เส้นทาง กรุงเทพฯ- สัตหีบ ชลบุรี) และเติมเข้าไปเต็มถัง 34.87 ลิตร

Subaru Forester

Subaru Forester

Subaru Forester 2.0 i-S จัดเป็นรถยนต์ SUV ระดับ Compact ออกแบบมาเพื่อการใช้งานอย่างแท้จริงไม่ได้เน้นหน้าตาที่สวยหรูเหมือนคู่แข่งร่วมชาติ แต่อย่างน้อยยังมีความดีตรงที่ความสูงจากใต้ท้องรถสูงที่สุดกว่าใครเพื่อนถึง 220 มม. สามารถลุยได้แบบสบายๆไร้กังวลว่าใต้ท้องรถจะไปโดนครูดเศษหินก้อนใหญ่ ผนวกกับทัศนวิสัยที่ใหญ่โตสูงมองชัดเจน ออพชั่นข้าวของที่ติดมาจากโรงงานจัดว่าพอเพียงแล้วสำหรับการใช้งาน

ความดีอีกอย่างที่น่ายกย่องกับเครื่องยนต์ 2 ลิตร ลูกสูบนอนยัน BOXER ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ถึงแม้การออกตัวเร่งแซงอาจไม่ทันใจก็ตาม ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD หนึ่งเดียว ช่วงล่างนุ่มเกาะถนน เกียร์ทำงานตอบสนองดี และด้วยเป็นรถยนต์ประกอบในเมืองไทยกับค่าตัว 1,380,000 บาท (ราคาสุทธิรวมแพ็คเก็จ Option Pack) กับของเด็ดๆที่ให้มาจัดถือว่าคุ้มค่าแล้วสำหรับ Subaru Forester 2.0 i-S

 

เรื่องและขับทดสอบโดย นายเต้ย

 

ขอขอบคุณ บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้ความอนุเคราะห์รถยนต์ Subaru Forester 2.0 i-S มาทดสอบ

Suabru Forester

 

 

 

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ