ท้าพิสูจน์ประหยัดจริง!! .. 31.73 ก.ม./ลิตร ใน Mazda 2 Diesel ...

  • โดย : Autodeft
  • 17 มี.ค. 58 00:00
  • 17,458 อ่าน

ถอดรัสที่สุดความประหยัด จากการทดสอบ Mazda 2 Diesel ใหม่แบบสุดขั่วใน Mazda Clean Diesel Challenge เมื่อเราเท้าเบาทำความประหยัดใน Mazda 2 Diesel ได้ถึง 31.73 ก.ม./ลิตร

 

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

ทุกวันนี้ราคาน้ำมันที่แพงหูฉี่ คงอาจจะพาใครหลายคนมองหาความประหยัด ต่างๆมากมาย ตั้งแต่รถยนต์ที่เราใช้ว่าจะต้องมีตัวเลขความประหยัดอย่างดีเยี่ยม ไปจนถึง การสรรหา ความประหยัดในการขับขี่ ผ่านวิธีขับมากมาย ที่บ้างถูกบ้างผิด ตามแต่ความรู้ของใครหลายคน แต่ไม่ว่าอะไรที่พวกเรารู้เกี่ยวกับการจะทำอย่างไรก็ได้ ให้รถยนต์ของเรามีความประหยัดที่สุดในการเดินทาง มันย่อมดีที่เราตระหนักว่า เราควรใช้พลังงานน้อยลง ในการเดินทาง

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา รถยนต์   Mazda  2   เป็นรถยนต์ที่หลายคนสนใจ ด้วยความท้าทายตลาดของ   Mazda   ที่จับเอาเครื่องยนต์ดีเซลมาลงในรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ตามโครงการอีโค่คาร์ระยะที่สอง ซึ่งท้าทายความเชื่อของใครหลายคนเกี่ยวรถยนต์ซับคอมแพ็คคาร์ว่า รถยนต์อีโค่คาร์นั้นจะต้องเป็นเครื่องยนต์เบนซินเพียงอย่างเดียว ทั้งที่ตามกฎการลงทุน ต่างเอื้อให้มีการใช้เครื่องยนต์ดีเซลได้ เพียงแต่ไม่มีใครนำมันเข้ามาทำตลาด และ ด้วยตัวเลขประหยัดที่ทางมาสด้า ท้าทายทุกคนว่า  26.3   ก.ม./ลิตร นั้นเป็นไปได้จริง ....เชื่อเลยว่าไม่ว่าใครก็อยากจะท้าพิสูจน์

คงไม่ง่ายนักถ้าจะกล่าวว่า การขับรถยนต์ให้ประหยัดเป็นเรื่องง่ายแต่มันก็ไม่ยากจนเกินไปถ้าคุณมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้เกิดขึ้น นั่นเป็นสิ่งแรกที่ผมมุ่งมั่นตั้งใจ กับ นาย โบ๊ท เพื่อนคู่หูจาก  M Thai .com  ซึ่งขณะนี้เราอยู่ใน  Mazda 2 Sedan  ในระหว่างการแข่ง   Mazda Clean diesel  Challenge   เวทีท้าพิสูจน์การขับประหยัดในเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์   Mazda   ทุกรุ่นที่มาวางจำหน่ายในไทย

ปลายทางในการแข่งขันนี้อยู่ที่ตะเข็บชายแดน หลังจากที่เราข้ามด่านสะเดา ออกไปไม่ไกล นั่นคือจุดสิ้นสุดของการท้าพิสูจน์ในเรื่องของความประหยัด และท้าทายในรถยนต์   Mazda   ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ก้มีสื่อต่างๆมากมายที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพิสูจน์เช่นกัน

ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางก่อนหน้านี้ ซึ่งเสาร์-อาทิตย์ก่อนการแข่งขัน ผมยังระหกระเหิน อยู่เมืองเหนือ ทำให้ช่วงแรกต้องพึงพาคู่หู มักคุ้นกันมาหลายการทดสอบ โดยเราทั้งคู่ตัดสินใจที่จะทำให้ดีที่สุดในการทำตัวเลขประหยัด ไม่ได้หวังรางวัลอะไรจากการแข่งขัน (แต่ถ้าได้ก็ดี) ทว่า โบ๊ทกล่าวสั้นๆ ก่อนที่ผมจะเข้า   Sleep mode   จากความเพลียไปว่า “ผมกลัวว่าเราจะไม่ถึงชายแดนมากกว่า”

เส้นทางการขับขี่ใช้เส้นทางตามปกติที่ทุกคนใช้ เราออกสตาร์ท ย่านสุทธิสาร ก่อนจะขึ้นทางด่วน ตัดออกถนนพระรามสอง แล้วตรงเข้าเพชรเกษม ยิงยาวลงใต้ เวลาที่จำกัดไว้บนใบบอกเส้นทางและมันเป็นการคุมพฤติกรรมการขับขี่ส่วนหนึ่งทำให้ เรามักใช้ความเร็ว ป้วนเปี้ยน ระหว่าง   70-80  ก.ม./ช.ม. และหลายครั้งที่อาจจะต้องใช้ความเร็วมากถึง  100  ก.ม./ช.ม. เพื่อบี้คันเร่งไปให้ทันเวลาตามที่เขากำหนด ไว้ยังจุดจอดพัก รายทาง

เทคนิคการขับขี่ของเรา ถามว่ามีอะไรบ้าง คงต้องตอบว่าไม่มีอะไรมากมายนัก ด้วยตัวเครื่องยนต์ดีเซลของ   Mazda   2  ก็สร้างความประทับใจในการขับขี่อยู่แล้ว เพียงแค่ คุณต้องรักษาความเร็วไว้ให้พอดีๆ ขับไปเรื่อยๆ อย่าไปแตกตื่นพวกรถที่ขับเร็ว และพยายามหาสภาพถนนที่ดีที่สุดในการขับขี่เพื่อลดภาระเสียดทาน นั่นเป็นทั้งหมดที่เราทำในระหว่างการท้าทายความประหยัด

ในช่วงความเร็วนิ่งๆ ไปเนียน เวลาที่เหลือเฟือ แบบที่คนไทยชอบแอบแซวว่า  “โตในรถ” ทำให้มีเวลามากพอที่ผมจะมองหน้าปัดรถยนต์  Mazda   ความทันสมัยบนหน้าปัด ดูมีเสน่ห์จนน่าประทับใจในความสปอร์ต รวมถึง เหนือคอนโซลยังมี  Active Driving Display   แต่ยามนี้ เราไม่ซิ่ง เราไปนิ่งๆ ซึ่งที่ความเร็ว ราวๆ   80  ก.ม./ช.ม.   เครื่องยนต์ดีเซล Mazda Sky Activ Dขนาด  1.5  ลิตร ใน  Mazda  2  ใหม่ ตอบโจทย์การเดินทางด้วยรอบเครื่องยนต์ต่ำมากเพียง  1,500 รอบต่อนาที โดยประมาณ เท่านั้น เอง

แม้ระหว่างทางเราอาจจะไม่ได้ใช้ความเร็วมากมายอะไรนัก แต่สุนทรีย์ในการขับขี่รถยนต์   Mazda  2   นั้นไม่ได้ขาดอรรถรสลงไป ด้วยพวงมาลัยที่ตอบสนองเป็นอย่างดี และช่วงล่างที่มั่นใจได้เกินคาด โดยเฉพาะทางโค้งลงเขาอะไรแบบนี้ แถมยังสามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ได้เองด้วยหากต้องการ  น่าเสียดายที่เรายังไม่มีโอกาสทดสอบสมรรถนะของมันอย่างจริงจัง ตามสภาวะการที่เวลานี้ขับประหยัดในการเดินทาง

ยังดีที่ระหว่างที่เพื่อนหลับ ระบบความบันเทิงภายในรถเป็นเพื่อนข้างกาย ผมสามารถ เชื่อต่อเอาเพลงจากโทรศัพท์มาฟังเพิ่มความตื่นตัวของสภาวะร่างกายได้ในระดับหนึ่งพอๆ กับที่หอบเอาน้ำดื่มมาและ ช๊อคโกแล๊ต   M&M   มาแก้เหงาปาก

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ขับรถยาวๆ ไปช้าๆ แบบนี้ ง่วงไปไหม .....ไม่แปลกที่มันจะชวนง่วงนอนอยู่บ้าง ยังดีที่ การขับประหยัดเราก็ไม่ได้ช้าถึงขนาดเต่ากัดยาง ทว่าก็น่าจะไม่ใช่ช่วงที่คนไทยใจร้อนชอบขับกัน ระบบนำทางบอกเราเตรียมเลี้ยวขวาเข้าสู่ด่านสะเดา และเมื่อถึงพิธีการข้ามแดน เราก็เหลืออีกเพียง   10  ก.ม. ลึกไปในมาเลเซีย จะถึงที่หมายปลายทาง

ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าตลอดการเดินทาง เราทำได้ดีตลอดมา เราน่าจะเป็นรถยนต์หนึ่งในไม่กี่คันที่ผลัดกันสลับขับจริงๆ แถมจอดในทุกๆ จุดจอดที่บอกในคู่มือการเดินทาง แล้วเราก็ยังขับด้วยความมั่นใจในระบบเกียร์ ซึ่งตลอดการเดินทางเรา ขับด้วยโหมด   D   แล้ว ก็หวดคันเร่งปั้นความประหยัดกันไป บางจังหวะก็มีปล่อยไหลกันบ้างตามความสมควรแก่เส้นทางสูงชัน ไม่มีพวกขับดูดตูดสิบ ล้อ หรือ ใส่เกียร์  N  ไหลยาว เทคนิคที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ขับกันแบบนั้นจริงๆ

เราถึงปั้ม Shell ในฝั่งมาเลเซีย เป็นคันที่สามของการแข่งขัน แต่เป็นคันแรกของผู้สื่อข่าวชาวไทย ที่เข้ามาถึงที่นี การสื่อสารผ่านด้วยภาษาอังกฤษ บวกกับภาษามือทำให้เรารู้ว่า นั่นคือความหมายที่พวกเขาต้องการสื่อสาร

และท้ายที่สุด เวลาแห่งความระทึกมาถึง ... รถ Mazda 2 Sedan   เบอร์   6  ของเรา วิ่งมาระยะทางกว่า  1,036  ก.ม. และทีมงานมาสด้า จัดการวัดอัตราประหยัดแบบเติมคืนถัง ชนิดรถเติมน้ำมันถึงคอตามวิถีการทดสอบความประหยัด เราเติมไป  32.65  ลิตร  และถ้าคิดเป็นอัตราประหยัด ผมและคู่หูที่ร่วมฝ่าฟันกันมาทำอัตราประหยัดอยู่ที่  31.73  ก.ม./ลิตรเลยทีเดียว

แม้ว่าในค่ำคืนที่ปีนัง จะไม่มีรางวัลปลอบใจ เราไม่ติดหนึ่งในสามอันดับในรุ่น ซึ่งที่หนึ่งของในกลุ่มซีดานนั้นทำได้   33.22  ก.ม. /ลิตร ยืนอันดับร่วมกันสองทีม (ไม่มีอันดับสอง) และอันดับสามทำได้   31.85  ก.ม./ลิตร  ส่วนใน Mazda 2 แฮทช์แบ็ค ที่หนึ่งทำได้ดีถึง  33.11 ก.ม./ลิตร มันก็ชัดเจนแล้วว่า รถยนต์   Mazda 2   รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลลงตัวในความประหยัดอย่างแท้จริง แถมยังได้สมรรถนะในการขับขี่ ยามที่คุณต้องการเปลียนโหมดปรับอารมณ์

ถึงจะไม่ได้รางวัลอะไร..ส่วนตัวไม่เคยเสียใจ ด้วยสิงที่เราทำจากการขับขี่  Mazda Clean diesel challenge   ถือว่าเป็นผลงานที่สุดยอดแล้ว ใครจะคิดว่า คนอย่างผมที่ดูมีฝีเท้าหนัก จะทำอัตราประหยัดได้ระดับ   31.73  ก.ม./ลิตร ถึงเราจะไม่ชนะในแง่ของรางวัล แต่เมื่อผมสามารถเอาชนะความรู้สึกของตัวเองได้ ในการพาตัวเองถึงปลายทางด้วยการขับประหยัดอย่างจริงจัง ...มันไม่สำคัญว่าอะไรได้เกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุด นาทีนี้ ผมชนะตัวเอง ด้วยการเป็นอีกคนที่สามารถขับประหยัดได้เช่นกัน ...

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)

 

ขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญเข้าร่วมกิจกรรม  Mazda Clean diesel Challenge   เส้นทาง   กรุงเทพมหานคร-ปีนัง มา ณ โอกาส นี้ ด้วยครับ

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY1207]

5 เรื่องน่าสนใจ