Test Drive : รีวิว ทดลองขับ Peugeot 3008 & 5008 ครอสโอเวอร์หรู การกลับมาของสิงห์ผยองในแดนสยาม
- โดย : Autodeft
- 19 พ.ย. 62 00:00
- 27,647 อ่าน
แบรนด์รถยนต์จากประเทศฝรั่งเศสในนาม Peugeot เข้ามาทำตลาดยาวนานจนเป็นที่รู้จักของผู้ใช้รถชาวไทยตั้งแต่ผู้จำหน่ายรายเก่าได้นำรุ่นต่างๆเข้ามาจนฮิตติดตลาดไม่ว่าจะเป็นรุ่น 204,404,504,604,305,505,605,405,406 ฯลฯ
ล่าสุดกลุ่ม MGC-ASIA คว้าสิทธิ์ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ เปอโยต์ อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) หรือ เปอโยต์ ประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปี 2019 และพร้อมแล้วที่จะบุกตลาดรถพรีเมี่ยมอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับรถยนต์ที่ประเดิมการทำตลาดนั่นคือรถครอสโอเวอร์ 2 รุ่น (จากเดิมจะมีแผนเข้าทำตลาดอีก 6 รุ่น) ในชื่อ Peugeot 3008 และ Peugeot 5008 ครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ นำเข้าจากมาเลเซีย จำหน่ายในราคาที่สมารถสู้กับคู่แข่งจากญี่ปุ่น ภายนอกของ Peugeot 3008 และ Peugeot 5008 รุ่นท็อป Allure พื้นฐานเดียวกันแต่ต่างที่บุคลิกตัวตนโดยรุ่น 3008 เน้นความคล่องตัวแบบ 5 ที่นั่ง และรุ่น 5008 เน้นครอบครัวใหญ่แบบ 7 ที่นั่ง กระจังหน้าดีไซน์เอกลักษณ์โครเมี่ยมพร้อม สิงห์เขย่งขา โดยไส้ในของกระจังหน้าเป็นแบบเส้นแนวนอนสั้นๆ พร้อมดีไซน์รถล้ำยุคด้วยไฟหน้า Full LED กันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตเสริมหล่อด้วยชุดการ์ดใต้กันชนหน้าสีเงิน พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ทรงกลม ล้อมด้วยกรอบโครเมี่ยมดีไซน์รูปตัว C บ่งบอกความหรูแฝงความเท่ในตัว
ด้านข้างมีเอกลัษณ์เสริมหรูด้วยชุดแต่งโครเมี่ยมทั้ง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวติดตั้งไฟส่องพื้นเป็นโลโก้สิงโตเมื่อเปิดประตูช่วงเวลากลางคืน คิ้วกรอบกระจกและ คิ้วชายล่าง ซุ้มล้อสีดำเข้มสะดุดตา เสริมเข้มอีกขั้นกับล้ออัลลอยสปอร์ตทูโทนขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18 ราวหลังคามีความแตกต่างชัดเจนอย่างรุ่น 3008 ราวหลังคาแบบมีช่องสำหรับการผูกสิ่งของบนหลังคา ส่วนรุ่น 5008 จะเป็นแบบ Built-IN ดีไซน์เล็กออกแบบลงตัวเข้ากับตัวรถได้อย่างดี ติดตั้งหลังคา Panoramic Sunroof เป็นออพชั่นมาตฐานใน 3008 และ 5008 รุ่นท็อป Allure ด้านท้ายของ 2 รุ่นนี้มีความเหมือนกันตรงที่ กรอบไฟท้ายเป็นแบบสีดำทั้งแผง ขนาบกับไฟท้ายดีไซน์กรงเล็บสิงโต ‘lion claws’ แนวตั้ง 3 เส้น คาดว่าเป็นแบบ LED งานนี้เอาใจคุณสุภาพสตรีสายช็อปปิ้งด้วยฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี อำนวยความสะดวกในกรณีที่ต้องถือของล้นมือจนไม่สามารถเอื้อมมือไปเปิดได้เพียงแค่แกว่งเท้าเข้าไปใต้กันชนหลังประตูท้ายจะเปิด-ปิดให้ทันที และสามารถปรับระดับความสูงของการเปิดฝากระโปรงท้ายได้ตามต้องการ
ถึง Peugeot 3008 และ Peugeot 5008 เป็นรถที่มีพื้นฐานเดียวกันแต่มิติตัวรถต่างกันเริ่มที่รุ่น 3008 ความยาว 4,510 มม. ความกว้าง 1,850 มม. ความสูง 1,662 มม. ฐานล้อ 2,730 มม. น้ำหนักรถ 1,527 กก. ความจุถังน้ำมัน 53 ลิตร ส่วนรุ่น 5008 ความยาว 4,670 มม. ความกว้าง 1,855 มม. ความสูง 1,655 มม. ฐานล้อ 2,840 มม.น้ำหนักรถ 1,611 กก. ความจุถังน้ำมัน 56 ลิตร
ความแตกต่างภายในห้องโดยสารคงหนีไม่พ้นจำนวนที่นั่ง โดยรุ่น 3008 จะเป็นแบบ 5 ทีนั่ง และรุ่น 5008 แบบ 7 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งคู่หน้าหุ้มด้วยหนังแท้สีดำ Claudio ปรับด้วยระบบไฟฟ้าด้านคนขับปรับ 8 ทิศทางและคนนั่ง 6 ทิศทาง ตัวเบาะใหญ่นั่งสบายโอบกระชับดี ส่วนเบาะตอน 2 กว้างสบายไม่แพ้กันมีพื้นที่วางขากับหลังคากว้างๆเหยียดขาสบายๆ แถมยังพับได้เพื่อขยายพื้นที่ในการบรรทุกพร้อมที่วางแขน และช่องแอร์ด้านหลังกับช่องเสียบชาร์จไฟแบบ 12 V พิเศษในรุ่น 5008 มีที่นั่งพิเศษตอน 3 แบบ 2 ที่นั่ง ที่เด็กเล็กๆสามารถนั่งได้แต่ผู้ใหญ่สร้างความอึดอัดพอสมควรแต่อย่างน้อยสามารถพับเก็บได้แบบพื้นเรียบหรือถอดตัวเบาะออกได้
เมื่อเปิดประตูรถเข้ามาด้วยกุญแจอัจฉริยะ จะพบความล้ำอนาคต กับชุดแผงคอนโซลหน้าดีไซน์อวกาศล้ำยุคที่การันตีกับรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมจากสำนักทั่วโลก ในชื่อ ‘i-Cockpit’ ที่ เปอ์โยต์ ตั้งใจบรรจงสร้าง ออกแบบเน้นความเรียบง่าย ดูสบายตา คำนึงถึงความสำคัญของผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้ใช้งานไม่ยุ่งยาก ด้วย มาตรวัดอนาคตแบบ head-up digital cluster อเนกประสงค์ 12.3 นิ้ว แสดงข้อมูลหลากหลายทั้งมาตรวัดเร็วรอบเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ ข้อมูลระบบนำทาง รายชื่อเพลง ฯลฯ โดยติดตั้เหนือพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 2 ก้านขนาดกะทัดรัดค่อนข้างจับกระชับมือแต่การสาวพวงมาลัยอาจไม่คุ้นชินเท่าไหร่ ต้องอาศัยการขับรถนานๆเท่านั้นจึงจะคุ้นมือ พร้อม Paddle Shift เพิ่มความมันในการขับขี่กับสวิตช์เปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัย
คอนโซลกลางทันสมัยด้วยจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รวมความบันเทิง เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth Apple Carplay ระบบนำทาง 3 มิติ (3D Navigation System) Minor Link ผ่านลำโพงรอบคัน 6 จุด รวมการทำงานของเครื่องปรับอากาศแบบ Dual-Zone ฯลฯ ไว้ในจอเดียว ถัดลงมานอกจากช่องแอร์ 2 ช่องยังมี สวิตช์ควบคุมการทำงานแบบก้านเปียโนสวยงามด้วยสีเทาซาตินโครเมี่ยม (Piano Key Toggle Switches) ควบคุมระบบต่างๆ อาทิ ระบบปรับอากาศ หรือระบบอินโฟเทนเม้นท์เช่นกันถัดลงมาเป็นปุ่ม Push Start พร้อมปุ่มกลมใหญ่ๆซึ่งควบคุมการขับขี่ที่ชื่อว่า Advanced Grip Control ปุ่มควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ความไฮเทคยังไม่จบเท่านี้ คันเกียร์อัตโนมัติ Electric Impluse ออกแบบดีไซน์ให้จับง่ายกระชับมือ พร้อมเบรกมือไฟฟ้า ที่วางแก้วน้ำ 2 จุด ที่พักแขนขนาดใหญ่ข้างในใส่ของกระจุกกระจิกและยังเป็นที่แช่เย็นน้ำดื่ม จุได้ 11 ลิตร
ถึงตัวตนทั้ง 2 รุ่นต่างกันในการใช้งาน แต่ยานยนต์ระดับ ‘ไฮเอนด์-เมนสตรีม’ กลับใจตรงกันใช้ขุมพลังเดียวกันนั่นคือเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร Twin Scroll Turbo (THP engine) รหัส 10UF20 5G02 ให้กำลังสูงถึง 167 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 240 นิวตันเมตรที่ 1,400-4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Quickshift Technology and Paddle Shift ให้ค่า Co2 ต่างกัน 177 กรัม/กม. ในรุ่น 3008 และ 179 กรัม/กม. ในรุ่น 5008
และเพื่อเป็นการรู้จักตัวตนของครอสโอเวอร์ 2 รุ่นนี้ ทาง เปอโยต์ ประเทศไทย จึงจัดทดสอบกลุ่มกับเส้นทางกรุงเทพฯ-เชาใหญ่ระยะทางรวม 181 กม. โดยสลับขับทั้ง 2 รุ่น ตลอดการขับขับขี่ทั้ง 2 รุ่น มั่นใจในการใช้งานเป็นอย่างมากแรงตามตัวแรงพอประมาณในช่วงใช้งานทั่วไปแต่หวือหวาโดดเด่นในช่วงเร่งแซงคลิ๊กดาวน์เพราะรอบมาตั้งแต่ 1,400 รอบ/นาที งานนี้คนเท้าขวาหนัก กดเป็นมา กดเป็นมา ชอบใจเป็นอย่างยิ่ง ระบบช่วงล่างทั้ง 2 รุ่น เหมือนกันเริ่มที่ด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นด้านหลังเป็นแบบคานบิดกึ่งอิสระ Twist Beam พร้อมโช้คอัพไฮดรอลิก ทั้งหน้าและหลังตลอดการทดลองขับทั้ง 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นเส้นวังน้อย เข้าสระบุรี ถ.ธนะรัชต์ เข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่เต็มไปด้วยเส้นทางที่หลากหลาย ทั้ง 4 เลนใหญ่ 2 เลนสวน ขึ้นเขาลงเขาให้ความมั่นใจในการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม นุ่มนำหนึบตาม สมูทราบเรียบ การสะเทือนเล็กน้อยเมื่อเจอถนนขุรขระเป็นหหลุมเป็นบ่อ โดยรวมสอบผ่านอย่างไม่ต้องสงสัยกันเลยทีเดียว
ถึงแม้จะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า แต่ Peugeot เพิ่มอรรถรสในการขับขี่เทียบเท่าคู่แข่งที่เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD ด้วยระบบ Advanced Grip Control โหมดการขับขี่ที่ควบคุมการยึดเกาะถนนโดยระบบจะกระจายแรงบิดทั้งล้อหน้าและล้อหลัง รวมถึงการเบรกอัตโนมัติเพื่อประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนในสภาพทางโหดเล็กน้อยถึงปานกลาง เลือกได้ถึง 5 โหมดการทำงาน เริ่มจากโหมด Normal Mode เพื่อการขับขี่ปกติ, โหมด ESP OFF ปิดการทำงานระบบควบคุมการทรงตัว, โหมด Sand หมุนฟรีได้เล็กน้อยสำหรับทางกรวดหรือทราย, โหมด Mud ให้ล้อทีมีแรงเสียดทานต่ำหมุนได้อย่างเต็มที่ และ โหมด Snow กระจายแรงบิดในแต่ละล้ออย่างเหมาะสมเพื่อสร้างอัตราเร่งบนพื้นลื่น สำหรับการทดลองครั้งนี้ได้เลือกโหมด Sand พบว่าการทำงานให้ประสิทธิภาพที่ดีตะกุยเกาะได้อย่างมั่นใจไม่มีอาการส่ายของตัวรถในขณะที่เหยียบคันเร่งเต็มแรง
แล้วลงเขาหละจะทำอย่างไร ทาง Peugeot เขาบอกว่ามีระบบควบคุมความเร็วบนทางลาดชัน HADC (Hill Assist Descend Control) ติดตั้งมาให้ทั้ง 2 รุ่น การตอบสนองในการใช้งานระดับพอใจเพราะตัวจับสัญญาณทำงานดี ให้ความนุ่มนวลแต่มีอาการหน่วงๆบ้าง รวมถึงระบบความปลอดภัยทั้ง ระบบเตือนมุมอับสายตา (Active Bilnd Spot), ระบบเตือนออกนอกเลน (Lane Keeping Assistance), ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัจฉริยะ สัญญาณกะระยะการจอดหน้า-หลัง กล้องมองหลังอัตโนมัติ ฯลฯ ด้านระบบเบรกเป็น ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อม ABS, EBD ว้าวกันอีกครั้งเพราะเหยียบเบรกไป 30 % เริ่มหยุดรถได้อย่างทันใจทันท่วงนี้อย่างน่าประหลาดใจ นับว่าถูกใจสุดมั่นใจสุดจริงๆ
ตลาดรถยุโรปต่ำกว่า 2 ล้านบาท ทุกวันนี้มีผู้เล่นน้อยมากที่จะทำแต่การมาครั้งนี้ของ Peugeot สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมากกับการทำตลาดรถ ‘ไฮเอนด์-เมนสตรีม’ จนคู่แข่งแดนปลาดิบมองค้อนกันเป็นแถบๆ แถมคู่แข่งโซนยุโรปร่วมต้อสู้ด้วยการทำราคาแบบเดียวกับ Peugeot ตัวรถไม่ต้องพูดถึงเรื่อง สมรรถนะ คุณภาพ เทคโนโลยีจากฝรั่งเศสนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอนกับค่าตัว 1,699,000 บาท สำหรับ 3008 Allure และ 1,899,000 บาท สำหรับ 5008 Allure นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับเซียนรถยุโรปที่อยากหารถคุณภาพระดับไฮเอนด์แต่ราคามิตรภาพ
แต่อีกข้อที่ต้องคำนึงเป็นสำคัญนั่นคือบริการหลังการขายที่ต้องเร่งกู้วิกฤตศรัทธา จากผู้ใช้รถยี่ห้อนี้เป็นทุนเดิมที่ทั้งยังภักดีและเทมันทิ้งให้กลับมาพึงพอใจประทับใจกันอีกครั้ง นี่แหละคือการบ้านชิ้นสำคัญของ เปอโยต์ ประเทศไทย
เรื่องและขับทดสอบโดย นายเต้ย
ขอขอบคุณ บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญทีมงาน Autodeft.com เข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับรถยนต์ Peugeot 3008 และ Peugeot 5008
สิ่งที่ชอบ >>> การกลับมาครั้งนี้ของ Peugeot สร้างความว้าวด้วยราคาที่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ที่สามารถคว้ารถยนต์คุณภาพมาเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย การตอบสนองของเครื่องยนต์ 167 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร จากเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร ว้าวประหลาดใจกกับพละกำลังที่เหลือ แรงตามใจสั่งอย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงภายในที่ล้ำยุค
สิ่งที่ไม่ชอบ >>> ความมึนงงในการใช้งานของแผงคอนโซลหน้า ‘i-Cockpit’อาจซับซ้อนไปบ้างแต่ถ้าใช้นานๆจะเข้าใจ ตำแหน่ง Cruise Control กลับไปอยู่ในใต้ก้านไฟเลี้ยว อาจเป็นอุปสรรคในการใช้งาน
ชม Gallery รีวิว ทดลองขับ New Peugeot 3008 & 5008 ได้ที่นี่!!
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com