Full Drive : Mitsubishi Pajero Sport V6 สมรรถนะเกินคาดความสบายเกินคุ้ม

  • โดย : Autodeft
  • 13 ต.ค. 56 00:00
  • 35,509 อ่าน

มาแล้วบททดสอบสุดยอดอเนกประสงค์สมรรถนะระดับ 200 แรงม้า Mitsubishi Pajero Sport V6 สมรรถนะ ราคา 1.305 ล้านบาทที่เร้าใจ

 

            ถามถึงการซื้อรถยนต์สักคันหนึ่งให้คุ้มค่า หลายคนคงมีวิธีการแตกต่างกันไป แต่ทุกสิ่งอย่างมักจะมาบรรจบในคำตอบสุดท้ายว่า เราจะซื้อรถยนต์คันใดคันหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกอย่างที่เราต้องการ และทำให้ ปัจจุบัน รถยนต์ประเภทรถอเนกประสงค์เข้ามามีบทบาทอย่างมากในตลาด ทั้งขนาดใหญ่และเล็กไปจนถึงสมรรถนะที่ทั้งเน้นลุยหรือ ขับชิวทั่วไป ก็มีมากหน้าหลายตาหลากยี่ห้อ

                ถ้าไม่นับค่ายเจ้าตลาดที่ห้ำหั่นกันอย่างสนุกสนาน  Mitsubishi  เรียกว่าเป็นอีกค่ายรถยนต์หนึ่งที่ก้าว มาอยู่ในของคนที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์  ด้วยการแนะนำ  Mitsubishi Pajero  sport  ซึ่งเป็นรถเอนกประสงค์ที่ใช้พื้นฐานจากกระบะ แต่จากการทดสอบสมรรถนะ รวมถึงเสียบตอบรับจากผู้ใช้ก็ยอมรับว่ามีมีความนิ่มนวลที่ใกล้เคียงกับรถประเภทครอสโอเวอร์ รวมถึง สมรรถนะการขับขี่เร้าใจ และเรือนร่างก็สวยงามอีกด้วย

           Mitsubishi Pajero Sport V6

                การแข่งขันที่มากมายในตลาดทำให้   Mitsubishi Pajero Sport  ถูกปรับกันแล้ว ปรับกันอีกหนึ่งในแนวทางที่เติมเข้ามาจนหลาคนต้องหันมามองก็เป็นการจับเครื่องยนต์เบนซินมาลงในบอดี้รถรุ่นนี้ หลายคนเฝ้ารอหมายปองตามฉบับคนไทยนิยมติดแก๊สช่วยเพิ่มความประหยัดในกระเป๋า แต่แล้วเมื่อปีกลายก็มีอีกเวอร์ชั่นที่ตามออกมา

                 Mitsubishi Pajero Sport V6 เรียกว่าเป็นหมัดเด็ดที่สร้างความท้าทายต่อค่ายทรีไดมอนด์อย่างมากเมื่อนับว่าพวกเขาต้องสิ้นสุดรถเอนกประสงค์ประเภท MPV /MUV , Mitsubishi Space Wagon  ที่ถึงจะขายได้จำนวนไม่เยอะมาก เมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นของค่าย แต่ก็เป็นรถที่สร้างกำไรและชื่อเสียงเรื่อยมา และการปรับรุ่นนี้ออกก็เป็นทางเลือกที่ต้องจำใจ

                จุดนี้เองที่ทำให้  Mitsubishi  ท้าทายตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ในไทย ด้วยการแนะนำเวอร์ชั่นที่หรูกว่าและสมรรถนะดีกว่า แต่ยังสามารถจับต้องได้ในราคาไม่แพงเกินไป มาตอบโจทย์ สำหรับคันที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์สมรรนถะดี มีความหรูหราในตัวเอง โดยเฉพาะในราคาที่จำหน่ายนี้สามารถสัมผัสสมรรถนะดุจสปอร์ตผ่านเครื่องยนต์   V6

              Mitsubishi Pajero Sport V6

 

เรือนร่างที่รู้จักเพิ่มออพชั่นจัดเต็ม

 

                คุณคงไม่รู้ใช่ไหมว่า Mitsubishi Pajero Sport V6  คือหนึ่งในรถที่หาตัวจับยากคันหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยทุกคนจดจ้องที่สมรรถนะของเครื่องยนต์  V6  ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงรถคันนี้ ทำให้หลายคนอยากจะนำมันไปขับขี่

                การทดสอบเจ้า  V6  ผมได้ตอดถามพี่จิมกับพี่มุ่ย ที่ Mitsubishi Motors  มานานหลายเดือน แต่รถก็ไม่ว่างเสียที จนท้ายสุด เมื่อโอกาสมาถึงก็ไม่พลาดที่จะต้องขอยืมมันมาขับขี่กันเสียเล็กน้อย

              Mitsubishi Pajero Sport V6

                เมื่อมาพบ  Mitsubishi Pajero Sport V6  คันจริง ถ้าคุณเดินมองมันจากที่ลานจอดรถที่มีรถ  Mitsubishi Pajero Sport หลายรุ่นจอดเรียงเป็นตับคงจะไม่เห็นอะไรที่แตกต่างมากมายนัก เพราะหลายอย่างถูกทำให้เหมือนกัน จนจะแบ่งแยกได้อาจจะต้องใช้ความชำนาญในรุ่นรถกันสักนิด

                แต่เอาเข้าจริง Mitsubishi Pajero Sport V6   ก็มีความแตกต่างอยู่บ้างพอสมควร เริ่มจากตรา V6 อันภาคภูมิใจที่มีมาแปะที่แก้มข้างและด้านหลัง  ส่วนการออกแบบต่างๆ ยังคงเหมือนที่ผ่านมาใน Mitsubishi Pajero Sport  แต่ก็ให้ความหรูหรามากขึ้น

                เริ่มจากโคมไฟหน้า Projector รวมไปถึงระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้าช่วยเพิ่มความสว่างในยามที่เขรอะจากการลุยมากขึ้น รวมถึงกระจกมองข้างโครเมี่ยมพร้อมไฟเลี้ยวในตัว แล้วตามมาด้วยการตบแต่งด้วยโครเมี่ยมเพิ่มสรรพคุณในเรื่องความหรูหรามากพอสมควร รวมถึงท้ายสุดให้ความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ซึ่งเป็นลายเดียวกับที่ผ่านมา มาในรุ่น GT  ให้ความกว้าง   7.5 นิ้ว มาพร้อมยาง  245/65 R17  

                ส่วนเรือนร่างยังคงความยาวที่ 4,695  ม.ม.  กว้าง 1,815 ม.ม. และสูง 1,840 ม.ม. มาพร้อมฐานล้อ 2,800 ม.ม. ที่น่าแปลกใจ คือ Mitsubishi Pajero Sport  V6  กลับขาดท่อไอเสียคู่เอกลักษณ์ที่จะทำให้มันดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้นกว่านี้ และจะเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ดีของ ความทรงพลังตัวรถ

               

ภายในหรูมากขึ้นเพิ่มออพชั่นลง

 

                เมื่อสำรวจรอบรถเรียบร้อย ก็รับกุญแจมาเป็นอันเริ่มต้นพิธีการทดสอบอย่างเป็นทางการ และเราก็ต้องแปลกใจในลักษณะกุญแจที่แม้รถจะออกมาในธีมหรูสุดๆ แต่กุญแจยังเป็นระบบธรรมดาเสียบแล้วบิด ซึ่งก็เป็นประเด็นแรก ที่รู้สึกว่ามันดูขัดเล็กน้อย  เอา..เว้ย ว่าแล้วก็ขึ้นสู่ห้องโดยสาร จัดการสตาร์ทเครื่องยนต์เสียงเครื่อง V6 ลั่นสนั่นบ่งบอกความเร้าใจ

                Mitsubishi Pajero Sport V6

                เหลียวมองภายในห้องโดยสารมาพร้อมโทนสีดำ เน้นความสปอร์ตมากขึ้น อีกอารมณ์ก็ให้ความรู้สึกหรูหราไปพร้อมกัน เมื่อผสานรายละเอียดโครเมี่ยม ก็มีความทันสมัยกลมกลืนเข้ามามากพอที่จะทำให้มันแตกต่างจากพี่น้องของมัน

                หลายคนน่าจะชื่นชอบเบาะนั่งปรับไฟฟ้าคู่หน้า ที่แม้แต่รถนั่งตัวจริงราคาเรือนล้านบาทหลายรุ่นยังไม่มีมาให้ ส่วนทางด้านหลัง ตรงกลางเพิ่มจอขนาด  10.2  นิ้วมาให้ความบันเทิงยามเดินทาง และยังมีพื้นที่กว้างขวางพอสำหรับจุผู้โดยสารมากสู่สุดถึง   7  ที่นั่ง เมื่อพับเบาะแถว 3  ลงมา อีกทั้งยังมีช่องแอร์สำหรับเบาะแต่ละแถวให้ความสบายอย่างทั่วถึงไร้กังวล

                ตรงหน้าคนขับมีของเล่นเพิ่มขึ้นมาเป็นพวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และความเร็วอัตโนมัติ แต่ทีเด็ดอยู่ที่แป้นเปลี่ยนเกียร์สไตล์  Paddle Shift  ที่จัดมาให้ได้ลงตัวสุด ยิ่งเมื่อใต้ฝากระโปรงคันนี้คือ  V6 มันก็น่าจะเร้าใจ

            

Mitsubishi Pajero Sport V6

จัดหนัก  V6  ในเมือง..ติดจริงขับจริง   8 กม./ลิตร

                ทุกอย่างเรียบร้อยได้เวลาเข้าเกียร์มุ่งหน้าสู่บททดสอบแรกของ  Mitsubishi Pajero Sport V6  ภายใต้สภาวะความกดดันที่สุดที่เราตั้งโจทย์ อย่างใจจดจ่อ

                เราเชื่อว่าหลายคนก็คงอยากรู้ว่าในเมืองถ้าขับ  V6  แล้วจะเป็นเช่นไร โจทย์นี้เป็นเรื่องที่ทุกคนที่มีรถอเนกประสงค์ต้องใช้ ยิ่งรถที่ออกมาในสไตล์หรูอย่างนี้ต้องมีดีโชว์ของในยามที่ต้องขับมันไปออกงานกันสักหน่อย

                ใต้ฝากระโปรง Mitsubishi Pajero Sport V6   ค่ายทรีไดมอนด์ท้าทายด้วยเครื่องยนต์สมรรถนะสูงรหัส  6B31  ที่มาในสไตล์เครื่องยนต์  V6  ขนาด  3.0 ลิตร ให้สมรรถนะการขับขี่สูงสุด 219  แรงม้า ที่  6,250 รอบต่อนาที และยังให้แรงบิดเร้าใจในการขับขี่  281  นิวตันเมตร  ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งลงระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมระบบควบคุม Invect II

                Mitsubishi Pajero Sport V6

                เมื่อเหยียบคันเร่งลงไป เครื่องยนต์ทรงพลังก็เริ่มแผดเสียงสมรรถนะการขับขี่ออกมา พร้อมแรงบิดและการกระขากที่นิ่มนวลแต่รวดเร็ว แม้ Mitsubishi Pajero Sport V6   จะมีพละกำลังมากมาย แต่ก็ไม่ได้น่ากลัว เว้นแต่เสียงของมันที่เร้าใจสุดๆ ประดุจรถแข่งในร่างรถอเนกประสงค์ ที่ไม่ว่าใครซึ่งรักในความเร็วแรงน่าจะถูกใจ พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว

                ในช่วงที่ขับเรื่อยๆไปตามถนนเข้าสู่เขตเมืองเสียงเครื่องของ  V6 ก็เดินนิ่งนุ่มเงียบ แถมแรงสะท้ายที่มีในเครื่องยนต์ดีเซลที่หายไปทำให้ได้สุนทรียะในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

                สิ่งที่สังเกตได้ทันที คือคุณไม่จำเป็นต้องเปิดวิทยุเสียงดังแข่งกับเครื่องยนต์อีกต่อไป เพราะเพียงเปิดเบาๆ เสียงไพเราะของนักร้องคนโปรดก็พร้อมขับกล่อมแทบจะทันที ไหนๆ ก็พูดถึงวิทยุ ก็คงต้องยอมรับว่าเมื่อฟังกันจริงจัง ระบบเครื่องเสียงของ Mitsubishi Pajero Sport V6   ยังไม่มีความพรีเมี่ยมอย่างที่คิดนัก ด้วยมักออกเน้นไปที่เสียแหลมและกลางเกือบแหลม จนเกือบขาดเสียง กลางต่ำ และเสียงเบสไปพอสมควร แม้จะลองปรับการเพิ่มเบสในฟร้อนท์เครื่องเล่นแล้วก็ยังแทบจะเป็นไปไม่ได้ นั่นหมายความถึงน่าจะเป็นสาเหตุมาจากชุดลำโพง ที่ไม่สามารถขับกลางต่ำได้มากมายนัก จุดนี้ควรเร่งปรับด่วน

                ขับมาไม่ทันไร เราก็เข้าสู่ในเมือง ซึ่งการทดสอบของเราก็จัดหนักในย่านธุรกิจ ทั้ง ถนนสุขุมวิท ถนนสีลม ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่รถติดพอสมควรเลยทีเดียว ในช่วงเวลาที่เราทดสอบ  Mitsubishi Pajero Sport V6  

                Mitsubishi Pajero Sport V6

                การขับขี่ V6  ในเมืองเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดอย่างยิ่ง เพราะยิ่งคิดว่าเรามี 219  แรงม้า ใต้ฝากระโปรงก็อยากที่จะโชว์พลังเสียงแล้วรีบไปให้พ้นๆ รถติดกันเสียที แต่เรื่องมันกลับตาลปัตรเมื่อคุณเร่งเครื่องมากเกินไป แล้วรถไปไหนได้ไม่ไกล น้ำมันในถังก็แทบจะหายตัวได้

                นั่นยังไม่เท่ากับเวลาที่คุณเร่งเครื่องยนต์ V6  ในยามที่จะเฆี่ยนผ่านไฟแดงฝ่าการจราจรติดขัด เมื่อเร่งเครื่องเรียกพลัง 219  แรงม้า ออกมา คุณอาจจะผ่านการจราจรไปได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อรู้ตัวอีกทีเราก็จะพบว่าน้ำมันจะลดลงเช่นกัน ซึ่งหมายความว่า ถ้าคุณต้องขับรถ  V6  หรือที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ในเขตที่มีการจราจรหนาแน่น ไม่ควรจะใช้วิธีแวดเครื่องเรียกกำลัง

                หลังจากขับในเมืองมาเป็นระยะทางกว่า  99 ก.ม.  เมตร ด้วยวิธีเดินทางจากชานเมืองเข้าสู่เมืองแล้วเดินทางกลับตามปกติที่หลายคนใช้งานรถกันจริงๆ เราพบว่า อัตราประหยัดในเมือง Mitsubishi Pajero Sport V6   อยู่ที่ 7 ก.ม./ลิตร  ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ เมื่อนี่เป็นเครื่องยนต์  V6  ขนาด  3.0 ลิตร ที่มาพร้อมกำลังมากมายให้ได้เร้าใจ

Mitsubishi Pajero Sport V6

นอกเมืองยอดเยี่ยม  V6 ที่ยังประหยัดได้

 

                หลังจากบททดสอบในเมือง ก็ไม่น่าแปลกใจนักที่ Mitsubishi Pajero Sport V6   ทำอัตราประหยัดได้เพียงแค่พอใช้ ด้วยเครื่องยนต์  V6  ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ จะมีความเหมาะสมมากกว่าในการที่จะนำมันขับในเส้นทางถนนทางหลวงนอกเมือง ซึ่งสามารถทำความเร็วได้ต่อเนื่อง

                บ้านเราอาจจะไม่คุ้นกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่มากมายนัก แต่ความจริงเครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่เหมาะมากเมื่อคุณใช้มันบนเส้นทางนอกเมือง ยิ่งสามารถวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง และไร้การจราจรติดขัด แรงบิดของเครื่องยนต์สามารถให้ความประหยัดได้มากกว่า รวมถึง ในทางกลับกันยังสามารถใช้ความเร็วได้พอสมควร

                Mitsubishi Pajero Sport V6

                ในการทดสอบนอกเมือง เราตัดสินใจในการยกระดับการทดสอบเล็กน้อย  ด้วยการพา Mitsubishi Pajero Sport V6   ไปยังปลายทางยอดนิยมทีลายคนหมายมั่นปั้นมือเมื่อมีรถสักคัน ที่เที่ยวของทั้งคนโสดและคนมีครอบครัว “หัวหิน”

                บททดสอบครั้งนี้ เราได้คำนวณแล้วกว่าการเดินทางไป-กลับ “หัวหิน” จะใช้น้ำมันประมาณ  1  ถังของรถ ซึ่งมีขนาด   70 ลิตร แต่เอาเข้าจริงเรากลับเติมได้  เพียง   55 ลิตร ทั้งที่ก่อนเติมน้ำมันตกขีดแดงมาช่วงระยะหนึ่งแล้ว หมายความถึงในจำนวนนี้กว่า  10 ลิตร น่าจะเป็นในส่วนของถังสำรองเผื่อกรณีที่คุณเดินทางไกลแล้ว หาปั้มไม่ได้

                การเดินทางของเราเติมด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอลล์  E20  จาก ปตท. ก่อนจะเริ่มเดินทาง โดยใช้ความเร็วอยู่ในช่วงที่ใช้งานจริง   90-120 ก.ม./ช.ม. ใช้การเดินทางด้วยการล็อกความเร็วอัตโนมัติร่วมด้วยเพื่อป้องกันการใช้ความเร็วเกิน

                เมื่อขับออกนอกเมือง Mitsubishi Pajero Sport V6   ก็ให้ความน่าประทับใจด้วยแรงบิดที่มาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องของรถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่  จนไม่แปลกใจที่เราสามารถวิ่งแซงรถคันอื่นอย่างต่อเนื่องแม้จะล็อกความเร็วๆที่ 100 ก.ม./ช.ม. แล้วก็ตามที

                ช่วงระหว่างทางเสียงเครื่องที่นิ่มนวลทำให้ห้องโดยสารเงียบ ก็ยังทำให้เรารู้สึกชัดเจนขึ้นว่าระบบเครื่องเสียงยังไม่ลงอย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็ยังมีข้อดีโดยเฉพาะสาวกเพลงเกาหลี เพราะระบบเครื่องเสียงของ Mitsubishi Pajero Sport V6   สามารถอ่านภาษาเกาหลีได้เลย

                หลังขับมาได้สักระยะหนึ่ง ถึงจะยอมรับในแง่สมรรถนะของเครื่องยนต์ แต่ในเรื่องของระบบกันสะเทือนกับยังมีอาการกระด้างบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกกับระบบช่วงทางด้านหน้าแบบดับเบิ้ลวิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังใช้แบบทรีลิงค์ ทอร์คอาร์ม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลงเมื่ออยู่บนโครงสร้างแบบรถกระบะ  Body On frame  ยังทำให้มีความกระด้างมากอยู่พอสมควร

         Mitsubishi Pajero Sport V6

                แต่เมื่อขับไปเรื่อยๆ ในช่วงระยะ กลับพบว่าความกระด้างลงน้อยลงไปพอสมควร จาก Mitsubishi Pajero Sport หลายรุ่นที่ผ่าน แถมระบบช่วงล่างทางด้านหลังค่อนข้างจะมีความแข็งและหนึบแน่นมากกว่า จากทุกรุ่นที่เคยขับมา ทว่า  ด้วยเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง เมื่อประกอบกับความสูงของรถ ทำให้หลายครั้งพบว่า การเข้าโค้งด้วยเร็วเดินทาง อาจจะออกน่ากลัวนิดหน่อย แม้ระบบช่วงล่างจะมีเสถียรภาพมาก แต่จะยิ่งดีกว่านี้ ถ้ามีการลดระดับความสูงของรถอีกเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้มีศูนย์ถ่วงต่ำลงและมั่นใจได้มากขึ้น

                 ในระหว่างการเดินทางได้มีโอกาส สังเกตการงานของเครื่องยนต์ดูเล็กน้อย มันน่าแปลกใจที่เครื่องยนต์ค่อนข้างจะทำงานสูงไปหน่อยเมื่อนับว่า นี่เป็นเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ ที่ความเร็ว  90 ก.ม./ช.ม. Mitsubishi Pajero Sport V6 ใช้รอบเครื่องยนต์ที่ 2000 รอบต่อนาที และที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม.  ใช้รอบเครื่องยนต์ที่ 2,600 รอบต่อนาที และในช่วง 3,000 รอบต่อนาที  สามารถทำความเร็วได้ 130 ก.ม./ช.ม.

                สาเหตุที่เครื่องยนต์ทำงานด้วยรอบเครื่องค่อนข้างสูง ก็มีส่วนมาจากระบบเกียร์อัตโนมัติ 5  สปีด ที่มาการเซทอัตราทดของชุดเกียร์เอง

 

ตารางแสดงอัตราทดเกียร์ ระหว่าง Mitsubishi Pajero Sport V6 และ Mitsubishi Pajro Sport 2.5 GT

อัตราทด

Mitsubishi Pajero Sport V6

Mitsubishi Pajro Sport 2.5 GT

เกียร์ 1

3.789

3.789

เกียร์ 2

2.057

2.057

เกียร์ 3

1.421

1.421

เกียร์ 4

1.000

1.000

เกียร์ 5

0.731

0.731

เกียร์ 6

-

-

เกียร์ถอยหลัง

3.865

3.865

อัตราทดเฟืองท้าย

4.272

3.917

ระบบควบคุม

INVECS - II อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อม Sportronic

 

 

                จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า สิ่งที่ต่างกันในระหว่างรุ่นเครื่องยนต์ V6  กับรุ่นดีเซล 2.5  ลิตร ที่มีพละกำลังและแรงบิดใกล้เคียงกัน กลับมีความแตกต่างกันที่ ระบบเฟืองท้ายเพียงอย่างเดียว ซึ่งต่างกันราวๆ 2  เบอร์  ส่วนหนึ่งการเซทที่แตกต่างอาจจะมองในเรื่องของแรงบิด ของเครื่องยนต์ที่จะสูงขึ้นในช่วงรอบกลางเกือบปลาย ทำให้จำเป็นต้องมีการเค้นกำลังในช่วงต้น ยิ่งเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ยิ่งสูบเยอะยิ่งทำงานตอบสนองได้ช้า จึงจำเป็นต้องเน้นช่วงออกตัวมากขึ้นมาชดเชยกำลังที่จะมาในรอบสูง

                แม้นี่เป็นข้อเท็จจริง ที่อาจจะปฏิเสธไม่ได้ แต่ในแง่หนึ่งมันก็เลยทำให้   Pajero Sport  V6  สูญเสียความจัดจ้านในยามเดินทางออกไป แต่เมื่อมองว่านี่เป็นรถยนต์นั่งมันก็ลงตัว เพราะไม่ได้เกิดมาเป็นรถสปอร์ต

 

สรุปสมรรถนะและความประหยัด จะเป็นเช่นไร 

                หลังจากขับขี่มาถึงหัวหอน การเดินทางไกลสุดท้าทาย บนหน้าปัดก็โชว์น้ำมันลดจาก 1 ส่วน 4  ของถังเล็กน้อย ซึ่งถ้ามองจากการประมาณเบื้องต้น เราน่าจะใช้น้ำมันเพียงราวๆ  20 ลิตร ในการเดินทาง จากนนทบุรี ถึง หัวหิน ที่มีระยะทาง  233 ก.ม. กับปลายทางที่เราไป จะได้อัตราประหยัด อยู่ที่ 11.65 ก.ม./ลิตร เลยทีเดียว

                หลังจากขับไปมาเที่ยวเล่นในหัวหิน ก็เลยมาถึงย่านปรานบุรี ที่นี่มีถนนริมทะเลสุดสวย ชายหาดแสนงามที่กำลังถูกถมที่เป็นที่กันคลื่นอย่างน่าเสียดาย เส้นทางในวันธรรมดาที่ไร้รถ ทำให้มีโอกาส ทดสอบอัตราเร่ง  0-100 ก.ม./ช.ม. และเพื่อความแม่นยำ ขอแนะนำโปรแกรม Torque  ที่ต่อไปนี้จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยผมในการทดสอบรถต่อจากนี้ และเราได้ตัวเลข   12.9 วินาทีพอดี จากการนั่ง 2  คน

                โดยพร้อมกันนี้ยังมีโอกาสทดสอบอัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม.  ซึ่งกลับทำได้อย่างน่าประทับใจด้วยตัวเลข  8.43 วินาที ซึ่งเป็นสถิติที่เหมาะสม เมื่อเครื่องยนต์  V6  มาพร้อมกำลัง  219  แรงม้า รวมถึงการออกแบบเครื่องยนต์ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ

                เครื่องยนต์   6B31  อาจจะไม่ใช่เครื่องยนต์ที่น่าสนใจสำหรับใครหลายคน แต่สิ่งที่อยู่ใต้ฝากระโปรงของ Mitsubishi Pajero Sport V6  เป็นหนึ่งในสุดยอดวิศวกรรมที่คุณสามารถสัมผัสได้ในราคาเพียงล้านต้นๆ ทั้งที่ควรอยู่ในรถยนต์ราคาหลายล้านบาทด้วยซ้ำ

              Mitsubishi Pajero Sport V6

                ขุมพลัง V6  บล็อกนี้มาพร้อมกับการออกแบบห้องเผาไหม้แบบ Over Square  ด้วยกระบอกสูบขนาดกว้าง 87.6  ม.ม. มาพร้อมช่วงชักยาว 82.9 ม.ม. ซึ่งห้องสูบลักษณะนี้เน้นการทำกำลังแรงม้า มากกว่าแรงบิดแต่ก็สามารถเร่งได้อย่างว่องไวเช่นเดียวกัน จากช่วงชักที่สั้นกว่า

                สมรรถนะจากการวิศวกรรมห้องเผาไหม้ยังถูกผูกติดกับระบบวาล์วอัจฉริยะ Mivec  และปรับการทำงานของการทำงานทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย  แต่สามารถเลือกจังหวะได้เฉพาะฝั่งทางไอดีเท่านั้น เช่นเดียวกันบล็อกเครื่องยนต์ของ V6 ตัวนี้ยังทำจากอลูมิเนียม รวมถึงท่อไอดีจากคาร์บอนเรซิ่น พร้อมระบบ  Induction Control Valve สามารถปรับระยะทางเดินไอดี ให้สั้นหรือยาว ได้ตามการทำงานของเครื่องยนต์ โดยจะเปิดให้ระยะสั้นลง เมื่อรอบเครื่องทำงานถึง   3,600 รอบต่อนาที

                ทั้งยังออกแบบตำแหน่งวาล์วของ  EGR  ให้ห่างจากลิ้นเร่ง ทำให้มีอุณหภูมิต่ำลงช่วยในการเพิ่มอัตราประหยัดน้ำมันในการขับขี่จริงได้ และยังมีระบบลดการสั่งสะเทือนของเครื่องยนต์อัตโนมัติ ซึ่งทำให้เครื่องเดินนิ่งและเงียบด้วย

               Mitsubishi Pajero Sport V6

                จากเทคโนโลยีทั้งหมดที่กล่าวมาในเครื่องยนต์  V6  บล็อกนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่ Mitsubishi Pajero V6  จะมีอัตราประหยัดที่โอเคเกินคาด ยิ่งในตอนขากลับเราพบกลับพายุฝนโหม กระหน่ำในการเดินทาง ทั้งยังมาเจอสภาพการจราจรหนาแน่นย่านชานเมือง 

                แต่จนแล้วจนรอด เราก็สามารถขับ Mitsubishi Pajero Sport V6  ก็สามารถขับรถไปส่งคืน  Mitsubishi ได้ในวันรุ่งขึ้น ด้วยระยะเดินทางรวม 577  ก.ม. เมื่อรวมกับระยะทางอีก  60 ก.ม. ซึ่งสามารถขับได้อีก เมื่อไฟเตือนเติมน้ำมันเกิดขึ้น จากมาตรฐานของค่ายรถยนต์ทุกราย เราได้อัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 10.6  ก.ม./ลิตร จากการขับขี่ด้วยน้ำมัน E20

                อย่างไรก็ดียังมีอีกหลายสิ่งที่ Mitsubishi ควรพิจารณาปรับปรุงใน Mitsubishi Pajero Sport V6  เริ่มตั้งแต่ การให้รายละเอียดภายนอกมากกว่านี่ รวมถึงกุญแจ ที่ควรทำให้ดูดีกว่านี้ ถือแล้วรู้สึกว่าแตกต่าง ผมเคยบอกเรื่องนี้กับทางทีมงาน Mitsubishi  ไปแล้วรอบหนึ่งว่า ควรพิจารณากุญแจระบบ KOS  รวมถึงปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบเดียวกับรถเก๋งใน Pajero Sport

                และท้ายสุดที่ควรเร่งปรับปรุงโดยด่วน มีสองสิ่งสำคัญ นั่นคือ ระบบเครื่องเสียงที่ขอเสียงเบสเพิ่มมากขึ้นอีกหน่อย และปรับอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ลดลงเป็น 4.1  ก็น่าจะทำให้ Mitsubishi Pajero Sport  สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

                เมื่อมองแล้ว  Mitsubishi Pajero Sport  V6  เป็นรถที่เปี่ยมด้วยการออกแบบที่ลงตัว ออพชั่นที่มาขึ้น แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงต้องยอมรับว่ามันเป็นสมรรถนะจากเครื่องยนต์ที่เยี่ยมยอดจากค่าย Mitsubishi  และเมื่อสมรรถนะบรรจบกับการใช้งานที่ลงตัว ในราคาที่ไม่ได้สูงจนเกินเอื้อม ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอะไรที่แตกต่าง แต่ยังต้องการคุณภาพการใช้งาน

 

ผลการทดสอบ Mitsubishi Pajero Sport V6

รถยนต์ ที่ทดสอบ Mitsubishi Pajero Sport V6

ราคาจำหน่าย 1,305,000 บาท

 

ตารางแสดงการทำงานของเครื่องยนต์  V6

ความเร็วที่เดินทาง (ก.ม./ช.ม.)

การทำงานของเครื่องยนต์ ที่เกียร์ 5 (รอบต่อนาที)

80

1800

90

2,000

100

2,200

110

2,400

120

2,600

 

สถิติต่างๆ

อัตราเร่ง

เวลา (วินาที)

0-100 ก.ม./ช.ม.  

12.9

80-120 ก.ม./ช.ม.

8.43

 

 

 

ความเร็วสูงสุดในระหว่างการทดสอบ   168 ก.ม./ช.ม.

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย BONN – ณัฐยศ ชูบรรจง

เรื่องการทดสอบ  Mitsubishi Pajero Sport นำเสนอที่ Autodeft.com

ขอบคุณ รถทดสอบ Mitsubishi Pajero Sport V6  จาก บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

[GALLERY21]

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ