Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD พ่อบ้านสายลุย

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 22 ก.ย. 62 00:00
  • 20,432 อ่าน

นับตั้งแต่ตลาดรถอเนกประสงค์ SUV หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า PPV (Pickup Passenger Vehicle) เติบโตและได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น หนึ่งในรุ่นที่เราเห็นได้บ่อยตามท้องถนนมากที่สุดรุ่นหนึ่งคงหนีไม่พ้น Mitsubishi Pajero Sport จากค่ายตราเพชร ที่เริ่มวางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งประเทศไทยก็เป็นฐานการผลิตสำคัญ เพื่อการจำหน่ายในประเทศและการส่งออกไปยังหลากหลายภูมิภาคทั่วโลกอีกด้วย

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

ถ้านับตามจริงแล้ว Mitsubishi Pajero Sport ที่เปิดตัวใหม่ล่าสุดมาในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการปรับปรุงในระดับ Minor Change เท่านั้น โดยโฉมนี้นับเป็นโฉมที่ 3 ของรถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะแล้ว แต่สำหรับประเทศไทยอาจจะคุ้นตากันแค่ว่าเป็นโฉมที่ 2 เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว โฉมแรกในประเทศไทยนั้น ถูกเรียกว่าเป็น Mitsubishi Strada G-Wagon นั่นเอง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงหน้าตาในครั้งนี้ เลยทำให้บางคนอาจจเข้าใจผิดว่า รอบบี้คือการเปลี่ยนโฉมใหม่ระดับ Model Change ดังนั้นจึงขออธิบายกันตรงนี้ก่อนว่ามันไม่ใช่ เพียงแค่มันเปลี่ยนไปหลายอย่างเท่านั้นเอง

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ไม่นาน ทีมงาน AUTODEFT ก็ได้รับหมายเชิญมาเพื่อเข้าทำการทดสอบรถยนต์ใหม่ 2019 คันนี้ จากทาง บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จํากัด (ขอบพระคุณอย่างสูงครับ) โดยเส้นทางที่ได้รับแจ้งมาในหมายกำหนดการว่า จะเป็นแถวบริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อทดสอบการขับขี่แบบ Off-Road และเส้นทาง On-Road ปกติก็คือการมุ่งหน้าสู่แก่งกระจาน-หัวหิน ก่อนวนกลับมาที่ กทม. เมืองฟ้าอมรนั่นเอง

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

ธรรมเนียมก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เราก็ต้องมารับทราบข้อมูลเบื้องต้นของ Mitsubishi Pajero Sport กันก่อนเลย โดยทริปนี้เราจะได้ขับกันในรุ่น GT-Premium 4WD ที่เป็นตัวท็อปของรุ่นนี้แล้ว อย่างที่บอกครับว่ารอบนี้เป็นการปรับระดับ Minor Change เท่านั้น ดังนั้นตัวโครงสร้างและเครื่องยนต์ก็จะยังคงเป็นเหมือนเดิม โดยตัวเครื่องยนต์นั้น ยังคงเป็น MIVEC ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมวาล์วไอดีแปรผัน, เทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ พละกำลัง 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Sport mode และระบบ INC (Idle Neutral Control) G-Sensor ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อทรงประสิทธิภาพด้วยระบบ Super Select 4WD-II นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบล็อกเฟืองท้าย (Rear Differential Lock) ที่ทำงานร่วมกับระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง (Center Differential Lock) ซึ่งเป็นระบบที่ติดตั้งในรถอเนกประสงค์ไม่กี่รุ่น

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

มิติตัวรถของ Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD ถูกปรับไปเล็กน้อย  จากเดิมในรุ่น Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD Elite Edition ที่ขนาด 4,785 x 1,815 x 1,805 (ยาว x กว้าง x สูง) ฐานล้อกว้าง 2,800 มม. ระยะสูงของใต้ท้อง 218 มม. ความกว้างช่วงล้อหน้า 1,520 มม. ล้อหลัง 1,515 มม. ถูกปรับใหม่ให้เป็น 4,825 x 1,815 x 1,835 มม. ฐานล้อกว้างเท่าเดิมคือ 2,800 มม. ระยะสูงของใต้ท้อง 218 มม. เท่าเดิมเช่นกัน ส่วนน้ำหนักนั้นเบาลงเล็กน้อย เหลือเพียง 2,075 กิโลกรัม ส่วนของเดิมนั้นหนัก 2,095 กิโลกรัม หายไปเพราะยางอะไหล่ไม่มี เสริมมาเป็นชุดซ่อมยางเข้ามาแทนนั่นเอง ทำให้มีการลดขนาดของคอยน์สปริงด้านหลังให้มีขนาดเล็กลงเล็กน้อย ประมาณ 6 มม. เพื่อการบาลานซ์น้ำหนักให้เหมาะสมนั่นเอง ไม่ได้มีผลต่อการทรงตัวแต่อย่างใด ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แบบดับเบิ้ลวิชโบน คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบทรีลิงค์ ทอล์คอาร์ม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบเบรกใช้เป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างมากก็คือ ส่วนที่เป็นด้านหน้านั่นเอง โดยทางมิตซูบิชิ คงอยากจะให้มี DNA เดียวกันในทุกรุ่น เลยมีการปรับก้านหน้าใหม่ให้เหมือน ไม่สิ คล้ายดีกว่า กับตัว Mitsubishi Xpander กับ Triton ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ ที่เขาเรียกว่า Advance Dynamic Shield ทำให้ Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD มีการเปลี่ยนหน้าใหม่ โดยไฟหน้าเป็นแบบ Bi-LED ที่โคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ ตัดขอบด้านล่างโคมด้วยแถบไฟ Daytime Running Lights เอาจริงก็คล้ายกับตัวเดิมแหล่ะ แต่ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือส่วนด้านล่าง ที่อยู่บนแผงกันชน เขาให้เรียกว่า New Combination Lamps ที่มีช่องไฟแบ่งเป็น 3 ชุด ประกอบไปด้วยอันบนสุดเป็นไฟเลี้ยว ช่องตรงกลางเป็น ไฟส่องสว่างขณะเลี้ยว ส่วนล่างสุดเป็นไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED สวยหรือไม่สวยก็ตัดสินใจกันเอาเอง ส่วนไฟท้ายนั้น ถูกตัดให้สั้นลงจากรุ่น Elite Edition โดยเป็นการตัดด้านล่างขึ้นไป เป็นไฟแบบ LED ส่วนตัวผมว่าเท่านี้กำลังดี อันแบบยาว ๆ เหมือนไม้เท้า 2 ข้างนี่ดูไม่ใช่สำหรับผมเลย

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

ด้านในของ Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD นั้น ที่มีการ้เปลี่ยนแปลงเป็นสำคัญคือ ตัวหน้าจอมิเตอร์แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว หลายสี (ไม่รู้กี่สี) ที่มีความเก๋ไก๋ตรงที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ เริ่มจากแบบแรกที่เข็มความเร็วเป็นตัวหลัก และตัววัดรอบเป็นตัวประกอบอยู่ด้านข้างแบบขีดสีขึ้นลง แบบที่สองก็สลับกันระหว่างวัดรอบกับความเร็ว ส่วนอันสุดท้าย ที่ผมใช้งานแล้วชอบสุด ๆ ก็คือรูปแบบที่ทั้งความเร็วและวัดรอบกลายเป็นลูกบิด บอกสถานะในการขับขี่ตอนนั้น มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เท่สุดก็คงเป็นตรงกลางของหน้าจอ จะมีเป็นภาพของด้านหลังของรถ เมื่อเรากดเบรกเมื่อไหร่ ไฟเบรกจะติดรวม 3 ดวงในหน้าจอด้วย เก๋ที่สุดใน 8 โลก

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

ส่วนแผงตรงกลางของ Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD ตัวแอร์นั้นถูกปรับใหม่ให้เป็นแบบอัตโนมัติแยกโซนซ้าย-ขวา เพิ่มเติมความหรูหราด้วยระบบฟอกอากาศ Nanoe ที่ช่วยกรองอากาศระดับ PM2.5 ได้ ขยับมาที่หน้าจอ Infotainment ก็เป็นเซ็ตใหม่ที่มีความสวยงามมากกว่าเดิม ขนาด 8.0 นิ้วระบบสัมผัส มีระบบ Smartphone-Link Display Audio (SDA) ที่รองรับการใช้งาน Apple CarPlay และ Android Auto (ถ้าเปิดให้ใช้งานในเมืองไทยเมื่อไหร่ ก็สามารถใช้งานได้ทันที) ด้านล่างมีช่อง USB ให้ 2 ช่อง แถม HDMI อีกช่อง (น้ำตาจะไหลด้วยความดีใจ) บอกเลยว่าภาพรวมหน้าตาของแผงตรงกลางนี่มันยกระดับมากกว่าตัวเก่าขึ้นเยอะเลย เพราะก่อนหน้านี้ในรุ่น Elite Edition นั้น แทบจะยกมาจาก Mirage มาเลย ทั้งที่ราคาต่างกันเท่าตัว ขยับไปด้านหลัง หน้าจอใหม่สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เพิ่มขนาดให้เป็น 12.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD (720) มีช่อง HDMI และ USB มีสาย Dongle เพื่อรับสัญญาณจากโทรศัพท์มือถือแล้ว Clone หน้าจอจากมือถือมาขึ้นที่จอในรถ (ลองแล้ว เจ๋งจริง) แผงตรงกลางมีช่องเสียบปลั๊กไฟบ้าน AC150 วัตต์ แถมช่อง USB อีก 2 ช่อง (น้ำตาไหลอีกรอบ)

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

ปกติแล้วใน Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD  ก็มีระบบความปลอดภัยเยอะพอตัวแล้ว แต่งวดนี้ไม่อยากให้น้อยหน้าใคร เพิ่มระบบความปลอดภัยเสริมเข้ามาอีกทั้ง ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา BSW - Blind Spot Warning, ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน LCA - Lane Change Assist, ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด RCTA - Rear Cross Traffic Alert, ระบบเบรกมือควบคุมไฟฟ้าอัตโนมัติ APB – Auto Parking Brake, ระบบ BAH - Brake Auto Hold มาเสริมจากเดิมที่มี ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบเบรกแบบ ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบเสริมแรงเบรก BA, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล Active Stability and Traction Control (ASTC) , ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC), ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว Forward Collision Mitigation (FCM) , ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว Ultrasonic misacceleration Mitigation (UMS), สัญญาณกะระยะจอด, กล้องมองภาพรอบคัน Multi Around Monitor พร้อมเส้นกะระยะและเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ รวมทั้ง ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

อีกจุดสำคัญที่ดีต่อใจอย่างมาก ก็คือ Electric Tailgate หรือประตูหลังไฟฟ้านั่นเอง เป็นระบบไฟฟ้าไม่พอ ยังมีระบบ Hand-Free ที่ให้เราสามารถเปิดประตูได้ด้วยการเตะไปที่ช่องว่างท้ายรถนั่นเอง แต่กับใน Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD นั้น จะแตกต่างจากรุ่นอื่นที่มีเหมือนกัน ตรงที่เซ็นเซอร์ของส่วนใหญ่จะอยู่ตรงกลาง แต่ของรถอเนกประสงค์ PPV คันนี้จะอยู่ที่มุมทั้ง 2 ข้าง โดยทางมิตซูบิชิให้เหตุผลว่า ถ้ามันอยู่ตรงกลาง เวลาเราเตะเพื่อสั่งให้เปิดแล้ว เราก็ต้องถอยหลังเพื่อหลบประตูที่กำลังจะยกขึ้นมา แต่ถ้ามันอยู่ด้านข้าง เราก็ไม่ต้องหลบ ก็ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ทางค่ายตราเพชรให้ความเอาใจใส่ทุกรายละเอียด

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

เอาล่ะ ข้อมูลพร้อมแล้ว ผมเองก็พร้อมแล้ว เรามาเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่าครับ โดยเส้นทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันที่แถวสาทร ก่อนที่จะขึ้นทางด่วนแถวสะพานสาทร ก่อนที่จะไปลง ถ. พระราม 2  แล้วมุ่งหน้าไปทาง จ. เพชรบุรี แล้ววนเข้าเส้นมุ่งหน้าไปแก่งกระจานแถวอ. เขาย้อย เพื่อไปจบจุดหมายปลายทางที่ ห้วยคมกฤต ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวมระยะทางก็ราว 180 กิโลเมตร สามารถลองได้ทุกสภาพถนน ทั้ง On-Road และ Off-Road ทุกสภาวะการจราจร ทั้งในเมือง รถติด วิ่งยาว และทางขรุขระ ถือเป็นเส้นทางที่ตอบโจทย์ในการทดสอบรถจริง ๆ

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

อย่างที่บอกไปแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD จะเป็นเพียงการปรับย่อย หรือ Minor Change ดังนั้นการขับขี่ การทรงตัวอะไรก็ยังคล้ายแบบเดิม คืออัตราเร่งนั้นไม่ได้ถูกเซ็ตมาให้วิ่งพุ่งปรู๊ดปร๊าด แต่เพิ่มความเร็วได้ประดุจผู้ใหญ่พลังม้า ที่ทะยานไต่ความเร็วไปได้แบบสุขุมนุ่มลึก สนุกได้ยางช่วงด้วยการใช้ Paddle Shift เพื่อเปลี่ยนเกียร์ให้เครื่องยนต์สนองความต้องการได้รวดเร็วทันใจเราได้มากขึ้น ช่วงล่างยังเหนียวหนึบเกาะกับถนนได้ดียามวิ่งด้วยความเร็วสูง ช่วงเข้าโค้งอาจจะมีบ้างในการโยนตัวช่วงท้ายครมอาการทั่วไปของรถอเนกประสงค์ที่มีความสูง ส่วนที่บอกว่า สปริงด้านหลังมีการปรับลดลง 6 มม. เพื่อให้การเกลี่ยน้ำหนักที่ลดลงไปของยางอะไหล่ที่หายไปลงตัว เท่าที่จับได้ ไม่ได้มีผลกับการทรงตัวหรือความตุ่มนวลให้มากขึ้นหรือลดลงอย่างเห็นได้ชัดแต่อย่างใด

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

สำหรับที่นั่งบน Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD นั้น ขนาดมันนั่งสบายอยู่แล้ว กับ 3 แถว 7 ที่นั่งแบบ 2:3:2 โดยแถวที่ 2 พับเบาะได้แบบ 60:40 ส่วนแถวสุดท้ายแบบ 50:50 ส่วนการรั่วบนแถว 1-2 ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่แถว 3 นั้นพอนั่งได้ คนตัวใหญ่อย่างผมนั่งชั่วครั้งชั่วคราวแบบบางกะปิไป 5 แยกลาดพร้าวอะไรประมาณนี้พอได้อยู่ แต่ถ้าให้นั่งยาวประมาณ กทม.-นครสวรรค์อะไรประมาณนี้น่าจะไม่ไหว หัวก็ติดเพดานพอดี ขึ้นคอสะพานแรงหัวมีชน นอกจากเนื้อที่ที่พอดีตัวยักษ์อย่างผมแล้ว เท้ามันก็วางสูงกว่านั่งแถว 2 ทำให้มีการชันเข่าขึ้นมามากกว่าเดิม ขอบายไปขับเองดีกว่า แต่ถ้าหุ่นสลิมเป็นน้องญาญ่า ผมว่านั่งสบายตลอดการเดินทาง

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

ขยับเข้ามาที่ถนน On-Road เลยดีกว่า ซึ่งวันนี้เราจะบุกเข้าไปในพื้นที่แถบห้วยคมกฤต ส่วนหนึ่งในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานที่มีพื้นที่ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 1,821,687.84 ไร่ หรือ 2,914.70 ตารางกิโลเมตร เส้นทางที่เราเดินทางไปนั้น จะแยกออกจากตรงแถวแคมป์บ้านกร่างที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดี แต่เส้นทางนี้นั้น ไม่ได้เปิดเป็นการทั่วไป ต้องมีการขออนุญาตอย่างเป็นทางการ และต้องเข้าไปสร้างประโยชน์ให้กับทางกรมอุทยานด้วย โดยรอบนี้ทางบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จํากัด ก็ได้ร่วมเข้าไปสร้างโป่งเทียม รวมถึงฝายชะลอน้ำ เพื่อให้เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า อาทิ ช้าง, หมี, กระทิง เป็นต้น จะได้ไม่ต้องไปสร้างความเดือดร้อน ลักขโมยกินผลผลิตของชาวบ้านด้านล่างอย่างที่เป็นข่าวมาโดยตลอด ถนนแถบนี้เป็นทางดินครับ อาจจะมีบางช่วงที่เป็นกรวออยู่บ้าง ดังนั้นการเข้ามาในเส้นทางนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเดินทางเข้ามาด้วยรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ รวมทั้งกำลังของเครื่องยนต์ก็ต้องมากด้วย ไม่อย่างนั้นได้ไปแย่งโป่งกินกับช้างแน่นอน ซึ่งใน Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD นั้น จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เรียกว่า Super Select 4WD II ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนที่เลือกได้มากกว่า และละเอียดกว่าทั่วไป โดยมีทั้ง

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

  • 2H-2WD HIGH-RANGE ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อที่เหมาะกับการใช้งานถนนปกติทั่วไป ใช้การขับเคลื่อนเฉพาะ 2 ล้อหลังเท่านั้น ให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน เพราะกำลังของเครื่องยนต์ทั้งหมด 100% จะถูกส่งไปเฉพาะที่ล้อคู่หลัง
  • 4H-4WD HIGH-RANGE เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็ว โดยระบบจะส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปทั้งล้อหน้า 40% และล้อหลัง 60% บนถนนแห้ง และล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เมื่อถนนเปียกลื่น  โดยระบบ Torsen (Torque-Sensitive Type) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนให้มากขึ้น เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง ในตำแหน่งนี้ระบบจะทำงานแบบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-time All Wheel Control
  • 4HLc-4WD HIGH-RANGE WITH LOCKED TRANSFER จะเป็นระบบที่มีการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Locked ทำหน้าที่ในการส่งกำลังในอัตราส่วนล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลาสำหรับใช้ในเส้นทางทุรกันดาร แต่ยังสามารถใช้ความเร็วได้บนเส้นทางที่มีพื้นผิวแบบลื่นไถล
  • 4LLc-4WD LOW-RANGE WITH LOCKED TRANSFER ตัวระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Locked ทำหน้าที่ในการส่งกำลังในอัตราส่วน ล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลา และเกียร์ส่งกำลัง (Transfer Gear Ratio) จะเพิ่มอัตราทดให้สูงขึ้น ช่วยทำให้กำลังการขับเคลื่อนมีมากขึ้น เหมาะสำหรับสภาพเส้นทางที่ทุรกันดารมาก ๆ และมีโคลน หรือเส้นทางแบบมีเนินสลับ และมีความลาดชันมาก ๆ ใช้ความเร็วต่ำ เน้นส่งแรงบิดไปที่ล้อให้ได้มากที่สุด

เท่านั้นยังไม่พอ ในระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เรายังสามารถเลือกพื้นผิวถนนให้เหมาะสมได้อีกด้วย ทั้ง Gravel, Sand, Mud/Snow, Rock (เฉพาะ 4LLc-4WD) ระบบจะทำการคำนวนให้ล้อนั้นหมุนได้เหมาะกับพื้นที่เราเลือกเอาไว้นั่นเอง

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD มีกำลังเครื่องที่แรงเหลือเฟือ รวมทั้งระบบขับเคลื่อนที่ทำงานได้ดีมาก ถึงแม้ว่าเส้นทางของเราในวันนี้จะมีความทุรกันดารอย่างมาก แถมยังมีฝนตกพรๆตลอดทั้งวัน จึงเพิ่มความลื่นกันตลอดเส้นทาง แถมด้วยการลุยลำธารน้ำครึ่งล้ออีก แต่พวกเราชาวคณะสื่อมวลชนก็สามารถเดินทางเข้าไปจนถึงปลายทางได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร บอกได้เลยว่า ต่อให้คุณมีทักษะในการเดินทางถนน Off-Road ไม่มาก คุณก็สามารถเดินทางเจ้าเส้นทางแบบนี้ได้อย่างสบาย เพราะรถมันคิดให้เองหมด เราทำหน้าที่เพียงขับไปตามเส้นทางที่มี ด้วยความใจเย็นเท่านั้นเอง

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

หลังจากบุกดงพงไพรกับ Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD เรียบร้อยแล้ว เราก็มาเดินทางกันในถนน On-Road กันต่อ อีก 1 ออพชั่นในการเดินทางที่เราชอบกันมากก็คือ หน้าจอในส่วนของระบบนำทางมีบอกด้วยว่า อีกกี่กิโลเมตรจะถึงปั๊มน้ำมัน แฮร่ ธรรมดาไปครับ ในรถยนต์อเนกประสงค์คันนี้มีบอกด้วยครับว่าอีกกี่กิโลเมตรจะผ่านกล้องจับความเร็วนะ ถ้าจะถึงแล้วก็ช่วยชะลอหน่อย และเมื่อระยะทางเหลืออีกประมา 100-200 เมตร หน้าจอจะทำการส่งเสียงดังลั่นรถ เพื่อบอกว่า “เฮ้ย นาย เบาทรีนหน่อย จะโดนยิงแล้วเฟ้ย” เราก็ชะลอให้อยู่ในความเร็วที่กำหนด เท่านี้ก็ปลอดภัยจากใบสั่งแล้วนายจ๋า แต่ต้องบอกว่าไม่สามารถแจ้งที่เป็นแบบยิงจากข้างพุ่มไม้ได้นะ ระบบมันจับตาม Location ที่ผู้จัดทำกำหนดเอาไว้เท่านั้นจ้า เอาเป็นว่า ขับกันในความเร็วไม่เกินกำหนด ปลอดภัยสุดละ

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

สิ่งที่เสริมเข้ามาอีกใน  Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD รอบนี้ ก็คือ Mitsubishi Remote Control แอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่ช่วยให้การใช้งานรถสะดวกขึ้นเยอะ เพราะมันสามารถช่วยได้ทั้งการตรวจสอบสถานะของรถ ไม่ว่าจะเป็นประวัติการใช้รถ, ระยะทางการเดินทาง, อัตราประหยัดน้ำมัน เป็นต้น ช่วยเตือนเราเมื่อลืมล็อกรถ, ลืมปิดไฟหน้า ได้ สั่งการให้ล็อกประตู หรือปิดไปฉุกเฉินได้ สามารถสั่งให้เปิดประตูหลังอัตโนมัติได้ อย่างเช่นถ้าเรากำลังจะถือของออกจากห้างเพื่อไปที่รถ เราก็กด “จอง” การเปิดประตูท้ายเอาไว้ก่อนล่วงหน้า (ไม่เกิน 20 นาที) แล้วเราก็ถือของเต็มไม้เต็มมือเดินไปที่รถได้เลย และเมื่อรถตรวจจับเจอสัญญาณจากกุญแจรถเมื่อไหร่ รถจะเปิดประตูท้ายให้ทันที ไม่ต้องเตะ ไม่ต้องกดอะไนทั้งสิ้น เอาของไปวางได้เลย

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

จบทริปการเดินทางรอบนี้ กับระยะทางไปกลับ รวมนั่งและขับก็อยู่ที่ประมาณเกือบ 400 กิโลเมตรได้ สรุปได้ว่า

ชอบ

  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ  Super Select 4WD II ที่ทำให้การเดินทาง Off-Road กลายเป็นเรื่องง่าย
  • ช่วงล่างที่หนึบ เกาะถนนดีไม่เคยเปลี่ยน
  • หน้าจอแบบใหม่ รองรับ Apple CarPlay แถมระบบนำทางมีเตือนกล้องจับความเร็วด้วย (แฮร่)
  • หน้าปัดแบบใหม่ มีรูปรถที่แสดงไฟเบรกได้ด้วย
  • Brake Auto Hold คือความดีงามในยามใช้ช่วงรถติด

ไม่ชอบ

  • Paddle Shift ที่มันไม่หมุนตามพวงมาลัย เวลาอยากเปลี่ยนเกียร์ตอนเข้าโค้ง จะใช้ยาก
  • ไม่มียางอะไหล่ จะลุยป่าคงต้องซื้อมาติดเพิ่ม

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

อย่างที่บอกย้ำกันเสมอครับ ว่าการออกรถยนต์ใหม่ 2019 ของ Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD รอบนี้เป็นการปรับเปลี่ยนแบบ Minor Change เท่านั้น โครงสร้างกับเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นตัวหลักในการขับขี่ยังคงเป็นตัวเดิม ดังนั้นการขับขี่เลยคล้ายของเดิมเกือบทุกอย่าง แต่เพิ่มความดีงามด้วยออพชั่นมากมายอย่างที่บอกมาทั้งหมด ตั้งราคาขายเอาไว้ที่ 1,599,000 บาท เพิ่มจากตัว Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD Elite Edition มีค่าตัวอยู่ที่ 1,574,000 บาท เพียง 25,000 บาท แต่เพิ่มออพชั่นมาอีกเพียบ แค่กระโปรงท้ายไฟฟ้าก็เกินคุ้มแล้ว ผมถือว่าเป็นรถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัว ที่สามารถเอาไปลุยได้พอสมควรเลย ลองนึกดูว่า ถ้าคุณเป็นคนมีครอบครัว มีลูก 2 คน คุณสามารถนั่งรถคันนี้ไปด้วยกัน แล้วพาลูก ๆ ไปกางเต็นท์นอนรับความเย็นที่ยอดเขากระโจม หรือไปดูทะเลหมอกที่เขาพะเนินทุ่งได้อย่างสบาย เสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวให้เด็กน้อยของคุณได้อย่างเต็มที่แบบไร้ขีดจำกัดจริง ๆ

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

Mitsubishi Pajero Sport GT-Premium 4WD

ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ