Test Drive : รีวิว ทดลองขับ New MG HS ขับสั้นๆ เอสยูวีทรงสปอร์ตสไตล์ยุโรป
- โดย : Autodeft
- 10 ก.ย. 62 00:00
- 15,981 อ่าน
ค่ายรถยนต์สายพันธุ์ยุโรป (เจ้าของทุนจีน) อย่าง MG (Morris Garage) ลงหลักปักฐานตลาดเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบด้วยการส่งรถรุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2562 นี้ เริ่มต้นด้วย MG V80 รถตู้โดยสาร 11 ที่นั่งสำหรับครอบครัวยุคใหม่, MG ZS EV ครอสโอเวอร์พลังไฟฟ้า 100 % ที่มียอดจองสูงนับตั้งแต่เปิดตัว, MG Extender กระบะไซส์ยักษ์ที่กำลังได้รับการตอบรับอย่างดีจากสิงห์รถกระบะชาวไทย
ล่าสุดทาง เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) เชิญเข้าร่วมกิจกรรม MG Sneak Preview หรือการทดลองขับรถยนต์รุ่นใหม่ก่อนเปิดตัวนั่นเอง โดยสมาชิกลำดับที่ 4 ที่จะเปิดอีกไม่กี่วันนี้มาในร่าง Compact SUV มาแทน MG GS ที่ทำตลาดมายาวนาน ในเจนใหม่ ชื่อใหม่ MG HS
ภายนอกขัดเกลาดีไซน์ให้มาเป็นรูปแบบหล่อเหลาสปอร์ต จากต้นแบบ MG X-motion Concept ที่ได้โชว์ตัวที่งาน Beijing Motor Show 2018 จนผสมผสานออกมาในรูปร่างCompact SUV ระดับหรู ในแบบ “Starlit Shield Front Grill” เริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม V-type เอกลักษณ์ประจำค่าย MG มาพร้อมไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL LED ในโคมเดียวกัน โดยไฟตำแหน่งไฟ DRL LED ยังทำหน้าที่เป็นไฟเลี้ยวแบบวิ่งหรือที่เรียกกันว่า Sequential ลงตัวด้วยชุดกันชนหน้าและไฟตัดหมอกหน้าติดตั้งจากโรงงาน ดีไซน์ด้านข้าง เน้นความสปร์อตโค้งมามากขึ้นตั้งแต่เสา A ไปจนถึงเสา D หลังคารถที่ลาดลงกับซุ้มล้อขนาดใหญ่สีดำล้ออัลลอย 5 ก้านคู่สีทูโทนขนาด 18 นิ้วพร้อมยางจากค่าย Goodyear EfficientGrip ขนาด 235/50 R18 ด้านท้ายสวยขึ้นด้วยไฟท้าย LED และไฟเลี้ยวแบบวิ่งหรือที่เรียกกันว่า Sequential ในโคมเดียวกันพร้อมติดตั้งสปอยเลอร์หลังแบบดีไซน์เพียวสปอร์ต ราวหลังคาสีเงินและประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
มิติตัวรถเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม MG GS จะพบว่าตัวรถตัวรถใหญ่กว่าทุกมิติ ตั้งแต่ความยาว 4,574 มม. ความกว้าง 1,876 มม. ความสูง 1,664 มม. ระยะฐานล้อ 2,720 มม.
ภายในสำหรับเวอร์ชั่นไทยมาพร้อมความหรูหราดุจรถยนต์พรีเมี่ยมระดับหรูด้วยตกแต่งภายในโทน ดำ-แดง ทั้งคันตั้งแต่แผงประตู คอนโซลหน้า คอนโซลเกียร์ โดยและเบาะนั่งทรงสปอร์ตคู่หน้าปรับไฟฟ้า ตกแต่งหุ้มวัสดุผิวสัมผัสหรือ Soft Touch แนวรถยุโรปชั้นนำกันเลยทีเดียว หลังคา Panoramic ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.19 ตร.ม. พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสปอร์ตท้ายตัด 3 ก้าน พร้อมมาตรวัดเรืองแสงขนาดใหญ่ที่ตรงกลางแสดง MID ข้อมูลตัวรถแบบสี คอนโซลกลางติดตั้งระบบความบันเทิงแบบจอสัมผัส 10 นิ้ว พร้อมลำโพงไฮเอนด์ ชูความเป็น I-Smart ที่สามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music ค้นหาร้านอาหารและที่พัก รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันจากเว็บไซต์ดังได้บนหน้าจอในรถ รวมถึงช่วยให้ผู้ขับขี่กับรถสามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสั่งการ ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย สามารถสั่งการให้โทรออก เปิด-ปิดหรือควบคุมระบบปรับอากาศ สั่งเปิดหลังคา Panoramic ฯลฯ สร้างบรรยากาศด้วยไฟในห้องโดยสารเลือกได้ 64 สี ชูความเป็น I-Smart รวมถึงห้องโดยสารที่กว้างขวางใหญ่โตด้วยเบาะหลังสามารถสามารถปรับเอนได้นิดหนอ่ยและพับได้แบบ 60 : 40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกของได้อย่างสบายและชูจุดเด่นได้ว่าที่นั่งด้านหลังนั่งสบายด้วยพื้นที่วางขาและพื้นที่หลังคาอยู่ในตำแหน่งที่สูงขนาดผมสูง 174 ซม. ยังมีพื้นที่เหยียดขาได้อย่างเต็มที่
สำหรับเมืองไทยแน่ชัดแล้วว่าใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ TGI-TECH จ่ายน้ำมันด้วยระบบ GDI (Gasoline Direct Injection) ขนาด 1.5 ลิตร รหัส I5E4E 169 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตัเมตร ที่1,700-4,400 รอบ/นาที พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ TST 7 สปีด พร้อม Sportronic ขับเคลื่อนล้อหน้า
ด้วยตัวรถยังไม่เปิดตัว MG จึงจัดทดลองขับก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ ศูนย์สร้างประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ MG ถนนศรีนครินทร์ (MGD Driving Experience Center) ศรีนครินทร์ ด้วยตัวรถเป็นแบบ Compact SUV 5 ที่นั่ง อัตราเร่งตอบสนองอย่างดียิ่งตั้งแต่ช่วงต้นและขับยาวๆ คือดีกว่าตอนขับรุ่น GS 1.5 T ถ้าอยากสนุกมากขึ้น ยังมี Mode การขับขี่ให้เลือกทั้งโหมด Normal, Eco , Sport และพิเศษ ปุ่ม Super Sport สีแดง ใต้พวงมาลัยเพิ่มอรรถในการขับขี่ที่สนุกสนานกว่า ระบบช่วงล่างของ MG HS คาดว่ายังคงใช้ช่วงล่างหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบอิสระมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง สำหรับการขับรอบสนาม 2 รอบ ประสิทธิภาพการเกาะถนนทำผลงานได้ดีเยี่ยมให้ความหนึบแน่น อาการหน้าลื่น ท้ายปัด แทบจะไม่มี ถือว่าการปรับเซ็ตมาได้ดีเยี่ยมแบบรถยุโรปรวมถึงความคมของพวงมาลัยที่ใช้ระบบไฟฟ้าให้น้ำหนักดีทั้งในความเร็วต่ำจนถึงความเร็วสูง
ด้านระบบความปลอดภัย MG ให้ความสำคัญและครั้งนี้จัดเต็มเพื่อข่มขวัญคู่แข่งไม่ว่าจะเป็น ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist), ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning), ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning), ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist), ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection), ระบบเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) รวมถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System )และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descend Control System) กล้องรอบคัน 360 องศาสามารถมองจอแบบ 3 มิติได้ รวมถึงระบบการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) พร้อมระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ตลอดจนถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 จุด
ต้องยอมรับเลยว่าคุณภาพในการประกอบของรถยนต์ MG ช่วงหลังๆเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้นโดยเฉพาะ MG HS ใช้วัสดุที่มีคุณภาพกว่าเดิม ประกอบเนียบขึ้นถึงบางจุดอาจดูไม่เรียบร้อยบ้าง การออกแบบดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในที่จับรถยนต์ยุโรปหลายรุ่นมาปั่นใส่เครื่อง มูลิเน็กซ์ ออกมาได้สวยงามตามสไตล์ Brit Dynamic ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ที่มาประจำการในรุ่นนี้ให้ความมั่นใจในการออกตัวเร่งแซงคล่องแคล่ว รวมถึงการทำงานเกียร์ 7 สปีดที่ไหลลื่นไม่กระตุกถึงแม้จะเป็นแบบคลัตช์คู่ก็ตาม (แต่แอบเสียดายว่าจะมีรุ่น AWD ทำตลาดด้วยหรือไม่)
รวมถึงออพชั่นที่ให้มานั้นสู้ได้เมื่อเทียบกับคู่กัดพิกัดเดียวกันแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะเปิดตัวในวันที่ 25 กันยายนนี้ จับตาดูว่าราคาจำหน่ายจะอยู่ในระดับไหนแต่ขอคาดการณ์ได้เลยว่าจะอยู่ในระดับ 9 แสน-1.2 ล้านบาท
เรื่องและขับทดสอบโดย นายเต้ย
ขอขอบคุณ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญทีมงาน Autodeft.com เข้าร่วมกิจกรรมทดสอบรถยนต์เอสยูวี New MG HS
ชม Gallery รีวิว ทดลองขับ New MG HS ได้ที่นี่ !!
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com