Test Drive : รีวิว ทดลองขับ MG Extender DC 2.0 GRAND 4WD X 6AT กระบะพันธุ์ยักษ์ หรู แกร่งสไตล์ยุโรป

  • โดย : Autodeft
  • 11 พ.ย. 62 00:00
  • 11,779 อ่าน

หลังจากเปิดตัวรถกระบะ MG Extender อย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมากลายเป็นรถกระบะรุ่นแรกของค่าย Morris Garage หรือ MG ชูจุดเด่นในเรื่องมิติตัวถังที่กว้างและกระบะท้ายที่ยาวกว่าใครในบรรดาคู่แข่งเดียวกันจนเป็นที่สนใจสำหรับสิงห์รถกระบะชาวไทย เป็นจำนวนมากและเพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความเป็น “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ทาง MG จึงจัดกิจกรรมทดลองขับอีกครั้งบนเส้นทางออนโรดและออฟโรด โ

MG Extender

MG Extender DC 2.0 GRAND 4WD X 6AT พระเอกน้องใหม่รายนี้หล่อคมคาย ออกแบบคมเข้มขึ้นภายใต้แนวคิด Brit Dynamic ด้วยมิติตัวถังขนาดใหญ่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบโมเดิร์นดีไซน์รังผึ้งขอบโครเมี่ยม พร้อมไฟหน้า Projector LED กับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime และยังปรับเลี้ยวตามองศาพวงมาลัยอัตโนมัติ AFS ซึ่งระบบนี้จะอยู่แต่ในรถยุโรปพรีเมี่ยม รับกับกันชนหน้าพร้อมชุดแต่งเสริมใต้กันชนหน้า ไฟตัดหมอกหน้าแนวตั้งให้ความน่าเกรงขาม ดุดัน ลงตัว ด้านข้างแข็งแกร่งด้วยคิ้วขอบล้อทรงบึกบึนขึ้นรูป Built-IN พร้อมล้ออัลลอย 6 ก้านคู่ใหญ่สุด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60 R18 จาก Bridgestone Dueler H/T กระจกมองข้างปรับพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัวและที่เปิดประตูโครเมี่ยม

MG Extender

ด้านท้ายแกร่งตามเทรนด์กระบะสมัยนี้ด้วยกันชนท้ายสีเดียวกับตัวรถดีไซน์เป็นหนึ่งเดียวออกแบบให้มีช่องไฟที่เนียนเหมือนกับรถเก๋ง กล้องมองภาพรอบทิศทางซ่อนรอบตัวรถถึง 4 จุด ทำงานร่วมกับสัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ไฟท้ายดีไซน์ทันสมัยสีขาวแดง ติดตั้งโลโก้ MG ขนาดใหญ่สไตล์ยุโรป ราวหลังคาสีเงินและบันไดข้างดีไซน์ขึ้นรูปแต่ทว่าเสาอากาศหายไปเพราะ MG ต้องการให้ตัวรถแกร่งเรียบเนียนไม่เป็นรองใครจึงติดตั้งเสาอากาศแบบฝังกระจกหน้ารถไว้

มิติตวัรถในร่าง 4 ประตูขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ MG เคลมว่าใหญ่กว่าเจ้าอื่นๆ มีมิติตัวรถดังนี้ ความยาว 5,365 มม. ความกว้าง 1,900 มม. ความสูง 1,850 มม. ฐานล้อ 3,155 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 183 มม. น้ำหนักรถ 2,050 กก. และความจุถังน้ำมัน 73 ลิตร

 

MG Extender

MG Extender

MG Extender

ด้วยตัวรถที่กว้างกว่าใครทำให้ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบายตามไปด้วย ออพชันที่ให้มาครบเครื่องทัดเทียมกับเจ้าตลาดด้วย เบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้าปรับได้ 6 ทิศทางครั้งแรกในรถระดับเดียวกัน โครงสร้างเบาะหน้าโอบกระชับ แต่หัวหมอนศรีษะกลับดันหัวสร้างความอึดอัดพอควร เบาะหลังพับได้แบบ 100 % นั่งสบายเพราะตัวเบาะออกแบบตำแหน่งไม่ชันมากพร้อมหมอนศรีษะ 3 จุด ที่ท้าวแขนและที่ว่างแก้วในตัวและที่วางขามีพื้นที่ยาวเหยียดขาได้สบาย โดยให้วัสดุหุ้มเบาะกึ่งหนังแท้สีดำเดินด้ายแดง พร้อมช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังแต่เสียดายน่าจะให้ช่องเสียบ USB หรือช่องปลั๊กเสียบให้เอาใจคนรักการสื่อสารสมาร์ทโฟนเป็นอาจิณ และมือจับทั้ง เสา A เสา B ครบทุกจุดช่วยในการขึ้นลงรถได้สะดวก

สร้างความรู้สึกแข็งแกร่งผสมความสปอร์ตด้วยแผงคอนโซลหน้าสีดำเข้มตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน ทั้งขอบแอร์ คอนโซลกลาง ขอบที่เปิดประตู และขอบคอนโซลเกียร์ และเพิ่มความเรียบหรูด้วยวัสดุให้สัมผัสนุ่ม (SOFT TOUCH) ยังมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ครบครันอาทิ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านปรับสูง-ต่ำได้ กุญแจระบบ Smart Key พร้อมระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer และปุ่ม Push Start ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงการทำงานของตัวรถ MID

MG Extender

ไฮไลท์ประจำค่ายที่ยกเทคโนโลยีความบันเทิงจากรถยนต์นั่ง มาสู่รถกระบะด้วยหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว พร้อม ระบบปฏิบัติการ i–SMART เอกสิทธิ์เฉพาะ สามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสั่งการ หรือ SMART Command ผ่านระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่สามารถสั่งการให้โทรออก เปิด-ปิดหรือควบคุมระบบปรับอากาศ หน้าต่างฝั่งคนขับ ตลอดจนวิทยุภายในรถ รวมทั้งค้นหาจุดสนใจ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมหรือสั่งการระบบต่างๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีนภายในรถ หรือเลือกสั่งการบนสมาร์ทโฟนผ่าน MG Mobile Application การเชื่อมต่อ หรือ SMART Connect ที่สามารถเลือกฟังเพลงผ่าน Online Music ค้นหาร้านอาหารและที่พัก รวมทั้งเรียกดูข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ปัจจุบันจากเว็บไซต์ดังได้บนหน้าจอในรถ สามารถตรวจเช็คผลสลากกินแบ่งรัฐาบาลได้ และการตรวจเช็กรถ หรือ SMART Check โดยสามารถสั่งล็อกหรือปลดล็อกประตู ตรวจสอบตำแหน่งและค้นหารถ แจ้งความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทํางานของรถ รวมถึงระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ

MG Extender

MG Extender

ขุมพลังประจำกายของเจ้ากระบะพันธุ์ยักษ์ เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร รหัส 20D4N ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร ที่1,500-2,400 รอบ/นาที พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD Part Time มีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L โดยปรับเปลี่ยนจาก 2H เป็น 4H ได้ทันทีแต่ว่าความเร็วต้องไม่เกิน 80 กม./ชม.และยังลุยน้ำได้สูงสุด 550 มม.

MG Extender

MG Extender

MG Extender

หลังจากทดลองขับสั้นๆที่เขาใหญ่ ครั้งนี้ MG เลือกภาคเหนือเป็นสนามทดลองขับให้ผมได้รู้จักตัวตนของกระบะพันธุ์ยักษ์ได้อย่างเต็มรูปแบบเริ่มต้นการเดินทางจากพิษณุโลกไปยังลำปางและสิ้นสุดที่เชียงใหม่ ระยะทางรวม 376 กม. กับขุมพลังเล็ก 2 ลิตร 161 แรงม้าที่ต้องแบกน้ำหนัก 2 ตัน ออกตัวดีด้วยรอบต่ำๆ ตั้งแต่ 1,500 รอบ/นาที ส่วนความเร็วกลางๆจนถึงปลายไหลขับสบายๆ ถึงไม่ปรูดปราดเทียบเท่าเจ้าอื่นๆที่เน้นแรงม้าแรงบิดสูงก็ตาม แต่ช่วงคลิ๊กดาวน์เพื่อเร่งแซงกลับมีอาการหน่วงๆ ด้านระบบส่งกำลังอย่างเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดตัดต่อกำลังต่อเนื่อง สามารถเลือกโหมดการขับขี่ทั้งแบบ ECO และ PWR เพื่อเค้นกำลัง การทำงานเกียร์ +/- Engine Brake ทำงานดี ขึ้นเขาลงเขา กำลังมีเหลือเฟือ ด้านการเก็บเสียงทำได้น่าพอใจด้วยการออกแบบฉนวนกันเสียง 9 จุด แม้ความเร็วสูงๆราว 100-110 กม./ชม.ยังเงียบไม่มีเสียงเล็ดลอด

MG Extender

MG Extender

มาถึงเส้นทางโหดออฟโรดโดยใช้ เลือกเส้น ห้วยตึงเฒ่า –​ ขุนช่างเคี่ยน จ.เชียงใหม่ ที่ต้องเปลี่ยนระบบขับเคลื่อน 2 H เป็น 4H ในเรื่องการปีนไต่ ทางชันสูงๆ ทางขึ้นเนิน Walking Speed หรือรถเคลื่อนที่โดยไม่แตะคันเร่งกลับทำผลงานน่าพอใจ รวมถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist System ) จับอาการออกตัวได้ดี แต่ยังมาตกม้าตายระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descend Control System) กลับตอบสนองในการใช้งานไม่ค่อยพอใจเพราะตัวจับสัญญาณทำงานช้าไป โดยความจริงระบบน่าจะจับตั้งแต่เริ่มลงเนินเป็นครั้งแรก แต่ระหว่างระบบทำงานกลับให้ความนุ่มนวลไม่มีการกระตุกแต่อย่างใด

MG Extender

ช่วงล่างและการควบคุมมาในสไตล์ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ (Double Wishbone) ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น (Leaf Spring Suspension) ทำงานควบคู่กับระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) โดยภาพรวมให้ความนุ่มนวลแนวเดียวกับกระบะเจ้าตลาด ออกอาการดีดเด้งๆในเส้นทางเรียบ แต่ยังมีความดีตรงที่การเข้าโค้งในความเร็วสูงมั่นใจตลอดไม่มีอาการหน้าลื้นท้ายปัด แต่การซับแรงกระแทกช่วงจัมพ์สะพานและทางออฟโรด มีแรงสะเทือนพอสมควร ด้านระบบพวงมาลัย เป็นแบบแร็คแอนด์พีเนียนด้วยระบบไฮดรอลิก ทำงานควบคู่กับช่วงล่างส่งให้การทำงานอาจมีระยะฟรีบ้าง น้ำหนักการทำงานอยู่ในเกณฑ์พอดี ไม่หนักมากไม่เบามากจนเกินไปทั้งทางเรียบและทางโหด ระบบเบรกดิสก์เบรก 4 ล้อมาพร้อมระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Braking System) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)และ ระบบช่วยกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution) เรื่องนี้ค่อนข้างทันใจในการหยุดรถแม้จะเหยียบราว 30 % แล้วหรือเหยียบเต็มแรง ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

MG Extender

MG Extender

ระบบความปลอดภัยที่จัดเต็มไม่แพ้ใครด้วยระบบความปลอดภัย Advanced Synchronized Protection System ประกอบด้วย ระบบตรวจสอบความผิดปดติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning System ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย พร้อมเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ

MG Extender

ถึงจะเป็นผู้เล่นรายสุดท้ายที่ต้องออกแรงเหนื่อยกับการทำตลาดแต่อย่างน้อยกลับมีตัวเลือกให้สิงห์รถกระบะชาวไทยได้สัมผัสกัน เด่นที่ความกว้างของตัวรถที่ใหญ่สามารถมองทัศนวิสัยการขับขี่ได้ยิ่ง ดีไซน์ตัวรถที่ดุดันสไตล์ยุโรป ออพชั่นครบครันเอาใจคอหวยเสี่ยงโชคกับการตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่าจอใหญ่สุด 10 นิ้ว พร้อมเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ขุมพลัง 2 ลิตร 161 แรงม้าอาจไม่ทันใจคนเท้าหนักในยามเร่งแซง แต่ช่วงล่างที่นุ่มเข้าโค้งดีสามารถเป็นแต้มต่อสู้คู่แข่งได้ และด้วยค่าตัว 1,029,000 บาท ต้องคิดกับการตัดสินใจเป็นเจ้าของสักคัน

 

เรื่อง เรียบเรียง และขับทดสอบโดย นายเต้ย

 

ขอขอบคุณ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญทีมงาน Autodeft.com เข้าร่วมกิจกรรมทดลองขับรถกระบะ New MG EXTENDER

MG Extender

สิ่งที่ชอบ >>> รูปลักษณ์ใหญ่โตกว้างสบาย ระบบความบันเทิงจอใหญ่ 10 นิ้ว เล่นเพลงออนไลน์ได้ไม่ต้องพึ่ง USB ที่โหลดมา รวมถึงตรวจล็อตเตอรี่ ทุกวันที่ 1 กับ 16 ทุกเดือนได้ เบาะนั่งสบายใหญ่โอโถ่ง ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง ช่วงล่างเด่นที่การเข้าโค้งแม่นยำถึงให้ความนุ่มนวลเทียบเท่าเจ้าตลาดก็ตาม

สิ่งที่ไม่ชอบ >>> ฟังก์ชั่นการทำงานในแผงคอนโซลหน้าโดยเฉพาะปุ่ม ECO , PWR ควรย้ายมาที่ตำแหน่งใกล้คอนโซลเกียร์ใกล้มือคนขับจะดีเสียกว่าที่ต้องเหลือบตามองปุ่ม ไม่มีช่อง USB หรือ ที่เสียบปลั๊กชาร์จสมารท์โฟน หลังคอนโซกลาง ระบบปรับเปลี่ยน Shift On The Fly ที่ควรเปลี่ยนจาก 4​H เป็น 4L โดยไม่ต้องหยุดรถ ควรเพิ่มความเร็วในการเปลี่ยนไม่เกิน 100กม./ชม.จะดีกว่า (เดิม 80 กม./ชม.)​ กำลังเครื่องที่ไม่ค่อยทันใจตอนเร่งแซงและควรปรับในเรื่องระยะต่ำสุดจากพื้นให้มากกว่า 183 มม. เพื่อกันความเสียหายของชุดทรานเฟอร์เกียร์

MG Extender

 

ชม Gallery รีวิว ทดลองขับ MG EXTENDER ได้ที่นี่!!

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ