Life Test : Mazda BT-50 PRO Double Cab 2.2 Hi-Racer กระบะ Zoom-Zoom ที่คุณกำหนดได้
- โดย : สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม
- 23 ม.ค. 59 00:00
- 17,538 อ่าน
ถ้าจะนึกถึงยานยนต์ ที่นำพาทั้งความเร้าใจ ความตื่นเต้นให้กับผู้ขับขี่อย่างสนุกสนานประหนึ่งว่า ผู้ขับขี่กับรถเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็คงหนีไม่พ้น Mazda และถ้าจะนึกถึงค่ายรถค่ายนี้ ต้องนึกถึงคำว่า Zoom-Zoom
การที่ Mazda ใช้แนวการตลาดภายใต้แนวคิด Zoom-Zoom สะท้อนภาพลักษณ์ของ Mazda ทั่วโลก ในการผลิตรถยนต์ที่มีความเป็นรถสปอร์ต ให้ความรู้สึกที่เป็นอิสระ ตอบสนองการขับขี่ได้ดี และที่สำคัญต้องการนำความรู้สึกในวัยเยาว์ ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของทุกคนให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง
โดย Mazda มียนตกรรมหลากหลายตั้งแต่ Mazda 2 รถเก๋งขนาดเล็ก Mazda CX-3 สปอร์ตครอสโอเวอร์น้องใหม่ที่กำลังไต่ความนิยมอย่างรวดเร็ว จนถึง Mazda MX-5 สปอร์ตโรสเตอร์ ที่เป็น Brand Icon ตัวจริง แต่ Mazda ยังมีสปอร์ตปีกอัพคู่บุญ ที่ทำตลาดมายาวนานและได้รับความนิยมไม่แพ้กัน นั่นคือ New Mazda BT-50 PRO
จะว่าไปแล้วกระบะจากค่าย Zoom-Zoom มีการเปลี่ยนแปลงมาว่า 50 ปี ตั้งแต่กระบะ B-Series เจนแรกจนมาถึง Mazda BT-50 PRO กระบะเจเนอเรชั่นที่ 7 ล่าสุดมีการแต่งหน้าทาปากให้ ดุดันขึ้น สปอร์ตขึ้น ด้วยกระจังหน้าใหม่ Signature Wing ด้วยกรอบกระจังหน้าแบบโครเมี่ยมสลับกับสีเทาดำ พร้อมตัดคิ้วโครเมี่ยมใต้กระจังหน้าออก ไฟหน้ายังคงใช้แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ แต่มีการปรับอารมณ์ใหม่เป็นสีรมดำ
กันชนหน้ายังใช้งานดีไซน์จากรุ่นเดิม ลงตัวยิ่งขึ้น ล้ออัลลย 5 ก้านลายใหม่ สีเทาดำกันเมาทลิค 17 นิ้ว พร้อมยาง Bridgestone Dueler H/T ไซด์เดิมขนาด 265/65R17 บันไดข้างทรงใหม่แบบเล่นระดับจากเดิมจะเป็นแบบพื้นเรียบ กันชนหลังแบบโครเมี่ยมที่คราวนี้ตัดออฟชั่นสัญญาณเตือนระยะการจอด หรือ Parking Sensor ออก แต่แทนที่ด้วยกล้องมองหลังแทนเพื่อความปลอดภัยในขณะถอยจอด ไฟท้ายโคมเดิมแต่มีการตัดกรอบโครเมี่ยมออกไปเพื่อเน้นอารมณ์ปราดเปรียวขึ้น
ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปสู่ห้องโดยสารภายใน ต้องฝ่าด่านการสั่งงงานปลดล็อคจากกุญแจรีโมทพับเก็บได้ทรง Jack Knife Type ซึ่งเสียดายที่ว่ามันน่าจะให้ระบบ Keyless Entry ตามสมัยนิยม พร้อมปุ่ม Push Start และเมื่อก้าวเข้ามาสู่ภายในแล้วก็จะพบ เข้มครึม แต่แฝงไปด้วยความสุขมนุ่มลึก ด้วยโทนภายในสีดำ แต่งานดีไซน์ภายในยังคงอารมณ์เดิมๆ ยกชุดมาจาก BT-50 PRO เวอร์ชั่นก่อนปรับโฉม ตั้งแต่ แผงหน้าปัดไปจนถึงแผงประตู แต่การจัดวางฟังก์ชั่นยังคงหยิบจับง่ายและสะดวก เช่นพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามก้าน พร้อมสวิตช์ควบคุมการทำงานทั้ง ระบบล็อความเร็ว Cruise Control และสวิตช์ควบคุมการทำงานเครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ
เพิ่มความสบายอีกขั้นในการถอยจอดด้วย จอแสดงผลการถอยหลังที่กระจกมองหลังเป็นออฟชั่นมาตรฐานนอกจากนี้กระจกมองหลังยังสามารถปรับแสงอัตโนมัติได้ ที่ขาดไม่ได้นัน่คือ ระบบเสียงคุณภาพ 6 ลำโพง จากเครื่องเล่นวิทยุ CD MP3 พร้อมหน้าจอแบบ Dot Matrix ขนาด 3.5 นิ้ว กลางแผงคอนโซล พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Control แต่สำหรับช่องเสียบ USB กับ AUX สำหรับฟังเพลงผ่านทรัมพ์ไดรฟ์ กลับไปอยู่ในช่องเกะเก็บของคอนโซลหน้าแถมอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างลำบากในการเสียบ
ในรุ่น 4 ประตู Hi-Racer ของ BT-50 PRO เบาะนั่งคู่หน้า หุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้สีดำ โดยด้านคนขับสามารถปรับสูง-ต่ำได้ 4 ทิศทาง พร้อมก้านปรับดันหลัง Lumbar Support ซึ่งตลอดการขับตั้งแต่รับรถวันแรกจนถึงวันส่งคืนรถ ต้องยอมรับเลยว่า ด้วยตัวเบาะที่ใหญ่สามารถโอบกระชับคนขับได้สบายมากและไม่เมื่อยล้าในช่วงเดินทางไกล ส่วนเบาะหลังหมองรองศีรษะที่เบาะหลังจากเดิมจะมีแค่ 2 ตำแหน่ง คราวนี้เพิ่มมาเป็น 3 ตำแหน่งเพื่อความสบายของคนนั่งตรงกลาง
Mazda BT-50 PRO Double Cab 2.2 Hi-Racer พกขุมพลังเครื่องดีเซลเทอร์โบแปรผัน Di-Thunder PRO แต่ให้พิษสงที่เก่งฉกาจด้วยเครื่องเล็กขนาด 2.2 ลิตร 4 สูบ 150 แรงม้าที่ 3,700 รอบ/นาที แรงบิด 375 นิวตันเมตรที่ 1,500 -2,500 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังที่ให้ทั้งความสบายในการขับทั้งในเมืองกับนอกเมืองด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Sequential Shift +/- สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์เองได้ เสมือนขับรถเกียร์กระปุก และระบบ Active Adaptive Shift ที่เปลี่ยนเกียร์ตามสภาพถนนให้เหมาะสมที่สุด ถึงจะเป็นกระบะขับสองยกสูง แต่ให้ออฟชั่นแบบเหนือความคาดหมาย นั่นคือ ระบบเฟืองท้ายแบบ Limited Slip จากเดิมออฟชั่นตัวนี้จะอยู่ในรุ่นขับสี่ 4WD แต่ Mazda กลับให้ในรุ่นยกสูง Hi-Racer ด้วยเช่นกัน เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องป้องกันภาวะล้อหมุนฟรีขณะติดหล่ม
กระบะจากค่าย Zoom-Zoom คันนี้ถูกวางตัวให้เป็นรถ Service หน่วยบริการ ช่วยเหลือแก็งค์จักรยาน นำโดย Bonn Autodeft กับอีก 2 สหาย ถูกเกิดขึ้น ตั้งแต่ ถ.ปราจีนบุรี-เขาใหญ่ เข้าไปในอุทยานแห่งชาติฯ จนเกือบถึงเส้นที่จะทะลุไปเขาใหญ่ ฝั่งปากช่อง จ.นครราชสีมา ตลอดเส้นทางนี้เต็มไปด้วย ทางไหล่แคบ สลับกับทางโค้ง และ มีฝูงลิงในบางจุด ซึ่งตลอดเส้นทางต้องระวังกันมากๆนอกจาก รถสัญจรไปมาที่ขับด้วยความเร็วสูงนั้น ต้องระวังอีกจุดหนึ่งคือเป็นเส้นทางที่ชัน
ด้วยขนาดเครื่อง 2.2 ลิตร ม้า 150 ตัว อาจจะไม่ได้ปรับแรงม้าให้มากขึ้นตามคู่แฝดจากอเมริกา แต่กลับให้เรี่ยวแรงที่เหลือล้น ในเส้นทางตรงๆ ด้วยพลังแรงบิด 375 นิวตันเมตร บางจังหวะในการเหยีบบคันเร่งเพื่อเร่งแซงอาจจะตอบสนองช้าไป วิสองวิ ก็ตาม แต่ภาพรวมแล้วเครื่อง 2.2 บล็อคนี้ อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้
ระบบกันสะเทือนของ Mazda BT-50 PRO Double Cab 2.2 Hi-Racer ด้านหน้าใช้แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบลีฟสปริงหรือแหนบแผ่นซ้อน ซึ่งทั้งช่วงล่างหน้าหลังใช้โช้คอัพแบบ 2 จังหวะ ที่นอกจากเด่นในเรื่องรองรับประสิทธิภาพสูงในการบรรทุกอย่างเฉียบขนาด ขณะเดียวกันกับโดดเด่นในเรื่องความหนึบแน่น มั่นคงในการเกาะถนนทรงตัว ซึ่งทาง Mazda ให้ชื่อช่วงล่างว่า Super DE-S ช่วงล่างที่ผู้ใช้รถกระบะ Mazda ต่างให้ความเชื่อมั่นมาตลอดตั้งแต่ BT-50 เจนที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน
ด้วยตลอดการเดินทางไป-กลับ จากกรุงเทพฯ ไปเขาใหญ่ รวมถึงเป็นหน่วย Service คอยช่วยเหลือ Bonn พร้อมสหายอีก 2 ชีวิตตลอดทั้งวัน โดยใช้ความเร็ว สูงในย่าน 110-150 กม./ชม.โดยใช้ระยะทางรวม 358.7 กม. เราเติมน้ำมันเต็มถัง สามารถยัดเต็มถังไปได้ 34.884 ลิตร ผลอัตราสิ้นเปลืองออกมาด้วยตัวเลข 10.28 กม./ลิตร โดยจัดในเกณฑ์พอใช้ได้
ทางด้านอัตราสิ้นเปลืองในเมือง ใช้สูตร Bonn Test Mode เช่นเดิมจากปั้ม PTT Crystal ขับตามเส้นทางนอกเมืองสลับในเมืองด้วยสูตรเฉพาะของทาง Autodeft ด้วยความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. แล้วกลับเข้าปั้มเดิมหัวจ่ายเดิม ด้วยระยะทาง 66.4 กิโลเมตร เราจัดน้ำมันไปเพียง 4.849 ลิตร ได้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 13.69 กม./ลิตร ตัวเลขนี้ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยง เมื่อต้องเทียบกับกระบะยกสูงจากค่ายอื่นๆด้วยกัน
Mazda BT-50 PRO Double Cab 2.2 Hi-Racer จึงเป็นตัวเลือกอีก 1 รุ่น ที่ยังน่าสนใจเช่นเดิม ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอก จะมีการปรับภาพลักษณ์ใหม่ในบางรายการ จนมองว่าปรับเปลี่ยนแล้วหรือนี่ แต่ด้วยความโดดเด่นในเรื่องช่วงล่างที่หนึบแน่น พร้อมระบบเฟืองท้าย Limited Slip กลับเรียกคะแนนให้สิงห์รถกระบะชาวไทยต่างหันมามอง มากขึ้น
พร้อมออฟชั่นที่เทียบเท่าคู่แข่งทั้ง กล้องมองหลัง เบากึ่งหนังแท้ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ฯลฯ ทำให้ กระบะ Zoom-Zoom คันนี้ตอบโจทย์การใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบ ไปไหนไปกัน ตามไลฟ์สไตล์ คนเมืองหัวใจแกร่ง
เรื่องและขับทดสอบโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (นายเต้ย)
ขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถทดสอบ Mazda BT-50 PRO Double Cab มาทดสอบ
รถทดสอบ Mazda BT-50 PRO Double Cab 2.2 Hi-Racer Auto เบาะหนัง ราคาจำหน่าย 893,000 บาท
สิ่งที่ชอบ >>> โดดเด่นในเรื่องช่วงล่างที่หนึบแน่น เกาะถนนที่แม่นยำ เบาะนั่งคนขับออกแบบโอบกระชับดีเยี่ยมไม่เมื่อยล้าตลอการเดินทางไกล พร้อมระบบเฟืองท้าย Limited Slip ตอบโจทย์เรื่องป้องกันล้อหมุนฟรีขณะติดหล่ม ซึ่งปกติจะติดตั้งในรุ่นขับสี่ ก็ตาม
สิ่งที่ไม่ชอบ >>> ช่องเสียบ USB กลับอยู่ในตำแหน่งค่อนข้างลำบากในการเสียบทรัมพ์ไดรฟ์ฟังเพลง ระบบกล้องมองหลังกลับอยู่ในกระจกมองหลัง ทำให้การมองกลับไม่สะดวกอาจสร้างความรำคาญได้ และ การตอบสนองเร่งแซงค่อนข้างไม่ทันใจ อาจเป็นที่เครื่องบล็อคนี้ไม่ได้ปรับแรงม้า ตามคู่แฝดจากมะกัน
สิ่งที่อยากให้มี >>> อยากให้เพิ่มออฟชั่นเพื่อเทียบเท่ากับคู่แข่งทั้งไฟ Daytime Running Light ไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ รวมถึง ปรับเปลี่ยนกุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้ให้กลายเป็น Keyless Entry และปุ่ม Push Start พร้อมเครื่องเล่นวิทยุ พร้อมจอสัมผัสสามารถมองกล้องหลังได้โดยตรง เพื่อสมน้ำสมเนื้อกับคู่แข่ง
คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ >>> ด้วยราคา เกือบ 9 แสน กับข้าวของออฟชั่นที่ให้ตามอัตภาพทั้งภายนอก ภายใน ถ้าคุณไม่บ้าออฟชั่นและพอใจสิ่งที่ให้มานั้น กระบะ Zoom-Zoom อย่าง New Mazda BT-50 PRO Double Cab 2.2 Hi-Racer ก็ตอบโจทย์การใช้งาน ที่คุ้มค่าอีกรุ่นหนึ่งในกระบวนผู้เล่น มากมาย
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com